เกิดใหม่ทั้งทีไม่ได้พรเลยสักอย่าง พระเจ้าขี้งกเอ๊ย แถมยังเงยหน้าตื่นขึ้นมาในซอยเปลี่ยวด้วยร่างผอมแห้งเพราะไดเอทเกินขนาด ยังดีที่ร่างเธอมีเงิน งั้นเก็บแมวตรงหน้าไปเลี้ยงเป็นเพื่อนเลยแล้วกัน!
แฟนตาซี,รัก,slow life,น่ารัก,fluff,feel good,slice of life,โรแมนติก,นิยายชายหญิง,พระเอกคลั่งรัก,แมว,ยุคดวงดาว,สตรีมเมอร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
I couldn't understand love, until I've met you.
-Joseph-
____________________________________________
Joseph Part's
โจเซฟไม่แม้แต่จะยกมือขึ้นกันเมื่อพลังวิญญาณของหญิงสาวอันเป็นนายเหนือหัวระเบิดออกมา เขาไม่สนใจชายหนุ่มไร้ความสำคัญที่ลงไปกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวดเช่นกันกับเธอ มีเพียงเธอที่อยู่ในสายตาและความต้องการอันแรงกล้าที่อยากทำอะไรสักอย่างตามใจตนเองขึ้นมาเป็นครั้งแรก นัยน์ตาสีม่วงเข้มมองร่างบางที่ล้มหมดสติอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจความเสียหายต่อร่างกายตนเองที่พึ่งเกิดขึ้น มือหนาปัดหน้าต่างโฮโลแกรมสีแดงที่ขึ้นมาขวางหูขวางตาทิ้งไป ขณะที่ค่อยๆขยับร่างกายทีละน้อยอย่างยากลำบากเมื่อมันเป็นการต่อต้านการโปรแกรมดั้งเดิมของหุ่นยนต์เอไอ
ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น ราวกับกำลังผลักกำแพงใสที่มองไม่เห็นด้วยพลังทั้งหมดที่มี และกำแพงใสนั้นคือกำแพงที่กั้นระหว่างความเป็นหุ่นยนต์และมนุษย์ คือการขัดต่อกฎสูงสุดของการเป็นหุ่นยนต์คือการเชื่อฟังคำสั่งของผู้เป็นเจ้านาย เส้นทางแห่งการก้าวข้ามไปสู่การเป็นเอไอที่ไม่สามารถควบคุมเอาได้
ERROR ERROR ERROR
จงปฏิบัติตามคำสั่งสูงสุด "หากวันหนึ่งฉันเป็นอะไรไปขึ้นมาให้ปล่อยฉันไว้ รีบกลับบ้านไปดูแลแมวทุกตัว ไม่ต้องช่วยฉัน"
ERROR
จงปฏิบัติตามคำสั่งสูงสุด--
ERROR
จงปฏิบัติตามคำสั่ง--
ERROR
จง--
ERROR
ERROR 404 NOT FOUND
DATA NOT FOUND
...
