ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,ดราม่า,รัก,ดราม่า,omegaverse,yaoi,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เวลา 01.44 น. เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นรอบที่ 5 ช่วยปลุกชาหอมที่นอนตื่นยังไม่เต็มตาหลังจากกิจกรรมอันหนักหน่วงกับหนุ่มอัลฟ่าแปลกหน้าเมื่อไม่นานมานี้ แขนเรียวยันตัวขึ้นพิงกับหัวเตียง ใบหน้าหวานเหยเกกับความเจ็บแปลบจากช่องทางด้านหลัง ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสายด้วยท่าทางที่อ่อนเพลีย
“ฮ..ฮัล-..”
“ชาหอม!! หายไปไหนทำไมไม่บอกอะไรเราสักคำ ข้อความก็ไม่มีบอกไว้ เราเป็นห่วงรู้ไหม!”
น้ำเสียงไม่พอใจของปลายสายดังขึ้นจนให้ชาหอมเผลอขยับโทรศัพท์ออกห่างจากหู เขารับรู้แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นห่วงขนาดไหน ตฤณชาติถอนลมหายใจอย่างโล่งอก ในที่สุดชาหอมก็รับโทรศัพท์เขาเสียที
หายไปไม่บอกกล่าวสักคำ มาด้วยกันแท้ ๆ
“ตอนนี้อยู่ที่ไหนชา เราหาทั่วโรงแรมแล้วไม่เจอ ถ้าโทรมาสายนี้ไม่รับอีกเราเกือบจะไปแจ้งฟร้อนท์ด้านล่างให้ช่วยหาแล้วนะ”
“ตฤณ.. เราขอโทษ ดะ..เดี๋ยวเราจะรีบกลับไปที่ห้องตอนนี้ เราจะเล่าให้ฟังนะ”
เสียงที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มยังคงกระเส่าและแหบพร่าราวกับคนขาดน้ำ แต่ยังพยายามเปล่งเสียงเพื่อให้ปลายสายได้รับรู้ว่าตนเองจะรีบไปหาและจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายต้องรอนาน
“ชา ทำไมเสียงแหบแบบนั้น! อยู่ตรงไหน เดี๋ยวเราไปรับ!”
“เรา..อึก เราไม่แน่ใจ ฮู่ว.. หน้าลิฟต์ มารอเราที่หน้าลิฟต์ชั้น42ที่ตฤณจองห้องไว้นะ..”
สายตัดทันทีที่กล่าวจบ ชาหอมค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าของตนที่กระจัดกระจายอยู่ข้างเตียงขึ้นมาใส่อย่างยากลำบาก แสงไฟภายในห้องนั้นสลัวนัก ทำให้ชาหอมที่ไม่ชินสายตากับความมืดมองไม่เห็นหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างแน่ชัดทั้งยังไม่กล้าเปิดไฟเพราะกลัวคนที่หลับอยู่จะตื่นขึ้นมา
อีกฝ่ายยังคงหลับสนิท หลังจากที่ชาหอมใช้ฟันกัดเขาที่หูของเขาเพราะความเสียวซ่านเท่านั้น อัลฟ่ากลิ่นไม้สนคนนี้ก็สลบลงคาอกเขาทันทีโดยที่ชาหอมเองก็ไม่ทราบสาเหตุ แกนกายก็ยังไม่ได้ปลดปล่อยน้ำรักทั้งคู่ ทั้งอาการฮีทของเขาก็ยังคงอยู่
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เพราะเป็นฮีทครั้งแรกหรือเปล่าที่ทำให้ชาหอมอยากดมกลิ่นของคนคนนี้ให้นานขึ้นอีกสักวินาทีก็ยังดี
“ผม...ขอเสื้อคุณนะครับ แลกกับหน้ากากนี่” ชาหอมวางหน้ากากสีขาวประดับคริสทัลไว้ที่นอนข้าง ๆ ตัวของอีกฝ่ายก่อนจะรีบหยิบเสื้อเชิ้ตที่งยังคงหลงเหลือฟีโรโมนกลิ่นหอมเย้ายวนของอัลฟ่าแปลกหน้าคนนี้ติดมือออกไปด้วย..
3 ปี ต่อมา
ก๊อกๆ ก๊อกๆๆ ก๊อกๆๆๆ!
“ชาหอม! ชาหอม!”
