วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา
หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก,มัธยมปลาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Wishing for the starวันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา
คุณเคยเป็นไหม? เวลาที่ชอบใครบางคนแล้วอยากที่จะเข้าหาเหรืออยู่ใกล้เขาที่สุดเท่าที่จะทำได้
แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง "หลิว" เด็กสาวธรรมดาที่ได้แอบชอบ “น่านฟ้า” คนจากต่างโรงเรียน แต่คนๆ นั้นเป็นผู้หญิงแถมยังเย็นชาและมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่แค่ข่าวลือหรือจะทำให้หลิวถอดใจง่าย ๆ เธอพยายามที่จะทักไปหาน่านฟ้าจากหลายช่องทางแต่ก็ไม่เป็นผล
จนกระทั่งในคืนหนึ่งฝนดาวตกประหลาดก็ได้ตกลงมา เมื่อหลิวได้ลองอธิฐานไปกับฝนดาวตกความวุ่นวายต่อจากนี้จึงเริ่มขึ้น
.
.
.
“ขอบคุณค่ะคุณครู”
เสียงเด็กนักเรียนในห้องได้ดังขึ้นพร้อมกับเสียงออดของโรงเรียน เป็นสัญญาณของการหมดเวลาเรียนในคาบนี้ ซึ่งบางคนก็ได้จับกลุ่มคุยกันตามประสาเพื่อนกัน แต่ก็จะมีเด็กสาวอยู่คนหนึ่งที่ยังคงเหม่อในห้องอยู่คนเดียว
“มึงง”
เสียงของเพื่อนสาวได้ดังขึ้นพร้อมกับเดินมาที่หลิว
“อะไรหรอแตง”
“ทำไมวันนี้มึงเหม่อจังวะ”
“จริง ๆ เรากับเมย์สังเกตมาตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็บอกกูได้นะ ยังไงพวกกูก็เป็นเพื่อนมึง”
เพื่อนสาวทั้งสองพยักหน้า รอยยิ้มของหญิงสาวตรงหน้าได้ปรากฏอีกครั้ง
“แต้งกิ้วนะ แต่มันไม่มีอะไรหรอก”
หลิวพูดด้วยน้ำเสียงที่สดใสกับเมย์ ‘โกเมนเนะ น่านไม่ให้เราบอกใครอะ‘
”งั้นถ้ามีอะไรก็บอกได้นะ“
”อื้อ ๆ “
เมื่อเพื่อนสาวทั้งสองเดินออกไปหลิวก็กลับมาเหม่ออีกครั้ง ‘วันนี้เราจะจีบน่านฟ้ายังไงดีเนี่ย‘
เมย์และแตงกวายังคงมองหลิวอีกครั้ง
“มึง”
“ว่า”
“กูว่าต้องมีซัมติง”
“กูก็ว่า แต่ทำไมมันไม่บอกพวกเราวะ”
“มันคงอยากทำอะไรเองอีกแล้วมั้ง”
“ปล่อยมันไปก่อนเถอะ กูไม่อยากไปบังคับมันตอบ”
ทั้งสองได้พูดคุยกันแต่ถึงแม้ว่าหลิวจะเหม่อ ถ้าเกิดว่ามีใครเอ่ยชื่อหรือกล่าวถึงเธอแน่นอนว่าเธอต้องหันไปสนใจสิ่งนั้นแน่
“มึงสองตัวนินทาไรกูอะ”
“ปล่าวเลยนะคะน้องหลิว”
“โกหกตกนรก”
“นรกแดกกบาลพวกกูแล้วค่าา”
“ชิ”
“โอ๋ ๆ ไม่งอนนะ”
“เลี้ยงชานมเพื่อง้อ”
“ก็ได้วะ เห็นแก่แดก”
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
ในช่วงเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงานและเลิกเรียนของโรงเรียนต่าง ๆ ทำให้รถในช่วงนี้นั้นติดเป็นพิเศษ กว่าที่หลิวจะได้กลับบ้านนั้นก็เกือบจะทุ่ม
แอ้ด...ปึ้ง!