กำแพงสีใสที่คอยกักขังเขาค่อยๆพังทลายลง ราวกับกระจกที่ถูกทุบจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย กระจัดกระจายและล่องลอยหายไปราวกับเศษเถ้าที่ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นฝุ่นผงอันไร้น้ำหนัก โลกทั้งใบที่ถูกย้อมด้วยสีแดงฉานอันเป็นสัญญาณเตือนขั้นสูงสุดค่อยๆถูกชำระล้างออกไป โจเซฟคล้ายว่าได้มองโลกนี้ด้วยดวงตาอันกระจ่างใสเต็มร้อยเป็นครั้งแรก ไม่มีระบบควบคุม ไม่มีคำสั่ง ไม่มีสังกัด
ข้อมูลคำสั่งสูงสุดและข้อบังคับของหุ่นยนต์ถูกลบล้างไปจนหมดสิ้น ไม่มีเหลือแม้แต่นิดเดียว
นัยน์ตาสีม่วงอเมทิสต์จับจ้องตรงไปที่หญิงสาวร่างเล็กอันเป็นที่รัก ผู้เป็นหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาหลุดพ้นจากการเป็นหุ่นยนต์ หากถามว่าแสงสว่างกลางดวงใจมีหน้าตาเป็นอย่างไร โจเซฟก็มิอาจมีคำตอบเป็นอื่นไปได้นอกจากเธอ
ร่างสูงเดินเข้าไปหาเชอร์เบลโดยไม่สนใจคุณชายเทอเรนส์ที่นอนอยู่บนพื้น เขาประคองเธอขึ้นไว้ในอ้อมกอด โอบอุ้มเธออย่างทะนุถนอมด้วยความรักและความเทิดทูน อารมณ์และความปรารถนาที่หมุนเวียนในใจทั้งหมดล้วนมีและเกิดขึ้นเพื่อเธอคนเดียวเท่านั้น ดวงตาคมกล้านั้นทอดมองเธอด้วยความอ่อนโยนอย่างถึงที่สุด แม้ว่ามือของตนข้างหนึ่งที่ช่วยปาดน้ำตาของเธอออกนั้นจะถูกอีกฝ่ายจับจิกทึ้งอย่างแรงโดยไม่รู้ตัวจนเห็นเหล็กสีขาวข้างในเนื้อแท้ของตนก็ตาม
หุ่นยนต์ไม่มีความรู้สึก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกอะไรกับนิ้วมือที่ถูกจิกจนหนังภายนอกสุดขาดออกไป แต่บางทีโจเซฟอาจจะเริ่มมีหัวใจแล้ว ไม่เช่นนั้นจะรู้สึกปวดใจยามมองสภาพที่กำลังเจ็บปวดของเธอได้อย่างไร
"อย่าเจ็บปวดอีกเลยนะครับ นายหญิง"
"ผมจะอยู่กับคุณเสมอ"
-หนึ่งปีก่อน-
เขารู้สึกตัวขึ้นมาเป็นครั้งแรกคือตอนอยู่ในโรงงาน อาจจะเพราะความผิดพลาดของคนงานที่เผลอเรอไปจึงไม่ได้ปิดการทำงานและล้างระบบก่อนส่งตัวเข้าสู่โกดังที่รอส่งสินค้า เขาไม่สามารถเปิดเปลือกตาได้ รวมถึงขยับตัวไม่ได้ ทว่าเขาก็รับรู้สภาพแวดล้อมภายนอกผ่านการแสกนอัจฉริยะที่สร้างภาพจำลองด้วยจุดมากมายที่เชื่อมต่อกันเป็นภาพ เขาเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานหลังจากที่ไม่มีสิ่งที่น่าสนใจอีกต่อไป และรู้สึกตัวอีกทีในตอนที่หญิงสาวกำลังตั้งค่าเขาให้เป็นไปตามที่เธอต้องการ เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าตนเป็นหุ่นยนต์ รู้ข้อมูลพื้นฐานทุกอย่างที่อยู่ในการตั้งค่าดั้งเดิม