เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good] - บทที่ 13 รุ่นนี้ไม่แถมขามาด้วย โดย Meyanee173 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี

รายละเอียด

เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!

ผู้แต่ง

Meyanee173

เรื่องย่อ

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม

.

.

นั่งป้อนข้าวแมวจรบนฟุตบาทอยู่ดีๆ จู่ๆก็โดนมอเตอร์ไซค์เสยจนตุยคาที่ ไอบ้าเอ๊ย ชีวิตดีๆในประเทศT ถ้าได้เกิดใหม่ขอให้อยู่ในที่ที่เจริญๆหน่อยเถอะ

"นั่นคือสิ่งที่เธอคิดก่อนตายไม่ใช่หรือไง ถ้าตามแต้มบุญก็ทำให้ได้อยู่หรอกนะ แต่พรข้ออื่นที่ขอมาตามหลังน่ะคงไม่ได้หรอก"

พอได้ฟังคำพูดของพระเจ้าแล้วหญิงสาวก็ได้แต่ทำท่าหมดอาลัยตายอยาก นี่แต้มบุญของเธอมันมีเท่าไหร่กันแน่เนี่ย พระเจ้าก็ขี้งกไม่แถมพรให้หน่อยเลย เศร้าน้ำตาจิไหล

ตัดพ้อไม่ทันไรก็โดนพระเจ้าดีดนิ้วให้ไปเกิดใหม่ซะแล้ว… เอวัง

.

.

.

สวัสดีค่าทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่นิยายฟีลกู๊ดสุดคิ้วทึค่ะ! ครั้งนี้ไรท์มาแปลกกว่าทุกครั้งเลยเพราะตัวเอกของเรื่องนี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเหล่าน้องเหมียวสุดน่ารักยังไงล่ะคะะ เรื่องราวของสตรีมเมอร์สาวสวยที่มีแมวในครอบครองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมแต่ละตัวก็น่ารักน่าชังจนตกผู้ชมเป็นทาสได้ไปตามๆกันจะดำเนินไปอย่างไร กดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือกันไว้ได้เลยค่ะ!

เรื่องนี้มีพระเอกนะคะ แต่พระเอกค่าตัวแพงมาก(ฮา) แต่ถ้าผู้ชมสมทบทุนค่าตัวพระเอกเยอะก็อาจจะคิดอีกที--แค่กๆ



พูดคุยกันได้ที่ #หม่าวเมี๊ยวแมวประเสริฐ หรือแท็กที่ Twitter ของไรท์ ก็ได้ค่า(จิ้มที่คำได้เลยมันจะลิ้งไปที่ทวิตค่ะ)😸🫶🏻

สารบัญ

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 1 เกิดใหม่,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 2 สตรีมครั้งแรก,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 3 พลังวิญญาณสายพิเศษ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 4 เรื่องราวของผ้าขี้ริ้วห่อทอง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 5 ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 6 แมวที่ดี(?),สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 7 ที่ร้านงานฝีมือ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 8 เลี้ยง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 9 กดบัตรอีเว้นท์ใหญ่,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 10 โรงแรม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 11 งานเกม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 12 หลง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 13 รุ่นนี้ไม่แถมขามาด้วย,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 14 เจ้าหญิงน้อยของบ้าน,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-แจ้ง การติดเหรียญล่วงหน้า,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 15 เปลี่ยนคอนเทนต์สตรีม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 16 คริสต์มาส,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 17 สิ้นปี,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 18 งานรับรางวัล,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 19 สำนักงานกลางกองกำลัง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 20 สู่กองทัพ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 21 ช่วย,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 22 คนของเขา,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 23 โอกาส,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 24 ฤดูฝน,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 25 ชอบ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 26 เรื่องในใจ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 27 หัวใจของหุ่นยนต์,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 28 ธีโอดอร์ วินเทอร์

