วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา

Wishing for the star - # 1 Chapter 1 โดย Emiyuu @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก,มัธยมปลาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Wishing for the star

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มัธยมปลาย,วาย

รายละเอียด

Wishing for the star  โดย Emiyuu @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา

ผู้แต่ง

Emiyuu

เรื่องย่อ

           





             คุณเคยเป็นไหม? เวลาที่ชอบใครบางคนแล้วอยากที่จะเข้าหาเหรืออยู่ใกล้เขาที่สุดเท่าที่จะทำได้

   

      แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง "หลิว" เด็กสาวธรรมดาที่ได้แอบชอบ “น่านฟ้า” คนจากต่างโรงเรียน แต่คนๆ นั้นเป็นผู้หญิงแถมยังเย็นชาและมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่


      แต่แค่ข่าวลือหรือจะทำให้หลิวถอดใจง่าย ๆ เธอพยายามที่จะทักไปหาน่านฟ้าจากหลายช่องทางแต่ก็ไม่เป็นผล

      จนกระทั่งในคืนหนึ่งฝนดาวตกประหลาดก็ได้ตกลงมา เมื่อหลิวได้ลองอธิฐานไปกับฝนดาวตกความวุ่นวายต่อจากนี้จึงเริ่มขึ้น

สารบัญ

Wishing for the star -# 0 Intro,Wishing for the star -# 1 Chapter 1,Wishing for the star -# 2 Chapter 2,Wishing for the star -# 3 Chapter 3,Wishing for the star -# 4 Chapter 4,Wishing for the star -# 5 Chapter 5

เนื้อหา

# 1 Chapter 1


.

.

.

หลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้นก็ทำให้ตัวของหลิวนั้นตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูกจนกระทั่งนอนไม่หลับไปทั้งคืน


“หลิว หลิว หลิวลูก” 

“คะม๊า”


เด็กสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อยเมื่อแม่ของเธอได้เรียกเธอ


”หนูหลิวง่วงหรอคะ หน้าหนูดูเพลียมากเลยนะลูก“

”ไม่มีอะไรหรอกค่ะม๊า แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”

“จ้า ม๊าก็เห็นหนูเหม่อแต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็บอกม๊าได้นะ”

“ค่ะม๊า หนูไปก่อนนะคะเดี๋ยวจะสายแล้ว”


หลิวได้ไหว้แม่ของตนพร้อมกับเดินออกจากบ้านไป เหลือเพียงแต่ฝั่งของมารดาที่ยังคงยิ้มให้ลูกสาวของตนที่เดินออกไป


ในใจลึก ๆ คนเป็นแม่ก็ย่อมรู้ดีว่าลูกสาวต้องมีอะไรที่ไม่สบายใจเป็นแน่แต่ก็ไม่อยากบังคับให้เด็กสาวต้องบอกเธอ หลิวเป็นเด็กสาวที่น่าตาสระสวยและจะออกไปทางหมวย ๆ หน่อย  มีมารยาท กริยาดี การเรียนของคุณลูกสาวของหล่อนก็ไม่ได้ถือกับว่าแย่ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอัฉริยะอะไรขนาดนั้น บางครั้งหลิวก็จะกดดันตัวเองจนเกินเหตุและคาดหวังไว้สูงจนคนเป็นแม่ก็กังวล


เธอไม่ได้คาดหวังให้ลูกสาวต้องไปแข่งกับใคร แค่ได้เห็นหลิวมีความสุขกับชีวิตช่วงมัธยมเธอก็พอใจแล้ว


.

.

.

 เมื่อออกมาจากบ้าน หลิวก็ได้เอาแต่คิดอยู่ในใจกับตน ' จะให้เราบอกมี๊ว่าเราเบียวแล้วไปขอพรกับดาวตกทำให้กระจกทะลุเห็นน่านฟ้าอะนะ ไม่อะ เราสัญญากับน่านฟ้าแล้วว่าจะไม่บอกใคร' มือเรียวสวยได้กระทบกับใบหน้าของตัวเองจนเกิดเสียง


เปี๊ยะ...


“แม่ครับ พี่สาวคนนั้นสติดีไหมครับ อยู่ ๆ ก็ตบหน้าตัวเอง”


เด็กชายอายุราว ๆ 7 ถึง 8 ปีได้พูดขึ้นพร้อมกับชี้มาทางของเธอ


“อย่าไปพูดแบบนั้นสิลูก เดี๋ยวพี่เขาก็มาจกตับหรอก”


ทันทีที่แม่ของเด็กชายคนนั้นเอ่ยก็ทำให้ในหัวของหลิวเกิดความสงสัยทันที 'ห๊ะ กูดูน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอวะ แม่เด็กก็เกิน กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย' สายตของเธอได้เหลือบมองเด็กชายเล็กน้อย


“ฮื่อ... ไม่เอาอะ ผมไม่อยากโดนจกตับ”