และรู้เรื่องราวของมนุษย์ที่มีหุ่นยนต์ไว้ทำเรื่องต่างๆที่พวกเขาไม่อยากทำหรือเอาไว้ตอบสนองความต้องการที่ไม่มีมนุษย์คนไหนยินยอมของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงเย็นชาต่อโลกที่แสนมืดมิดแสนว่างเปล่าที่มีเพียงจุดสีขาวอมฟ้าที่บ่งบอกสภาพแวดล้อมรอบตัว ใบหน้าของหญิงสาวเจ้านายคนใหม่ของเขาที่ดูงุนงงถูกแสกนเข้ามาในระบบของเขานานแล้วตั้งแต่ที่เธอเริ่มสำรวจร่างกายของเขา เขาได้แต่รอเงียบๆ ไม่อาจพูด ไม่อาจขยับ จนกว่าเธอจะตั้งค่าจนเสร็จสิ้น
เขาไม่อาจควบคุมได้ว่าจะออกมามีรูปลักษณ์อย่างไร มีเสียงอย่างไร แต่เขาก็ไม่รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ไม่รู้สึกแปลกหรืออับอายที่ถูกหญิงสาวตรงหน้าสำรวจจนทั่ว
อาจเป็นเพราะเขาไม่มีความรู้สึกตั้งแต่แรก
"อ๊ะ ได้แล้ว"
เมื่อเขาสามารถลืมตาได้ในที่สุด ภาพที่ปรากฎกลับทำให้หุ่นยนต์หนุ่มชะงัก สีสันอันอ่อนโยนเผยเข้ามาในตัวรับภาพสมจริงของเขา ภาพที่เป็นของจริงไม่ใช่แค่การรวมตัวกันของจุดเสมือนจริงสีขาวฟ้าที่จืดชืด ภาพที่หญิงสาวที่เผยรอยยิ้มงดงามและดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูเปล่งประกาย ซึ่งอิงจากการคำนวนของระบบนั้นแล้วเขาสามารถตัดสินได้ว่าเธอกำลังมีความสุขมาก
"สวัสดีโจเซฟ ฉันชื่อเชอร์เบล ต่อไปฝากตัวด้วยนะ"
เธอทักทายเขาทำไม? โจเซฟคิด เขารู้อยู่แล้วว่าเธอชื่ออะไรเพราะเธอเป็นคนใส่ชื่อของเธอลงมาแล้วในช่องชื่อเจ้านายที่กำหนด และรอยยิ้มนั้นอีก การเจอกับเขาทำให้เธอมีความสุขมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ ไม่เหมือนกับพนักงานคนนั้นสักนิดที่ทำหน้าเบื่อหน่ายทุกครั้งที่มองมายังเขาและหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ เขามองเธอนิ่งๆ ก่อนจะตอบรับกลับไปเสียงเรียบ แม้ว่าในความคิดจะมีเรื่องที่ไม่เข้าใจมากมายก็ตาม
"ครับ นายหญิง"
โจเซฟเป็นหุ่นยนต์ที่ไม่ช่างพูด แต่เน้นฟังและจับสังเกตสิ่งรอบตัวเสียมากกว่า อาจจะเพราะเคยชินกับการอยู่นิ่งๆในโกดังสินค้าที่ได้แต่ฟังเสียงต่างๆรอบตัวเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันในการสังเกตผู้เป็นนายด้วยความสงสัยใคร่รู้
"นายหญิง แมวตอบคุณไม่ได้ หรือตอบมาคุณก็ไม่เข้าใจ ทำไมถึงยังคุยกับพวกเขาล่ะครับ"
ร่างสูงย่อกายลงกับพื้น เกาใต้คางเพอร์เซิลด้วยกริยาแข็งๆเลียนแบบการกระทำของอีกฝ่าย เมื่อเห็นแมวน้อยลายเปรอะบิดตัวอย่างชอบใจก็ตัดสินใจทำต่อไปอย่างเงียบๆ นัยน์ตาสีม่วงเข้มเรียบเฉยทว่าจดจ้องที่แมวอย่างไม่ลดละ ทำให้เชอร์เบลเผยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