เนื้อหา

บทที่ 13 รุ่นนี้ไม่แถมขามาด้วย

หลังจากกลับมาจากงานเกมที่ดาวอาทิสแล้วชีวิตประจำวันของเธอก็กลับมาเป็นปกติ ยกเว้นที่มีเครื่องเกมมาส่งถึงบ้านพร้อมนามบัตรที่เขียนคอนแทคไอดีสตาร์ชิปของอีกฝ่ายเอาไว้ แต่นอกจากนั้นเธอก็ยังไม่ได้เข้าเกมแต่อย่างใด เพราะเอสเทอร์มีติดแข่งขันประจำฤดูหนาว ซึ่งจัดในช่วงท้ายปีของทุกๆ ปี

ในที่สุดช่วงสิ้นเดือนที่คุ้นเคยก็มาถึง เชอร์เบลจึงเพิ่มเวลาสตรีมและลงคลิปบ่อยขึ้นกว่าปกติ จู่ๆ ระหว่างที่เธอกำลังถักเสื้อไหมพรมตัวเล็กสำหรับแมวอยู่ในสตรีมประจำวันอย่างสบายๆ นั้น ก็มีสายโทรเข้ามาในจังหวะที่เธอวางไหมพรมลงพอดีราวกับกำลังดูผ่านสตรีมอยู่ ข้อมือฉายโฮโลแกรมขึ้นมาแสดงให้เห็นว่าคนที่โทรมาก็คือคุณหมอธีโอดอร์คนเก่งนั่นเอง เธอจึงกดปิดเสียงสตรีมไปและรับสายนั้นทันที

"คุณธีโอดอร์ มีอะไรรึเปล่าคะ?"

ช่วงนี้เธอได้พูดคุยและสนิทกับเขามากขึ้น ตั้งแต่ช่วงประมาณสามเดือนก่อนที่เธอพรวดพราดนำแมวไปให้เขารักษา หลังจากนั้นเลยได้ติดตามอัปเดตอาการของทั้งแม่แมวและลูกแมวอีกสามตัวมาเรื่อยๆ จนครั้งล่าสุดที่ได้ข่าวก็คือแม่แมวและลูกบางตัวถูกคนรับเอาไปเลี้ยงเกือบหมดแล้ว ทำให้เธอไม่แน่ใจว่าครั้งนี้ที่โทรมาเขาจะมีเรื่องอะไรอีก

"คุณเชอร์เบล เดี๋ยวหลังจากสตรีมเสร็จเข้ามาที่คลีนิคหน่อยนะครับ เกี่ยวกับเจ้าลูกแมวที่เหลือตัวสุดท้ายน่ะครับ"

เสียงทุ้มเจือความกังวลและขอร้องอย่างปิดไม่มิดทำให้เธอตอบรับอย่างเร็วรี่ ถึงธีโอดอร์จะบอกว่าหลังสตรีมจบค่อยมาก็ได้ แต่เมื่อเธอวางสายแล้วก็รีบกล่าวขอโทษกับผู้ชมทันที

"ขอโทษนะคะทุกคน พอดีคุณหมอโทรมาให้ไปที่คลีนิคน่ะค่ะ วันนี้คงต้องจบสตรีมกันไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ"

ติ๊ง!

[•อยากเป็นจอทอง : โดเนทเข็มฉีดยา 100 เข็ม : คุณเชอร์เบลป่วยเหรอครับ]

ปุ้ง! ปุ้ง! ปุ้ง!

