บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย - คำที่ 1 ไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย

รายละเอียด

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เพราะยังไม่ถึงที่ตายแต่ไลลากลับตายง่ายตายดายเพียงเพราะถูกรถประจำทางยางแตกเสยเข้ากลางลำตัวในตอนเช้าที่แสนสดใสขณะกำลังจะเดินทางออกไปขายของที่ร้านขนมไทยตามปกติแต่มันก้น่าแปลกความเจ็บปวดจากการถูกรถคันใหญ่ทับกลับไม่ได้หนักหนาอย่างที่กลัวมันเย็นวาบอยู่สักพักจากนั้นก็คล้ายว่าสตินั้นจะล่องลอยไปไกล จนเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเบื้องหน้าของเธอนั้นไม่ใช่สวรรค์หรือนรกแต่กลับเป็นชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่คมที่มีเด็กน้อยเด็กคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนแถมยังเรียกไลลาว่าแม่อีกต่างหาก


ยังไม่หายตกใจเรื่องมีลูกและมีสามีต้องกลับมาตกใจในเรื่องของฐานะครอบครัวที่เกือบจะเรียกได้ว่ายากจนแต่ในเมื่อไลลาได้โอกาสมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วเธอสัญญาต่อดวงวิญญาณของร่างซูอ้ายเย่วหญิงสาวผู้อาภัพและอายุสั้นเลยว่าต่อจากนี้จะทำทุกอย่างให้ลูกให้ผัวอยู่ดีกินดี



หมายเหตุ

นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ



กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างค่ะ

สารบัญ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 1 ไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 2 คำตอบของทุกคำถาม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 3 การปรับตัวครั้งใหญ่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 4 ภารกิจประจำวัน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 5 สำรวจลู่ทางในการทำมาหากิน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 6 ซ้อมมือก่อนลงสนามจริง,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 7 ได้เวลาตั้งแผงขายขนม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 8 เมื่อสามีต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 9 เริ่มสำรวจหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 10 ได้โอกาสแสดงฝีมือ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 11 วางรากฐานการผลิตให้มั่นคงยิ่งขึ้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 12 ได้เวลานับผลกำไร,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 13 แรงริษยา,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 14 การพบหน้าเพื่อลาจาก,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 15 สิ่งที่ถูกปิดบังซ่อนเร้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 16 ได้เวลาสร้างบ้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 17 การข่มขู่ ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 18 สามีนำเสือกลับมาบ้าน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 19 เป้าหมายสำคัญของครอบครัว,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 20 อยู่ที่บ้านก็ทำงานทำเงินได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 21 เปิดร้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 22 แค่ของเลียนแบบ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 23 เมื่อคนชั่วได้รับกรรม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 24 ใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 25 พี่ใหญ่บ้านสวีไปสร้างเรื่องอีกจนได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 26 ร่วมมือร่วมใจ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 27 เปิดร้านใหม่ก็ได้เวลาปล่อยของ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 28 พิธีปักปิ่นของสวีไฉ่ห,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 29 อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย (จบ)

เนื้อหา

คำที่ 1 ไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี

ไลลากะพริบตาปริบๆ ระหว่างที่มองไปยังผู้ชายตัวโตสวมเสื้อผ้าในชุดที่เธอไม่คุ้นเคยกับเด็กตัวกลมๆ ขาวๆ ในอ้อมกอดที่คอยแต่จะโผเข้าหาเธออยู่เรื่อยแต่ก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงที่โผล่พ้นแขนเสื้อที่ถูกพับทบขึ้นรั้งเอาไว้ได้ตลอด

“หาท่างแม่” เป็นอีกครั้งที่เด็กน้องร้องเรียกไลลาพร้อมกับกางแขนสองข้างทำท่าจะกระโจนเข้ามาหาแต่ดีที่ว่าได้ชายแปลกหน้าคนยังนั้นรั้งเอาไว้ได้ไม่อย่างนั้นทั้งเธอและเจ้าตัวน้อยคงจะต้องเจ็บตัวแน่ๆ เพราะเรี่ยวแรงที่เคยมีมันไม่รู้หดหายไปไหนหมดทำไมร่างกายของเธอถึงรู้สึกอ่อนเพลียแถมยังปวดศีรษะรุมๆ อยู่ตลอดเวลาแถมยังมีอาการมึนๆ ตอนที่พยายามยันตัวขึ้นมานั่งบนเตียงเมื่อครู่นี้ด้วย

