อะไรบางอย่างทำให้ ผักชี นนทพัทธ์ ได้พบกับอัลฟ่าแปลกหน้าท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงอันแสนสวยงามของประเทศอิตาลี ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังรัต และตัวเขาเองก็กำลังฮีต
ชาย-ชาย,โอเมกาเวิร์ส,รัก,BL,Omegaverse ,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คุณในฤดูใบไม้ร่วง [Omegaverse]อะไรบางอย่างทำให้ ผักชี นนทพัทธ์ ได้พบกับอัลฟ่าแปลกหน้าท่ามกลางฤดูใบไม้ร่วงอันแสนสวยงามของประเทศอิตาลี ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังรัต และตัวเขาเองก็กำลังฮีต
“ไม่ทราบว่าจะดื่มชาหรือกาแฟระหว่างรอดีครับ คุณ…”
ผักชีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่ได้สนทนากันสักคำจึงไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของกันและกัน ทว่าพอสายตาของเขาหันมาสบกับอีกฝ่าย ดวงตาคู่คมก็โชนขึ้น ตาสีอำพันสวยดูอบอุ่นที่เขาเห็นเมื่อครู่กลับกลายเป็นสีเงินเคร่งดุ มันสว่างวาบดูน่ากลัว หน้าอกอันอุดมไปด้วยมัดกล้ามกระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ผักชีเบิกตากว้าง ลมหายใจสะดุด
ชายคนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงรัต!
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้เพิ่งตระหนักได้ว่าเขาเปิดประตูบ้านเชื้อเชิญชายแปลกหน้าเข้ามาโดยไม่ทันได้คิด ผักชีรู้สึกว่าช่องทางเบื้องหลังของเขาขับหลั่งสารบางอย่างออกมาตามธรรมชาติจนแฉะไปหมด มันไหลเยิ้มออกมาเยอะจนเลอะที่หว่างขา ลมหายใจของเขาติดขัดขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการผสมพันธุ์เริ่มเด่นชัดและกำลังจะเข้าทดแทนสติสัมปชัญญะของเขาที่รางเลือนลงทุกที
เขาเองก็กำลังเริ่มฮีตเช่นกัน
สวัสดีค่ะ เขียนนิยายโอเมก้าเวิร์สเรื่องแรก ครั้งแรกในชีวิต โดนตกเข้ามาในวงการโดยน้องนักเขียนทั่นหนึ่ง 555
ก่อนเขียนเราหาข้อมูลมาเยอะพอสมควร ขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะหากมีข้อผิดพลาด
ปกนี้เป็นปกดองที่ดองมาตั้งแต่ปี 2020 ได้ใช้แล้ว เย้!
จริงๆ แล้วมีแพลนจะออกอีกเรื่องนึงก่อนนะ แต่พล็อตอันนี้มาก็เลยแซงทุกคิว รักล้นครัวแม่ขอโทษษษษษษ 555
นิยายมีทั้งอีบุ๊กและรูปเล่มนะคะ
เนื่องจากมีอีบุ๊กแล้ว เราจึงเริ่มทำการติดเหรียญนิยายแล้วนะคะ โดยตอนปกติจะติดตอนละ 5 เหรียญ ตอนที่มี NC จะติดตอนละ 10 เหรียญ ส่วนตอนใหม่จะเปิดให้อ่านฟรี 1 วัน (24 ชั่วโมง) ก่อนติดเหรียญค่ะ
อัปนิยายสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุกวันเสาร์ เวลา 17:00 นะคะ
นิยาย Omegaverse นี้จะเป็นเซ็ตนิยาย ชื่อเซ็ต Tales of the three brothers เล่าเรื่องราวของสามพี่น้อง ผักบุ้ง ผักชี และผักแว่น
จะออกเล่มเป็นลำดับตามนี้นะคะ
1. เรื่องของน้องคนกลาง ผักชี : คุณในฤดูใบไม้ร่วง [อัลฟ่า x โอเมก้า]
2. เรื่องของพี่คนโต ผักบุ้ง : ผักบุ้งxไฟแดง [อินิกม่า(ไฟแดง) x อัลฟ่า (ผักบุ้ง)]
3. เรื่องของน้องคนเล็ก ผักแว่น : น้องแว่นที่ไม่ใส่แว่น [อัลฟ่า x โอเมก้า]
