วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา
หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก,มัธยมปลาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Wishing for the starวันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา
คุณเคยเป็นไหม? เวลาที่ชอบใครบางคนแล้วอยากที่จะเข้าหาเหรืออยู่ใกล้เขาที่สุดเท่าที่จะทำได้
แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง "หลิว" เด็กสาวธรรมดาที่ได้แอบชอบ “น่านฟ้า” คนจากต่างโรงเรียน แต่คนๆ นั้นเป็นผู้หญิงแถมยังเย็นชาและมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่แค่ข่าวลือหรือจะทำให้หลิวถอดใจง่าย ๆ เธอพยายามที่จะทักไปหาน่านฟ้าจากหลายช่องทางแต่ก็ไม่เป็นผล
จนกระทั่งในคืนหนึ่งฝนดาวตกประหลาดก็ได้ตกลงมา เมื่อหลิวได้ลองอธิฐานไปกับฝนดาวตกความวุ่นวายต่อจากนี้จึงเริ่มขึ้น
.
.
.
เมื่อพูดถึงช่วงการสอบปลายภาคนั้นก็เป็นช่วงที่ค่อนข้างวุ่นวายสำหรับนักเรียนหลายคนที่ต้องมาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ บางคนก็อาจจะขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับตนขณะที่จะสอบ
แต่นั่นก็คือนักเรียนโดยส่วนใหญ่ซึ่งแน่นนอนว่า น่านฟ้า เด็กนักเรียนหญิงคนเก่งไม่ได้รู้สึกตระหนกกับเรื่องนี้เหมือนกับเพื่อนร่วมห้องของเธอเลย เธอนั้นเตรียมตัวมาอย่างดีก่อนนะสอบอยู่แล้ว
น่านฟ้าเป็นเด็กหัวไวมากจนบางครั้งก็ทำให้เพื่อนหมั่นไส้โดยไม่รู้ตัว อย่างน้อย ๆ เธอก็มีเพื่อนที่สนิทตั้งแต่เด็กอย่างภูผาคอยคุยกับเธอ จึงพอทำให้เธอคลายเหงาได้บ้าง ถึงแม้ว่าบางครั้งเพื่อนชายคนสนิทจะน่ารำคาญไปบ้าง
“มึงงง ติวให้กูหน่อย”
“ไม่ มีมือมีหัวก็ติวเองดิ”
“แย่มาก”
บางทีเธอก็เกิดความคิด ‘นี่กูมีเพื่อนหรือมีลูกวะ‘ ในสายตาของคนอื่น ๆ มักมองว่าภูผาเป็นชายที่เพอร์เฟค หน้าตาดี บ้านมีฐานะ ดีกรีนักกีฬา แต่สำหรับน่านฟ้าที่รู้จักกับเพื่อนของตนมานานมากนั้นเมื่อได้ยินสาว ๆ หลายคนชมภูผาว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ถึงกับต้องทำหน้าเหยเกออกมา
น่านฟ้าได้แต่คิด ‘คนที่ทำตัวเหมือนเด็ก ไม่เอาจริงเอาจังคือมีเสน่ห์หรอวะ แต่เอาจริง ๆ ก็ทำให้นึกถึงยัยนั่นเลยนะ‘
“เออมึง จะว่าไปมึงได้คุยอะไรกับหลิวอีกปะ“
”ถามทำไม“
”ก็ถามไง หลิวดูอยากเป็นเพื่อนกับมึงนะ“
”แล้ว?“
”ก็แบบมีเพื่อนเพิ่มขึ้นไง ถึงแม้ว่าจะต่างโรงเรียนไรงี้“
”ถามกูยังเถอะ“
“อย่าใจแข็งเลยน่า”
เด็กคนเก่งได้ขมวดคิ้วและดันแว่นขึ้นเล็กน้อยหรืออีกนัยนึงคือตนเริ่มรำคาญแล้ว ‘ไอผามันมองยังไงว่ะหลิวอยากเป็นเพื่อนกับกูวะ‘
“แล้ววันนี้มึงไปแดกติมกับกูปะ ขอร้องล่ะไปเถอะมึงแม่งบิดกูมาหลายวันละ”
“ก็ได้วะ กูกะจะไปซื้อหนังสืออยู่”
“เย้!!”