“ซิงอีคิดถึงเจ้ามากไปหน่อยเท่านั้นเองแต่ข้าบอกเขาแล้วว่าเพราะว่าท่านแม่ป่วยทำให้มาเล่นด้วยไม่ได้แรกๆ ก็เหมือนจะเข้าใจแต่เมื่อเจ้าลุกขึ้นมานั่งได้เขาก็เหมือนจะไม่ฟังที่ข้าพูดอีกเลย ซิงอีเด็กดีท่านแม่เพิ่งตื่นนางยังไม่มีเรี่ยวแรงเจ้าเล่นกับพ่อก่อนนะ” ชายที่ไลลามั่นใจว่าไม่รู้จักพูดกับเธออย่างเป็นธรรมชาติพลางต่อสู้กับแรงเล็กๆ ของเด็กในอ้อมแขนของตัวเอง

“เอ่อ คือ” พูดออกมาได้เท่านั้นไลลาก็ต้องหลับตาลงเนื่องจากปวดศีรษะเป็นอย่างมากมันปวดชนิดที่ว่าทำให้เธอมือไม้สั่นกันเลยทีเดียว

“อ้ายเย่วเจ้าเพิ่งฟื้นอย่าเพิ่งเอ่ยอะไรเลยดีกว่า นอนลงไปก่อนแล้วข้าจะไปตามท่านหมอมาดูอาการเจ้าแต่ก่อนหน้านี้ท่านหมอฉือบอกเอาไว้แล้วว่าเจ้าอาจจะมีไข้แล้วก็ปวดหัวหรือปวดตามเนื้อตามตัวได้เพราะแม่น้ำบริเวณที่เจ้าตกลงไปมีก้อนหินก้อนใหญ่ๆ กับซากต้นไม้จมอยู่ใต้น้ำมิใช่น้อย” สวีเฉินบอกภรรยาระหว่างที่พยายามประคองร่างนางให้ลงไปนอนราบบนเตียงอย่างทุลักทุเลด้วยแขนเพียงข้างเดียวส่วนอีกข้างหนึ่งก็ใช้ยื้อลูกชายเอาไว้ไม่ให้ไปรบกวนมารดาด้วยเกรงว่าเจ้าก้อนแป้งจะทำให้นางเจ็บตัวมากไปกว่านี้

“หลับไปก่อนข้าจะรีบไปรีบมาไม่ต้องห่วงซิงอีเพราะข้าจะพาเขาไปด้วย” บ้านของท่านหมอไช่ฉืออยู่คนละฝั่งกับบ้านของสวีเฉินแต่ถ้าเขารีบเดินไปเร็วๆ อาจจะใช้เวลามานานเท่าไหร่นักถ้าไม่ติดลูกชายที่ต้องอุ้มกระเตงกันไปด้วยเขาคงใช้เวลาไม่นานแต่ในเวลานี้จะปล่อยให้ลูกชายตัวน้อยอยู่บ้านตามลำพังกับภรรยาที่นอนป่วยอยู่บนเตียงนั้นมันเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย

หลังจากที่ชายแปลกหน้ารีบเดินออกไปจากห้องแล้วไลลาก็ลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะความหนักอึ้งที่อยู่ในหัวโดยก่อนหน้าที่จะตื่นมาเธอจำได้ว่าตัวเองกำลังเดินทางออกไปทำงานที่ร้านขายขนมไทยของตัวเองเหมือนที่ทำอยู่เป็นประจำแต่ก็ไม่คิดว่าจะซวยถูกรถเมล์เบรกแตกเสยเข้ากลางลำตัวระหว่างที่ยืนรอรถอยู่ตรงป้ายรถประจำทาง