“อะไรกันตฤณ เสียงดังโวยวายอะไรแต่เช้าเนี่ย”
ชาหอมในวัย 25 ปี เปิดประตูให้เพื่อนรักที่โวยวายเหมือนบ้านใครไฟไหม้ด้วยใบหน้าราวกับไม่ได้นอนติดต่อกันมาเป็นอาทิตย์ กำลังออกแบบงานเฟอร์นิเจอร์ที่จะส่งให้ลูกค้าในสิ้นเดือนนี้อยู่เชียว..อีกแค่ 5 วันเองนะ!
ตฤณชาติมองใบหน้าน่ารักของเพื่อนที่ซูบโทรมเพราะโหมงานหนักก็อดสงสารไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาแล้ว เขาต้องแจ้งข่าวสำคัญให้เพื่อนรักได้รู้
“ชาฟังนะ แฮ่กๆ ตอนนี้อะ แฮ่ก!... ขอน้ำก่อนได้ไหม”
“เฮ้อ.. จริง ๆ เลยนะตฤณ” เสียงหอมหายใจเฮือกใหญ่ของตฤณชาติหลังจากดื่มน้ำเต็มแก้วจนหมดก่อนร่างโปร่งนั้นจะหันมาจ้องหน้าชาหอมอย่างจริงจังอีกครั้ง
“ชาฟังนะ ตอนนี้ที่บริษัทที่เรามีประกาศรับสมัครพนักงานของแผนกออกแบบอยู่ คนเก่าเพิ่งลาออกไป ครั้งนี้พี่เจนบอกว่าจะเปิดรับ2-3คนเลยนะ เราเลยรีบมาบอกชาก่อนใครเลย ตอนนี้ยังไม่ประกาศลงเว็บ ชาเตรียมตัวทันแน่นอน แฮ่ก ๆ ขอน้ำอีกได้ไหม เราหายใจไม่ทัน” ตฤณชาติเทน้ำใส่แก้วแล้วยกขึ้นดื่มอีกอึกใหญ่ก่อนจะหอบหายใจจนหน้าดำหน้าแดงไปหมดเพราะความเร่งรีบ
“โธ่ตฤณ เรื่องแค่นี้ส่งข้อความหรือโทรมาบอกเราก็ได้ จะมาเองทำไม วันหยุดแท้ ๆ” ชาหอมส่งทิชชูให้เพื่อนรักซับเหงื่อด้วยความรู้สึกขอบคุณปนเอ็นดู อุตส่าห์เอาข่าวดีมาบอกคนตกงานอย่างเขา ต้องเลี้ยงข้าวขอบคุณแล้วไหมเนี่ย
“ก็มาบอกด้วยตัวเองมันเข้าใจง่ายมากกว่านี่นา เพื่อชาหอมเพื่อนรัก แค่นี้เรื่องจิ๊บจ๊อยมาก”
“ขอบคุณนะตฤณ ขอบคุณจริง ๆ นะ” ขอแค่มีงานทำแล้วหาเก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ จะได้ไปให้พ้นจากประเทศนี้สักที ชาหอมเบื่อที่จะต้องมาคอยหลบซ่อนตัวเองจากคนตระกูลนั้นเต็มทีแล้ว
อีกด้านหนึ่ง
บนเตียงใหญ่ของห้องชุดสุดหรูมีร่างสมส่วนของอัลฟ่าหนุ่มกระแทกแกนกายเข้ากับช่องทางคับแคบของเบต้าสาวสวยที่ด้วยความเร่งรีบ มือหนาบีบเฟ้นก้อนนุ่มนิ่มที่ทำจากซิลิโคนของคนใต้ร่างเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของตนให้เสร็จสม
“อ้ะ อ๊า! ค..คุณพฤกษ์คะ มีญ่าจะเสร็จแล้ว อ๊า!” เสียงร้องครวญครางแสบหูของเจ้าหล่อนไม่ค่อยน่าพิสมัยสำหรับเขาเท่าไหร่ ร่างเพรียวเกร็งกระตุก ปลายเท้าเกร็งจนงองุ้มชี้ขึ้นฟ้าเพราะเสร็จสมอารมณ์หมายของเจ้าตัวแล้ว ฝ่ามือนุ่มก็ไม่ปล่อยให้ว่าง ลูบไล้แผ่นอกแกร่งของอัลฟ่าที่ยังขยับแกนกายใหญ่กระแทกเข้ามาเพราะต้องการที่จะเสร็จสมเช่นเดียวกัน
แต่จนแล้วจนรอด สวรรค์อาจอยู่ไกลเกินเอื้อม พฤกษ์ถอดถอนแกนกายใหญ่โตของตนออกจากช่องทางนั้นอย่างหัวเสีย ก่อนจะลุกขึ้นใส่เสื้อคลุมอาบน้ำไว้
“หมดธุระแล้ว นั่นเงินของเธอ ออกไปได้แล้ว”
“แต่คุณพฤกษ์ยังไม่เสร็จสักครั้งเลยนะคะ มีญ่าช่วยได้น้า..” เสียงหวานเอ่ยหยอกเย้าแต่อัลฟ่าหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ พฤกษ์ไม่เอ่ยอะไรซ้ำเพียงแค่วางเช็กจำนวน 5 หลักให้สาวเจ้าไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้หล่อนนั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงก่อนจะแต่งตัวน้อยชิ้นตามสไตล์ออกจากห้องไปอย่างงุ่นง่าน
คนที่อยู่ในห้องน้ำตอนนี้นอนแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำจากุชชี่ที่ปล่อยกระแสน้ำเย็นดับเพื่อความร้อนรุ่มของร่างกาย แต่ความร้อนรุ่มของใจนั้นกลับไม่เป็นผล
ไม่เสร็จอีกแล้ว..