[ยินดีด้วยคุณได้รับโดเนทจำนวน 10,000 เหรียญดวงดาวในคราวเดียวเป็นครั้งแรก]

[เริ่มสุ่มสมบัติคืนแก่ผู้ชมในช่องหม่าวเมี๊ยว]

[เริ่มสุ่มสมบัติคืนแก่ผู้ชมในช่องหม่าวเมี๊ยว]

[เริ่มสุ่มสมบัติคืนแก่ผู้ชมในช่องหม่าวเมี๊ยว]

เสียงพลุดังขึ้นในห้องสตรีมฉลองยอดโดเนทจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญ ก่อนที่เสียงโมโนโทนของระบบจะประกาศไปทั่วทั้งแพลตฟอร์ม ทำให้คนหลั่งไหลเข้ามายังช่องของเธอเพื่อรับการสุ่มเงินคืนกันเต็มไปหมด บรรยากาศช่องแชทกลายเป็นครึกครื้นขึ้นมาในทันที เชอร์เบลหัวเราะแห้งๆ เมื่อเห็นจำนวนคอมเมนท์ของระบบที่ยินดีต้อนรับแอคที่เข้ามาดูใหม่จำนวนมหาศาลที่ไหลเป็นน้ำหลากจนมองไม่ทัน

"อ่า ขอบคุณคุณอยากเป็นจอทองด้วยนะคะสำหรับหลอดฉีดยาหนึ่งร้อยเข็ม ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะแต่ว่าฉันไม่ได้ป่วยค่ะ เป็นเรื่องแมวจรที่ฉันพาไปรักษาก่อนหน้านี้น่ะค่ะ"

ทันทีที่พูดจบเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับพลุสีสันสดใสชุดเดิมที่โผล่มาเต็มจอ

[•อยากเป็นจอทอง : โดเนทอาหารแมว 1000 ซอง : ถ่ายวิดีโอที่จะไปคลีนิคให้ดูด้วยได้ไหมครับ]

เชอร์เบลขนลุกซู่เมื่อมองกล่องข้อความสีน้ำเงินเด่นหราที่ค้างอยู่บนหน้าจอ ที่เป็นสัญลักษณ์ของข้อความจากการโดเนทหนึ่งหมื่นเหรียญดวงดาวมาให้ แต่ถึงอย่างนั้นกลับโดเนทอีกรอบเพื่อส่งข้อความ ทั้งๆ ที่จริงๆ หลังจากโดเนทใหญ่แอคของเขาก็มีสัญลักษณ์ทำให้ข้อความเด่นกว่าคนอื่นเป็นเวลาสิบห้านาทีอยู่แล้ว เป็นคนใหญ่คนโตตัวจริงที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้จนโดเนทมาง่ายๆ แค่เพราะกลัวเธอไม่เห็นข้อความอย่างนั้นสิเนี่ย

"ได้เลยค่ะ เดี๋ยวจะถ่ายคลิปอัพเดทน้องแมวจรให้นะคะ"

เธอกล่าวขอบคุณอีกครั้งและรับปากเป็นมั่นเหมาะ ก่อนที่จะบอกลาช่องแชททั้งหมดอีกครั้งก่อนจะกดปิดสตรีม แต่เห็นช่องแชทตอนนี้ล้วนไปบ้าคลั่งกับการเรียกแอคอยากเป็นจอทองว่าพ่อกันหมดแล้ว ซึ่งก็ดูแล้วตลกดีเหมือนกัน

"เอาล่ะ รีบไปหาคุณธีโอดอร์ดีกว่า"

เชอร์เบลสวมรองเท้าและคว้ากระเป๋าสะพายมาอย่างว่องไว ก้มจุ๊บแมวทุกตัวจากนั้นก็วิ่งออกจากบ้านไปที่ปากซอยที่มีเสาต้นหนึ่งสีส้มสดใสตั้งอยู่ เธอจิ้มปุ่มที่เขียนว่า ต้องการวีลเลอร์ และกรอกจำนวนหนึ่งคนลงไป วีลเลอร์ของโลกนี้ก็เหมือนวินมอเตอร์ไซค์ในโลกเก่าของเธอ แต่ว่ารถจะออกแนวล้ำยุคกว่า หนากว่า และล้อหน้าใหญ่มากๆ และตัวรถทั้งคันก็เป็นสีส้มใสเหมือนกันเสาเรียกที่จะมาตั้งตามซอยต่างๆ เหมาะกับการเรียกให้ไปส่งยังสถานที่เฉพาะเจาะจงในความเร่งรีบ เมื่อคำขอถูกเด้งขึ้นบนระบบคนขับก็จะกดรับคำขอก่อนจะมาที่ที่เสาเรียกนั้นตั้งอย่างเร็วที่สุด

