ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันผมรู้ว่าเขามักนอนละเมอ จนวันหนึ่งเขาเริ่มละเมอเรียกชื่อคน ที่น่าแปลกคือคนที่เขาละเมอถึงจะเสียชีวิตในไม่กี่วันต่อมา จนกระทั่งเมื่อคืน...เขาละเมอชื่อผม
ลึกลับ,ชาย-ชาย,ไทย,ดราม่า,ตลก,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล็อตหาเรื่อง,สืบสวนสอบสวน,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
IN HIS SLEEPตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันผมรู้ว่าเขามักนอนละเมอ จนวันหนึ่งเขาเริ่มละเมอเรียกชื่อคน ที่น่าแปลกคือคนที่เขาละเมอถึงจะเสียชีวิตในไม่กี่วันต่อมา จนกระทั่งเมื่อคืน...เขาละเมอชื่อผม
สำหรับผม การมองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้ามันเป็นภาพที่สวยงามเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ ตอนนี้ผมมองท้องฟ้าสีที่ผมชอบมันเป็นสีชมพูออกไปทางส้มหน่อย ๆ ดวงอาทิตย์กำลังลอยคว้างอยู่เบื้องหน้า ไม่สิ ผมต่างหากที่กำลังลอยเคว้งคว้าง
มันควรจะเป็นวินาทีที่เศร้าโศกในชีวิตผมแต่กลับแค่รู้สึกหน่วง ๆ ไม่รู้สึกรู้สา ไม่วิตกกังวลอะไรอีก ตั้งแต่ที่ชื่อของผมหลุดจากปาก ไนล์ คืนนั้น เขามักจะปลอบผมเสมอว่าเรื่องซวย ๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับผมมันเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ได้เกี่ยวกับที่เขาละเมอชื่อผมเสียหน่อย แต่หลัง ๆ เขาก็กลืนคำพูดของตัวเองเมื่อเห็นผมหวิดจะตายต่อหน้าเขาไปหลายต่อหลายครั้ง เหตุการณ์ที่เจอมันร้ายแรงขึ้นทุกวันจนผมแทบจะเป็นบ้า กลายเป็นว่าผมยิ่งฝืนชะตาตัวเองเท่าไรคนรอบตัวผมก็ยิ่งเดือดร้อนเท่านั้น เหนื่อยแล้วที่จะต้องหนี ยิ่งหนีสถานการณ์ทุกอย่างก็ยิ่งลุกลามเกินกว่าจะเหนี่ยวรั้งอะไรไว้ได้ ครั้งนี้ผมคงฝืนไม่ไหวแล้วจริง ๆ
ไม่รู้ว่าสิ่งที่จะพรากลมหายใจของผมไปจากโลกคือแม่น้ำกว้างใหญ่แห่งนี้หรือจะเป็นการตรอมใจไปกับความโดดเดี่ยว ผมเหมือนสูญเสียการควบคุม กล้ามเนื้อทุกส่วนเริ่มขยับไม่ได้จากการโดนยาอะไรสักอย่างฉีดเข้าร่างกายเมื่อประมาณสิบนาทีที่แล้ว ก่อนจะโดนถีบตกจากเรือมาลอยคอรอเป็นอาหารปลาอยู่ตรงนี้ ถึงจะเป็นนักว่ายน้ำแต่ผมมองว่านี่แม่งเป็นสถานการณ์ที่โคตรเลวร้ายสุด ๆ ในการเอาตัวรอดของผม คาดว่าอีกไม่นานคลื่นคงซัดน้ำเข้าเต็มปอดผมเป็นแน่ รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะร่วงหล่นลงไปลึกสุดขอบโลก หัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ตาเริ่มพร่า นี่หรือเปล่าความรู้สึกสุดท้ายก่อนจะตาย
ถึงอย่างนั้นผมก็แอบหวังนิดหน่อยว่าจะรอดจากชะตากรรมที่โหดร้ายนี้ ผมลอยคออยู่กลางแม่น้ำไม่ต่างจากใบไม้แห้งที่โดนคลื่นซัดออกไปไกลเรื่อย ๆ นานจนความมืดเข้าปกคลุม ถ้าโชคดีสักนิดไอ้ยานี่ก็คงหมดฤทธิ์ในอีกไม่นาน แล้วผมก็คงจะรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายว่ายกลับเข้าฝั่ง แต่ดูจากระยะทางที่คลื่นซัดผมมาไกลขนาดนี้แล้ว การจะว่ายน้ำกลับฝั่งให้รอดแข่งกับคลื่นแรงขนาดนี้คงต้องรอปาฏิหาริย์
- 5 เดือนก่อนหน้า -
“คราวนี้เติร์ดลองว่ายกลับมาฝั่งนี้นะ เดี๋ยวครูดูให้ว่าจะได้กี่บล็อก หมดลมแล้วยืนเลยนะ หนึ่ง สอง สาม!”