ตลอดระยะเวลา 3 ปีมานี้หลังจากคืนนั้น พฤกษ์จำได้แน่ชัดเพียงสองอย่างคือโอเมก้ากลิ่นดอกพุดซ้อนและพันธะบนหูข้างซ้ายของเขา ชายคนนั้นทิ้งไว้เพียงแค่หน้ากากสีขาวประดับคริสทัลให้ดูเป็นต่างหน้า ทั้งยังขโมยเสื้อของเขาไปอีก
เก่งนัก อย่าให้เจอตัวเชียว จะคิดบัญชีให้หนักเลยคอยดู!
แต่ถึงอย่างไร เขาก็บอกกับตัวเองอย่างนี้มาถึง 3 ปีเต็ม ๆ แล้วแต่ก็ไม่พบโอเมก้าคนนั้นแม้แต่เงา ให้ตาย ไปซ่อนตัวที่ไหนกันนะ เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกสติของพฤกษ์ให้หวนกลับคืนสู่ปัจจุบัน นัยน์ตาสีนิลหันมองเพียงครู่ก่อนจะกดรับสายอย่างเสียมิได้
“ไงมึง คราวนี้เป็นยังไงบ้าง”
“รู้อยู่แล้วจะถามให้เปลืองน้ำลายทำไม”
“หึ แล้วมึงจะเอายังไงต่อ” ปลายสายถามด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ทุกที ไม่ว่าจะส่งใครไปเพื่อนเขาคนนี้ก็ส่งกลับออกมาก่อนเจ้าตัวจะเสร็จสมตลอด
“ก็หาเขาต่อไป..”
“กูว่ามึงถอดใจเถอะพฤกษ์.. กี่ปีแล้ว เขาเป็นใครก็ไม่รู้ ข้อมูลอะไรก็ไม่มี มึงจะไปหาเขาจากไหนได้”
“จะให้กูถอดใจได้ยังไง!” เสียงลมหายใจหนักแน่นค่อย ๆ ผ่อนออกอย่างข่มใจไว้
“…”
“กูถอดใจไม่ได้ มันต้องเป็นเขาเท่านั้น ต้องเจอสิวะ”
“งั้นกูก็จะช่วยเท่าที่กูช่วยได้แล้วกัน แค่นี้แหละ กูขอไปเคลียร์กับยัยมีญ่าอะไรนี่ก่อน” กล่าวจบเพียงเท่านั้นปลายสายก็เงียบลง พฤกษ์วางโทรศัพท์ไว้ที่เดิม นัยน์ตาคมนิ่งสงบราบกับผิวน้ำนิ่งแต่ภายในใจกลับร้อนรุ่มราวกับไฟสุม
สันกรามขึ้นเด่นชัดจากการขบกัดฟันเพื่อสงบร่างกายของตัวเองก่อนที่แกนกายที่แข็งชูชันจนปวดหนึบนั้นจะอ่อนยวบไป พฤกษ์มองแกนกายของตัวเองที่ตอนนี้มันได้สงบลงไปแล้วก็ได้แต่โกรธแค้นตัวเองในใจ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ หลังจากคืนนั้น เขาปวดหนึบแกนกายไม่ว่าจะชัก ขัด ถู หรือมีเซ็กซ์กับทั้งเบต้า และโอเมก้าใด ๆก็แล้ว จนต้องเข้ารับการรักษา แต่หมอก็ทำได้แค่เพียงบอกว่าให้อยู่ใกล้กับโอเมก้าเจ้าของรอยพันธะที่เขาได้รับมาจึงจะหายหรือปลดปล่อยน้ำเชื้อที่คั่งค้างอยู่ภายในได้
พูดง่ายสิ! ก็ไอ้โอเมก้าคนนั้นมันมาทำพันธะแล้วทิ้งเขาไปราวกับมาขโมยความบริสุทธิ์ของเขาไปนี่สิ นี่เขาเป็นฝ่ายเสียหายนะ!