แต่ละเรื่องน่าจะทิ้งช่วงกันประมาณหกเดือนนะคะ ฝากติดตามด้วยน้าา
ฝากกดเข้าชั้น กดใจ คอมเมนต์เป็นกำลังใจให้เราด้วยน้า
ฝากสกรีมแท็ก #คุณในฤดูใบไม้ร่วง ด้วยค่า
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายรักชาย หากไม่ใช่แนวที่คุณชอบ กดปิดหน้าได้เลยค่ะ
นิยายเรื่องนี้เป็นแนว Omegaverse ซึ่งเป็นโลกสมมติที่ไม่มีอยู่จริง
เนื้อหาในนิยายอาจมีถ้อยคำไม่สุภาพบ้างเป็นบางครั้งเพื่ออรรถรส และมีการบรรยายการร่วมเพศแบบละเอียด
เนื้อหานิยายบางตอนไม่เหมาะสมสำหรับนักอ่านซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
04/06/2024 - 08/08/2024
วันนี้เป็นวันแรกที่นนทพัทธ์ใช้ชีวิตอยู่ในฟลอเรนซ์เพียงคนเดียวลำพัง เขาเพิ่งบอกลาครอบครัวอันเป็นที่รักที่สนามบินเมื่อตอนช่วงเช้า ส่วนตอนนี้ก็พาตัวเองมาเดินเล่นแถวอาสนวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร ซึ่งเป็นวิหารสไตล์โกธิกและเป็นอาคารสัญลักษณ์ของเมืองฟลอเรนซ์ เท้าบอบบางในรองเท้าผ้าใบพาเขาเดินลัดเลาะไปตามทางเดินปูแผ่นหินตามถนนสายเก่า เขาไม่ได้แวะเข้าไปด้านในอาสนวิหารเพราะได้เข้าชมพร้อมกับครอบครัวมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน โอเมก้าหนุ่มเพียงรู้สึกโหวงในใจเมื่อต้องอยู่คนเดียวจริงๆ จึงอยากเดินเล่นตามทางที่เคยมากับครอบครัว
จริงอยู่ที่ตามนิสัยแล้วนนทพัทธ์เป็นคนเงียบๆ และชอบเก็บตัว ทว่าพอต้องอยู่คนเดียวโดยปราศจากครอบครัวที่อบอุ่นก็ทำให้รู้สึกเหงาขึ้นมาจับใจ เขาเดินลัดเลาะไปตามถนนหนทางที่เต็มไปด้วยร้านรวง แวะซื้อพายอาร์ติโชก ของดีของเมืองฟลอเรนซ์ที่สมัยก่อนเป็นเพียงอาหารของคนจนที่ทำจากไข่กับอาร์ติโชกเท่านั้น ทว่าตอนนี้บรรดาเชฟผู้ปราดเปรื่องในการพลิกแพลงตำราอาหารนำมาทำให้มันกลายเป็นอาหารที่เป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อที่ต้องลองเมื่อไปเยือนฟลอเรนซ์ เขานึกไปถึงตอนที่ผักบุ้งกัดมันเข้าไปคำแรกแล้วทำท่าพะอืดพะอมก่อนผลักไสพายแสนอร่อยไปให้สามี ในขณะที่ผักแว่นกินอย่างเอร็ดอร่อย และพอเห็นว่าพี่คนโตไม่กินก็แย่งพายที่ถูกกัดไปเพียงหนึ่งคำมาจากมือพี่เขยไปเข้าปากหน้าตาเฉย ไฟแดงไม่ได้ใส่ใจที่โดนแย่งของกินไปจากมือ เขาเป็นห่วงภรรยามากกว่าเพราะคิดว่าคงเริ่มตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่รู้สึกคลื่นเหียนหลังได้กินของอร่อยแบบนี้หรอก
จากนั้นพวกเขาก็พากันยกโขยงไปหาซื้อที่ตรวจครรภ์ ไม่รอกลับไปตรวจที่ไทยแล้ว ผลลัพธ์ก็คือ ผักบุ้ง นัธวัฒน์ อดีตอัลฟ่าหน้าดื้อกำลังตั้งครรภ์หลานคนที่สองให้กับพวกเราจริงๆ
ผักชียิ้มคนเดียวเมื่อนึกถึงท่าทางดีใจของคนในครอบครัว โดยเฉพาะไฟแดง พี่เขยประคองพี่ชายของเขาราวกับว่าผักบุ้งเดินเองไม่เป็นไปแล้ว คอยกันคนไม่ให้เข้าใกล้จนผักแว่นหมั่นไส้แกล้งเดินไปเบียดตั้งหลายครั้ง ส่วนพี่ชายตัวแสบของเขาก็ยิ่งอ้อนให้ผัวเอาใจ งอแงจะซื้อนู่นซื้อนี่ตลอดทั้งทริป บอกว่าแพ้ท้องอยากของแพง ผัวต้องซื้อของแบรนด์เนมแพงๆ ให้ถึงจะหายคลื่นไส้