เสียงประตูห้องของเด็กสาวได้ปิดลงและเกิดเสียงดังเล็กน้อย ในมือของหญิงสาวมีแล้วพลาสติกใสที่ใส่ชานมอยู่
“น่านฟ้า~ เค้ากลับมาแล้วว”
ดินสอจากที่ขยับอยู่ก็หยุดลงทันควัน พร้อมกับเจ้าของร่างจากอีกด้านของกระจกที่ค่อย ๆ หันมาหาหลิว เด็กสาวสวมแว่นได้เดินมาใกล้กระจกด้วยหน้าที่ไม่สบอารมณ์ คิ้วทั้งสองได้ขมวดกันจนเป็นปม
“มึงยังจะเสียงดังอีกหรอ กูเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าเสียงดัง”
“ซอรี่นะ”
“แล้วนี่คือมึงถือไรเนี่ย”
น่านฟ้าได้กอดอกและมองหญิงสาวอีกฝั่งด้วยหน้าที่ยังคงขมวดอยู่
“ก็แก้วชานมไง น่านฟ้ากินป่าว“
”ไม่อะ น้ำตาลเยอะ“
”แต่ถ้าอ่านหนังสือเยอะ ๆ ต้องกินของหวานนะ“
”คือกูไม่ชอบไง“
“ก็ได้ ๆ แล้วตอนนี้น่านฟ้าทำอะไรอยู่หรอ”
หลิวได้ยิ้มให้กับสาวร่างสูง
”ให้กูตอบดี ๆ หรือกวนตีน“
“แล้วแต่น่านฟ้าเลย”
“กูยืนเสียเวลาคุยกับมึงอยู่”
“ถ้าตอบดี ๆ ล่ะ”
“กูก็เสียเวลาที่มึงชวนกูคุยแทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังสือ”
เมื่อพูดจบน่านฟ้าก็ได้เดินกลับไปที่โต๊ะหนังสือของตนเหมือนเคย เธอนั่งลงและได้เริ่มจับดินสออีกครั้ง ภายในห้องได้เริ่มกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่ไม่นานนักก็ได้มีเสียงเคาะกระจก ทำเอาเด็กสาวต้องวางดินสออีกครั้งและถอนลมหายใจออกมา
“อะไรอีก”
“น่านฟ้าอ่านอะไรอะ”
“วิทย์”
“แล้วมีชุดข้อสอบด้วยหรอ”
“คือมึงตั้งใจเผือกขนาดนั้นเลยหรอวะ”
“ถ้าเป็นเรื่องของน่านเราก็พร้อมเผือก”
เมื่อได้ยินประโยคนั้นก็ทำให้น่านฟ้าถึงกับต้องกุมขมับของตนด้วยความเหนื่อยใจที่มีให้กับสาวต่างโรงเรียน
“สรุปแล้วน่านฟ้าอ่านวิทย์ขนาดนี้จะไปแข่งหรอ”
“เออ”
“แข่งอะไรอะ”
“มึงเห็นกูอ่านวิทย์กูคงไปแข่งคณิตมั้ง”
“อ๋อ ไปแข่งคณิต”
“อย่าเอ๋อดิ”
“รุนแรงอะ”
“กูก็เป็นของกูอย่างนี้”
ไม่ว่ามันจะนานหลายเดือนหรือหลายวันขนาดไหนแต่หลิวก็ไม่เคยชินกับคำพูดที่ไม่ค่อยใส่ใจคนรอบข้างของน่านฟ้าเลย
“แล้วน่านฟ้าจะไปแข่งตอบปัญหาวิทยาศาสตร์หรอ“
”อืม แล้วก็เลิกมากวนกูตอนอ่านหนังสือได้ละ“
”แต่ว่า-“
มือเรียวสวยได้ดันแว่นขึ้นแล้วมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ารังเกียจจึงทำให้หลิวไม่ได้พูดอะไรออกไป
ในช่วงเวลาหลายวันนี้น่านฟ้าได้อ่านหนังสือหนักมากและพักผ่อนน้อย บางครั้งในตอนกลางดึกที่หลิวตื่นขึ้นมาก็จะเห็นแสงจากอีกฝากของกระจกอยู่บ่อย ๆ ซึ่งใจลึก ๆ ของหลิวนั้นก็อยากจะให้เด็กคนเก่งได้พักผ่อนบ้างแต่ไม่ว่าจะพยายามบอกเด็กคนเก่งกลับไม่ฟังเธอเลยแม้แต่น้อย