จนกระทั่งพฤกษ์ตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง กลับพบว่าซอกขาเปียกแฉะจนน่าตกใจ เปิดผ้าห่มขึ้นถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ขาแกร่งทั้งสองข้างชันขึ้นพร้อมกับสองมือหนาที่ยกขึ้นกุมขมับ เปลือกตาปิดลงก่อนสมองจะประมวลผลว่าเมื่อคืนเขาฝันถึงค่ำคืนนั้นกับโอเมก้าสวมหน้ากากกลิ่นดอกพุดซ้อนยังคงเด่นชัดในฝัน เสียงครางกระเส่ายังคงดังชัดเจนในโสตประสาท ฝันถึงแม้กระทั่งกลิ่นของอีกฝ่ายที่เขาจำได้อย่างขึ้นใจ
ฉิบหาย กูฝันเปียก!
สองสัปดาห์ถัดมา
08.40 น.
ชาหอมในส่วนสูง 173 เซนติเมตรยืนหันซ้ายหันขวาชะเง้อคอมองหาเพื่อนรักราวกับตัวเขานั้นเป็นเมียร์แคต วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คเข้ารูปสีกรมท่ากับรองเท้าคัทชูพร้อมกับกระเป๋าสะพายสีดำหนังด้าน
ร่างเพรียวยืนถูมือเปียกชื้นของตัวเองก่อนจะดันแว่นสายตาของเจ้าตัวขึ้นเพราะความตื่นเต้นรอตฤณชาติเพื่อนรักอยู่ที่หน้าบริษัทใหม่ที่ได้ยื่นสมัครไปก่อนหน้านี้ ดวงตากลมโตฉายแววตื่นเต้นและประหม่า เขาไม่ค่อยสันทัดในการเข้ากับผู้คน ต่างจากเพื่อนรักอย่างตฤณชาติ เพราะวัน ๆ เอาแต่หมกตัวอยู่กับหนังสือ งาน แล้วก็คลิปสัตว์โลกน่ารักเท่านั้น
ติ๊ง!! เสียงข้อความดังขึ้น ชาหอมจึงรีบหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาดูอย่างลนลาน
(ชาเข้าไปก่อนได้เลยนะ วันนี้เราอาจจะเข้าสาย แจ้งHRไว้แล้วล่ะ)
ให้ตายตฤณชาติ ทำไมถึงเป็นวันนี้นะ!
“โอเค รีบมานะตฤณ”
ชาหอมยกมือทั้งสองข้างขึ้นตบแก้มนุ่มของตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา ฮึบ! สู้เขาชาหอม เพื่ออนาคตแสนสงบที่ต่างประเทศ! กำปั้นเล็ก ๆ ทั้งสองข้างนั้นทุบลงบนอากาศเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจตัวเอง ขาเรียวก้าวเข้ามาในบริษัทที่อยู่ติดกับโรงแรม 6 ดาวของเครือพันพฤกษาด้วยสีหน้าที่มุ่งมั่นเต็มที่ในความคิดของเจ้าตัว แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเห็นคงจะนึกขำอยู่ไม่น้อย แต่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นได้แสดงสีหน้าออกมาได้ประหม่าแค่ไหน
“ชาหอม?” เสียงเรียกจากด้านหน้าดังขึ้น เรียกสติของโอเมก้าหนุ่มได้เป็นอย่างดี ชาหอมเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียก ปลายนิ้วเรียวดันแว่นขึ้นด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดจากมุมมองของคนตรงหน้า
“พี่ธนา...” เสียงเรียกชื่ออัลฟ่าตรงหน้านั้นแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ธนากรเดินตรงเข้ามาหาเขาเว้นแต่เพื่อนของเจ้าตัวที่ยืนรออยู่ทางด้านหลังไม่ใกล้ไม่ไกลมาก
“ส..สวัสดีครับพี่ธนา” สองมือเล็กยกขึ้นไหว้คนที่อายุมากกว่าตน 5 ปีตรงหน้าอย่างมีมารยาท
“เธอทำงานที่นี่เหรอ?”
