วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา

Wishing for the star - # 5 Chapter 5 โดย Emiyuu @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก,มัธยมปลาย,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Wishing for the star

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

หญิง-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

มัธยมปลาย,วาย

รายละเอียด

วันนั้นในคืนที่ดาวตก คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวของเรา

ผู้แต่ง

Emiyuu

เรื่องย่อ

           





             คุณเคยเป็นไหม? เวลาที่ชอบใครบางคนแล้วอยากที่จะเข้าหาเหรืออยู่ใกล้เขาที่สุดเท่าที่จะทำได้

   

      แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง "หลิว" เด็กสาวธรรมดาที่ได้แอบชอบ “น่านฟ้า” คนจากต่างโรงเรียน แต่คนๆ นั้นเป็นผู้หญิงแถมยังเย็นชาและมีข่าวที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่


      แต่แค่ข่าวลือหรือจะทำให้หลิวถอดใจง่าย ๆ เธอพยายามที่จะทักไปหาน่านฟ้าจากหลายช่องทางแต่ก็ไม่เป็นผล

      จนกระทั่งในคืนหนึ่งฝนดาวตกประหลาดก็ได้ตกลงมา เมื่อหลิวได้ลองอธิฐานไปกับฝนดาวตกความวุ่นวายต่อจากนี้จึงเริ่มขึ้น

สารบัญ

Wishing for the star -# 0 Intro,Wishing for the star -# 1 Chapter 1,Wishing for the star -# 2 Chapter 2,Wishing for the star -# 3 Chapter 3,Wishing for the star -# 4 Chapter 4,Wishing for the star -# 5 Chapter 5

เนื้อหา

# 5 Chapter 5


.

.

.

เมื่อพูดถึงช่วงการสอบปลายภาคนั้นก็เป็นช่วงที่ค่อนข้างวุ่นวายสำหรับนักเรียนหลายคนที่ต้องมาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบ บางคนก็อาจจะขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับตนขณะที่จะสอบ 


แต่นั่นก็คือนักเรียนโดยส่วนใหญ่ซึ่งแน่นนอนว่า น่านฟ้า เด็กนักเรียนหญิงคนเก่งไม่ได้รู้สึกตระหนกกับเรื่องนี้เหมือนกับเพื่อนร่วมห้องของเธอเลย เธอนั้นเตรียมตัวมาอย่างดีก่อนนะสอบอยู่แล้ว


น่านฟ้าเป็นเด็กหัวไวมากจนบางครั้งก็ทำให้เพื่อนหมั่นไส้โดยไม่รู้ตัว อย่างน้อย ๆ เธอก็มีเพื่อนที่สนิทตั้งแต่เด็กอย่างภูผาคอยคุยกับเธอ จึงพอทำให้เธอคลายเหงาได้บ้าง ถึงแม้ว่าบางครั้งเพื่อนชายคนสนิทจะน่ารำคาญไปบ้าง


“มึงงง ติวให้กูหน่อย”

“ไม่ มีมือมีหัวก็ติวเองดิ”

“แย่มาก”


บางทีเธอก็เกิดความคิด ‘นี่กูมีเพื่อนหรือมีลูกวะ‘ ในสายตาของคนอื่น ๆ มักมองว่าภูผาเป็นชายที่เพอร์เฟค หน้าตาดี บ้านมีฐานะ ดีกรีนักกีฬา แต่สำหรับน่านฟ้าที่รู้จักกับเพื่อนของตนมานานมากนั้นเมื่อได้ยินสาว ๆ หลายคนชมภูผาว่าดีอย่างนู้นอย่างนี้ถึงกับต้องทำหน้าเหยเกออกมา


น่านฟ้าได้แต่คิด ‘คนที่ทำตัวเหมือนเด็ก ไม่เอาจริงเอาจังคือมีเสน่ห์หรอวะ แต่เอาจริง ๆ ก็ทำให้นึกถึงยัยนั่นเลยนะ‘


“เออมึง จะว่าไปมึงได้คุยอะไรกับหลิวอีกปะ“

”ถามทำไม“

”ก็ถามไง หลิวดูอยากเป็นเพื่อนกับมึงนะ“

”แล้ว?“

”ก็แบบมีเพื่อนเพิ่มขึ้นไง ถึงแม้ว่าจะต่างโรงเรียนไรงี้“

”ถามกูยังเถอะ“

“อย่าใจแข็งเลยน่า”


เด็กคนเก่งได้ขมวดคิ้วและดันแว่นขึ้นเล็กน้อยหรืออีกนัยนึงคือตนเริ่มรำคาญแล้ว ‘ไอผามันมองยังไงว่ะหลิวอยากเป็นเพื่อนกับกูวะ‘


“แล้ววันนี้มึงไปแดกติมกับกูปะ ขอร้องล่ะไปเถอะมึงแม่งบิดกูมาหลายวันละ”

“ก็ได้วะ กูกะจะไปซื้อหนังสืออยู่”

“เย้!!”

