เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good] - บทที่ 14 เจ้าหญิงน้อยของบ้าน โดย Meyanee173 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,รัก,slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี

รายละเอียด

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good] โดย Meyanee173 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!

ผู้แต่ง

Meyanee173

เรื่องย่อ

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม

.

.

นั่งป้อนข้าวแมวจรบนฟุตบาทอยู่ดีๆ จู่ๆก็โดนมอเตอร์ไซค์เสยจนตุยคาที่ ไอบ้าเอ๊ย ชีวิตดีๆในประเทศT ถ้าได้เกิดใหม่ขอให้อยู่ในที่ที่เจริญๆหน่อยเถอะ

"นั่นคือสิ่งที่เธอคิดก่อนตายไม่ใช่หรือไง ถ้าตามแต้มบุญก็ทำให้ได้อยู่หรอกนะ แต่พรข้ออื่นที่ขอมาตามหลังน่ะคงไม่ได้หรอก"

พอได้ฟังคำพูดของพระเจ้าแล้วหญิงสาวก็ได้แต่ทำท่าหมดอาลัยตายอยาก นี่แต้มบุญของเธอมันมีเท่าไหร่กันแน่เนี่ย พระเจ้าก็ขี้งกไม่แถมพรให้หน่อยเลย เศร้าน้ำตาจิไหล

ตัดพ้อไม่ทันไรก็โดนพระเจ้าดีดนิ้วให้ไปเกิดใหม่ซะแล้ว… เอวัง

.

.

.

สวัสดีค่าทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่นิยายฟีลกู๊ดสุดคิ้วทึค่ะ! ครั้งนี้ไรท์มาแปลกกว่าทุกครั้งเลยเพราะตัวเอกของเรื่องนี้ไม่ใช่ใครอื่น นั่นก็คือเหล่าน้องเหมียวสุดน่ารักยังไงล่ะคะะ เรื่องราวของสตรีมเมอร์สาวสวยที่มีแมวในครอบครองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมแต่ละตัวก็น่ารักน่าชังจนตกผู้ชมเป็นทาสได้ไปตามๆกันจะดำเนินไปอย่างไร กดเพิ่มเข้าชั้นหนังสือกันไว้ได้เลยค่ะ!

เรื่องนี้มีพระเอกนะคะ แต่พระเอกค่าตัวแพงมาก(ฮา) แต่ถ้าผู้ชมสมทบทุนค่าตัวพระเอกเยอะก็อาจจะคิดอีกที--แค่กๆ



พูดคุยกันได้ที่ #หม่าวเมี๊ยวแมวประเสริฐ หรือแท็กที่ Twitter ของไรท์ ก็ได้ค่า(จิ้มที่คำได้เลยมันจะลิ้งไปที่ทวิตค่ะ)😸🫶🏻

สารบัญ

สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 1 เกิดใหม่,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 2 สตรีมครั้งแรก,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 3 พลังวิญญาณสายพิเศษ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 4 เรื่องราวของผ้าขี้ริ้วห่อทอง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 5 ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 6 แมวที่ดี(?),สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 7 ที่ร้านงานฝีมือ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 8 เลี้ยง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 9 กดบัตรอีเว้นท์ใหญ่,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 10 โรงแรม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 11 งานเกม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 12 หลง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 13 รุ่นนี้ไม่แถมขามาด้วย,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 14 เจ้าหญิงน้อยของบ้าน,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-แจ้ง การติดเหรียญล่วงหน้า,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 15 เปลี่ยนคอนเทนต์สตรีม,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 16 คริสต์มาส,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 17 สิ้นปี,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 18 งานรับรางวัล,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 19 สำนักงานกลางกองกำลัง,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 20 สู่กองทัพ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 21 ช่วย,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 22 คนของเขา,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 23 โอกาส,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 24 ฤดูฝน,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 25 ชอบ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 26 เรื่องในใจ,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 27 หัวใจของหุ่นยนต์,สตรีมเมอร์ช่องหม่าวเมี๊ยววันนี้ก็น่าอิจฉาเหมือนเดิม [Slice of life-Feel Good]-บทที่ 28 ธีโอดอร์ วินเทอร์

