ดอมดมเพียงหนึ่งครั้ง จดจำตลอดไป

ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse) - ซ่อนกลิ่นรัญจวน 1 โดย อมยิ้มรสเชอรี่ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ดราม่า,รัก,ดราม่า,omegaverse,yaoi,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ดราม่า,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,omegaverse,yaoi,วาย

รายละเอียด

ดอมดมเพียงหนึ่งครั้ง จดจำตลอดไป

ผู้แต่ง

อมยิ้มรสเชอรี่

เรื่องย่อ




เขาตามหาโอเมก้ากลิ่นดอกพุดซ้อนคนนั้นมา 3 ปีเต็มก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา

พอมาวันนี้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยกลับมาปรากฎพร้อมคนตรงหน้าที่เขาเคยบอกกับเพื่อนว่าให้ตายก็ไม่มีวันเอามาเชยชม

เป็นไปได้อย่างไร ที่ผ่านมา.. เธอซ่อนกลิ่นของเธอไว้ได้นานขนาดนี้ได้อย่างไร



ชาหอม!







"มาทิ้งระเบิดเวลาไว้แล้วหนีหายไปตั้งสามปี เธอรู้ไหมว่าฉันต้องทรมานแค่ไหน!"

"ค...คุณพฤกษ์ ช่วยชา อึก ช่วยชานะครับ"







คำเตือน

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง มิได้เจตนาหมายถึงหรือพาดพิงบุคคลใดใดทั้งสิ้น

บางอย่างอาจดูไม่สมเหตุสมผลหรือขัดแย้งกับความคิดเห็นหรือความเป็นจริง

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน 

ทั้งนี้ ทางผู้แต่งยินดีรับฟังความคิดเห็นและคำติชมจากผู้อ่านเพื่อนำมาพัฒนางานเขียนต่อๆไป 

สารบัญ

ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน อารัมภบท,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 1,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 2,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 3,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 4,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 5,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 6,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 7,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 8,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 9,ซ่อนกลิ่นรัญจวน (omegaverse)-ซ่อนกลิ่นรัญจวน 10

เนื้อหา

ซ่อนกลิ่นรัญจวน 1

ณ โรงแรม 6 ดาวแห่งหนึ่งของเครือตระกูลพันพฤกษา บนชั้น 42 ห้อง SUITE ภายในที่กว้างขวางแบบนี้ค่อนข้างสว่าง ทั้งยังประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์แบบโมเดิร์นทันสมัย ภายในส่วนของห้องแต่งตัว ชาหอมในวัย 22 ปี นั่งมองตัวเองหน้ากระจกที่สะท้อนรูปร่างเพรียวบางในชุดสูทสีขาวเข้ารูป ประดับด้วยโบหูกระต่ายสีขาวเข้ากันกับชุด ทั้งทรงผมถูกจัดเซตอย่างดีโดยเพื่อนชายเบต้าคนสนิท

“ดูดีขนาดนี้ ใครไม่หันมองบ้างให้มันรู้ไป"

เบต้าหนุ่มเอ่ยชมเพื่อนรักไม่ขาดปาก พร้อมชมฝีมือของตนนั้นดีเลิศยิ่งนัก ชาหอมทำได้เพียงถอนหายใจ และเพียงส่ายหน้าระอาเพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนักก่อนที่มือสวยจะเอื้อมไปหยิบหน้ากากที่ปิดดวงตาไว้ถึงครึ่งหน้าประดับคริสทัลสีขาวระยิบระยับขึ้นมาวางไว้บนตำแหน่งดวงตาของตน



“เขาใส่หน้ากากกันทั้งงาน ใครจะมามองเรากันล่ะตฤณ"



เสียงหวานเอ่ยปนขำเบา ๆ แน่ล่ะ งานเลี้ยงนี้เพื่อนเขาอย่างตฤณชาติลากมาเป็นเพื่อนเพียงให้เหตุผลว่า เรียนจบแล้วจะหมกตัวอยู่แต่ห้องสมุดกับห้องนอนหรืออย่างไร ทั้งยังเอ่ยปากด้วยเสียงแง่งอนว่า