แพ้ท้องแบบใด…
ยิ่งเดินคนเดียวย้อนรอยสถานที่ที่เคยไปกับครอบครัวก็ยิ่งทำให้คิดถึง จากที่คิดว่าจะเดินต่อไปอีกสักหน่อยผักชีก็กลับหลังหันแล้วเดินกลับไปยังทิศทางที่มุ่งตรงสู่อะพาร์ตเมนต์ของเขา เดินขึ้นบันไดไปสามชั้นก็ถึงห้องพักที่เขาต้องอยู่อาศัยไปอีกอย่างน้อยสองปี
เมื่อเปิดประตูเข้าไปนนทพัทธ์ก็ถอดเสื้อแจ็กเก็ตบางๆ ที่ใช้สวมในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปแขวนไว้ตรงที่แขวนแจ็กเก็ตข้างประตู ถอดปลอกคอของโอเมก้าวางลงบนโต๊ะ เดินตรงเข้าครัวไปหยิบเอาที่ต้มกาแฟสไตล์ชาวอิตาเลียนออกมาแล้วต้มกาแฟให้ตัวเอง
ระหว่างรอก็เอาพายอาร์ติโชกใส่จานแล้วกวาดตามองสตูดิโออะพาร์ตเมนต์ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยตัวคนเดียว แม้มันจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรแต่เขาก็รู้สึกพอใจกับการจัดวาง เขามีโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่ถัดจากที่แขวนแจ็กเก็ตข้างประตูทางเข้า เตียงนอนขนาดควีนไซซ์อยู่ติดกับประตูระเบียง น้องโฮป ตุ๊กตาเป็ดนุ่มนิ่มตัวโปรดวางอยู่บนที่นอน มีโซฟานั่งสบายอยู่เยื้องๆ กับเตียงนอน แม้ทุกอย่างจะรวมอยู่ในห้องเดียวกันแต่ก็แบ่งแยกกันอย่างเป็นสัดส่วน อย่างครัวก็มีกำแพงเตี้ยๆ คั่นเอาไว้นิดหนึ่ง พอให้ความรู้สึกว่าอยู่แยกกับส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่นเล็กน้อยแม้จะอยู่ในห้องเดียวกันก็ตาม อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานใหญ่หลายบานให้ความรู้สึกโปร่งสบายไม่อึดอัดอีกด้วย
เมื่อกาแฟพร้อมนนทพัทธ์ก็เทใส่ถ้วยแล้วเดินถือทั้งถ้วยกาแฟและจานพายออกไปนั่งนอกระเบียง ดวงตารีสวยทอดมองออกไปด้านนอกดูผู้คนที่เดินขวักไขว่บนท้องถนน เขาเลื่อนสายตาไปมองต้นเมเปิล จำได้ว่าตอนเพิ่งมาถึงอิตาลีใบของต้นไม้เพิ่งจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง มาถึงตอนนี้หลายใบเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม บางใบก็เป็นสีแดง และบางใบก็เป็นสีน้ำตาล เวลาลมพัดใบไม้ก็ร่วงหล่นจากต้น ปลิดปลิวไปตามถนนหนทาง บนพื้นเต็มไปด้วยใบไม้หลากสี ดูสวยงามราวกับว่ามันคือศิลปะที่มวลมนุษย์ได้รับเป็นของขวัญจากธรรมชาติ นนทพัทธ์สูดลมหายใจเข้าลึก เก็บเอากลิ่นของฤดูใบไม้ร่วงที่เขาแสนหลงใหลเข้าไปจนเต็มปอด
นึกไปถึงวันที่ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะกับครอบครัว ผักแว่นน้องเล็กเดินเตะใบไม้แห้งเสียงดังสวบสาบอย่างสนุกสนาน บางทีก็กอบเอามันขึ้นมาไว้เต็มสองแขนแล้วโปรยขึ้นฟ้า บังคับให้พี่เขยอย่างไฟแดงที่เอาแต่พะวักพะวงกับเมียมาถ่ายคลิปให้ ถ่ายทั้งภาพนิ่งทั้งคลิปไปตั้งหลายภาพแล้วเจ้าตัวก็โพสต์ลงอินสตาแกรม คนสวยขาเรียกยอดกดใจได้เป็นพันเป็นหมื่นดวง ผักชีหัวเราะเบาๆ พลางส่ายหน้า เขานี่ช่างต่างจากพี่น้องอย่างสุดขั้ว เขาไม่เคยอัปเดตอะไรในโซเชียล ไม่ชอบเล่นโซเชียลเลยด้วยซ้ำ ที่มีบัญชีโซเชียลก็เพราะน้องเล็กบังคับให้เปิดเอาไว้เพื่อที่จะได้แอดเข้าไปเป็น Close Friends ของเจ้าตัวเท่านั้นเอง แถมก่อนกลับยังกำชับด้วยว่าเขาต้องหมั่นถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงไอจีให้ดูบ้าง