เสียงอื้ออึงรอบตัวนั้นไม่สามารถจับใจความได้เพราะมันมีทั้งเสียงโครมซึ่งน่าจะเป็นเสียงเหล็กกระทบเข้ากับโครงสร้างของป้ายรถประจำทางผสานไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนโวยวายขอความช่วยเหลือของผู้คนรอบข้างกับเสียงดังกร๊อบที่ดังก้องอยู่ภายในหูของเธอเอง

“ตรงนี้มีคนเจ็บรถพยาบาลมาถึงหรือยัง น้องๆ น้องครับได้ยินพี่หรือเปล่ายังไหวอยู่ไหม เฮ้ย มึงอย่าไปจับเขารอรถพยาบาลมาช่วยก่อน” มีเสียงของผู้ชายคนหนึ่งดังวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวของเธอแต่ไลลาไม่มีความสามารถจะตอบกลับคำถามของเขาได้อีกทั้งภาพที่เธอเห็นผ่านดวงตาของตัวเองตอนนี้มันกำลังค่อยๆ รางเลือนจนสุดท้ายก็มืดสนิทไปในที่สุดเธอมองไม่เห็นอะไรอีกเลยทั้งๆ ที่ยังรู้สึกตัวอยู่

มารู้ตัวอีกทีตัวเองก็มานอนอยู่ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เหมือนว่าผนังห้องนั้นจะสร้างด้วยดินแม้จะเป็นสีน้ำตาลตุ่นๆ แต่ก็ดูออกว่ามันสะอาดสะอ้านโดยแสงสว่างที่ลอดผ่านหน้าต่างโล่งๆ ข้ามานั้นทำให้รู้ว่าในเวลานี้ต้องเป็นเวลากลางวันแต่จะกี่โมงนั้นเธอไม่ทราบเพราะว่าในห้องนี้ไม่มีนาฬิกาให้ดูเลยสักเรือน

จะว่าไปแล้วในบ้านหลังนี้มีนาฬิกาหรือเปล่าเธอเองก็ยังไม่รู้เพราะดูจากการแต่งเนื้อแต่งตัวของผู้ชายคนเมื่อครู่แม้จะไม่คุ้นชินแต่ภาพมันก็คุ้นตาเป็นการแต่งกายเหมือนผู้ชายยุคโบราณของประเทศหนึ่งที่เธอเคยอ่านเจอมาบ้างจากหนังสือนิยายแต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกอย่างมากเธอก็แค่ฝันไปถ้าตื่นมาอีกครั้งเธออาจจะนอนอยู่บนเตียงของห้องพักในโรงพยาบาลไหนสักที่ก็เป็นได้

แต่ความคาดหวังของขอไลลานั้นกลับไม่เป็นความจริงเมื่อเธอตื่นมาอีกครั้งแล้วพบว่าชายที่แต่งกายด้วยชุดแปลกประหลาดนั้นมีเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแต่คนที่มาใหม่ดูจะมีอายุมากกว่าและดูออกเลยว่าเป็นคนที่มีความรู้ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วๆ ไป

“ตื่นแล้วหรือแม่นางสวีพอจะบอกข้าได้หรือไม่ว่าตอนนี้เจ้าเจ็บปวดตรงที่ใดบ้าง” เมื่อเห็นว่าสวีอ้ายเย่วลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วไช่ฉือก็ไถ่ถามอาการของนางทันทีอย่างไม่รีรอ

“อืม ปวดหัวแล้วก็ปวดเมื่อยตัวมาก” น้ำเสียงของไลลาแหบแห้งเล็กน้อยซึ่งทันทีที่เธอพูดจบผู้ชายคนแรกที่ลืมตาตื่นมาเจอก็พุ่งตัวมาประคองเธอให้ลุกขึ้นอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนก่อนจะป้อนน้ำอุ่นๆ ที่มีกลิ่นเหมือนยาสมุนไพรอ่อนๆ ให้ดื่ม