“ชาไม่เคยออกเที่ยวกับเราเลยสักครั้ง เราขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเองนะชาหอม ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย เราอยากไปงานนี้จริงๆ นะ น้าา”



แล้วคนขี้ใจอ่อนอย่างชาหอมจะไม่ยอมเพื่อนได้อย่างไร แค่ครั้งเดียวเองคงไม่เป็นไรหรอก



“ถึงจะใส่หน้ากากแต่ก็ไม่อาจปกปิดความงามของเธอได้หรอกคนสวย”



ตฤณชาติเอ่ยหยอกเย้าเพื่อนรักพร้อมเอื้อมมือไปแตะปลายคางเรียวราวเสน่หาคนตรงหน้ายิ่งนัก

ชาหอมทำเพียงแค่สะบัดหน้าหนีอย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นักกับการหยอกล้อของเพื่อนพร้อมลุกยืนขึ้นเต็มความสูงของตนเอง



“ตฤณก็ว่าไปเรื่อย”



ชาหอมกล่าวเพียงเท่านั้นชาหอมก็สวมหน้ากากที่เพื่อนรักเตรียมไว้ให้ทันที น่าจะเรียบร้อยแล้ว คงไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรให้มากมาย เพราะอย่างไรก็ไม่มีใครรู้จักเราอยู่แล้ว ต่อให้ใส่หรือไม่ใส่หน้ากากก็ตาม



“งั้นเราไปกันเลยไหมชา”



ตฤณชาติในชุดสูทสีกรมพร้อมโบว์หูกระต่ายสีดำกับหน้ากากสีเข้มที่ตนเตรียมไว้เอ่ยขึ้นก่อนที่มือเรียวจะเปิดประตูห้องทั้งผายมือเชิญให้เพื่อนรักเดินออกไปก่อน ชาหอมโค้งหัวหยอกล้อกับเพื่อนรักก่อนจะเดินนำออกมาจากห้องสวีทตามด้วยตฤณชาติเพื่อเดินไปยังห้องจัดเลี้ยง











เสียงดนตรีคลาสสิกดังเคล้าคลอกับบรรยากาศแสงไฟสลัว จะมืดก็ไม่มืด จะสว่างก็ไม่สว่าง ภายในงานมีทั้งชายหนุ่มหญิงสาวมากมายทั้งเพศรองอัลฟ่า เบต้า โอเมก้า เดินกันขวักไขว่เต็มไปหมด ถึงแม้จะมืดแต่ห้องจัดงานก็นับว่าค่อนข้างกว้างใหญ่สมกับเป็นโรงแรมระดับ 6 ดาวเลยทีเดียว ชาหอมไม่เห็นจะชอบเลยสักนิด เขาไม่ชอบที่ที่คนเยอะ ๆ ไม่ชอบกลิ่นที่ผสมกันจนมั่วแบบนี้ ไม่ชอบแอลกอฮอล์ รสชาติน้ำเมาที่ขมเปร่าขนาดนั้นเขาเคยชิมเพียงแค่ครั้งเดียวก็ไม่คิดจะยกใส่ปากอีกเป็นครั้งที่สอง

ทุกคนที่นี้สวมใส่หน้ากากกันหมดทุกคน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบที่ปกปิดแค่ส่วนบนของใบหน้าเท่านั้นแบบเดียวกับชาหอมและตฤณชาติ ไม่รู้เลยว่าทำไมตฤณชาติเพื่อนรักถึงอยากให้เขามานัก แปลกใจอีกอย่างก็คือ นี่มันปี 2020 แล้วทำไมถึงยังมีงานเลี้ยงหน้ากากในที่แบบนี้อีก ชาหอมค่อนข้างจะแปลกใจ หรือเป็นเพราะตัวเขานั้นไม่เคยออกท่องราตรีกับเพื่อนสนิทคนนี้เลยสักครั้ง ถึงไม่เคยรู้ว่ามันมีงานปาร์ตี้คลาสสิกแบบนี้หลงเหลืออยู่ด้วย