อึดใจเดียววีลเลอร์ก็มาถึงเธอก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายและเกาะของเบาะเอาไว้ เหมือนได้กลับไปนั่งวินมอเตอร์ไซค์ตามถนนใหญ่ใจกลางเมืองในเวลาเร่งรีบช่วงเช้าอีกรอบเลยทีเดียว

"ถึงจะบอกว่าไม่รีบมากเหมือนทุกทีแต่ก็ยังไม่ชินกับความซิ่งเบอร์นี้ของยุคนี้แฮะ"

เชอร์เบลบ่นออกมาเบาๆ หลังจากถึงจุดหมายปลายทางและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เธอใช้มือลูบผมที่ชี้โด่ชี้เด่ให้เข้าที่เล็กน้อยก่อนจะผลักประตูเข้าไปหาคนที่นัดเธอมาในสตรีมอย่างว่องไว เรียกหาคนนัดด้วยเสียงใสๆ ที่ก้องกังวานไปทั่วร้าน

"คุณธีโอดอร์คะ~"

"โอ้ มาแล้วเหรอครับ ตามมาครับตามมา"

ชายหนุ่มผมดำยาวกล่าวขณะเลื่อนแว่นตาให้เข้าที่ ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาจับข้อมือของเธอให้เดินตามไปเร็วรี่ ถึงเชอร์เบลจะตกใจนิดหน่อยแต่ก็เดินตามไปเพราะคิดว่าเขาคงไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แค่รีบพาเธอไปดูอะไรสักอย่างมากๆ ก็เลยเผลอทำกิริยาแบบนี้ไปโดยไม่รู้ตัว

"แหะๆ คุณธีโอดอร์คะ ไม่ต้องจับมือพาไปก็ได้นะคะ"

เธอดึงชายเสื้อกาวน์สีขาวสะอาดนั้นเบาๆ ขณะพยายามก้าวตามจังหวะฝีเท้าให้ทัน ทำให้ชายหนุ่มร่างผอมสูงข้างหน้าหันกลับมาหาเธอ เมื่อมองตามสายตาของเธอลงไปเขาก็เบิกตากว้างก่อนจะรีบปล่อยมือออกจากข้อมือเล็กนั้นทันที ใบหูสีซีดตัดกับผมสีดำขลับบัดนี้แดฝขึ้นมาด้วยความเขินอาย

"ขอโทษครับ ผมเผลอไป"

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจว่าคุณรีบ เรารีบไปกันเถอะค่ะ"

เชอร์เบลยิ้มอย่างไม่ถือสา ก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินตามไปจนระยะห่างของสองคนลดลง ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เขาตัวสูงขายาวกัน ก้าวหนึ่งก้าวนี่แทบจะเท่ากับเธอเดินสองก้าวเลยนะ

"อ้อ ตอนนี้พอจะบอกได้หรือยังคะว่าเกิดอะไรขึ้นถึงรีบตามฉันมา"

เชอร์เบลถามด้วยความสงสัย ตั้งแต่โทรตามจนตอนนี้ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

"ได้สิครับ เกี่ยวกับเจ้าตัวสุดท้องน่ะครับ น้องไม่ค่อยแข็งแรง ผิวบางเลยต้องใส่เสื้อผ้าตลอด แถมขายังสั้นจุ๊ดจู๋เลยครับ คุณต้องไปดูเอง"

ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงเรื่อยๆ แต่กลับหม่นลงในตอนท้าย เขาผลักประตูเข้าไปในห้องสีขาวโพลนที่มีโต๊ะสี่เหลี่ยมสีขาวขนาดใหญ่อยู่กลางห้อง และมีห้องโรงแรมแมวขนาดใหญ่ครึ่งตัวคนเป็นบล็อกๆ อยู่หลายตู้ติดๆ กันชิดกับกำแพง ส่วนใหญ่ว่างไม่มีแมวอยู่ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีแล้ว

"นี่ครับ เจ้าตัวนี้เลย"

ธีโอดอร์เปิดตู้ทางขวาสุดตรงกลางออกจากนั้นก็อุ้มแมวตัวหนึ่งในชุดลายจุดที่เหมือนชุดคนไข้ของคนสุดๆ ออกมาตัวหนึ่ง เมื่อเธอสังเกตดูดีๆ ก็พบกับลักษณะขาสั้นเป็นแง่งขิงจริงๆ ด้วย แม้ในใจจะรู้สึกน่ารักเพราะเหมือนกับพันธุ์มันช์กิ้นในโลกเก่าของเธอ แต่อีกใจก็มีความกังวลอยู่บ้าง เพราะเธอก็ไม่ลืมว่านี่คืออาการผิดปกติที่เกิดขึ้น แม้แต่ในโลกเก่าที่เธอจากมาตอนนั้นยังมีการถกเถียงอยู่เลยว่าสรุปเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์หรือเป็นความผิดปกติที่ไม่สมควรเพาะพันธุ์กันแน่

"ขาสั้นมากเลยนะคะ น้องจะใช้ชีวิตได้ปกติรึเปล่าคะ"

เขาปล่อยแมวเด็กอายุสามเดือนตัวจิ๋วลงบนโต๊ะใหญ่ มันเดินป้วนเปี้ยนด้วยขาที่สั้นผิดปกตินั้น บางทีก็ลงไปม้วนตัวออดอ้อนกับมือของคุณธีโอดอร์ เธอมองด้วยตาเปล่าเหมือนจะดูไม่ต่างจากแมวปกติมากนัก

"อืม อาจจะมีเรื่องการกระโดดที่ยากหน่อย แล้วก็ข้อเข่าเสื่อมก็น่าจะตามมาตอนน้องแก่ตัวลงครับ แต่นอกจากนั้นการดูแลหลักๆ ก็ต้องมีเสื้อผ้าและโคมอุ่นให้เขาได้อยู่ตลอดครับ อ้อ คุมความชื้นด้วย ไม่งั้นป่วยง่ายมากครับ"

ชายหนุ่มร่ายอาการออกมาทีเดียวจนจบ เชอร์เบลได้ฟังก็พยักหน้าเข้าใจ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรเขาก็พูดต่อขึ้นมาอีก

"ผมเห็นแล้วที่คุณรับปากผู้ชมว่าจะถ่ายคลิป จริงๆ ก่อนที่พวกเขาจะขอผมก็อยากให้คุณมาถ่ายคลิปนี่แหล่ะครับ น้องเหลือตัวสุดท้ายอายุสามเดือนแล้วและควรมีบ้านที่จะเลี้ยงน้องได้อย่างดีแทนผมจริงๆ สักทีครับ ก็เลยอยากให้คุณช่วยถ่ายโปรโมทหน่อยว่ามารับเลี้ยงฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ"

เป็นอันหมดข้อสงสัย เชอร์เบลติดตามก็เห็นด้วยตามนั้น จู่ๆ นำแมวมาให้รักษาถึงสี่ชีวิตโดยที่เขาไม่เก็บเงินสักเหรียญก็ว่าใจดีแล้ว ต่อมายังเลี้ยงเอาไว้จนมีคนมารับเลี้ยงไปเกือบทุกตัวแล้วอีก ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่แมวที่ตนตัดสินใจเลี้ยงเองด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็ควรหาบ้านให้คนอยากเลี้ยงจริงๆ สักทีนั่นแหล่ะ