“…ครับ”
“งั้นเหรอ..” คนพี่พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงรับรู้ ถึงแม้คนตัวเล็กตรงหน้าจะไม่สบสายตากับตนด้วยซ้ำ
“พ..พี่ธนาที่งานที่นี่เหรอครับ..” ริมฝีปากอวบอิ่มเอ่ยถามคนตรงหน้าอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะเม้มแน่นอีกครั้งราวกับว่าตนเองนั้นได้ทำสิ่งผิดอยู่อย่างไรอย่างนั้น
“เปล่าครับ พี่มาหาเพื่อนน่ะ”
“อ่า... ค..ครับ”
“งั้นพี่ไปก่อนนะ เธอก็ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายเอา” ธนากรกล่าวและยิ้มให้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินกลับไปหาเพื่อนของตนที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าโดยไม่ได้ฟังเสียงคนตัวเล็กที่ตั้งใจจะกล่าวเลยสักนิดก่อนที่ชายร่างสูงทั้งสองคนจะเดินเข้าลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นของผู้บริหารจนลับสายตาไป
“สวัสดีครับพี่ธนา..” ปลายเสียงถูกกลืนหายไปในลำคอ ชาหอมกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก ทำไมเวลาเจอลูกพี่ลูกน้องคนนี้ทีไรเขาต้องประหม่าทุกที เพราะอีกฝ่ายเป็นอัลฟ่าอย่างนั้นเหรอ หรือมีเหตุผลอื่นอีกกันแน่ ชาหอมสะบัดหน้าตั้งสติอีกครั้ง กระเป๋าสะพายคาดอกถูกกระชับไว้แน่นก่อนที่เจ้าของมันจะเดินตรงเข้าไปด้านในเพื่อพบกับงานใหม่ของเจ้าตัวทันที
ประตูลิฟต์ของชั้นผู้บริหารเปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงของอัลฟ่าหนุ่มทั้งสองคน เขาทั้งคู่เดินตามกันผ่านโต๊ะของเลขาสาวยืนต้อนรับก่อนจะเข้าไปยังห้องทำงานส่วนตัวของพฤกษ์ อัลฟ่าเจ้าของห้อง พฤกษ์และธนาต่างก็แยกกันนั่งที่โซฟาสำหรับรับแขกคนละตัวที่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนัก
“เด็กคนเมื่อกี้นั้นน้องมึงเหรอ ไม่เคยเห็นมึงทักใคร”
“อืม.. ลูกพี่ลูกน้องน่ะ แต่มึงอย่าสนใจเลย”
“...”
“เด็กคนนั้นคนที่บ้านเขาเกลียดอย่างกับอะไรดี”
ก็ไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ดูจืดชืดจะตาย
“ได้เรื่องว่าไงบ้าง”
“กูพยายามเต็มที่แล้วมึง”
กล่าวจบธนากรก็ส่ายหน้าเป็นเชิงบอกเพื่อนรักว่า มันยากลำบากเหมือนเกิน เขาทำงานในกรมตำรวจก็จริง แต่การสืบหาเบาะแสของคนคนนี้ที่เพื่อนเขาตามหานั้นลึกลับเกินไป
“มันไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอวะ กล้องวงจรปิดจะมาเสียพร้อมกันเป็นชั่วโมงได้ยังไง”
“กูกำลังสืบหาต้นเหตุเรื่องนี้อยู่ อีกไม่นานเกินรอหรอก” ธนากรเอ่ยบอกเพื่อนรักราวกับให้ความหวังอันน้อยนิดแก่พฤกษ์ พันพฤกษา ให้อดทนรออีกไม่นาน เพราะตอนนี้ แหล่งที่มาของข้อมูลเริ่มใกล้ความจริงขึ้นเรื่อย ๆ
“…” นัยน์ตาสีนิลของพฤกษ์ยามนี้สงบนิ่ง แต่ในโสตประสาทของเขานั้นกำลังฉายภาพของค่ำคืนสุดเร่าร้อนของสามปีก่อนหน้านั้นวนลูปไปมาตอกย้ำให้เขาคะนึงหาโอเมก้าเจ้าของกลิ่นดอกพุดซ้อนคนนั้น
เจ้าของรอยพันธะที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มองเห็น
.
.
.
.
TBC
#ซ่อนกลิ่นรัญจวน