เนื้อหา

บทที่ 14 เจ้าหญิงน้อยของบ้าน

เมื่อจัดการเรื่องรับเลี้ยงเสร็จสิ้นเธอก็หิ้วเอาตะกร้าแมวสีครีมที่มีเจ้าตัวน้อยอยู่ข้างในออกมาจากคลีนิค ที่เรื่องมันจบเร็วมากขนาดนี้เพราะว่าคุณธีโอดอร์รับปากจะทำเรื่องขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ให้ และเพราะเนื่องจากเธอเคยมีประวัติการเลี้ยงสัตว์อยู่แล้วเรื่องจึงง่ายมากๆ ทำให้เธอสามารถนำเจ้าตัวกลับไปที่บ้านได้เลยไม่ต้องรอดำเนินการ

"มี๊"

เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากตะกร้าแมวทันทีที่เธอพึ่งวางลงบนพื้นเมื่อมาถึงบ้าน พร้อมกับเสียงตะกุยกุกกักๆ อยู่ข้างใน ทำให้หญิงสาวอดเอ็นดูลูกสาวคนใหม่ไม่ได้ 

"รู้แล้วๆ อยากออกไปเล่นแล้วใช่ไหมคะ ถอยให้มี๊เปิดกรงให้ก่อนนะ"

เชอร์เบลดันจมูกเล็กๆ สีชมพูที่โผล่มาทางซี่ประตูนั้นให้กลับเข้าไปนิดหนึ่ง ก่อนจะปลดล็อคประตูและเปิดให้เจ้าตัวเล็กได้ออกมาตามที่ต้องการ รัสตี้เมื่อได้ออกมาสู่บ้านใหม่ของตัวเองก็เดินสำรวจด้วยดวงตาสีเขียวอ่อนเป็นประกาย จมูกเล็กๆ ดมฟุดฟิดขึ้นลงอย่างน่ารัก

"รัสตี้ มานี่มา"

เมื่อปล่อยให้เธอเดินสำรวจไปสักระยะจนเริ่มหายตื่นเต้นแล้วเชอร์เบลก็เรียกรัสตี้ให้มาหา เจ้าตัวเดินเตาะแตะมาพร้อมกับเงยหน้ามองประมาณว่า 'หม่ามี๊เรียกหนูมีอะไร' ทำให้เธอฟัดเจ้าแมวน้อยไปหนึ่งยกด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะอุ้มเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน

"เด็กดี เดี๋ยวไปเจอพี่ๆ กันนะคะ"

"มี๊!"

รัสตี้ตอบรับเสียงใส เธอสังเกตมาสักพักแล้วว่าสัตว์เลี้ยงในยุคนี้น่าจะฟังคำมนุษย์รู้เรื่องจริงๆ แม้ว่าลูกๆ ของเธอจะมีเมินบ้างอะไรบ้างตามประสาแมว แต่ว่าส่วนใหญ่ก็รู้เรื่องมากราวกับคนอย่างไงอย่างงั้น มีแต่มนุษย์นี่แหล่ะที่ไม่เข้าใจภาษาสัตว์ หรือบางทีคนมีพลังวิญญาณสายพิเศษที่เกี่ยวกับสัตว์อาจจะฟังรู้เรื่องก็ได้ เธอคิด ในขณะเดียวกันก็คิดเรื่องที่จะไปตรวจพลังของตัวเองสักที

เธอเปิดประตูที่จัดการติดต่อกับโจเซฟให้ขังพวกเด็กๆ เอาไว้ในห้องนี้ก่อนที่เธอจะกลับมาก่อนหน้านี้ ทั้งสามตัวรีบเข้ามารุมปลายเท้าหญิงสาว ทั้งยืนทั้งร้องเหมียวเหมียวจนเสียงเจี๊ยวจ๊าวไปทั่วห้อง

"เอาล่ะเด็กๆ หม่ามี๊จะแนะนำน้องตัวใหม่ของพวกหนูให้รู้จักนะคะ นี่คือรัสตี้ เป็นน้องสาวอายุสามเดือน พวกเราต้องช่วยกันดูแลน้องด้วยนะคะ"

หญิงสาวคุกเข่าลงนั่งในขณะที่ยังอุ้มรัสตี้ไว้ในอ้อมแขน ปล่อยให้เจ้าลูกชายของเธอทั้งสามตัวมาเดินมาดมๆ เพื่อทำความรู้จักในตอนแรกเริ่มสุด

"ฟุดฟิดๆ เป็นแมวจริงสินะ"

ซีตรัสพูดออกมาหลังจากดมกลิ่นจนแน่ใจ ส่วนรัสตี้น้อยในอ้อมแขนนายหญิงนั้นก็เอียงคอมองมันอย่างไม่เข้าใจ