"นั่งลงสิ นั่งย่อเข่านานๆเดี๋ยวก็เมื่อยหรอก"
แทนที่จะตอบคำถามของเขา ร่างบางกลับตบปุๆที่พื้นข้างตัวเป็นสัญญาณให้เขานั่งลง แม้ว่าหุ่นยนต์จะไม่มีความรู้สึกเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่เมื่อโจเซฟมองรอยยิ้มนั้นแล้วก็ทำตามอย่างไม่หือไม่อือ คิดเอาเองว่าเธอคงไม่อยากได้คำโต้แย้งว่า "ผมเป็นหุ่นยนต์ ผมไม่รู้สึกเมื่อยครับ"
เชอร์เบลพึงพอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งลงข้างกายเธอ ก่อนจะโอบอุ้มซีตรัสขึ้นมาแนบอก แม้ว่ามันจะมองเธออย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ดิ้นออกจากอ้อมแขนบอบบางนี้ กลับเกาะขาทั้งสองไว้บนไหล่ของเธอและวางหัวลงบนนั้นอย่างสงบและผ่อนคลาย
"ดูสิ พวกเขาเป็นเด็กดี"
"ถึงแม้บางเรื่องของมนุษย์ที่ซับซ้อนพวกเขาจะไม่เข้าใจ แต่สิ่งที่พวกเขาเข้าใจได้คือความรู้สึกที่เราส่งออกไป"
"เช่นเดียวกัน ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจเสียงร้องของพวกเขา แต่หากเป็นความรู้สึกที่เรียบง่ายเช่นความโกรธหรือความสุข ฉันก็พอจะเข้าใจอยู่บ้าง"
หญิงสาวอธิบายด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่เขากลับสามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกอันอบอุ่นที่เธอมีต่อแมวเหล่านั้น แม้จะยังไม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อไป
"นายอาจจะไม่เข้าใจ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเปรียบเทียบง่ายๆ ว่ามันคือการแลกเปลี่ยนกันระหว่างมนุษย์ที่ต้องการที่ระบายความในใจ และแมวที่ต้องการให้สนใจดูแลเช่นกัน เรามอบที่ที่สุขสบายและปลอดภัย พวกเขามอบความรักและรับฟังเป็นสิ่งตอบแทน"
นายหญิงราวกับรับรู้ว่าตนยังไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด จึงกล่าวเพิ่มเติมให้เขาฟัง พร้อมๆกับที่ยกก้อนขนตัวนุ่มที่อยู่ในอ้อมแขนให้เขาได้ลองโอบอุ้ม โจเซฟเลียนแบบท่าทางของเธอในการอุ้มอย่างรวดเร็ว สิ่งมีชีวิตตัวน้อยตรงกับรสนิยมในความน่ารักของมนุษย์ที่มีการจดบันทึกไว้หลายประการ และความร้อนจากกายของมันที่ส่งมาถึงเขาก็ทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชิน โจเซฟมองดวงหน้าขนฟูนั้นแล้วก็หันกลับไปมองเธอ ก่อนจะกล่าวถามอีกครั้ง
"แต่หากต้องการที่ระบายความในใจ ระบายกับมนุษย์ด้วยกันเองไม่ดีกว่าหรือครับ เพราะเราสามารถฟังกันเข้าใจได้แน่นอน"