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
จนกระทั่งวันแข่งขันตอบปัญหาวิทยาศาสตร์ได้มาถึง นักเรียนจากหลายโรงเรียนได้ยืนกันเป็นกลุ่มหรืออยู่กับครูของตน ที่นั่นเด็กนักเรียนอยู่พอสมควรแต่นั่นก็คือสิ่งที่น่านฟ้าไม่ค่อยชอบมากนัก เด็กคนเก่งคนนี้นั้นไม่ชอบที่ ๆ แออัดหรือคนเยอะเลย แน่นอนว่ามันคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“น่าน ครูเรียกแล้ว” เสียงของชายตัวสูงคนหนึ่งได้ดังขึ้นและเดินมาทางของเธอ
“อืม”
“วันนี้วันแข่งเลยนะเว้ย ร่าเริงหน่อยดิ”
เด็กคนเก่งได้ดันแว่นขึ้นอีกครั้งและมองเพื่อนสนิทของตนด้วยหางตาที่ไม่ต่างจากคนอื่น
คนจากหลายโรงเรียนเมื่อได้สังเกตุเห็นน่านฟ้าก็ต่างซุบซิบกันเล็กน้อย
“แก เห็นนั่นมั้ย ยัยน่านฟ้าอะ”
“โห ที่เคยเล่าให้ฟังว่าหยิ่งแล้วนิสัยไม่เป็นมิตรใช่ปะ”
“เออดิ แต่มันแม่งโคตรพ่อโคตรแม่เก่งเลยนะเว้ย”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น่านฟ้าโดนนินทาแบบนั้น แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรมาก ‘แทนที่จะเอาเวลาไปเตรียมแข่งยังจะมานินทากูอีก‘
“มึงไม่ซีเรียสใช่มั้ยน่าน “
”ทำไมกูต้องใส่ใจก่อนภูผา“
”ก็กลัวมึงคิดมากไง“
”หึ ฝันไปเถอะ“
น่านฟ้าได้แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปหาครูของตนกับภูผาที่เป็นคู่ในการแข่งครั้งนี้
เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีการแข่งขันก็เริ่มขึ้น ภูผาและน่านฟ้าก็ได้ทำข้อสอบแบบกา ทั้งคู่ได้ช่วยกันทำและตรวจเช็คตามข้อต่าง ๆ โดยรวม ๆ แล้วภูผาก็ไม่ได้เป็นอัฉริยะเหมือนกับเพื่อนสาวที่สนิทของตนแต่ก็ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์อ่อน ถ้าจะให้เทียบก็เหมือนกับหลิวที่เก่งในระดับหนึ่ง
“จริง ๆ แล้วธาตุนี้เป็นไปทำปฏิกิริยาแล้วจะเกิดเป็นอันนี้ก็ตัดช้อยตรงนี้แล้วก็จะตอบ ข”
“ไอน่าน มึงมึนโคตรฉลาดเลยว่ะ”
“เออ ๆ แต่มึงอะเกือบผิดแล้วไอเวร”
ทั้งคู่ได้ตรวจเช็คคำตอบจนกระทั่งเวลาหมด
“ทุกคนวางปากกา”
ในเวลาต่อมาเด็กคนเก่งและเพื่อนก็ได้มาพักผ่อนและรอการประกาศผลในรอบต่อไป แต่ในขณะที่น่านฟ้ากำลังทานอาหารกลางวันกับเพื่อนชายที่โต๊ะนั้นก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งในชุดที่คุ้นตามาก รวมถึงเปียที่ถูกถักไว้สองข้าง ทำเอาเด็กคนเก่งต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย
ในช่วงเวลาเช้าของวัน
“น่านฟ้า เราถักเปียสองข้างน่ารักป่าว”