สองเพื่อนรักยืนอยู่ตรงมุมของห้องโถงใหญ่ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแต่ไม่มีใครตื่นเต้นไปกว่าตฤณชาติ รายนั้นแทบจะออกไปเต้นกลางฟลอร์กับสาวเบต้าตรงหน้าทันทีที่งานเริ่มปรับให้แสงไฟมืดลงและเปลี่ยนเพลงเป็นแนวสมัยใหม่อย่าง EDM

ชาหอมกระซิบบอกเพื่อนรักว่าไปเถอะเพราะเห็นท่าทีของเพื่อนแล้วอดที่จะขำไม่ได้เพราะตฤณชาติทำทีเป็นยึก ๆ ยัก ๆ เหมือนจะไปดีหรือไม่ไปดี ถึงแม้จะเอ่ยปากชวนให้ชาหอมมาเต้นด้วยกันแล้วแต่เพื่อนรักของตฤณชาติคนนี้ก็ส่ายหน้าพร้อมบอกว่าขอยืนดูสนุกกว่า

ดังนั้นตฤณชาติจึงกำชับกับเพื่อนรักว่าให้รอมีอะไรให้รีบโทรหาก่อนเขาจะออกไปโชว์สเต็ปกับแม่สาวในชุดสีแดงเพลิงโชว์เนื้อหนังตรงหน้าทันที



“เฮ้อ..”



ชาหอมถอนหายใจกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะมองหาทางไปห้องน้ำเพื่อระบายความเครียด ดวงหน้าหวานภายใต้หน้ากากสีขาวประดับคริสตัลหันมองซ้ายมองขววาอยู่ครู่หนึ่งเนื่องจากความมืดและคนค่อนข้าวจะเยอะ เมื่อเห็นตำแหน่งของจุดหมายแล้ว ขาเรียวก็พยายามแทรกตัวเบียดเสียดกับกลุ่มคนตรงหน้าเพื่อมุ่งไปยังห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด

แต่พอมาถึงก็ต้องถอนหายใจซ้ำอีกครั้ง ให้ตาย! ทำไมห้องน้ำคนเยอะขนาดนี้นะ ไม่น่าจะคนเยอะขนาดนี้หรือเปล่า ห้องน้ำชายแท้ ๆ ชาหอมเห็นแบบนั้นแล้วก็ไม่อยากเข้าห้องน้ำที่คนเยอะ ๆ

เพราะที่ที่คนเยอะมันสกปรก และคนอย่างชาหอมเกลียดที่ที่สกปรกยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น!

ชาหอมพาร่างของตัวเองขึ้นมาที่ชั้นบนสุดที่มีระเบียงด้านนอกของโรงแรมเพียงเพราะอยากจะสูดเอาอากาศหายใจบริสุทธิ์สักหน่อย นั่งคิดเรื่องต่าง ๆ กับตัวเองสักพักก่อนจะ หน้ากากสีขาวประดับคริสตัลไม่ได้ถูกถอดออกเพราะเจ้าตัวไม่อยากให้ใครเห็นหน้าหรือจับภาพได้ เขากลัวจะมีคนที่บ้านตามสืบเรื่องของตนเหมือนอย่างสองปีที่แล้วอีก และชาหอมเองก็ไม่อยากกลับไปเจอแม่รองอีกแล้ว

แค่นึกถึงหน้าผู้หญิงคนนั้น หากเป็นเมื่อก่อนชาหอมคงสั่นกลัวราวกับลูกนกไปเสียแล้ว

ชาหอมทำเพียงแค่สะบัดความคิดกับหยิกหลังมือที่สั่นไม่หยุดของตนเองก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านในโรงแรมอีกครั้ง แต่ยังไม่พ้นก้าวที่สอง ร่างกายของชาหอมเริ่มรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างเพรียวเซไปนิดพร้อมทั้งเหงื่อกาฬเริ่มผุดขึ้นมาที่ข้างขมับ ช่องทางด้านหลังเริ่มชื้นแฉะกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น แย่จริงเชียว เขาคงไม่ได้ ฮีต หรอกใช่ไหม