ว่าแต่…คิดแล้วเขาก็รู้สึกอยากไปเดินเล่นในสวนสาธารณะจังเลย
ยังเหลือเวลาอีกตั้งห้าวันกว่าจะถึงวันเปิดเทอม เขามีเวลาเหลือเฟือในการเตรียมตัว วันนี้ครอบครัวเพิ่งเดินทางกลับไทยไป ทำให้ผักชีรู้สึกเหงาเป็นพิเศษ การอยู่ในห้องคนเดียวทำให้รู้สึกแย่ยิ่งกว่าการเดินตามรอยเท้าตัวเองและครอบครัวเมื่อครู่เสียอีก วันนี้ฟลอเรนซ์อากาศดีมาก แสงแดดอ่อนๆ ลมพัดเอื่อยๆ เหมาะแก่การไปนั่งเล่นในสวนสาธารณะ ไม่เหมาะกับการนั่งเหงาคนเดียวในห้องเลยสักนิด
คิดดังนั้นแล้วนนทพัทธ์ก็หยิบพายอาร์ติโชกที่ค่อยๆ ละเลียดมาพักหนึ่งใส่ปากคำใหญ่ ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วเดินไปล้างมือในห้องอาบน้ำ สำรวจความเรียบร้อยของตัวเองว่าไม่มีเศษพายติดตามขอบปากแล้วคว้าแจ็กเก็ตมาสวมก่อนออกจากห้องอีกครั้ง
วันที่ครอบครัวพาเขามายังอะพาร์ตเมนต์ทุกคนก็พากันเดินสำรวจเส้นทางรอบๆ จนเขาจำมันได้อย่างขึ้นใจแล้ว เมืองฟลอเรนซ์มีสวนสาธารณะมากมาย ทั้งขนาดใหญ่และขนาดย่อม นับเป็นเมืองที่ร่มรื่นมาก เขารู้ว่ามีสวนสาธารณะขนาดย่อมอยู่ไม่ไกลจากอะพาร์ตเมนต์ เดินเท้าไปราวๆ สิบนาทีกว่าๆ ก็ถึง แต่วันนี้ผักชีเดินเรื่อยๆ อย่างไม่รีบเร่ง จงใจทิ้งเวลาให้หมดไปกับการเดิน กว่าขาเรียวสวยของเขาจะพามาถึงทางเข้าสวนก็กินเวลาไปยี่สิบนาที เขามองชาวอิตาเลียนที่นั่งบนผืนหญ้า หลายคนสนทนากัน บางคนมาปิกนิกด้วยอากาศวันนี้ค่อนข้างอบอุ่น บางคนก็พาสุนัขมาเดินเล่น บางคนก็นั่งอ่านหนังสือบนม้านั่งของสวนสาธารณะ สองมือของผักชีว่างเปล่า เขาไม่ได้หยิบหนังสือติดตัวมาด้วยเลยสักเล่ม อันที่จริงไม่ได้หยิบอะไรติดตัวออกมาเลยนอกจากโทรศัพท์กับกระเป๋าเงินที่ลืมหยิบออกจากกระเป๋าแจ็กเก็ตตอนกลับอะพาร์ตเมนต์เมื่อครู่
แต่ก็เอาเถอะ วันนี้เป็นวันแรกนี่นะที่เขามาสวนสาธารณะเพียงลำพัง แถมผลุนผลันออกมาด้วยเลยไม่ได้เตรียมอะไรเลย เอาไว้คราวหน้าเขาจะหยิบหนังสือเล่มโปรดมานั่งอ่านนอนอ่านบ้างหากอากาศยังไม่หนาวเกินไป
เสียงย่ำสวบสาบบนใบไม้แห้งให้ความรู้สึกดีอย่างประหลาด ผักชีพาตัวเองไปหย่อนก้นลงนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่ง เขาเอนหลังพิงพนักแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย เปลือกตาค่อยๆ ปิดลง อากาศอวลกลิ่นใบไม้แห้งถูกสูดเข้าไปในปอด นิ่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งก็เปิดเปลือกตา ดวงตาเรียวรีไล่มองไปยังผู้คนที่ทำกิจกรรมต่างๆ ในสวนสาธารณะ แสงแดดอ่อนๆ ลมพัดใบไม้ปลิว มันเป็นบรรยากาศที่เขาเคยเห็นในภาพฝันของตัวเอง ตอนนี้เขาได้มาเห็นมันในความเป็นจริงแล้ว