เด็กชายได้ปล่อยโฮออกมาจึงทำให้คนบริเวณโดยรอบหันมาสนใจพวกเธอ


“เดี๋ยวสิ พี่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยนะ”


หลิวได้พยายามที่จะบอกเด็กชายคนนั้นเเต่มันก็ยังทำให้เด็กชายคนนั้นร้องไห้หนักกว่าเดิม และจู่ ๆ บุคคลที่ไม่คาดคิดก็เดินเข้ามา


“ไม่ร้องสิ นภาฮึบก่อน“


หญิงสาวตัวสูงสวมแว่นในเครื่องแบบนักเรียนของโรงเรียนชื่อดังได้เดินเข้ามาและเช็ดน้ำตาให้เด็กชาย เส้นผมของเธอถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อยและมีการประดับด้วยโบว์สีขาวเป็นระเบียบ หัวใจของหญิงสาวได้พองโตขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของเด็กสาวอีกคน ซึ่งนั่นคือน่านฟ้า 


”พี่ฟ้า พี่สาวคนนั้นจะกินตับนภา“


เด็กชายตัวเล็กสะอื้นออกมาพร้อมกับชี้มาที่หลิว ฝ่ายของหลิวก็ได้เเต่ทำหน้าเหวอและคิดอยู่ในใจ'หน่านี๊... ไอเด็กนี่คือน้องของน่านฟ้าหรอเนี่ย แล้วกูไปบอกว่าจะกินตับตอนไหนเนี่ย'


”มึงพูดอย่างนั้นจริง ๆ หรอ“

”เราสาบานได้นะ เราไม่ได้พูดแต่แม่ของน้องพูดแบบนั้นก่อน“


น่านฟ้าได้หันไปมองแต่ของเธออย่าทันควัน และดันแว่นขึ้นเล็กน้อย


”ชะอุ่ย...“

”หนูบอกแม่แล้วใช่มั้ยว่าอย่าสอนอะไรกับน้องแปลก ๆ “

”แล้วน้องน่านไม่ไปโรงเรียนหรอจ๊ะ“

”แม่ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยค่ะ“


น่านฟ้ากอดอกของตัวเองและหันมาขอโทษกับเด็กสาวอีกคน และในที่สุดทุกคนก็ได้แยกย้ายเหลือเพียงหลิวและน่านฟ้า ทันใดนั้นก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินมาหาน่านฟ้าพร้อมกับถุงหมูปิ้ง


“มึงแดกปะ”

“ไม่อะ”

“ไม่เอาน่า นี่กำลังร้อน ๆ เลยให้กูป้อนมา”


หัวใจของหญิงสาวจากที่เคยพองตัวก็หดลงและได้เริ่มตั้งคำถามถึงชายที่ทำตัวสนิทสนมกับคนที่ตนชอบ ซึ่งสิ่งนี้ก็กวนใจของเธอตั้งแต่เช้าจนตกเย็น 


*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*


“ฮือ...” 


หลิวได้เอาหัวพิงกับกระจกของเธอ จนกระทั่งเธอได้เห็นกระตูห้องอีกฝั่งหนึ่งของกระจกเปิดออก น่านฟ้าได้ก้าวเท้าเข้ามาในห้องนอนของเธอตามปกติ ก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นหลิวที่นั่งพิงกระจกตรงพื้นและทำหน้าเหยเกใส่


“ไม่มีที่นั่งจนต้องไปนั่งพื้นเลยหรือไง”

“ฮือ... น่านฟ้า”

“เรียกทำไม”

“เมื่อเช้าผู้ชายที่ยื่นหมูปิ้งให้น่านฟ้าคือใครหรอ”


ใบหน้าของเด็กคนเก่งถึงกับต้องขมวดเมื่อได้ยิ้นคำถามนั้นของเด็กสาวหน้าหมวยอีกฝากของกระจก


“เพื่อน”

“เพื่อนสนิทหรอ

”อืม“

”แล้วเพื่อนคนนั้นชื่ออะไรหรอ“

”ภูผา“

”เราก็นึกว่าเป็นคนนมาจีบน่านฟ้าซะอีก“

”อย่าคิดอะไรเพ้อเจ้อดิ ว่าแต่มึงรู้ได้ไงว่าเพื่อนกูถือหมูปิ้ง“

”น่านความจำสั้นจัง ก็น่านฟ้าเป็นคนให้น้องมาขอโทษเราเองไม่ใช่หรอ“

”ก็ว่าอยู่ว่าทำไมหน้าคุ้น ๆ “

”น่านฟ้าเองก็สนใจเราเหมือนกันอะสิ“

”ไม่อะ ขนาดชื่อมึงกูยังจำไม่ได้เลยเถอะ“


คำพูดของน่านฟ้าทำให้หลิวหน้าแตกละเอียด อีกฝ่ายเมื่อพูดจบก็เดินไปที่โต๊ะของตนและเริ่มอ่านหนังสือเหมือนเด็กเรียนปกติ


แต่ถึงอย่างนั้นสายตาของหลิวก็ยังคงจ้องและมองทุกอากัปกิริยาของเด็กสาวอีกคนโดยไม่วางตาเลยแม้แต่น้อย