ภายห้องน้ำที่อยู่ใกล้กับทางออกของชั้นบนสุดของโรงแรมหรูไม่มีคนเลยสักคน โชคดีของชาหอมแล้ว เพราะตอนนี้ถ้ามีอัลฟ่าเดินเข้ามาล่ะก็ เขาอาจจะพร้อมกระโจนใส่อัลฟ่าคนนั้นทันที

ชาหอมเร่งเดินเข้าไปในห้องน้ำด้านในสุดก่อนจะปิดประตูจนลืมดูให้แน่ใจว่าประตูบานนั้นมันชำรุด กลิ่นฟีโรโมนหอมของดอกพุดซ้อนลอยตลบอบอวลโดยที่เจ้าของร่างนั้นไม่รู้ตัว เพราะเป็นการฮีตครั้งแรกในชีวิต ชาหอมจึงไม่รู้ว่าควรจัดการกับตัวเองอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น เพศสัมพันธ์ก็ไม่เคยมีหรือเรียกได้ว่าประสบการณ์เซ็กซ์เป็นศูนย์!



“อ่า.. ฮึก ท..ทำยังไงดี”



ในหัวของชาหอมตอนนี้โล่งไปหมด คิดอะไรไม่ออกแล้วแม้แต่การโทรหาตฤณชาติ ตอนนี้หูเริ่มอื้อ เหงื่อก็ไหลจนเต็มแผ่นหลัง ทั้งยังกลิ่นหอมของฟีโรโมนที่ล่องลอยออกไปจนเตะจมูกของใครบางคนเข้า

ร่างสูงเหยียบ 190 เซนติเมตรของ พฤกษ์ เดินขึ้นมาบนชั้นบนสุดของโรงแรมเพื่อที่จะสูบบุหรี่ระงับสติอารมณ์หลังจากที่หัวเสียเพราะลูกค้าโทรมายกเลิกสัญญาหลังจากที่เจ้าตัวปฏิเสธสัมพันธ์เชิงลึกซึ้งกับแม่หม้ายอายุ 52 ปี

บ้าหรือเปล่า! ถึงเขาจะอายุ 27ปีก็ตาม แต่เขาสามารถเป็นลูกหล่อนได้เลยนะ จะให้ไปเอาหญิงแก่รุ่นนั้นมาเป็นเมียได้อย่างไร ถึงจะหล่อนจะเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทแต่ก็ใช่ว่าจะคนอย่างพฤกษ์ต้องยอมทำตามสิ่งที่หล่อนต้องการไปเสียทุกเรื่องเสียหน่อย

มือหนากำลังจะหยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดบุหรี่ขึ้นสูบกลับต้องชะงัก เพราะกลิ่นหอมของดอกไม้ที่คุ้นชินกลับลอยมาเตะจมูกพอดี บุหรี่ที่คาบอยู่ในปากของเจ้าตัวถูกดึงออกแล้วหักทิ้งลงถังขยะทันทีพร้อมกับไฟแช็กราคาแพงถูกเก็บเข้าที่เดิมของมัน

ขายาวเดินมุ่งตามกลิ่นหอมที่คุ้นเคยกลิ่นนี้มาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำติดระเบียง กลิ่นดอกไม้ที่เขาชอบที่สุดในบรรดาดอกไม้ที่บ้านทั้งหมด ดอกพุดซ้อน



“อ่า.. อื้ออ ไม่ไหวแล้ว ร..ร้อน อึก!”



เสียงครวญครางหวานลอดลอยออกมาถึงหูอัลฟ่าที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูของห้องน้ำด้านในสุดที่มีเจ้าของกลิ่นดอกพุดซ้อนส่งเสียงแผ่วเบาราวกับต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคนในเวลานี้

กลิ่นหอมของไม้สนฟุ้งกำจายจนคนในห้องที่กำลังปลดเสื้อตนเองจนหลุดลุ่ยนั้นหยุดชะงักการกระทำของตนเอง



อัลฟ่า..



อัลฟ่าใช่ไหม



หอม..