ผมยืนอยู่กลางสระว่ายน้ำมองลูกศิษย์ตัวเล็กที่กำลังตีขาอย่างเอาเป็นเอาตายทันทีที่ผมให้สัญญาณ
“ยังไม่เสร็จหรอมิน”
“รอบสุดท้ายแล้ว” ผมก้มดูเวลาจากสมาร์ทวอทช์ ก่อนจะหันไปยิ้มให้คนมาใหม่ เขากวักมือเรียกผมอยู่ตรงขอบสระ
“เหนื่อยไหมวันนี้” ไนล์ทักขึ้นทันทีที่ผมเดินไปถึงตัวเขา
“ไม่เท่าไร วันนี้มีเจ้าเติร์ดคนเดียว”
“ตัวจี๊ดเลยนะ”
“แล้วทำไมวันนี้แวะมารับเนี่ย”
“พอดีเคลียร์งานเสร็จเร็ว นี่กลับบ้านไปแล้วนะแต่ไม่เห็นมินเลยคิดว่าน่าจะยังอยู่นี่”
“เสร็จแล้วไปหาอะไรกินกัน หิวมาก”
“ซื้อไว้แล้วครับ รู้ว่าสอนเสร็จก็หิวแบบนี้ตลอด”
"ทำดี แต่ไม่มีรางวัลให้นะครับ" เรื่องกินต้องให้เขาเลย ถ้าผมตัวใหญ่ขึ้นผิดหูผิดตาเร็ว ๆ นี้ก็ไม่ต้องสืบ
น้ำเย็น ๆ กระเซ็นมาถึงตรงที่ผมยืน ไนล์ที่นั่งยองคุยกับผมอยู่ใกล้สระยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็เลยพลอยเปียกไปด้วย ส่วนคนทำจะใครอีกล่ะ ก็ลูกศิษย์ตัวดีของผมนั่นไง ไม่รู้เป็นไรทำหน้างอมาโน่นละ
“ครูไม่ยอมดูผมว่าย ได้กี่บล็อกนับบ้างไหมเนี่ย มองแต่แฟนอยู่นั่นแหละ”
“ครูมินคุยกับพี่ว่าได้ซื้อไอติมมาให้เติร์ดไหม” ไนล์เดินไปหยิบถุงร้านสะดวกซื้อที่เจ้าตัวน่าจะเพิ่งแวะซื้อก่อนจะมาที่นี่ เขาก็แบบนี้ประจำชอบซื้อขนมมาล่อเด็ก ไม่แปลกที่จะได้ใจลูกศิษย์ผมทุกคน พักนี้ซี้กันยิ่งกว่าอะไรดี
"ขอบคุณค้าบบ" มือเล็กกำลังจะหยิบไอติมตรงหน้า แต่คนซื้อมาดึงกลับเข้าหาตัวก่อน
"แล้วเรื่องที่เราคุยกันว่าไง"
"เรียบร้อยครับผม!" สิ้นเสียงตอบรับคนให้มีสีหน้ายิ้มพอใจก่อนจะยื่นไอติมส่งให้เด็กน้อย
"มีความลับอะไรกัน" ผมมองหน้าเขาสองคนสลับกัน ไนล์มันต้องติดสินบนอะไรเจ้าเด็กนี่แน่ ๆ
“ก็ไม่มีอะไร แค่ฝากเติร์ดดูว่ามีใครแอบมองครูมินหรือเปล่า ถ้ามีก็ให้จดชื่อมาส่ง”
“บ้าบอ เติร์ดครับวันนี้เรียบร้อยแล้วเจอกันวันเสาร์นะ นั่นแม่เรามารออยู่ตรงโน้นแล้ว” ผมพูดกับไนล์ก่อนจะหันไปพูดกับลูกศิษย์ตัวกลมที่กำลังมีความสุขกับไอติมสีสดใสของเขา
“สวัสดีครับครูมิน สวัสดีครับพี่ไนล์รอบหน้าขอรสวนิลานะ” เด็กน้อยยิ้มตาหยีแล้ววิ่งไปหาแม่ที่นั่นรออยู่อีกฝั่ง
“รอแป๊บนึง เปลี่ยนชุดก่อน” ไนล์พยักหน้าให้ผมแล้วเดินไปหาโต๊ะนั่งรออย่างที่เคยทำประจำ
ถุงหมูปิ้งเจ้าประจำถูกยื่นให้ผมทันทีที่ขึ้นมานั่งบนรถ เคยคิดเล่น ๆ นะว่าถ้าผมเป็นหมูเขาก็คงจะขุนจนตัวกลมรอวันเชือดไปขายแน่ ๆ ผมรับถุงนั่นมาด้วยความไม่เต็มใจเท่าไรนัก บอกกี่ทีแล้วว่าจะไม่กินไนล์มันก็ยังซื้อมาอยู่ได้
"คราวหน้าไม่ต้องแล้วนะ มันอ้วน" ถึงจะบ่นแบบนั้นมือผมก็หยิบไอ้เจ้าหมูปิ้งติดมันนี่มากินอยู่ดี ปลายไม้ถูกหักจนทู่อย่างเคย
เขาชอบบ่นว่าผมซุ่มซ่าม มีอยู่ครั้งหนึ่งเรานั่งรถกันเนี่ยแหละผมก็กินหมูปิ้งอยู่ไง แล้วหมาไม่รู้มาจากไหนมันวิ่งตัดหน้ารถ ไนล์มันก็เบรกหัวทิ่มเลย ไม้หมูปิ้งเลยจิ้มเฉียดปากผมไปตั้งแต่นั้นมามันก็หักปลายไม้ให้ผมตลอด