"พี่ส้ม ทำไมถึงสงสัยว่าหนูไม่ใช่แมวล่ะ"

เสียงเล็กๆ สมตัวถามด้วยความสงสัยทำให้ซีตรัสครุ่นคิดว่าจะตอบอย่างไร ก็เธอพึ่งเกิดไม่นานเองนี่นะ ไม่เข้าใจอะไรในโลกนี้เท่ากับอดีตแมวจรอย่างมันอยู่แล้ว

"เอาเป็นว่าไอ้สองตัวนั้นเคยไม่ใช่แมวมาก่อน แต่ตอนนี้เป็นแมวแล้วล่ะ แค่นั้นแหล่ะ"

ซีตรัสอธิบายง่ายๆ ส่วนรัสตี้ก็ไม่ได้สนใจเรื่องที่พี่ชายอีกสองตัวไม่ใช่แมวจริงมากนัก ในเวลานี้อัลเทิร์นก็ถามอย่างสงสัยเช่นกัน

"เธอเป็นแมว แล้วทำไมเธอถึงใส่เสื้อผ้าอย่างกับมนุษย์เลยล่ะ"

รัสตี้ก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดตัวนุ่มแขนกุดสีชมพูอ่อนที่คลุมทั้งตัว ก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชายขนเทาที่เป็นคนถาม

"ปะป๊าบอกว่าถ้าหนูไม่ใส่หนูจะป่วยง่าย เพราะหนูอ่อนแอกว่าพี่น้องในคอก"

สิ้นสุดประโยค ทุกตัวก็หันมามองเป็นตาเดียวพร้อมกับอุทานด้วยคำคำเดียวกันหมด

"ปะป๊า?"

"อื้อ ปะป๊าเป็นคนเลี้ยงดูหนูตั้งแต่เกิด เป็นหมอที่รักษาแม่ของหนูให้มีชีวิตรอดด้วยนะ จนกระทั่งหม่ามี๊ไปรับหนูมาที่นี่เนี่ยแหล่ะ"

รัสตี้ตอบเสียงใส มนุษย์คนแรกที่เธอรักที่สุดก็คือปะป๊าที่น่าจะชื่อว่าธีโอดอร์ที่หม่ามี๊เรียกก่อนหน้านี้ เขาคอยดูแลเธอ ป้อนนมเธอมาตั้งแต่ยังไม่สามารถลืมตาได้ จนกระทั่งแม่และพี่ๆ ที่สุขภาพดีแล้วของเธอถูกคนค่อยๆ เอาไปรับเลี้ยงจนหมด เขาก็ยังคงไม่ทอดทิ้งเธอ กลับกล่าวว่าหากไม่มีใครมาจริงๆ เขาก็จะยังเลี้ยงเธอต่อไป ทำให้เธอคิดว่าตัวเองจะต้องคิดถึงปะป๊ามากแน่ๆ เมื่อมาอยู่ที่นี่แล้วและไม่ได้เจอเขาอีก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบหม่ามี๊หรอกนะ เธอก็อยากถูกใครสักคนรับเลี้ยงและให้ความรักเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่อ้อนขอมาอยู่ด้วยหรอก

"แม่กับพี่ๆ ของเธอมีบ้านแล้วสินะ เอาเป็นว่ายินดีต้อนรับเข้าสู่บ้านหลังนี้แล้วกัน และเรียกฉันว่าซีตรัสด้วย"

ซีตรัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยๆ ตามประสาแมวกร้านโลกก่อนจะกระโดดไปนอนที่ประจำข้างกระจกของตน ก็ไม่ใช่ว่าไม่เอ็นดูเจ้าเด็กตัวเล็กนี่ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเอาใจ อยากมีชีวิตรอดก็ต้องหาเอาเอง อย่ามัวแต่หวังพึ่งแมวรุ่นพี่ว่าจะช่วยหาอาหารหรือไล่ศัตรูให้ เพราะมันไม่มีหรอก แค่เอาตัวเองรอดก็เก่งแล้ว นั่นแหล่ะคติที่มันได้จากชีวิตข้างถนนก่อนที่จะได้มาเจอนายหญิงผู้มอบชีวิตสุขสบายให้มัน และแน่นอนว่ามันชอบชื่อของมันมาก เพราะมันเป็นหลักฐานว่ามันมีคนที่คอยดูแลเอาใจใส่และมอบความรักให้มันจริงๆ สักที