หอมเหลือเกิน



ทำไมหอมแบบนี้



อยากดมมากกว่านี้



อยากเข้าใกล้มากกว่านี้



ชาหอมที่ตอนนี้ไม่เหลือสติในการควบคุมตัวเองเริ่มปล่อยฟีโรโมนที่ควบคุมไม่ได้จนส่งผลให้อัลฟ่าหนุ่มกลิ่นไม้สนที่ยืนอยู่เพียงประตูกันเริ่มขบกรามแน่นเพราะกดสัญชาตญาณของตนไว้ ในเวลานี้ พฤกษ์มั่นใจแน่ชัดแล้วว่ากลิ่นดอกพุดซ้อนเป็นเอกลักษณ์นี้เป็นของโอเมก้าที่กำลังฮีตอยู่ภายในห้องน้ำด้านหน้า

มือหนายกขึ้นเพื่อจะเคาะเรียกคนด้านในกลับต้องค้างไว้เสียอย่างนั้น เพราะประตูได้ถูกเปิดออกโดยคนด้านในที่เหงื่อโชกไปทั้งร่าง ผิวขาวนวลของคนตรงหน้าประดับด้วยสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากอิ่มชุ่มไปด้วยน้ำลายสีใสเคลือบไว้เอ่ยออกมาด้วยความต้องการที่ล้นเหลือ



“ช..ช่วย ช่วยผมด้วยครับ”



เสียงร้องขอความช่วยเหลือส่งไปถึงอัลฟ่ากลิ่นไม้สนตรงหน้า พฤกษ์สูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอดก่อนจะสะกดกลั้นอารมณ์ที่เริ่มพุ่งถึงขีดสุด



“ผมจะรีบไปเรียกรถพยาบาลมาให้ รอก่อนนะครับ” สิ้นเสียงของอัลฟ่าตรงหน้า ชาหอมก็ล้มตัวซบกับอกแกร่งทันที ทั้งยังสูดดมกลิ่นหอมตรงหน้าราวกับคนหื่นกระหาย

“ผมต้องการ..เดี๋ยวนี้ ได้โปรดเถอะครับคุณ ผมรอไม่ไหว..แล้ว” ชาหอมช้อนสายตาภายใต้หน้ากากมองอัลฟ่าหนุ่มตรงหน้าอย่างอ้อนวอน ถ้าไม่โดนสัมผัสตอนนี้ร่างเขาต้องระเบิดตายแน่ ๆ ชาหอมในเวลานี้คิดแบบนั้น

“ถ้าแบบนั้น โปรดจำไว้ว่า ทั้งหมดนี้ เป็นความต้องการของคุณ อย่าโทษผมทีหลังแล้วกัน” ริมฝีปากอุ่นร้อนประทับลงบนอวัยวะเดียวกันกับคนตรงหน้าพร้อมทั้งดูดดึงราวโหยหากันมาเป็นเวลานาน เสียงจูบของคนทั้งสองดังระงมทั้งห้องน้ำ กระทั่งพฤกษ์เริ่มได้สติว่า ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่ที่น่าเริมรมเท่าไหร่



“อืม.. ไปที่ห้องผมกันดีไหมครับ ตรงนี้ถ้ามีใครมาเห็นเข้า คงไม่เหมาะเท่าไหร่”

“ไป ไปเลยครับ ได้โปรด” สิ้นแล้วสติของชาหอมตอนนี้ คิดเพียงแค่ว่า อยากจะอยู่ใต้ร่างของชายตรงหน้าให้เร็วขึ้นอีกสักนิดก็ยังดี

ทันทีที่ประตูห้องสวีทของพฤกษ์ปิดลง ทั้งสองร่างก็กระโจนเข้าหากันอย่างโหยหา ริมฝีปากทั้งสองแทบจะไม่หลุดออกจากกัน เพียงเสี้ยววิ ชาหอมถอดสูทที่ตนใส่ทิ้งอย่างไม่ไยดี พฤกษ์เองก็ถอดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำที่ตนใส่จนมือเป็นพัลวัน