“หุบปากอิห่า”


*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*


ในเวลาตอนเย็นหลังเลิกเรียน นักเรียนบางส่วนก็ได้รีบกลับบ้านหรือบางคนก็ได้ไปเรียนพิเศษต่อ และแน่นอนว่าการจราจรในช่วงนี้จะค่อนข้างติดขัดมาก ถือว่าโชคดีที่โรงเรียนของน่านฟ้านั้นอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าจึงทำให้ไม่ต้องไปเสียเวลาและเงินในการเดินทาง แค่เดินไปไม่ไกลนักก็ถึงสถานที่นั้นแล้ว


ท่ามกลางเด็กนักเรียนจากหลายสถาบันก็ได้มีคู่นักเรียนชายหญิงในเครื่องแบบโรงเรียนดังเดินมาพร้อมกัน โดยฝ่ายชายดูหล่อเหลา ขี้เล่น ส่วนฝ่ายหญิงก็ไม่น้อยหน้า แม้เธอจะสวมแว่นอยู่ก็ไม่ได้บดบังความน่ารักของเธอเลย ทั้งคู่เป็นเหมือนกับกิ่งทองและใบหยกในสายตาของคนรอบข้างตลอด 


แต่ความเป็นจริงนั้นทั้งคู่ก็แค่เพื่อนที่สนิทกันเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น แต่ก็ไม่วายที่ทางฝั่งครอบครัวของทั้งคู่จะเป็นเหมือนกัปตันที่พร้อมจะพายเรือของทั้งสองตลอดเวลา 


“คนมองที่เราเยอะจังเนอะ”

“เออ รีบ ๆ เดินได้ละ”

“ค่อย ๆ ก็ได้หนิ ครูไม่ได้จะตัดคะแนนซะหน่อยทำไมต้องรีบล่ะ”

“มึงก็รู้ กูไม่ชอบเป็นจุดสนใจ”

“ซอรี่ เพราะกูมันหล่อและฮอตมากไง”

“มั่นหน้าว่ะ”


*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*


เมื่อเข้ามาภายในทั้งคู่ก็ได้มาเลือกหนังสือที่ร้านหนังสือ โดยระหว่างรอเด็กคนเก่งภูผาก็ได้เดินเล่นอยู่ภายในโดยไม่ได้ไปรบกวนเพื่อนสาวเลย


“อันนี้แพงจังวะ”


น่านฟ้าได้พึมพัมขณะที่เลือกหนังสือ จู่ ๆ มือเรียวของเด็กคนเก่งก็ได้ไปสัมผัสกับมือของใครบางคนที่พยายามจะหยิบหนังสือเล่มเดียวกับเธอ


“อ่าวน่าน เจอกันอีกแล้ว”

“...”


สาวสวมแว่นไม่ได้ตอบอะไรออกไปและรีบดึงมือของตนกลับ


“มึงมาทำไม”

“ก็นี่ร้านหนังสือก็ต้องมาซื้อหนังสือสิ”

“กวน”

“เราไม่ได้กวนนะแต่พูดความจริง”


ด้วยความบังเอิญนั้นทำให้น่านฟ้าได้มาเจอกับหลิวที่ร้านหนังสือ แต่จะเรียกว่าความบังเอิญได้ไหมนะหรือพรหมลิขิต


เสียงจิ๊ปากได้ดังขึ้เล็กน้อยและภูผาก็ได้กลับมาตรงที่เด็กคนเก่งอยู่


“น่าน มึงเสร็จยัง- เอ้า หลิวใช่ปะ“

”อ๋อใช่ ภูผามากับน่านหรอ“

”อื้อ ๆ อันนี้คือทั้งคู่บังเอิญเจอกันใช่ปะ พรหมลิขิตแน่เลย”

“พรมเช็ดตีนมากกว่า”

“แรงมากอะ”


ภูผาที่ไม่ได้สังเกตหน้าของน่านฟ้านั้นก็คุยกับหลิวเหมือนดั่งเพื่อนที่รู้จักกันมานาน


“เดี๋ยวเรากับไอน่านจะไปกินติมกันน่ะ หลิวไปด้วยมั้ย”

“ได้สิ เราว่างพอดี”


น่านฟ้าจากที่รู้สึกเฉย ๆ กับบทสนทนาถึงกับต้องแปลกใจที่เพื่อนสนิทของตนเอ่ยชวนคนที่พึ่งได้รู้จักกันไม่นานให้ไปทานขนมด้วย


”มึงมั่นใจนะว่าไม่ได้มีการบ้านหรืออะไรต้องทำ“

”อื้อ ๆ เราให้น่านช่วยเมื่อวานแล้งไงถึงก่อนหน้านี้จะเอามาทำวันนี้“


เด็กสาวสวมแว่นถึงกับต้องกุมขมับของตนอย่างเหนื่อยใจ ‘กูไม่น่าช่วยแม่งเลย‘


สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทำอะไรได้และก็ต้องมากันทั้งสามคน


“น่านกินอันนี้มั้ย”

“ไม่”

“ไม่เอาน่า นาน ๆ ทีจะมาไง”

“ไม่”