“ที่ปวดเมื่อยเนื้อตัวน่าจะเป็นอาการของพิษไข้เนื่องจากเจ้าตกไปในน้ำลึกพอสมควร ส่วนหัวที่ปวดนั้นข้าคาดว่าตอนที่จมน้ำศีรษะอาจจะไปฟาดเข้ากับโขดหินไม่ก็ตอไม้ใต้น้ำถึงจะไม่พบบาดแผลแต่ข้าก็เห็นรอยช้ำรอยใหญ่อยู่นั่นคงเป็นสาเหตุ

อาเฉินระหว่างนี้ช่วยดูแลภรรยาเจ้าอย่างใกล้ชิดสักหน่อยนางอาจจะมีอาการเลือดคั่งที่ทำให้ปวดศีรษะแล้วก็หลงลืมอะไรไปชั่วคราวระหว่างนี้พยายามอย่าให้นางลุกเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเพราะมันเสี่ยงจะล่มฟาดเอาได้ที่สำคัญคืออย่าเพิ่งให้นางทำงานหนักหรือว่าอุ้มลูกอย่างเด็ดขาด

แล้วก็หมั่นให้นางดื่มยาที่ข้าจัดให้บ่อยๆ ดื่มแทนน้ำได้ก็ดีเพราะว่ามันเป็นยาแก้ช้ำใน ส่วนยาในห่อนี้เจ้าต้มในน้ำหนึ่งหม้อเคี่ยวให้เหลือเพียงครึ่งเดียวให้นางดื่มครั้งละหนึ่งชามเล็กๆ วันละสองครั้งเช้าเย็นหนึ่งห่อกินได้ประมาณสามวันข้าจัดมาให้เจ้าสามห่อ” ท่านหมอไช่ฉือสั่งความกับสวีเฉินสามีของคนเจ็บก่อนจะขอตัวกลับเพราะหมดหน้าที่ในการรักษาแล้ว

“ข้าจะไปส่งท่านหมอนะขอรับ” แม้ที่บ้านจะไม่มีเกวียนเทียมวัวหรือลาแต่การเดินไปส่งท่านหมอจนถึงที่บ้านก็นับว่าเป็นมารยาทที่ดีอยู่เหมือนกัน

“ไม่ต้องยุ่งยากเจ้ากลับไปดูภรรยากับลูกเถอะระยะทางแค่นี้ข้าเดินกลับคนเดียวได้ถือว่าเดินไถ่ถามสุขภาพของคนป่วยภายในหมู่บ้านไปด้วยในตัว” ไช่ฉือเองก็ไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างหมอวัยกลางคนหลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวงเพื่อมาใช้ชีวิตเรียบง่ายในหมู่บ้านชนบทเพราะไม่ต้องการให้ใครมาปฏิบัติตัวกับเขาอย่างพินอบพิเทา

“ขอบคุณขอรับท่านหมอส่วนค่ารักษาข้าจะทยอยนำไปมอบให้นะขอรับ” สวีเฉินในยามนี้ไม่สามารถออกไปทำงานหาเงินได้อย่างที่เคยจึงต้องขอผ่อนจ่ายค่ารักษาและค่ายากับท่านหมอ

“ครั้งนี้ข้าไม่คิดเงินค่ารักษาเจ้าจ่ายมาเพียงค่ายาก็พอเอาไว้ให้นางดูแลตัวเองได้ก่อนเจ้าค่อยเข้าป่าไปล่ากระต่ายป่าหรือไก่ป่ามาจ่ายค่ายาให้ข้าก็ได้ไม่ต้องรีบร้อน” ท่านหมอประจำหมู่บ้านไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองเพราะทรัพย์สินที่นำติดตัวมาจากเมืองหลวงยังมีอยู่อีกมากจึงชอบคิดค่ายาเป็นสัตว์ป่าที่ชาวบ้านล่ามาได้มากกว่า