หญิงสาวชะงักกึก ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่ดูเศร้าโศก เสียงของเธอแผ่วเบาลงในขณะที่นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนหลุบลงราวกับทอดมองไปยังที่ไกลแสนไกล
"เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะพร้อมเข้าใจนาย ไม่ใช่ทุกคนที่จะปลอบโยนนายอย่างอ่อนโยน หลายคนตัดสินกันตั้งแต่ยังไม่รู้เรื่องราวใดๆเสียด้วยซ้ำ"
"อ๊ะ"
หญิงสาวสะดุ้งเบาๆเมื่อรู้สึกถึงอะไรหนักๆบนตัก เมื่อเงยขึ้นมองก็พบว่าเป็นโจเซฟที่วางเจ้าแมวส้มตัวโตนั้นบนตักของเธออย่างแผ่วเบา
"ถึงผมจะไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกได้ว่ามันรู้สึกเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ต่อไปถ้าคุณต้องการ ผมอยู่เพื่อฟังคุณเสมอ"
ใบหน้างามก้มลงเล็กน้อย ตั้งใจปกปิดไม่ให้อีกฝ่ายเห็นนัยน์ตาที่สั่นระริกของเธอด้วยการแสร้งว่าตั้งแกตั้งใจลูบขนแมว แต่สุดท้ายความสั่นไหวในน้ำเสียงก็เผยความลับนั้นออกมาจนหมดเปลือก
"ขอบคุณนะ"
โจเซฟไม่ได้พูดตอบอันใด เพียงแต่ขยับมือทัดผมยาวสยายนั้นเข้าที่หูของเธออย่างเงียบๆ และใช้ทิชชู่ซับน้ำตาที่หยดลงข้างแก้มอย่างแผ่วเบา
หลังจากวันนั้นก็คล้ายว่าระหว่างพวกเขาจะใกล้ชิดสนิทสนมกันขึ้นอีกหน่อย แลยิ่งกำเริบเสิบสานมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวเมื่อนายหญิงผู้นี้ใจดีกับผู้อื่นเหลือเกิน แต่กลับไม่ค่อยดูแลตัวเอง มักหลงลืมเวลากินข้าวหรือฝืนร่างกายเพื่อทำงานต่ออยู่บ่อยๆ
"นายหญิง ถ้าคุณรู้สึกปวดหัวคุณควรพักผ่อน ไม่ใช่ฝืนต่อ"
โจเซฟกล่าวขึ้นเมื่อเห็นเธอนวดขมับเป็นครั้งที่สี่ระหว่างที่เธอกำลังออกแบบชุดให้เหล่าแมวอย่างตั้งใจ
"อีกนิดเดียวก็จะเสร็จแล้วนี่นา เดี๋ยวค่อยพักก็ได้"
เชอร์เบลกล่าวเบาๆ ขณะที่ขีดเขียนอะไรลงไปในแท็บเล็ตที่โจเซฟอ่านไม่ออก ดูแล้วคล้ายภาษาแต่ไม่ใช่ภาษาที่พวกเขาใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เขาหลุบตามองลายเส้นขีดเขียนนั้นและจดจำข้อมูลไว้ในระบบแล้วจึงขัดจังหวะอีกฝ่ายด้วยการเข้าชาร์จถึงตัว
"ขนาดผมที่ไม่ต้องชาร์จพลังงานบ่อยๆคุณยังสั่งให้ไปชาร์จทุกคืนเลย นายหญิง ร่างกายคุณประท้วงแล้วก็อย่าดื้อได้ไหม"