“หุบปากอิห่า”
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
ในเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียน นักเรียนบางส่วนก็ได้รีบกลับบ้านหรือบางคนก็ได้ไปเรียนพิเศษต่อ และแน่นอนว่าการจราจรในช่วงนี้จะค่อนข้างติดขัดมาก ถือว่าโชคดีที่โรงเรียนของน่านฟ้านั้นอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าจึงทำให้ไม่ต้องไปเสียเวลาและเงินในการเดินทาง แค่เดินไปไม่ไกลนักก็ถึงสถานที่นั้นแล้ว
ท่ามกลางเด็กนักเรียนจากหลายสถาบันก็ได้มีคู่นักเรียนชายหญิงในเครื่องแบบโรงเรียนดังเดินมาพร้อมกัน โดยฝ่ายชายดูหล่อเหลา ขี้เล่น ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า แม้เธอจะสวมแว่นอยู่ก็ไม่ได้บดบังความน่ารักของเธอเลย ทั้งคู่เป็นเหมือนกับกิ่งทองและใบหยกในสายตาของคนรอบข้างตลอด
แต่ความเป็นจริงนั้นทั้งคู่ก็แค่เพื่อนที่สนิทกันเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ไม่วายที่ทางฝั่งครอบครัวของทั้งคู่จะเป็นเหมือนกัปตันที่พร้อมจะพายเรือของทั้งสองตลอดเวลา
“คนมองที่เราเยอะจังเนอะ”
“เออ รีบ ๆ เดินได้ละ”
“ค่อย ๆ ก็ได้หนิ ครูไม่ได้จะตัดคะแนนซะหน่อยทำไมต้องรีบล่ะ”
“มึงก็รู้ กูไม่ชอบเป็นจุดสนใจ”
“ซอรี่ เพราะกูมันหล่อและฮอตมากไง”
“มั่นหน้าว่ะ”
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
เมื่อเข้ามาภายในทั้งคู่ก็ได้มาเลือกหนังสือที่ร้านหนังสือ โดยระหว่างรอเด็กคนเก่งภูผาก็ได้เดินเล่นอยู่ภายในโดยไม่ได้ไปรบกวนเพื่อนสาวเลย
“อันนี้แพงจังวะ”
น่านฟ้าได้พึมพัมขณะที่เลือกหนังสือ จู่ ๆ มือเรียวของเด็กคนเก่งก็ได้ไปสัมผัสกับมือของใครบางคนที่พยายามจะหยิบหนังสือเล่มเดียวกับเธอ
“อ่าวน่าน เจอกันอีกแล้ว”
“...”
สาวสวมแว่นไม่ได้ตอบอะไรออกไปและรีบดึงมือของตนกลับ
“มึงมาทำไม”
“ก็นี่ร้านหนังสือก็ต้องมาซื้อหนังสือสิ”
“กวน”
“เราไม่ได้กวนนะแต่พูดความจริง”
ด้วยความบังเอิญนั้นทำให้น่านฟ้าได้มาเจอกับหลิวที่ร้านหนังสือ แต่จะเรียกว่าความบังเอิญได้ไหมนะหรือพรหมลิขิต
เสียงจิ๊ปากได้ดังขึ้เล็กน้อยและภูผาก็ได้กลับมาตรงที่เด็กคนเก่งอยู่
“น่าน มึงเสร็จยัง- เอ้า หลิวใช่ปะ“
”อ๋อใช่ ภูผามากับน่านหรอ“
”อื้อ ๆ อันนี้คือทั้งคู่บังเอิญเจอกันใช่ปะ พรหมลิขิตแน่เลย”
“พรมเช็ดตีนมากกว่า”
“แรงมากอะ”
ภูผาที่ไม่ได้สังเกตหน้าของน่านฟ้านั้นก็คุยกับหลิวเหมือนดั่งเพื่อนที่รู้จักกันมานาน
“เดี๋ยวเรากับไอน่านจะไปกินติมกันน่ะ หลิวไปด้วยมั้ย”
“ได้สิ เราว่างพอดี”
น่านฟ้าจากที่รู้สึกเฉย ๆ กับบทสนทนาถึงกับต้องแปลกใจที่เพื่อนสนิทของตนเอ่ยชวนคนที่พึ่งได้รู้จักกันไม่นานให้ไปทานขนมด้วย
”มึงมั่นใจนะว่าไม่ได้มีการบ้านหรืออะไรต้องทำ“
”อื้อ ๆ เราให้น่านช่วยเมื่อวานแล้งไงถึงก่อนหน้านี้จะเอามาทำวันนี้“
เด็กสาวสวมแว่นถึงกับต้องกุมขมับของตนอย่างเหนื่อยใจ ‘กูไม่น่าช่วยแม่งเลย‘
สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้และก็ต้องมากันทั้งสามคน
“น่านกินอันนี้มั้ย”
“ไม่”
“ไม่เอาน่า นาน ๆ ทีจะมาไง”
“ไม่”
‘ทำไมรู้สึกเหมือนกูเลี้ยงเด็กเลยวะ‘ เธอได้แต่คิดอยู่ในใจ
*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*
หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้าแล้ว เด็กคนเก่งก็ได้อาบน้ำและมาอ่านหนังสือเหมือนปกอย่สงรู้หน้าที่
และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่น่านฟ้ารู้สึกได้ถึงคนที่กำลังมองมาทางเธอ ซึ่งคือหลิว แต่พออยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานวันเข้าก็ชินกับการถูกจ้องมองแบบนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ
“มองอะไร”
“หึ้ยย น่านมองเห็นเราได้ไงอะ เราว่าเราแอบเนียนแล้วนะ”
“มึงคิดว่ามึงตัวเล็กมากหรอ”
“แล้วเราไม่ตัวเล็กหรอ”
“ไม่อะ เตี้ย”
“มันก็คือตัวเล็กมั้ย”
“ไม่”
หลิวได้ทำหน้ามุ่ย
“ช่วงนี้ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วน่านอ่านหนังสือยัง”
“มึงคิดว่ากูไม่มีความรับผิดชอบขนาดไม่อ่านหนังสือหรอวะ”
“ป่าวนะ เราแค่ถามเฉย ๆ ”
“มั่นใจ?”