"ก่อนมาโดนทำอะไรรึเปล่า ขาสั้นเหมือนข้างที่พี่ขาขาดเลย"

เพอร์เซิลที่มองห่างๆ มาสักพักก็เดินเข้ามาถาม เขาโบกขาที่ขาดนั้นขึ้นลงเล็กน้อยตามที่พูด นัยน์ตาสีเขียวมะกอกสบกับนัยน์ตาสีเหลืองสดนั้นแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนลงไปที่ขาข้างนั้นที่ขาดออกไปจนเหลือเพียงหนึ่งในสี่ของขาอื่นๆ ซึ่งตอนนี้ได้ขาเทียมที่ทำจากไม้มาค้ำยันแล้วจึงเดินได้ตามปกติอย่างแมวตัวอื่นๆ

"อืมมม หนูก็ไม่รู้ทำไม แต่เกิดมาก็เป็นแบบนี้แล้วอ่ะ ดูสิสั้นทั้งสี่ขาเลย"

เธอพูดอย่างไม่ใส่ใจ ยังกระดิกขาที่ลอยในอากาศเพราะยังโดนอุ้มอยู่ดุ๊กดิ๊กไปมาอย่างอารมณ์ดี แต่กลับทำให้เชอร์เบลนึกว่าเธอต้องการลงไปเดินซะงั้น และเมื่อหญิงสาวเห็นว่าไม่มีตัวไหนทำท่าขู่แม้แต่น้อยก็วางเธอลงกับพื้น ปล่อยให้เธอได้เดินสำรวจทั่วห้องใหม่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นของพี่ชายตัวใหม่ทั้งสามตัวนี้

"ฟุดฟิดๆ กลิ่นพี่ขาไม้หอมจัง"

รัสตี้เข้าไปดมๆ พี่ชายที่มีขาข้างหนึ่งสั้นเหมือนเธออย่างสนใจ ก่อนจะยืนขึ้นด้วยขาหลังเพื่อให้สูงขึ้นเท่าๆ กับอีกฝ่าย มือกวักๆ โดนขนสีครีมเปรอะดำของเพอร์เซิลเล็กน้อย จมูกก็ดมกลิ่นอีกฝ่ายไปด้วย

"เพราะเป็นแมวปลอมที่พี่ซีตรัสบอกก็เลยหอมกว่าแมวจริงเหรอคะ ฟุดฟิดๆ"

"เจ้าเด็กแก่แดด พี่ชื่อเพอร์เซิลต่างหาก ไม่ใช่พี่ขาไม้"

เพอร์เซิลใช้ขาตบหัวน้องสาวคนใหม่เบาๆ ใช้ได้ที่ไหนมาดมกันแล้วบอกหอม พึ่งอายุแค่สามเดือนแท้ๆ ส่วนอัลเทิร์นที่ได้ยินแบบนั้นก็เดินมาร่วมวงด้วยเหมือนกัน

"เพราะมันพึ่งอาบน้ำต่างหากก็เลยหอม ไม่ใช่เพราะแมวปลอมแมวจริงอะไรทั้งนั้นแหล่ะ"

"อึ๋ย หนูไม่ชอบอาบน้ำเลย"

รัสตี้สะบัดหัวด้วยความไม่ชอบใจ แค่คิดถึงตอนโดนปะป๊าอาบให้ครั้งแรกครั้งเดียวตอนนั้นก็ไม่ชอบใจแล้ว เปียกแล้วหนาวสุดๆ แถมขนก็ลีบไม่สวยเลยสักนิด ถ้าขนไม่นุ่มฟูน่ารักมนุษย์ก็ไม่อยากรับเลี้ยงน่ะสิ

"ไม่ได้นะ ต้องอาบจะได้หอมๆ แล้วก็ขนนุ่มนิ่มแบบเพอร์เซิลไง"

อัลเทิร์นสั่งสอนน้องสาวคนใหม่ให้เห็นข้อดีของการอาบน้ำ เพื่อให้เชอร์เบลได้อาบน้ำรัสตี้ที่ดูท่าจะไม่ชอบน้ำสุดๆ ได้ง่ายขึ้นหน่อย ถึงตัวเองจะยังไม่ค่อยชอบอาบเพราะเขินที่ถูกลูบไปทั่วตัวอยู่ดีก็เถอะ

"ฮึ่ย ถ้าพี่เทาว่างั้นหนูอาบก็ได้ หนูอยากนุ่มฟูแล้วก็หอมๆๆ หม่ามี๊จะได้รักหนูเยอะๆ"