โอเมก้าหนุ่มนั่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน บางทีก็สลับมาเดินเล่นรอบๆ สวน แล้วก็สลับมานั่งมองผู้คนบนม้านั่งอีก บรรยากาศโดยรอบทำให้เขานึกถึงน้องคนเล็กที่มักชอบเช็กอินถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงในสื่อโซเชียลส่วนตัว เขาจึงนึกสนุกยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปตัวเองบ้าง ถ่ายเสร็จก็โพสต์ลงในอินสตาแกรมให้เห็นเฉพาะครอบครัว พอเห็นรูปตัวเองก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าลืมสวมปลอกคอ เขาจับรอบคอระหงโดยอัตโนมัติ แต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะกะว่าอีกเดี๋ยวเดียวก็จะกลับที่พักแล้ว
เดินเล่นอยู่อีกพักใหญ่จวบจนตกเย็นก็คิดว่าควรแก่เวลาที่จะกลับอะพาร์ตเมนต์ ผักชีเดินเรื่อยๆ ย้อนกลับไปตามทางเดิม พอใกล้ถึงที่พักก็แวะร้านกาแฟที่เป็นร้านโลคอล เขาดื่มกาแฟตอนก่อนออกจากห้องพักไปแล้วก็จริง แต่เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เคยเข้าไปซื้อกาแฟกับครอบครัว จะดื่มอีกสักแก้วก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เขาสั่งกาแฟลาเต้ร้อนแบบเทกอะเวย์มาหนึ่งที่ เมื่อกลับออกมานอกร้านแล้วก็ก้าวเดินออกไปอย่างเชื่องช้า
กลิ่นกาแฟร้อนๆ กรุ่นหอมลอยมาเตะจมูกทำให้นึกอยากจิบมันขึ้นมาสักอึกสองอึก เมื่อริมฝีปากบางเฉียบแตะขอบแก้ว กาแฟรสชาติขมกลมกล่อมกับฟองนมนุ่มก็ถูกดื่มกลืนผ่านลำคอ ทว่าเมื่อคลายริมฝีปากออกจากขอบแก้วกระดาษ อยู่ๆ เขาก็รู้สึกชาวาบไปทั้งตัว ต้นคอรู้สึกร้อนวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และยังรู้สึกใจเต้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ที่มาที่ไป ดวงตารีกดลงมองแก้วกาแฟในมือ เขาไม่เคยมีปัญหากับการดื่มกาแฟ ไม่เคยใจเต้นแรงเพราะคาเฟอีนมาก่อน แต่แล้วความสงสัยในแก้วกาแฟที่เพิ่งซื้อมาก็ถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมของอะไรบางอย่าง
ใบหน้าสวยเงยขึ้นจากแก้วกระดาษ ปลายเท้าบิดไปยังทิศทางที่รู้สึกได้ว่าเป็นที่มาของกลิ่นนั้น ด้านหน้าประมาณสองช่วงตึกของอีกฟากฝั่งถนนเป็นอะพาร์ตเมนต์ของเขา ทว่าสายตาของโอเมก้ากลับจ้องไปยังมุมตึกๆ หนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอะพาร์ตเมนต์ เท้าขยับเดินโดยไม่รู้ตัว ในหัวมีแต่กลิ่นหอมของต้นซีดาร์วูดที่อวลอยู่ทั่วบรรยากาศ
กลิ่นของพวกอัลฟ่าอย่างนั้นหรือ
นนทพัทธ์คิดอย่างสับสน เขาไม่เคยได้กลิ่นอัลฟ่าที่รุนแรงเช่นนี้มาก่อน ส่วนใหญ่สิ่งที่เจอจากพวกอัลฟ่ามักเป็นจิตข่มขู่ ส่วนกลิ่นหอมๆ ก็มักมาจากโอเมก้าด้วยกันเอง มันแปลกมากเลยที่มีอัลฟ่ามาส่งกลิ่นราวกับเรียกหาคู่แบบนี้ คนอื่นไม่ได้กลิ่นกันบ้างเลยหรืออย่างไรกันถึงไม่มีใครมีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ เลย คิดดังนั้นแล้วโอเมก้าน้อยก็กลอกสายตามองไปรอบตัว น่าแปลกที่เขาไม่สามารถโฟกัสอะไรกับสภาพแวดล้อมได้ ในใจรู้สึกร้อนรุ่ม มีสิ่งเดียวที่คิดอยากทำคืออยากตามกลิ่นซีดาร์วูดนั้นไปเพื่อจะพบกับเจ้าของกลิ่นกรุ่นหอมนี้ให้ได้
ที่มาของกลิ่นมาจากตรงนั้น…
พ้นมุมตึกนั้นไป มีอัลฟ่าเจ้าของกลิ่นซีดาร์วูดที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตและรู้สึกสบายใจอยู่ตรงนั้น มันไม่ไกล…ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย…