‘ทำไมรู้สึกเหมือนกูเลี้ยงเด็กเลยวะ‘ เธอได้แต่คิดอยู่ในใจ


*୨୧ ┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈ ୨୧*


หลังจากกลับมาจากห้างสรรพสินค้าแล้ว เด็กคนเก่งก็ได้อาบน้ำและมาอ่านหนังสือเหมือนปกอย่สงรู้หน้าที่


และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่น่านฟ้ารู้สึกได้ถึงคนที่กำลังมองมาทางเธอ ซึ่งคือหลิว แต่พออยู่ด้วยกันแบบนี้ไปนานวันเข้าก็ชินกับการถูกจ้องมองแบบนี้อย่างน่าเหลือเชื่อ


“มองอะไร”

“หึ้ยย น่านมองเห็นเราได้ไงอะ เราว่าเราแอบเนียนแล้วนะ”

“มึงคิดว่ามึงตัวเล็กมากหรอ”

“แล้วเราไม่ตัวเล็กหรอ”

“ไม่อะ เตี้ย”

“มันก็คือตัวเล็กมั้ย”

“ไม่”


หลิวได้ทำหน้ามุ่ย


“ช่วงนี้ใกล้จะสอบปลายภาคแล้วน่านอ่านหนังสือยัง”

“มึงคิดว่ากูไม่มีความรับผิดชอบขนาดไม่อ่านหนังสือหรอวะ”

“ป่าวนะ เราแค่ถามเฉย ๆ ”

“มั่นใจ?”

“ก็...เราอยากให้น่านติวให้น่ะ“

”มึงคิดว่ากูจะติวให้หรอ ขนาดไอผากูยังไม่ติวให้เลย“


และใช่ขนาดเพื่อนสนิทอย่างภูผาน่านฟ้ายังต้องตื้อนานกว่าจะติวให้ แล้วหลิวเป็าใครล่ะ ทำไมน่านฟ้าต้องติวให้


”ข้อนี้ต้องหาเดลต้าวีก่อนแล้วจะได้ความยาวเป็นเมตรต่อวินาที“


ใช่ หลิวเป็นใคร ทำไมต้องมาติวให้ด้วย แต่หลิวก็เป็นคนประเภทที่น่านฟ้าไม่ชอบสุด ๆ ถ้าน่านฟ้ารู้สึกรำคาญกับภูผา หลิวคงมากกว่านั้น เป็นคนที่รับมือยากกว่าภูผาเสียอีก


”เข้าใจยัง“

”เออ...“

”ไม่เข้าใจตรงไหน“

”ทุกตรงอะ“

”ทำไมไม่บอกกูวะ แล้วให้กูมาอธิบายตั้งแต่แรก“

”เราขอโทษ...“


หน้าของหลิวถึงกับลู่ลงเมื่อคนที่ตนชอบเริ่มหงุดหงิด


”เออ ๆ หยุดทำหน้าแบบนั้นได้ละ”


น่าแปลกที่น่านฟ้าไม่ได้ว่าอะไรหลิวมากนัก ถ้าเป็นปกติแล้วเธอไม่ได้ใจเย็นขนาดนี้ ขนาดภูผายังเคยโดนเธอวีนมาแล้ว แต่กับหลิวเธอไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดเลย


“แล้วมันจะเท่ากับF“

”อ๋อ เข้าใจแล้ว ๆ ”

“มึงจะให้กูติวให้หมดเลยหรอวะ”

“ได้มั้ยอะ แต่ถ้ามันรบกวนน่านก็ไม่เป็นไรนะ”

“เดี๋ยวกูให้มึงทำข้อนี้แล้วเดี๋ยวกูมาอธิบายให้”

“อื้อ”


ไม่ว่าใครจะมองน่านฟ้าว่าอย่างไรแต่หลิวก็คิดว่าน่านฟ้านั้นเป็นคนที่ใจดีที่สุด แม้ว่าเธอจะเข้าใจในเนื้อหายากบ้างแต่เด็กคนเก่งก็พยายามอธิบายอย่างใจเย็นให้เธอ


“มึงลืมหาค่าครึ่งชีวิต“

”แล้วมันหายังไงอะ“

”ลองเสิร์จดูดิ“

“มันคือคาร์บอน-14“

”ลองเอามาแทนค่า“


บางทีการที่น่านฟ้าใจดีกับเธอขนาดนี้มันก็กระทบกับใจเธอเป็นอย่างมาก ‘เหมือนว่าเราจะชอบน่านฟ้ามากขึ้นแล้วสินะ’


ส่วนของน่านฟ้านั้นเธอก็ได้ถือโอกาสการติวให้หลิวเป็นการทบทวนไปในตัว แต่เมื่อยิ่งมองเด็กสาวจากอีกฟากที่กำลังตั้งใจทำแบบฝึกอยู่นั้นใจไม่รักดีของตนก็ได้รู้สึกอะไรแปลก ๆ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมากสำหรับเธอ ’ตอนตั้งใจคิดเลขก็ดูน่ารักดีหนิ- เดี๋ยวนะ กูชมมันว่าน่ารัก กูว่ากูหลอนละ’ เธอได้แต่ขมวดคิ้วจนเกิดเป็นปม