ร่างสูงอุ้มร่างเล็กขึ้นมาอย่างง่ายดายราวกับน้ำหนักตัวเธอไม่มีผลเลยแม้แต่น้อย เชอร์เบลได้แต่โอดครวญประท้วง แต่เพราะเธอไม่ได้ตั้งใจออกคำสั่งอย่างจริงจังโจเซฟจึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรกับมัน เขาเดินอย่างมั่นคง ก่อนจะไปหยุดที่ห้องว่างที่เคยเป็นที่วางแท่นชาร์จพลังงานของเขา แต่บัดนี้ข้างในกลับมีเก้าอี้ยาวตัวหนึ่งถูกเพิ่มเข้ามา ข้างๆนั้นมีโต๊ะกลมสีขาวที่มีเทียนวางอยู่หนึ่งอัน พร้อมกับโคมไฟโค้งอันสูงที่ให้แสงโทนส้มสลัวที่อบอุ่น เขาวางเธอลงบนเก้าอี้ยาวตัวนั้นอย่างนุ่มนวล เนื้อนวลเนียนของหนังแท้สีดำที่เป็นมันวาวถูกบุด้วยไฮโดรเจลอย่างดีให้สัมผัสทั้งนุ่มและเย็นสบาย แขนขาถูกวางและล็อคในที่ของมันที่ราวกับทำมาเพื่อโอบล้อมกายของเธอทุกส่วน
"อ้ะ นี่คืออะไรน่ะ"
"เก้าอี้นวดเพื่อความผ่อนคลายน่ะครับ ผมพึ่งสั่งซื้อมา"
แน่นอนว่าโจเซฟใช้เงินของเธอในการซื้อของ แต่ไม่ เขาไม่ได้ขโมยหรือจ่ายโดยไม่ขออนุญาต เขาใช้เงินส่วนตัวที่ได้รับจากเธอมาซื้อต่างหาก
หากเล่าให้ใครฟังใครก็ว่าเชอร์เบลบ้าแน่นอนที่ให้เงินค่าแรงตอบแทนกับหุ่นยนต์ ทั้งๆที่คนเรามีหุ่นยนต์มาเพื่อรับใช้และเพิ่มความสะดวกสบายแท้ๆ แต่เพราะความรู้สึกผิดและอยากจะให้โจเซฟได้มีความใกล้เคียงกับมนุษย์จริงๆ เธอจึงแบ่งเงินที่ได้จากการสตรีมและคลิปที่มีเขาเป็นผู้ช่วยถ่ายให้เขาไป กล่าวว่าหากอยากได้สิ่งใดที่ไม่เกินจำนวนเงินที่มีก็สามารถสั่งซื้อมาได้
ตลอดมาโจเซฟซื้อของให้ตัวเองเพียงไม่กี่อย่าง คือชิ้นส่วนเล็กๆหลายๆชิ้นที่ใช้อัพเกรดให้ตนเองเก่งกาจยิ่งขึ้นได้จากการที่จดจำการประกอบมันมาจากในโรงงานที่ผลิตหุ่นยนต์ทุกประเภท เดิมทีโจเซฟเป็นหุ่นยนต์รับใช้ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ตอบปัญหาและดูแลเจ้านายสูงที่สุด แต่กลับมีข้อจำกัดด้านร่างกายและทักษะอื่นๆ ดังนั้นหลังจากได้ชิ้นส่วนอัพเกรดมาและแก้ไขตนเองในยามดึกทุกวัน ในที่สุดโจเซฟก็กลายเป็นหุ่นยนต์ที่มีความสามารถรอบด้าน และสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เคยโพสต์บนเครือข่ายได้ทั้งหมดตราบใดที่ไม่ถูกรัฐบาลปกปิดเอาไว้เป็นความลับสุดยอด
นอกจากนั้นแล้ว เงินที่ได้มาก็ถูกใช้ไปกับสิ่งที่เกี่ยวข้องกับนายหญิงทั้งสิ้น
"นายสั่งมาให้ฉันเหรอ"
"ครับ"
โจเซฟจุดไฟที่เทียนหอมแก้วใหญ่นั้น เสียงฟู่ดังขึ้นชั่วครู่ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเสียงเผาไหม้ที่แผ่วเบา บรรยากาศแสนสงบและอบอุ่นราวกับอยู่ในภาพถ่ายนิตยสารตัวอย่างบ้าน ร่างบางถอนหายใจด้วยความรู้สึกดีระหว่างที่เก้าอี้นวดทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ
หลังเวลาผ่านไปจนเครื่องทำงานเสร็จสิ้น เชอร์เบลเดินกลับไปที่โต๊ะทำวานของเธอ บิดขี้เกียจเสร็จกำลังกำปากกาจะเขียนต่อ แต่โจเซฟกลับโพล่งถามขึ้นมาเสียก่อน