คิดดังนั้นเท้าผอมบางในรองเท้าผ้าใบก็พาเขาให้เร่งฝีเท้าไปยังจุดนั้น ดวงตารีสวยจับจ้องอยู่ที่มุมตึกอย่างไม่วอกแวก ผักชีไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกตื่นเต้น ทำไมถึงใจเต้นแรง และทำไมถึงต้องอยากรู้ อยากตามไปจนเจออัลฟ่าเจ้าของกลิ่น ยิ่งใกล้มุมตึกสองเท้าก็ยิ่งสาวเร็วขึ้น หัวใจของเขากระตุกรุนแรงราวกับจะกระดอนกระเด็นออกมาเต้นนอกอก ด้านหลังลำคอร้อนผ่าว ใบหน้าก็ผ่าวร้อนไม่แพ้กัน
อยู่ตรงนั้น...แค่ตรงนั้น…
นนทพัทธ์แทบจะเปลี่ยนเป็นวิ่ง ช่วงมุมตึกราวกับมีเส้นขั้นเส้นชัยที่มองไม่เห็นรอให้เขาพุ่งตัวไปหา ความเร็วในการก้าวจ้ำบ่งบอกว่าเขาลืมไปเสียสิ้นแล้วว่าในมือมีแก้วกาแฟลาเต้ร้อนๆ อยู่ เขาพุ่งตัวเข้าไปยังเส้นชัยที่มองไม่เห็นด้วยดวงใจร้อนรุ่ม แต่แทนที่จะได้เห็นอัลฟ่ายืนอย่างสง่างามรอเขาอยู่หลังมุมตึกเหมือนภาพในจินตนาการ นนทพัทธ์กลับชนเข้าอย่างจังกับใครบางคนที่หัวมุมตึกเต็มแรง เขาไม่ได้ล้มไม่เป็นท่า ทว่าแก้วกาแฟในมือของเขาบุบบี้ กาแฟที่เคยอยู่ในแก้วกระจายเต็มเสื้อสีขาวของคู่กรณี
“โอ๊ะ!!” โอเมก้าหนุ่มร้องเสียงหลง “Mi dispiace tanto!”
เขาเอ่ยคำขอโทษออกมาเป็นภาษาอิตาเลียนด้วยความตกใจ มองรอยเปื้อนจากกาแฟบนเสื้อคอเต่าสีขาวที่ถูกสวมใส่โดยชายร่างกายบึกบึนแล้วเลื่อนสายตาขึ้นไปมองหน้า
ไม่เพียงเครื่องหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ติ แต่ผักชีตกตะลึงเพราะฟีโรโมนกลิ่นซีดาร์วูดที่ชวนให้ลุ่มหลงกระจายฟุ้งไปทั่วตัวชายผู้นี้
ใบหน้านิ่งขรึมของอัลฟ่าหนุ่มรูปงามกดลงมามองเขาด้วยสายตาตะลึงงันไม่ต่างกัน ผักชีไม่รู้เลยว่าไม่ใช่เพียงเขา ทว่าชายคนนี้ก็เดินตรงมาทางนี้อย่างรีบเร่งเพราะฟีโรโมนกลิ่นดอกแม็กโนเลียที่เขาปล่อยออกมาโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน
ทั้งสองนิ่งงันไร้คำพูดอยู่ครู่เดียวก็เป็นนนทพัทธ์ที่เริ่มได้สติก่อน เขาเลื่อนสายตากลับไปมองรอยเปื้อนด้วยท่าทางเลิ่กลั่ก คว้าแพ็กกระดาษเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วรีบซับลงไปบนเสื้อขาว
“กาแฟยังร้อนอยู่เลย ลวกผิวคุณไหมครับ ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ ครับ”
ทว่าพอมือบอบบางของเขาสัมผัสลงบนกล้ามเนื้อหนั่นแน่นผ่านเนื้อผ้า ก็ราวกับมีกระแสไฟฟ้าช็อตลงบนตัวของทั้งสอง มือเรียวสวยหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงลมหายใจติดขัด เขาสังเกตเห็นว่ามือที่วางอยู่ข้างลำตัวของชายร่างสูงใหญ่กำแน่นเข้าด้วยกัน แต่ความรู้สึกผิดก็ทำให้คิดว่าอีกฝ่ายคงเจ็บร้อนจากกาแฟ แถมเสื้อขาวสะอาดก็เปื้อนเป็นดวงใหญ่ขนาดนั้น
ชายคนนี้แต่งตัวภูมิฐานดูดี เจ้าตัวอาจจะกำลังเดินทางไปทำธุระสำคัญที่ไหนก็ได้ จะให้ไปทั้งคราบกาแฟดวงโตเต็มอกเสื้อแบบนี้คงไม่ดีแน่ คิดดังนั้นแล้วผักชีจึงรีบเสนอความช่วยเหลือออกไปโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