“เลิกมองกูได้ยัง มันไม่มีสมาธิ”

“เราขอโทษนะ ”


ใบหน้าสวยที่ออกไปทางจีนได้ลู่ลงเหมือนกับมีคนมาใส่ฟิลเตอร์สุนัขกับหลิว แต่ถ้าถามว่าคนอย่าน่านฟ้าจะสนใจไหม ก็ไม่ เด็กคนเก่งยังคงอ่านหนังสือต่อไปโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเลยแม้แต่น้อย 


หลิวได้พองแก้มออกมาเล็กน้อยและเธอก็ได้ตัดสินใจให้เวลาส่วนตัวกับน่านฟ้าโดยระหว่างรอหลินก็ได้ไปหาอะไรทำฆ่าเวลา


จนกระทั่งน่านฟ้าอ่านหนังสือและทำโจทย์เลขเสร็จ


ก็อก... ก็อก


“น้องน่าน มี๊เอาผลไม้มาให้น้องน่านน้า  มี๊ขอเข้าห้องหน่อยนะคะ”


น่านฟ้าที่ได้ยินแบบนั้นก็หันมามองที่กระจกและหาหยิบอะไรจะมาครุมกระจก


“แป๊ปนะคะแม่”

“ฉิบหายละ เอาไงดีเนี่ย”

“น่านฟ้าหาอะไรมาคลุมสิ”


ท่าทางของน่านฟ้านั้นกรระวนกระวายมากส่วนหญิงสาวจากอีกฝากก็พยายามจะช่วยเธอแก้สถานการณ์ จนน่านฟ้าได้ไปหยิบผ้าห่มมาคลุมกระจกของเธอ


“น้องน่าน มี๊รอจนตะคริวจะขึ้นแล้วนะคะ”

“มี๊ขอเปิดประตูเลยนะ” 


ประตูได้เปิดออกพร้อมกับมีหญิงวัยกลางคนถือถาดผลไม้เข้ามาและยื่นให้เด็กคนเก่ง จากนั้นหล่อนก็เริ่มที่จะสำรวจภายในห้องของลูกสาว


”ทำไมน้องน่านถึงเปิดประตูช้าจังคะ“


หญิงสาววัยกลางคนได้กอดอกพร้อมกับพองแก้มออกมาเหมือนกับเด็กเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ เสียงถอนหายใจของน่านฟ้าได้ดังขึ้นและรู้สึกระอากับการกระทำแบบเด็ก ๆ ของผู้เป็นแม่


“แม่ไม่ได้เป็นเด็ก ๆ เหมือนเมื่อ 20 ก่อนแล้วนะ”

“งือ...น้องน่านอะ น้องน่านของมี๊โตแล้ว มี๊ภูมิใจ”

“แม่...เห้อ...”

“แม่แค่อยากทำตัวคิคุอะโนเนะบ้างอะ” 

“แล้วลูกล่ะ อายุตั้ง 17 แล้วนะ เมื่อไหร่จะมีแฟนให้มี๊ซักทีล่ะ มี๊ส่งหนูไปหาแฟนนะไม่ใช่ไปเรียน”


น่านฟ้าได้นิ่งไปครู่หนึ่งและได้พยายามดันแม่ของตนออกจากห้อง


“ขอบคุณนะคะ ที่เอาผลไม้มาให้หนู หนูจะกินเดี๋ยวนี้เลย”

“เปลี่ยนเรื่องนะเรา”

“แหะ ๆ ไม่หรอกค่ะ แม่คิดไปเอง”


เมื่อผู้เป็นมารดาได้ออกจากห้องไปแล้ว เด็กสาวก็ได้นำเอาผ้าห่มออกจากกระจกก็ได้เห็นหลิวที่กำลังพยายามกลั้นขำอยู่ ทำให้น่านฟ้าถึงกับต้องขมวดคิ้ว


“ขำอะไร มีอะไรน่าตลกหรือไง”

“ก็แม่ของน่านฟ้าน่ารักดีนิ”

“บางครั้งก็น่ารำคาญ”

“ไม่เอาน่า ไม่พูดแบบนั้นสิ”

“เออ“


หลิวได้มองหน้าของน่านฟ้าอย่างจดจ่อ


“มองอะไร”

“น่านฟ้ามีน้องด้วยหรอ“

”อืม มันชื่อนภา”

“ชื่อคล้าย ๆ กับน่านฟ้าเลย”

“...”

“เออ ใช่สิ ตอนนี้มันก็น่าจะดึกแล้วแหละ น่านฟ้าคงอยากจะมีเวลาส่วนตัวใช่ไหมล่ะ”

“พึ่งรู้ตัวเนอะว่าควรให้กูไปพักได้ละ”


และก็เป็นอีกครั้งที่น่านฟ้าตอบกลับหลิวมาอย่างเย็นชาและไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่คิดจะท้อและถอดใจง่าย ๆ