แมวเด็กไม่คิดอะไรซับซ้อน กลัวที่สุดคือไม่นุ่มฟูน่ารักแล้วจะโดนทิ้ง ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รู้ปะป๊าจะยังรับกลับไปเลี้ยงอยู่ไหม และเธอก็จะต้องเสียใจและอยู่ด้วยตัวเองข้างนอกนั่นไม่ได้แน่ๆ ดังนั้นถ้าการอาบน้ำแลกกับการอยู่ที่นี่ต่อไปได้เธอก็พร้อมจะโดนจับอาบน้ำ ถึงจะไม่ชอบสุดๆ ไปเลยก็เถอะ



เช้าวันต่อมา รัสตี้ตื่นนานแล้วและกำลังจดจ้องมนุษย์คนเดียวในบ้านอย่างเชอร์เบลด้วยสายตาใคร่รู้ เมื่อเห็นเธอทาอะไรบนหน้าไม่รู้มาสักพักแล้ว และตอนนี้ก็กลายมาเป็นใช้อะไรไม่รู้ตบๆ ที่หน้า มีสีขาวออกมาด้วยล่ะ!

"นั่นหม่ามี๊กำลังทำอะไรเหรอคะ"

เสียงเล็กๆ ถามซีตรัสที่กำลังงีบอยู่ด้วยความสงสัย เธอใช้มือตะกุยๆ อีกฝ่ายเมื่อพี่ใหญ่ของบ้านไม่ยอมตอบ จนซีตรัสต้องลืมตามาตอบว่าเป็นสิ่งที่นายหญิงไว้ทำให้สวยขึ้นของมนุษย์ ก่อนที่จะเริ่มสตรีมในแต่ละวัน

เมื่อได้ยินแบบนั้นรัสตี้ก็นัยน์ตาเป็นประกาย เธอกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์แต่งหน้าของเชอร์เบล ยืนสองขาก่อนจะใช้มือสะกิดๆ ที่มือที่กำบังตบแป้งบนหน้าของหญิงสาวอย่างส่งสัญญาณว่า 'ขอบ้างสิ!'

"ฮะๆๆ หนูก็อยากสวยเหรอคะ"

"มี๊!" หม่ามี๊รู้แล้วก็รีบมาแปะๆ หน้าหนูบ้างสิ หนูอยากสวยขึ้นด้วย!

รัสตี้ร้องตอบ ในขณะที่ยังพยายามใช้ขาสั้นๆ นั้นผลักมือของอีกฝ่ายให้มาหาตัวเองบ้าง จนเชอร์เบลได้แต่หัวเราะเอ็นดู เธอบอกให้โจเซฟเริ่มอัดวิดีโอของเธอกับรัสตี้ที่กำลังขอเครื่องสำอางอยู่อย่างน่ารัก

จนสุดท้ายเธอก็ใช้พัฟเปล่าที่ไม่มีแป้งหลงเหลืออยู่แล้วแตะๆ ที่ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มนั้นเบาๆ อย่างตามใจ

"สวยแล้วลูก โอเคไหมคะ"

รัสตี้ที่ได้สิ่งที่ต้องการก็ลดตัวลงกลับมายืนสี่ขาเหมือนเดิม และกระโดดลงไปอวดกับพี่ๆ ทั้งสามอย่างชอบใจ

"พี่ๆ หนูสวยขึ้นไหม สวยไหมม"

เธอร้องซ้ำๆ เมื่อไม่มีใครตอบ จนซีตรัสเริ่มมองแรงเพราะอยากงีบก่อนเริ่มงาน เพอร์เซิลเห็นจึงเดินเข้ามาเอาหัวถูเจ้าตัวเล็กเบาๆ

"สวยแล้วๆ สวยที่สุดในบ้านเลย"

ก็ไม่ได้อยากชมเท่าไหร่หรอกนะ แค่ไม่อยากให้พี่ซีตรัสรำคาญเฉยๆ เธอเป็นน้องเพศเมียตัวเดียวในบ้านก็ถือว่าสวยที่สุดได้แหล่ะมั้ง---





_______________________________

เปิดตัวเจ้าหญิงน้อยขี้อ้อนแต่เอาแต่ใจตัวใหม่~~ ไหนใครชอบพันมันช์กิ้นบ้าง ขาเล็กๆ เวลายืนสองขามันน่ารักเนอะ แง้วๆ