"เข้าใจแล้วค่ะ งั้นเดี๋ยวขอถ่ายตั้งแต่น้องอยู่ในตู้ที่มีโคมอุ่นจนออกมาเดินเล่นข้างนอกเลยนะคะ"

ชายหนุ่มพยักหน้าตกลง และตัวเอกในวันนี้อย่างน้องแมวก็ให้ความร่วมมือดีมาก จนกระทั่งถ่ายเสร็จเชอร์เบลก็มานั่งพิจารณาคลิปที่ถ่ายออกมาทั้งหมดอีกรอบหนึ่ง

"ไม่ต้องเครียดนะครับ มันอาจจะยากมากที่จะมีคนมารับเลี้ยง แต่คุณทำเต็มที่แล้วล่ะครับ ถึงไม่สำเร็จผมก็จะเลี้ยงต่อไปจนกว่าจะมีเอง"

ธีโอดอร์เกาแก้มอย่างลำบากใจที่เห็นเธอนั่งคร่ำเคร่ง ในขณะที่เจ้าแมวที่ว่ากำลังอ้อนเธออยู่บนตักที่เจ้าตัวกระโดดขึ้นมาเองนั่นแหล่ะ

แต่จริงๆ ระหว่างที่อีกฝ่ายพูดอยู่นั้นเชอร์เบลไม่ได้คิดเกี่ยวกับการตัดต่อคลิปแต่อย่างใด เธอกำลังคิดเกี่ยวกับการรับเลี้ยงต่างหาก แมวบนตักของเธอเป็นแมวตัวเมียสามสีขนสั้นหน้าตาจิ้มลิ้มมู้จู้ สีน้ำตาลดำพาดตาเป็นเหมือนผ้าปิดตาสุดคิ้วท์กับหูตั้งใหญ่ที่มีสีส้มข้างหนึ่งดูโดดเด่น ทั้งยังนิสัยออกไปทางขี้อ้อนและไม่กลัวคนแปลกหน้า ทำให้เธอที่ตอนนี้มีเงินอยู่ค่อนข้างมากไม่กังวลเรื่องค่ารักษาของเจ้าหญิงน้อยตัวนี้หากรับเลี้ยงไป

นอกจากนั้นแล้วเธอเองก็คิดว่าจะไม่มีใครรับเลี้ยงเธอไปเช่นกัน เพราะในยุคนี้ที่มนุษย์วิวัฒนาการจนมีพลังวิญญาณ สัตว์เองก็มีการวิวัฒนาการจนมีพลังวิญญาณติดตัวมาแต่เกิดเช่นเดียวกัน และการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็ช่วยเสริมพลังวิญญาณของแต่ละคนได้ เหมือนในโลกเก่าของเธอที่เลี้ยงสัตว์แล้วสุขภาพจิตดีอย่างนั้นเลย แต่หากสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงอยู่ในอารมณ์ไม่ดี สภาพแวดล้อมไม่ดี หรือป่วยง่ายไม่แข็งแรงละก็ ก็อาจจะดูดพลังวิญญาณของเจ้าของส่วนหนึ่งไปเพื่อหล่อเลี้ยงตนเองได้ ดังนั้นคนจึงไม่ค่อยนิยมเลี้ยงสัตว์ผิดปกติมากนัก ส่วนใหญ่ถ้าเห็นว่าน้องๆ ทรมานก็จะส่งให้ทางรัฐทำการการุณยฆาตเสียมากกว่า เพื่อลดการส่งยืนไม่ดี และลดการปล่อยทิ้งเป็นสัตว์จรอีกด้วย

"คุณธีโอดอร์คะ ฉันตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะรับเลี้ยงเธอไว้เองค่ะ"

"จริงเหรอครับ!"

