เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!
แฟนตาซี,รัก,slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
"เจ้าเอสมาหาแม่หน่อยลูก"
เสียงผู้หญิงวัยกลางคนร้องเรียกอยู่แว่วๆ เอสเทอร์ถอดหูฟังแบบครอบอันใหญ่ออกมาคล้องไว้ที่คอและเงี่ยหูฟังอีกครั้ง ก่อนที่จะกดหยุดวิดีโอตัวเบต้าที่กำลังตัดต่ออยู่และเปิดประตูห้องออกไป
"มีอะไรเหรอครับแม่"
เขาป้องปากถามจากระเบียงบันไดลงไป เห็นหญิงวัยกลางคนในชุดเดรสสีเบอร์กันดีตัวโปรดของเธอชูมือขึ้นมา กวักมือให้เขาลงไปหา
"เอสลงมาดูเองเถอะลูก"
"สักครู่ครับแม่"
เขาตอบ ก่อนที่จะเอาหูฟังออกจากคอไปวางที่โต๊ะ และวิ่งดังตึกๆ ลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว
"มีอะไรเหรอครับ"
"มาดูนี่ซิ ไหนลูกบอกจีบเธออยู่ทำไมวันนี้ข่าวออกว่าเธอเดตกับเจ้าหนูวิลซะล่ะ"
เธอเท้าเอวข้าวหนึ่ง ปัดจอโฮโลแกรมที่ข้อมือขึ้นไปที่ทีวีจอแบนขนาดใหญ่ ข่าวจากหลายสำนักที่ออกไปในทิศทางเดียวกันแผ่หลา คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน โดยเฉพาะเมื่อเขาเห็นรูปที่นักข่าวถ่ายมาได้ ที่วิลเลียมมองเชอร์เบลด้วยสายตาอ่อนโยนแบบนั้น ทั้งบนเวทีและตอนที่กลับมานั่งที่
"ผมรู้มาบ้างว่าวิลมันก็ชอบเธอ แต่นักข่าวมันก็ชอบเล่นข่าวคบคนนั้นคนนี้ของดาราไปเรื่อยอยู่แล้วไม่ใช่เหรอแม่"
ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เอสเทอร์ก็มุ่นคิ้วจนแทบเป็นเส้นเดียวกันเมื่อเห็นภาพที่นักข่าวลงในกระทู้ ช่วงนี้เขาเริ่มจีบเชอร์เบลอย่างเปิดเผยทั้งคุยในสตรีมและนอกสตรีม จนแฟนคลับเริ่มรับรู้กันเองและมีข่าวออกมาบ้าง แต่เหมือนเชอร์เบลจะหัวช้าเรื่องนี้จึงทำให้วิลเลียมที่ได้เจอตัวเป็นๆ กันบ่อยกว่าคะแนนนำไปก่อนรึเปล่านะ
"สีหน้าลูกไม่ได้บอกแบบนั้นนะ"
ผู้เป็นแม่ยิ้มอย่างรู้ทันราวกับสามารถมองทะลุผ่านจิตใจเขาได้อย่างปรุโปร่ง ทำให้เอสเทอร์งุ้มปากอย่างฮึดฮัด ก่อนจะหันหลังให้และก้าวยาวๆ ออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว เสียงหญิงวัยกลางคนตามหลังมาอย่างแซวๆ
"ไปไหนล่ะลูก"
"ไปตามหาหัวใจครับ"
เอสเทอร์พูดโดยไม่ได้หันมองกลับไป เขาขึ้นขี่วีลเลอร์ส่วนตัวแล้วขับออกไปทันที เขารู้จากปากเธอเองว่าวันนี้เธอจะอยู่ที่สำนักงานกลางกองกำลัง แต่ถึงเธอไม่บอก คนที่เขาจ้างก็คอยแอบตามถ่ายรูปเธอส่งมาเป็นประจำอยู่แล้ว
"รอก่อนนะ อย่าพึ่งตัดโอกาสฉันเลย"
เอสเทอร์ภาวนาวนซ้ำในใจ ขณะที่มือก็บิดคันเร่งแรงขึ้นจนแซงคันอื่นแทบไม่เห็นฝุ่น ถึงจะโดนผู้คนบนท้องถนนบ่นตามมาเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่สนใจ ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีส้มจางๆ เมื่อเขาไปถึงที่หมาย เห็นข้อความที่นักสืบของเขาส่งมาเป็นรูปภาพวิลเลียมอุ้มเชอร์เบลก่อนหน้านี้ และรูปที่เขาจูบหลังมือของเธอเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมานี้ก็นัยน์ตาหดแคบลง ใบหน้าเรียบตึงด้วยความโกรธ วิลเลียมรู้เรื่องคู่โชคชะตาและอาการป่วย แต่กลับทำเช่นนี้ถือว่าไม่ไว้หน้าเพื่อนสนิทอย่างเขาแม้แต่น้อย