“ก็...เราอยากให้น่านติวให้น่ะ“
”มึงคิดว่ากูจะติวให้หรอ ขนาดไอผากูยังไม่ติวให้เลย“
และใช่ขนาดเพื่อนสนิทอย่างภูผาน่านฟ้ายังต้องตื้อนานกว่าจะติวให้ แล้วหลิวเป็าใครล่ะ ทำไมน่านฟ้าต้องติวให้
”ข้อนี้ต้องหาเดลต้าวีก่อนแล้วจะได้ความยาวเป็นเมตรต่อวินาที“
ใช่ หลิวเป็นใคร ทำไมต้องมาติวให้ด้วย แต่หลิวก็เป็นคนประเภทที่น่านฟ้าไม่ชอบสุด ๆ ถ้าน่านฟ้ารู้สึกรำคาญกับภูผา หลิวคงมากกว่านั้น เป็นคนที่รับมือยากกว่าภูผาเสียอีก
”เข้าใจยัง“
”เออ...“
”ไม่เข้าใจตรงไหน“
”ทุกตรงอะ“
”ทำไมไม่บอกกูวะ แล้วให้กูมาอธิบายตั้งแต่แรก“
”เราขอโทษ...“
หน้าของหลิวถึงกับลู่ลงเมื่อคนที่ตนชอบเริ่มหงุดหงิด
”เออ ๆ หยุดทำหน้าแบบนั้นได้ละ”
น่าแปลกที่น่านฟ้าไม่ได้ว่าอะไรหลิวมากนัก ถ้าเป็นปกติแล้วเธอไม่ได้ใจเย็นขนาดนี้ ขนาดภูผายังเคยโดนเธอวีนมาแล้ว แต่กับหลิวเธอไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลย
“แล้วมันจะเท่ากับF“
”อ๋อ เข้าใจแล้ว ๆ ”
“มึงจะให้กูติวให้หมดเลยหรอวะ”
“ได้มั้ยอะ แต่ถ้ามันรบกวนน่านก็ไม่เป็นไรนะ”
“เดี๋ยวกูให้มึงทำข้อนี้แล้วเดี๋ยวกูมาอธิบายให้”
“อื้อ”
ไม่ว่าใครจะมองน่านฟ้าว่าอย่างไรแต่หลิวก็คิดว่าน่านฟ้านั้นเป็นคนที่ใจดีที่สุด แม้ว่าเธอจะเข้าใจในเนื้อหายากบ้างแต่เด็กคนเก่งก็พยายามอธิบายอย่างใจเย็นให้เธอ
“มึงลืมหาค่าครึ่งชีวิต“
”แล้วมันหายังไงอะ“
”ลองเสิร์จดูดิ“
“มันคือคาร์บอน-14“
”ลองเอามาแทนค่า“
บางทีการที่น่านฟ้าใจดีกับเธอขนาดนี้มันก็กระทบกับใจเธอเป็นอย่างมาก ‘เหมือนว่าเราจะชอบน่านฟ้ามากขึ้นแล้วสินะ’
ส่วนของน่านฟ้านั้นเธอก็ได้ถือโอกาสการติวให้หลิวเป็นการทบทวนไปในตัว แต่เมื่อยิ่งมองเด็กสาวจากอีกฟากที่กำลังตั้งใจทำแบบฝึกอยู่นั้นใจไม่รักดีของตนก็ได้รู้สึกอะไรแปลก ๆ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับเธอ ’ตอนตั้งใจคิดเลขก็ดูน่ารักดีหนิ- เดี๋ยวนะ กูชมมันว่าน่ารัก กูว่ากูหลอนละ’ เธอได้แต่ขมวดคิ้วจนเกิดเป็นปม