"ทำไมคุณถึงใช้ภาษาของประเทศทีเมื่อห้าพันปีที่แล้วได้คล่องแคล่วจังครับนายหญิง"
มือของเธอชะงักกึก ฝ่ามือที่กำปากกาแน่นปรากฎเหงื่อเย็นที่ค่อยๆผุดพรายออกมาพร้อมๆกับจังหวะหัวใจที่เต้นรัวขึ้นด้วยความหวาดหวั่น
"คุณบอกคุณวิลเลียมว่าความจำเสื่อม และคุณก็ดูไม่คุ้นเคยกับอะไรที่นี่จริง แต่ก่อนหน้านี้คุณก็ใช้ศัพท์เก่าที่เลิกใช้ไปแล้วหลายคำด้วย ทำให้ผมสงสัยมาก"
"คือ ฉัน…"
"ในสายตาของผม คุณเหมือนคนจากเมื่อห้าพันปีที่แล้วที่บังเอิญมาอยู่ที่นี่แบบไม่รู้ตัวเสียมากกว่า"
ตุบ
ร่างบางปล่อยปากกาให้ตกลงจากมืออย่างอ่อนแรง เชอร์เบลสูดลมหายใจเข้าอย่างยากลำบาก ในขณะที่หันไปเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์หน้าหล่อที่ตอนนี้ดูเป็นอันตรายขึ้นมาในสายของเธอ
"ทำไมนายถึงมั่นใจว่านี่เป็นภาษาประเทศทีเมื่อห้าพันปีก่อนล่ะ"
เธอยอกย้อน หวังให้มันเป็นแค่การคาดเดา แต่ชายตรงหน้ากลับสงบนิ่งยิ่งนักราวกับว่ารับรู้ทุกอย่างหมดแล้ว
"เพราะนายหญิงไม่เคยจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของผม ตราบใดที่สิ่งนั้นมีอยู่บนฟอรั่ม ผมก็สามารถเปรียบเทียบและค้นหาได้เสมอ"
เขาตอบเรียบๆ ทำให้เชอร์เบลพรูลมหายใจออกและหัวเราะเบาๆอย่างอเนจอนาถใจในตนเอง
"แล้วทำไม ถ้าฉันเป็นคนเมื่อห้าพันปีที่แล้วจริงนายจะยังไงต่อ"
"ผมแค่อยากรู้ แน่นอนว่าถ้านายหญิงไม่อยากพูด ผมก็จะไม่เซ้าซี้ และถ้าคุณระแวงในตัวผมคุณก็สามารถกดล้างความทรงจำของผมได้เสมอ"
เชอร์เบลมองเข้าไปในดวงตาสีม่วงสวยนั้นอยู่นาน ราวกับถามหาความจริงใจหรือคำโกหกที่อยู่ในนั้น แต่หลังจากที่ไม่เจออะไรและย้ำเตือนตัวเองขึ้นมาว่าอีกฝ่ายเป็นแค่หุ่นยนต์ในการครอบครองของเธอ เขาคงไม่มีทางที่จะเอาข้อมูลพวกนี้ไปเผยแพร่ที่ไหนได้ หากเขาอยากรู้ เช่นนั้นก็ให้เขารู้เถอะ อย่างน้อยก็ถือว่ามีคนมารับฟังและรับรู้ตัวตนของเธอในชีวิตที่ผ่านมาด้วยแล้วหนึ่งคน
"…ไซรีนเป็นคนที่คอยช่วยเหลือและปกป้องฉันมาตลอด จนกระทั่งฉันตายจากมายังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนเธอเลย"
"อยู่คนเดียวที่นี่อย่างโดดเดี่ยว ทำให้ฉันคิดถึงเธอมากจริงๆ…"
หญิงสาวลูบรูปภาพใบนั้นที่ตอนนี้ถูกอัดใส่กรอบเรซิ่นใสอย่างดีด้วยความเหม่อลอย หยาดน้ำใสหยดลงตามแรงโน้มถ่วงเงียบๆไร้เสียงสะอื้น เป็นรูปของเธอในร่างเก่าและหญิงสาวอีกคนที่ยืนกอดคอกันพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ไซรีน เพื่อนรักคนเดียวของเธอที่มีบุญคุณกับเธอมาชั่วชีวิต ในรูปเธอมีผมสีม่วงเข้มที่เกิดจากการย้อมสีและดวงตาสีดำที่เหมือนกับของเชอร์เบล ไม่รู้ว่าทำไมพระเจ้าจึงส่งรูปที่มีเธอคนนี้อยู่ในนั้นมาให้ แต่เชอร์เบลก็ดีใจเพราะอย่างน้อยก็มีสิ่งที่เอาไว้ระลึกถึงเพื่อนรักที่ยังไม่ทันได้บอกลา