“อะพาร์ตเมนต์ผมอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง รีบเอาเสื้อไปซักเถอะครับ คราบกาแฟน่าจะยังไม่ฝังรอย เครื่องซักผ้าของผมมีโปรแกรมอบแห้งในตัวด้วย ไม่นานก็เสร็จแล้ว ถ้ายังไง…” ยังไม่ทันที่ผักชีจะละล่ำละลักพูดทั้งหมดจบ เสียงเคร่งขรึมก็เอ่ยขัดขึ้นก่อน
“นำไปเลยครับ”
โอเมก้าหนุ่มพยักหน้าแล้วรีบพาคนตัวสูงใหญ่เดินข้ามถนนไป พยายามข่มใจให้ไม่สนใจกลิ่นฟีโรโมนที่อีกฝ่ายส่งออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน แม้อัลฟ่าคนนี้จะหน้าตาดีมากจนเขาถึงกับตะลึง ทว่าท่าทางนิ่งขรึมทำให้ผักชีประหม่าและไม่กล้าเอ่ยปากพูดอะไรออกมาสักคำ เมื่อไปถึงอะพาร์ตเมนต์ก็เดินนำไปยังทางเข้าแล้วตรงไปที่บันไดทางขึ้น เขาอาศัยอยู่ที่ชั้นสาม อะพาร์ตเมนต์นี้สูงแค่ห้าชั้นและไม่มีลิฟต์ เขาจึงพาชายที่ยังไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเดินขึ้นบันไดไป
กลิ่นฟีโรโมนเข้มข้นที่อีกฝ่ายปล่อยออกมาทำให้หัวใจเขาเต้นแรงจนแทบระเบิด จนผักชีเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะเข้าช่วงฮีตแล้วหรือไร แต่ไม่ว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องกักเก็บความรู้สึกต้องการผสมพันธุ์เอาไว้ให้ได้ พอถึงห้องและนำเสื้อผ้าของชายคนนี้ใส่เครื่องซักผ้าแล้วค่อยรีบกินยาระงับฮีตเอาก็แล้วกัน เขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง น่าจะไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อก้าวเข้าไปในห้องผักชีก็รีบผลุนผลันเข้าไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมายื่นให้คนที่ไม่เอ่ยปากพูดอะไรออกมาเลยสักคำ ระหว่างเดินมาเขาสังเกตว่าแม้แต่กางเกงของอีกฝ่ายก็เปื้อนจึงคิดว่าให้ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำไปเลยน่าจะดีกว่า อีกอย่าง…เมื่อคะเนรูปร่างจากภายนอกแล้ว อัลฟ่าร่างสูงใหญ่คนนี้ใส่เสื้อผ้าของเขาไม่ได้แน่ๆ
“ห้องน้ำอยู่ทางนั้นครับ” เขาบอกพลางผายมือไปทางห้องอาบน้ำ
อัลฟ่าหนุ่มยังคงไม่พูดอะไร เขาเองก็พยายามกดข่มความรู้สึกร้อนรุ่มที่ถาโถมเข้ามาไม่แพ้กัน เขารับเสื้อคลุมอาบน้ำไปแล้วถอดเสื้อแจ็กเก็ตบางๆ สำหรับสวมใส่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงออกมาแขวนไว้ตรงที่แขวนแจ็กเก็ตข้างประตูทางเข้าก่อนเดินตรงไปทางห้องน้ำ
ผักชีพรูลมหายใจออกมาเมื่อประตูห้องน้ำปิดสนิท หากไม่รวมกลิ่นหอมๆ อัลฟ่าคนนี้ยังส่งแรงกดข่มจางๆ ออกมาปะปนกับกลิ่นฟีโรโมนประจำตัวอีกด้วย นนทพัทธ์ไม่รู้หรอกว่าจิตข่มขู่นั้นถูกปล่อยออกมาเป็นเพราะอีกฝ่ายพยายามข่มอารมณ์ตัวเองอย่างที่สุด เขารู้สึกอึดอัดจากแรงกดข่มของอัลฟ่าหน้านิ่งเล็กน้อย ทว่าน่าแปลกที่มันไม่ได้ทำให้รู้สึกแย่เกินไป นั่นอาจเพราะกลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่เขาอย่างน่าประหลาด คิดดูแล้วก็ยิ่งแปลกใจที่เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นฟีโรโมนจากอัลฟ่ารุนแรงแบบนี้
หรือเพราะว่าชายคนนี้เป็นชาวอิตาเลียนกันนะ...