[โทษทีนะเพื่อน ฉันรู้ว่านายโกรธ แต่เรื่องนี้ใครดีใครได้ ฉันขอนำไปก่อนก้าวนึงล่ะนะ]
เสียงข้อความเด้งแจ้งเตือนมาจากคนที่ก็รู้ว่าใครทำให้เส้นเลือดข้างขมับของเอสเทอร์เต้นตุบๆ แต่เมื่อมองเห็นเชอร์เบลที่กำลังเดินอยู่ไกลๆ นั้นแล้วเขาก็สูดหายใจเข้าลึกเต็มปอด ก่อนจะปรับสีหน้าท่าทางแล้วเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว
"คุณเชอร์เบลครับ"
หญิงสาวได้ยินเสียงเรียกก็หันมาหาพร้อมกับโบกมือให้ รอยยิ้มสว่างไสวนั้นทำให้หัวใจของเขาสงบลงจากความกระวนกระวาย
ไม่ว่ายังไง…เขาก็ตกหลุมรักรอยยิ้มนี้ทุกทีสินะ
เอสเทอร์ไม่รอช้ารีบจ้ำเท้าเข้าไปใกล้ และชวนเธอไปกินข้าวมื้อเย็นด้วยกัน แม้อีกฝ่ายจะมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยแต่สุดท้ายเธอก็ตอบตกลงและบอกกับหุ่นยนต์พ่อบ้านว่าให้กลับไปรอที่โรงแรมได้เลย เอสเทอร์เหลือบมองหุ่นยนต์นั้นด้วยความตะหงิดใจเล็กๆ แต่ไม่นานก็ปัดตกไป สงสัยเพราะหมกมุ่นกับที่วิลเลียมก็ชอบเชอร์เบลมากไปจึงไปสงสัยในตัวหุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกเสียได้ ไม่สมกับตำแหน่งสามีแห่งชาติอันดับสิงที่ไม่ควรกลัวเรื่องผู้หญิงไม่รักเลยซะจริงๆ
"คุณเชอร์เบลครับ คือผมมีเรื่องอยากจะบอก"
หลังจากทานข้าวกันจนอิ่มในห้องอาหารส่วนตัวแล้ว เอสเทอร์ก็รวบรวมความกล้าและพูดมันออกไป
"คะ?"
"ผมชอบคุณครับ และผมอยากให้คุณลองพิจารณาผมในฐานะคนรัก"
เอสเทอร์ดึงแท่งเก็บช่อดอกไม้ออกมาไว้ด้านหลังและรูดทีหนึ่งก็เผยออกมาเป็นกุหลาบสีแดงช่อโต ก่อนจะยืนมอบให้อีกฝ่ายท่ามกลางสายตาตกตะลึงนั้น
"นะ นี่มัน"
"ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกนะคะ ฉันไม่คู่ควรกับความรักของเอสเทอร์เลยค่ะ"
เอสเทอร์มองด้วยสายตาเจ็บปวด เธอเป็นคนแรกและคนเดียวที่เขาชอบ หากเธอไม่คู่ควร ก็ไม่มีใครคู่ควรอีกแล้ว เขาพูดด้วยเสียงสั่นเครือ
"ผมรู้ว่าก่อนหน้านี้วิลก็สารภาพรักกับคุณ ผมดีไม่เท่าเขาหรือครับ…"
เชอร์เบลมีสีหน้าตกใจยิ่งขึ้น แต่แววตาสั่นคลอนนั้นทำให้เอสเทอร์มั่นใจว่าเธอกำลังหวั่นไหว ก่อนที่หญิงสาวจะหลับตาลงด้วยความหนักใจและพูดบางสิ่งที่ทำให้เขาใจพังทลาย
"วิลเลียมอาจจะไม่ได้เล่าให้คุณฟัง แต่ฉันตอบปฏิเสธเขาเช่นเดียวกันค่ะ"
"ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้วฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับอาหารค่ะ"
หญิงสาวลุกขึ้นและเดินผ่านหน้าเขาไป เอสเทอร์บังเกิดความไม่ยินยอม เขาคุกเข่าลงกับพื้นและจับขาของอีกฝ่ายไว้ ทำให้เธอหันกลับมาด้วยความตกใจ
"เดี๋ยวก่อนครับ! เดี๋ยวก่อน…"
"ได้โปรดฟังคำผมอีกสักหน่อยได้ไหมครับ"
มีคนคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ตรงหน้า หญิงสาวผู้อ่อนโยนในดวงใจของเขาจะทนได้อย่างไร เป็นไปตามคาดเธอพยายามให้เขาลุกขึ้น แต่เอสเทอร์ไม่ได้ทำตาม เขายังคงคุกเข่าด้วยความน่าสงสาร จับขาเธอเอาไว้และเปิดเผยเรื่องราวออกมา
"ก่อนหน้านี้ผมไม่อยากเล่าเพราะกลัวว่ามันจะกดดันคุณ แต่จริงๆ แล้ว ที่จริงแล้วคุณเป็นคู่โชคชะตาของผมครับ!"
"นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงหายเจ็บป่วยเมื่อเจอคุณ มีแค่คุณคนเดียว คุณเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงโชคชะตาของผมไป"
อีกฝ่ายค่อยๆ คุกเข่าลงตามมา ดวงตาทั้งสองสบกัน และเอสเทอร์ก็เผยให้เห็นร่องรอยความโศกเศร้าอย่างชัดเจน เขารู้ รู้ว่าเธอจะต้องใจอ่อนไม่มากก็น้อย
"แต่ถึงอย่างนั้น…"
เธอรำพึงด้วยแววตาสั่นไหว เอสเทอร์ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ยังคงพูดต่อไป
"ผมไม่ได้เอาเรื่องนี้มาเพื่อบังคับคุณ ผมรู้ว่าคู่โชคชะตามันไม่ได้ทำให้คุณรักผมขึ้นมา"
"ผมอาจไม่ได้คู่ควรกับคุณมากกว่าคนอื่น ไม่ได้มีประโยชน์ให้คุณมากมาย แต่ผมแค่ชอบคุณเชอร์เบลมากจริงๆ ไม่ใช่แค่โชคชะตากำหนด"
เขานำมือของเธอมาทาบแก้ม แสดงความรักและอาวรณ์ให้เธอได้เห็นมากที่สุด แม้แต่น้ำตาเขายังบีบออกมาให้ไหลได้เพื่อภาพพจน์แสนน่าเห็นใจนั้น เชอร์เบลนิ่งไม่ได้ต่อต้านอะไร แต่สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด
"เฮ้อ พวกคุณสองคนนี่นะ"
เธอปาดน้ำตาของเขาอย่างเบามือแม้จะทำท่าเหนื่อยใจปานนั้นก็ตาม ทำให้หัวใจของเอสเทอร์ฟูฟ่อง บางที บางทีเขาอาจจะยังมีโอกาส
"ฉันจะเล่าให้คุณฟังแล้วกัน เผื่อว่าคุณจะตัดใจได้"
"ฉันเคยชอบคนคนหนึ่ง แต่เขาจากไปไกลแสนไกล ไกลจนฉันไม่อาจพบเขาได้อีก แต่ฉันก็ยังชอบเขาอยู่เสมอมาและคิดว่าจะยังไม่ได้ชอบใครอีกเร็วๆ นี้แน่ แบบนี้คุณคิดว่าจะยังชอบฉันต่อไปไหม"
เชอร์เบลพูดด้วยเสียงเหงาหงอยเมื่อพูดถึงคนคนนั้น แต่เอสเทอร์ไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่าที่เธอพูดถึงคือชาติที่แล้วของเธอ ดังนั้นเอสเทอร์จึงทดเอาไว้ในใจว่าจะไปตามสืบให้ได้ว่าคนคนนั้นคือใคร แม้ว่าในขณะนั้นจะตอบกลับมาด้วยความมั่นใจและดีใจก็ตาม
"ขอแค่คุณเชอร์เบลให้โอกาสผมได้จีบคุณต่อไป นานแค่ไหนผมก็ไม่ยอมแพ้ครับ"
ร่างสูงใจชื้นเมื่อเห็นรอยยิ้มแสนงดงามนั้นอีกครั้ง แต่ก็ใจแป้วลึกๆ เมื่อเห็นความเศร้าโศกที่ปนในนั้นอย่างอธิบายไม่ได้ เขาตั้งมั่นในใจ ชาตินี้แม้สุดท้ายไม่ใข่เขาที่ได้ครองคู่กับเธอ แต่ยังไงก็ต้องขจัดความเศร้าในนั้นออกไปให้ได้ คนจากไปแล้วไม่ควรทำให้คนมีชีวิตอยู่ต้องจมปลักนี่จริงไหม แต่ถึงอย่างนั้นเอสเทอร์ก็จะพยายามสุดความสามารถให้เป็นตนให้จงได้ที่ได้ครองหัวใจแสนอ่อนโยนนั้น
สุดท้ายเมื่อเอสเทอร์ไปส่งเชอร์เบลกลับโรงแรมแล้วก็ส่งข้อความหาวิลเลียมทันที และก็ได้รู้ว่าที่แท้จริงแล้วพวกเขาก็อยู่ในสถานะเดียวกันนั่นแหล่ะ ทั้งโดนปฏิเสธและตื๊อขอโอกาสในภายหลัง สมกับเป็นเพื่อนสนิทกันจริงๆ
ส่วนตอนแรกที่วิลเลียมส่งข้อความมานั่นน่ะเหรอ บลัฟเฉยๆ เผื่ออีกคนจะยอมแพ้ ทำเอาเอสเทอร์ส่งอีโมจินิ้วกลางให้อีกฝ่ายรัวๆ อย่างอารมณ์เสีย แต่ก็ได้เสียงหัวเราะเป็นคลิปกลับมา เชอร์เบลไม่มีทางรู้เลยว่าสองหนุ่มที่นิสัยเวลาอยู่กับเธอเป็นอย่างหนึ่ง แต่คุยกันเองกลับเป็นอีกอย่างซะงั้น
_________________________
กลับมาแล้ววว ช่วงนี้นอนตีสองปั่นงานทุกวันเกือบตุย
ไรท์กลับมาอัพถี่ๆ เหมือนเดิมแล้วนะ รอได้เลยยย
แต่ 17 เมษานี้ประกาศคะแนนมหาลัยแล้วอ่ะ เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าT^T