"ไม่อ้วนหรอกมินออกกำลังกาย" โอเค ในเมื่อเขาว่าแบบนั้นผมก็กินต่ออย่างไม่รู้สึกผิดแล้วกัน
"เอ้อ ท็อปโทรมาบอกว่าไม่ต้องรอกินข้าวเย็น น้องทำงานคณะกับเพื่อนน่าจะกลับดึก ๆ แล้วเพื่อนจะมาส่ง"
"เดี๋ยวนี้มีอะไรมันไม่โทรมาบอกไนล์แล้ว โทรบอกแต่มิน"
"ทำตัวเป็นคนแก่ขี้น้อยใจไปซะละ"
ท็อปเป็นลูกของอาไอ้ไนล์ เป็นลูกพี่ลูกน้องกันนั่นแหละ บ้านไนล์อยู่เชียงใหม่แต่มันเรียนจบก็ทำงานที่กรุงเทพ เราซื้อบ้านอยู่ด้วยกันโดยที่ครอบครัวเราทั้งคู่ก็รับรู้และยินดี ผมสองคนรู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่งจากงานกลุ่มของวิชามหาลัยที่ทุกคณะต้องมาเรียนด้วยกัน กลุ่มทำงานมันก็ต้องโดนสุ่มสิครับนั่นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาเจอกัน ผมมาคนเดียวมันก็มาคนเดียวก็กลายเป็นว่าคุยกันอยู่สองคน แถมผมมันเป็นพวกอยู่นิ่งไม่เป็น มีกิจกรรมอะไรผมก็ทำหมดเลยควบสองชมรมทั้งว่ายน้ำแล้วก็ยิงธนู ความบังเอิญคือไปเจอมันอยู่ชมรมยิงธนูเหมือนกันอีก
นั่นแหละครับความสัมพันธ์ของพวกเราก็เลยก่อตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งก็มาเอ๊ะกันว่ามันไม่ใช่ละ นี่มันไม่ปกติครับ มึงชอบกูครับแล้วกูก็ชอบมึงครับ พวกเราก็เลยตกลงปลงใจเป็นแฟนมาตั้งแต่นั้น จนเราเรียนจบทำงานได้สองปีไอ้ไนล์มันก็มาคุยกับครอบครัวผม คุยกันอีท่าไหนไม่รู้บ้านผมก็โอเคตกลงยกผมให้มันเลย ผมก็เล่ารวบรัดขำ ๆ นะครับ จริง ๆ พวกเราก็ผ่านอะไรมาด้วยกันตั้งมากมายจนครอบครัวเชื่อมั่นในตัวเราสองคน แล้วก็มีการผูกข้อไม้ข้อมือแลกแหวนกันเป็นพิธีเล็ก ๆ ภายในครอบครัวแล้วก็มีเพื่อนสนิทของผมกับมันมาเป็นพยานรักอะไรประมาณนั้น
นอกเรื่องไปตั้งไกล พอท็อปสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพก็เลยได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วยกันจะได้มีไนล์คอยดูแลอีกทางพ่อมันจะได้สบายใจ ตอนเช้าไนล์จะไปส่งผมไว้ที่โรงเรียนสอนว่ายน้ำที่ผมเป็นครูสอนอยู่ที่นั่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่าไร ผมจะปั่นจักรยานไปมันก็ไม่ยอมขอไปส่งท่าเดียว พอเสร็จจากส่งผมก็ไปส่งน้องที่มอต่อ จบที่ส่งตัวเองๆ ไปทำงาน ส่วนตอนเย็นวันไหนที่เลิกงานเร็วมันก็จะมารอรับผมแบบวันนี้ มันเคยคิดว่าตัวเองเหมือนพ่อบ้างไหมเนี่ย พฤติกรรมแบบนี้ใกล้แล้วนะ
"ยิ้มอะไร" ผมคงนินทามันในใจเพลินไปหน่อย หลุดยิ้มออกมาเฉย
"หมูปิ้งอร่อยเลยยิ้ม" ว่าแล้วผมก็รูดหมูปิ้งเข้าปาก
ชีวิตผมตอนนี้ทุกอย่างโคตรลงตัว ได้ทำงานที่อยากทำ ได้รักคนที่รัก แถมตอนนี้มีลูกอีกหนึ่งตัวรออยู่ที่บ้าน ครอบครัวสุขสันต์สุด ๆ ผมไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าความสงบสุขที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้มันจะอยู่กับผมอีกไม่นาน