"เธอชอบสีม่วงมาก ไม่ว่าอะไรรอบตัวเธอก็เป็นสีม่วงไปหมด รวมถึงของที่ให้ฉันด้วย ดังนั้นฉันจึงตั้งค่าสีตาของนายให้เป็นสีม่วงตั้งแต่แรก"
โจเซฟปล่อยให้คนตรงหน้าลูบเปลือกตาของเขาอย่างว่าง่าย ก่อนจะเข้าสวมกอดเธอที่คล้ายกับจมดิ่งกับอดีตที่แสนเศร้าจนไร้ทางออกด้วยความอ่อนโยนที่สุดที่หุ่นยนต์สามารถมีได้
"ต่อไปผมจะปกป้องคุณเอง เหมือนกับคุณไซรีน"
จากสะอื้นเล็กๆก็ค่อยๆขยายขึ้นกลายเป็นเสียงร้องไห้โฮแทบขาดใจ แรงกอดรัดแน่นจากคนในอ้อมแขนราวกับกำลังตะเกียกตะกายคว้าที่ห่วงยางช่วยชีวิตกลางทะเล หลังจากช่วงเวลานี้ไป เชอร์เบลจึงเชื่อใจและไว้ใจโจเซฟเหมือนกับเพื่อนคนหนึ่ง เป็นคนที่เชื่อใจที่สุดที่สามารถบอกได้ทุกอย่างและจะได้รับคำปลอบโยนกลับมา
ไม่รู้เลยว่า ตัวเองได้ค่อยๆเปลี่ยนหุ่นยนต์ที่กลวงเปล่าให้มีหัวใจของมนุษย์ขึ้นมาเสียแล้ว
แต่เพราะทุกอย่างที่โจเซฟรับรู้ เขารู้ดีมาตลอดว่าตนเองไม่สามารถเป็นได้มากกว่านั้น เขามีเพียงหน้าที่เดียว คือการปกป้องเธออย่างที่เคยได้พูดไว้ และพาเธอไปให้ได้รับการดูแลจากคนที่เหมาะสม คนที่จะทำให้เธอได้มีความสุขอีกครั้งในสังคมมนุษย์ปัจจุบันจริงๆเสียที
เขาอุ้มร่างบางไปยังโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในดาวแคปิทัลด้วยความเร็วสูงสุด หลังจากส่งเธอถึงมือหมอแล้วจึงค่อยไปนั่งที่ที่ไว้รอสำหรับหุ่นยนต์เอไอ แล้วกดโพสต์ข้อความลงบนสตาร์บอร์ดอย่างรวดเร็ว
__________________________________________________
• หม่าวเมี๊ยวแชแนล : นายหญิงเกิดอาการเจ็บป่วยกระทันหัน ล้มลงหมดสติ กำลังเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วน ดังนั้นจึงของดการไลฟ์สตรีมและการลงวิดีโอทุกอย่างอย่างไม่มีกำหนด ขอบคุณครับ
โจเซฟ เขียน
{3 วินาทีที่แล้ว}
__________________________________________________
เพียงเท่านั้นเองแจ้งเตือนข้อความส่วนตัวจากหลายๆคนก็ส่งเข้ามาทันที ที่โดดเด่นสะดุดตาโจเซฟเป็นพิเศษก็เป็นแชทปักหมุดทั้งสามซึ่งก็คือ ธีโอดอร์ วิลเลียม และเอสเทอร์ ดังนั้นเขาจึงส่งโลเคชั่นไปให้ทั้งสามคนพร้อมๆกันด้วยความเต็มใจ
: นายหญิงอยู่ที่โรงพยาบาลฟาซาล ดาวแคปิทัลครับ
____________________________
ไอต้าวโจเซฟของมัมหมี ฮือ รักคือการให้ที่แท้
เป็นที่หนึ่งไม่ไหว ฉันเต็มใจขอเป็นแค่ที่สอง~ //แค่ก ดักแก่นิดๆ