“แฮ่ก.. คุณ ตัวหอมจังเลยครับ” ชาหอมเอ่ยขึ้นพร้อมมองคนตรงหน้าที่ใบหน้าเลือนรางจนไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แค่เพียงว่า กลิ่นไม้สนนี้หอมจนอยากจะหลอมละลายคาอกแกร่งของเขาอยู่ตรงนี้

“ฮู่ว..แล้วคุณจะไม่ถอดหน้ากากนี่หน่อยเหรอครับ แบบนี้ผมจูบไม่ถนัดนะ” ลิ้นร้อนเลียริมฝีปากของตนก่อนจะสอดมือช้อนยกก้นนุ่มของร่างบางตรงหน้าให้ขาเรียวเกี่ยวกับเอวสอบของตนไว้ ทั้งยังเดินไปวางโอเมก้ากลิ่นดอกพุดซ้อนไว้บนเตียงหลังกว้าง

“ม..ไม่ถอดครับ” ชาหอมจับหน้ากากของตนไว้แน่น แต่พฤกษ์ก็ทำเพียงแค่ไหวไหล่ ไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวถ้าคนตรงหน้าเขาอึดอัดคงจะถอดออกให้เขาได้เชยชมเอง

กางเกงสูทสีครีมของชาหอมถูกถอดออกโดยอัลฟ่าแปลกหน้าคนนี้ ขาเรียวชันขึ้นทั้งสองข้างเผยให้เห็นช่องเฉอะแฉะจนเป็นภาพสุดแสนจะลามกของคนมอง พฤกษ์ใช้ปลายนิ้วลูบไล้รูจีบสีหวานตรงหน้าก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปเพื่อเปิดทางสำหรับค่ำคืนนี้



“อ๊า! ผม..เจ็บครับ ..อื้ออ”

“นี่คุณ ...ครั้งแรกเหรอครับ”



พฤกษ์มองคนใต้ร่างด้วยแววตาเจือความสงสัย โอเมก้าด้านล่างทำเพียงพยักหน้า แต่ถึงอย่างนั้น ความต้องการของเขามันมากกว่าที่จะมาสนใจเรื่องนี้และถุงยางอนามัยในกระเป๋าสตางค์หนังอย่างดีถูกนำมาใช้จนได้ เสียงครวญครางแห่งความสุขสมของคนทั้งสองผู้ดังระงมทั่วห้อง กลิ่นฟีโรโมนกำจายผสมปนเปจนหอมตลบอบอวลเคล้าบรรยากาศให้ร้อนแรงยิ่งขึ้น

ความต้องการปะทุถึงขีดสุด ชาหอมโอบมือคล้องคอของอัลฟ่าตรงหน้าขณะที่ยังมีส่วนเชื่อมต่อกันอยู่ด้านล่างขยับเข้าออกตามแรงอารมณ์ของทั้งคู่ พฤกษ์ซุกใบหน้าเข้าดอมดมกลิ่นหอมรัญจวนตรงซอกคอของโอเมก้าใต้ร่าง ริมฝีปากอุ่นร้อนจูบซับลำคอสวยด้วยความหลงใหลในกลิ่นกายอันเป็นเอกลักษณ์ ในขณะที่ทั้งคู่ใกล้ถึงฝั่งฝันนั้น ริมฝีปากของโอเมก้าคนนี้ได้กัดเข้าที่ใบหูของเขาจนเป็นรอยเสียแล้ว...

.

.

.

.

.

.

.

TBC

#ซ่อนกลิ่นรัญจวน

ฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุก ๆ คนที่หลงเข้ามาอ่านด้วยนะคะ แนะนำติชมไรเตอร์ได้นะคะ นี่เป็นเรื่องแรกที่แต่งแนวนี้ อาจมีผิดพลาดบ้าง ต้องขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนนะคะ ไรเตอร์จะน้อมรับคำติชมของผู้อ่านทุก ๆ ท่านเพื่อนำไปพัฒนางานตอนต่อ ๆ ไปให้ดียิ่งขึ้น ขอบคุณที่สละเวลาอ่านค่ะ