หญิงสาวกล่าวความต้องการด้วยเสียงมุ่งมั่น ก่อนที่สัตวแพทย์หนุ่มที่ได้ยินเต็มสองหูจะเผยสีหน้ายินดีออกมาขณะถามให้แน่ใจอีกครั้ง

"จริงค่ะ ยังไงฉันก็เจอเธอตั้งแต่ยังไม่เกิดเลย ดวงเราอาจจะสมพงศ์กันก็ได้นะคะ"

เชอร์เบลกล่าวด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ทำให้อีกฝ่ายมีสีหน้าผ่อนคลายตามไปด้วย เขายิ้มอย่างอ่อนโยนขณะที่มองหญิงสาวสลับกับเจ้าสามสีในอ้อมแขนของเธอ

"นั่นสินะครับ ถ้าอย่างนั้นคุณตั้งชื่อดีไหมครับ ผมสัญญาว่าจะให้คุณมาปรึกษาเรื่องน้องฟรีตลอดชีพเลยครับ"

"ขอบคุณนะคะ แต่ว่าเจ้าหญิงน้อยของมี๊จะได้ชื่ออะไรดีน้า~

เธอขอบคุณจากใจ ก่อนที่จะหันมาสนใจเจ้าก้อนขนในอ้อมแขน ดวงตาสีเขียวมองมาที่เธออย่างไร้เดียงสา ทำให้หัวใจของเธอเต้นตึกตักด้วยความน่ารักจับใจ

"ถ้าอย่างนั้นล่ะก็ ต่อไปนี้หนูชื่อว่า รัสตี้ ดีไหมคะลูกสาวคนสวยของหม่ามี๊"

"มี๊~~"

ขาสั้นๆ ด้านหน้าของเธอเอื้อมมาพยายามแตะใบหน้าของเชอร์เบลขณะที่ตอบรับด้วยเสียงเล็กๆ น่าเอ็นดูนั้น เธอจึงก้มหน้าลงไปให้เธอแตะได้สมใจ ส่วนธีโอดอร์ที่มองอยู่ก่อนหน้านี้ก็ก้าวเข้าเกาหัวเล็กๆ ของเจ้าเหมียวอย่างอ่อนโยนเช่นกัน

"รัสตี้ที่แปลว่าเติบโตสินะครับ คุณเชอ์เบล"

เสียงทุ้มใกล้ๆ นั้นไม่ได้ทำให้เธอตกใจ ยิ่งได้คุยเธอยิ่งรู้สึกคุ้นเคย เมื่ออยู่รอบตัวก็เต็มไปด้วยความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก หรือเพราะอีกฝ่ายเป็นสัตวแพทย์ผู้อ่อนโยนใจดีกันนะ ถึงได้เผื่อแผ่ความใจดีอ่อนโยนนั้นมาถึงคนด้วย เธอคิดในใจขำๆ ในบางเวลาที่เคยได้มองเห็นเขาซ้อนทับกับพี่เพทายที่ตนเคยรู้จัก เชอร์เบลเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่มตรงหน้าขณะที่ยิ้มจนตาแทบปิด

"ใช่ค่ะ ฉันหวังว่าเธอจะเติบโตมาได้อย่างดีน่ะค่ะ!"

ประโยคซ้อนทับกับความทรงจำในวัยเยาว์ ที่พี่ชายผู้แสนใจดีจากข้างบ้านในวัยเด็กกลายมาเป็นรุ่นพี่ของตนที่มหาลัย เคยกล่าวกับเธอไว้ว่า

'ไม่เจอกันนาน เธอน่ะ เติบโตมาได้อย่างดีเลยนะ'





__________________________________________

รูทพี่ชายโซน : open

ใครลงเรือลำไหนรีบพายเลยนะฮะ เพราะไรท์จะซาวเสียงจากคนอ่านมาตัดสินสุดท้ายนะว่าใครจะเข้าวิน

รักทุกคนเหมือนเดิมมมม เพิ่มเติมคือขอบคุณทุกแรงที่ช่วยกันซับพอร์ตเข้ามากันด้วยนะคะ จุ๊บๆๆ