อัลฟ่าแต่ละถิ่นแต่ละประเทศอาจจะมีการแสดงออกหรือการวางอาณาเขตต่างกัน คนที่นี่อาจแสดงออกด้วยการปล่อยกลิ่นฟีโรโมนออกมาก็ได้ แต่เขาก็มาอยู่ที่นี่ได้สองอาทิตย์แล้วนี่นา ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยได้กลิ่นจากอัลฟ่ารอบตัวมาก่อนเลยเล่า
หรือเป็นเพราะว่าเขามัวแต่วุ่นอยู่กับครอบครัวก็เลยมองข้ามคนรอบข้างไป พออยู่คนเดียวแล้วประสาทสัมผัสรับรู้ก็เลยชัดเจนขึ้นอย่างนั้นหรือ
มันก็ไม่น่าใช่นะ…
เพราะนอกจากจะได้กลิ่นชายคนนี้ชัดแล้ว เขายังรู้สึกปั่นป่วนในอก หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างกับไปวิ่งออกกำลังกายมาหลายร้อยเมตร ไหนจะบริเวณต้นคอที่ร้อนอย่างกับโดนแผดเผานั่นอีก…
นนทพัทธ์มีเวลาคิดอะไรคนเดียวอยู่ได้เพียงพักเดียวชายที่เขาไม่รู้จักชื่อก็เปิดประตูออกมา คนที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำเรียบร้อยแล้วยื่นเสื้อคอเต่าสีขาวกับกางเกงสีน้ำตาลเข้มให้เขา ดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเขาจนต้องหลบสายตาก่อนยื่นมือไปรับเสื้อผ้าเปื้อนคราบกาแฟแล้วรีบนำไปใส่เครื่องซักผ้า พอตั้งโปรแกรมเสร็จก็หวังจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีและเสนอเครื่องดื่มร้อนๆ ให้ระหว่างรอ
“ไม่ทราบว่าจะดื่มชาหรือกาแฟระหว่างรอดีครับ คุณ…”
ผักชีเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาไม่ได้สนทนากันสักคำจึงไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของกันและกัน เขาปรายตาไปมองหวังว่าอย่างน้อยการพูดคุยกันแม้เพียงเล็กน้อยอาจจะช่วยคลายความอึดอัดไปได้บ้าง ทว่าพอสายตาของเขาหันมาสบกับอีกฝ่าย ดวงตาคู่คมก็โชนขึ้น ตาสีอำพันสวยดูอบอุ่นที่เขาเห็นเมื่อครู่กลับกลายเป็นสีเงินเคร่งดุ มันสว่างวาบดูน่ากลัว หน้าอกอันอุดมไปด้วยมัดกล้ามกระเพื่อมขึ้นลงอย่างหนักหน่วง ผักชีเบิกตากว้าง ลมหายใจสะดุด
ชายคนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงรัต!
สถานการณ์ตรงหน้าทำให้นนทพัทธ์เพิ่งตระหนักได้ว่าเขาเปิดประตูบ้านเชื้อเชิญชายแปลกหน้าเข้ามาโดยไม่ทันได้คิด เพราะมัวแต่รู้สึกผิด คิดว่าต้องรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุเล็กๆ ที่เกิดจากตัวของเขาเอง และเพราะสมองมึนเบลอจากกลิ่นฟีโรโมนจนขาดสติยั้งคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อน ซึ่งมันผิดวิสัยคนรอบคอบแบบเขา ความตกตะลึงของโอเมก้าหน้าสวยไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะแทนที่จะรู้สึกกลัวเขากลับรู้สึกตื่นเต้น หัวใจดวงน้อยเต้นแรง เส้นขนทุกเส้นทั่วสรรพางค์กายลุกชัน กลิ่นซีดาร์วูดที่โจมตีกันตั้งแต่ยังไม่พบหน้าพุ่งทะยานมายังเขาตรงๆ เขารู้สึกลุ่มหลงมัน รู้สึกอยากถูกเจ้าของกลิ่นนั้นสัมผัสเนื้อตัวของเขา อยากถูกร่างใหญ่โตนั้นโรมรันพัวพันกับร่างกายของเขา
เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนใบหน้าสวย ความตื่นเต้นนั้นทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วทั้งกาย นนทพัทธ์รู้สึกว่าช่องทางเบื้องหลังของเขาขับหลั่งสารบางอย่างออกมาตามธรรมชาติจนแฉะไปหมด มันไหลเยิ้มออกมาเยอะจนเลอะไปทั้งกางเกงชั้นใน ลมหายใจของเขาติดขัดขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการผสมพันธุ์เริ่มเด่นชัดและกำลังจะเข้าทดแทนสติสัมปชัญญะของเขาที่รางเลือนลงทุกที
เขาเองก็กำลังเริ่มฮีตเช่นกัน