“ถามทำไม”
“ก็เราอยากรู้ว่าน่านฟ้าคิดยังไงอะ”
“ไม่น่าเกลียด”
“งั้นเราจะถักทุกวันเลยนะ”
“แล้วแต่มึง”
สิ้นสุดเสียงของเด็กคนเก่งเธอก็ได้เดินออกจากห้องและไม่ได้มองในกระจกอีกเลย
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
ณ ปัจจุบันนี้ ภูผาได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนสาวที่มองอยู่ที่เด็กผู้หญิงจากโรงเรียนอื่นที่กำลังคุยกับคนในโรงเรียนอย่างสนุกสนานจากโต๊ะอีกฟาก ทำเอาเขาต้องสะกิดเพื่อนสนิท
“มึงรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรอวะ”
“ไม่รู้ดิ แค่คุ้น”
“เดจาวูป่าว”
“ชั่งแม่งเถอะ”
หลังจากนั้นเมื่อผลของการแข่งขันรอบแรกได้ถูกประกาศออกมา แน่นอนว่าคู่ของน่านฟ้าก็ต้องเข้ารอบโดยไม่ต้องสืบ และในการแข่งขันรอบต่อไปจะเป็นการที่ตอบคำถามอย่างรวดเร็วเพื่อแข่งกับทีมตรงข้าม
ในระหว่างที่การแข่งรอบสุดท้ายจะเริ่มขึ้นเด็กคนเก่งก็ได้สังเกตบางอย่าง
“น่านฟ้า~”
‘ยัยนั่นคุ้นจัง อย่าบอกนะว่า หลิว?!‘ เด็กคนเก่งยังคงมองที่หญิงสาวจากต่างโรงเรียน
“น่าน มึงรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรอวะ” ภูผาได้ถามเพื่อนสาวจากด้านข้างของตน
“ไม่”
”จริงอะ“
”อย่าเซ้าซี้ดิ“
หลิวเมื่อได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกใจแป้วลงอย่างเห็นได้ชัด ‘น่านฟ้าทำเป็นไม่รู้จักเราเฉยอะ‘ แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเด็กคนเก่งเมื่อได้เห็นเธอก็มีอาการตกใจอยู่เล็กน้อย
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
ในเวลาต่อมาการแข่งขันรอบสุดท้ายก็ได้เริ่มขึ้น ทั้งสองโรงเรียนต่างแย่งกันตอบกันแต่ถึงอย่างนั้นก็จะมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้สนใจในคำถามเลย หลิวมองสาวสวมแว่นจากฝั่งตรงข้ามอย่างไม่วางตา ด้วยอากัปกิริยาต่าง ๆ ของน่านฟ้านั้นดูมีเสน่ห์มากในสายตาของหลิว
จนในที่สุดนั้นการแข่งขันก็จบลงที่คู่ของน่านฟ้าเป็นฝ่ายชนะ หลิวเองก็ได้ดีใจไปกับน่านฟ้า ในขณะที่หลิวนั้นอยู่ในห้องน้ำอยู่นั้นเด็กสาวคนเก่งก็ได้เข้ามา
“มึงมาแข่งทำไมไม่บอกกู“
”ก็ตอนนั้นเรากำลังจะบอกแต่น่านบอกให้เราหุบปากอะ“
”เออ“
”แต่วันนี้น่านเก่งมากเลยนะ“
”อืม“
จากนั้นสาวร่างสูงก็ได้เดินออกไปโดยไม่ได้สนใจใยดีหลิวเลยแต่หลิวก็ยังคงดีใจ ‘ครั้งแรกเลยมั้งที่น่านฟ้าเดินมาถามอะไรตรง ๆ กับเราแบบนี้‘ หลิวที่คิดแบบนั้นก็ได้ดี๊ด๊าใหญ่และวันนี้คงเป็นวันที่ดีที่สุดของสัปดาห์