“ขอบคุณท่านหมอมากขอรับ” สวีเฉิงค้อมศีรษะลาท่านหมอก่อนจะรีบก้าวขาเดินเข้าบ้านเพื่อไปต้มยาให้ภรรยาได้ดื่มโชคดีที่ตอนนี้ลูกน้อยถึงเวลาที่ต้องนอนกลางวันไม่เช่นนั้นเขาคงต้องห่วงหน้าพะวงหลังไหนจะต้องต้มยาไหนจะต้องระวังลูกน้อยที่เริ่มเข้าสู่วัยอยากรู้อยากเห็นจะมาวิ่งใส่เตาไฟไม่ก็วิ่งไปปีนเตียงกวนมารดาที่ยังต้องการการพักผ่อนอยู่บนเตียง

ในระหว่างที่ในบ้านมีเสียงกุกกักเบาๆ ของสิ่งมีชีวิตที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่ใดสักที่หนึ่งไลลาที่ยังตื่นอยู่กลับนอนตาลอยจ้องหลังคาบ้านที่เหมือนจะทำมาจากหญ้าที่มีสีซีดจางไปตามกาลเวลาตอนนี้ในหัวของเธอกำลังคิดวนเวียนเรื่องที่ผู้ชายมีอายุคนนั้นพูดว่าอะไรคือภรรยาและอะไรคือลูกน้อยเรื่องทั้งหมดนี้มันอะไรคือกันแน่

ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาไลลาก็รู้สึกว่าตัวเองคล้ายจะเจอแต่เรื่องราวแปลกประหลาดแต่ก็ดีอย่างที่ตัวเธอยังไม่ได้กระโตกกระตากอะไรไปให้คนข้างนอกได้รู้ตัวไม่อย่างนั้นงานมันจะต้องเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นกับตัวเธออย่างไม่ต้องสงสัย

“เมื่อกี้ลุงคนนั้นบอกว่าเราเป็นภรรยาแล้วเด็กน้อยคนนั้นก็ต้องเป็นลูกแสดงว่าผู้ชายที่ตื่นมาเจอตอนแรกก็ต้องเป็นสามีสินะ... มันจะเกินไปแล้วนะไลลาโดนรถเมล์เสยแค่นี้ตื่นมาก็มีลูกมีผัวครบเลยเหรอมันจะง่ายเกินไปหรือเปล่าวะ” คิดได้อย่างนั้นไลลาก็ได้แต่ถอนใจแต่ลึกๆ ในใจเธอก็ยังมีหวังว่าหากตื่นมาอีกครั้งแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันจะเป็นแค่ฝันไปก็ได้ จริงๆ แล้วเธออาจจะแค่กำลังมึนยาสลบเลยฝันไปเพ้อเจ้อเอานิยายต่างๆ ที่เคยได้อ่านมาปะติดปะต่อเข้ากับชีวิตจริงของตัวเอง

แต่ถ้าเธอกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่จริงๆ หลังออกจากโรงพยาบาลเธอคงต้องโพสต์ข้อความชี้แจงลงในโซเชียลมีเดียของร้านแม่เรไรขนมไทยของตัวเองเพื่อขออภัยลูกค้าที่หายหน้าหายตาไปโดยไม่บอกไม่กล่าวแต่ก็นับว่าเป็นโชคดีอยู่ตรงที่เธอไม่ได้รับจองออเดอร์สำคัญเอาไว้ไม่เช่นนั้นงานนี้ต้องเสียหายทั้งเชื่อเสียงทั้งสูญเสียความเชื่อถือที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นคุณยายของเธออย่างแน่นอน

ร้านแม่เรไรขนมไทยของไลลานั้นเป็นร้านที่เปิดมาสามชั่วอายุคนแล้วแต่เดิมเป็นร้านของคุณยายเรไรที่ทำขนมไทยห่อใบตองหาบขายในตลาดเมื่อมาถึงรุ่นมารดาของไลลาก็ยังใช้ชื่อของคุณยายเป็นชื่อร้านอยู่เพื่อความเป็นสิริมงคลจนมาถึงรุ่นของตัวเองเธอก็ไม่เคยมีความคิดที่จะเปลี่ยนชื่อร้านแต่ได้มีการปรับปรุงหน้าตาของขนมอยู่ตลอดเพื่อให้มันทันยุคทันสมัยเป็นที่สะดุดตาของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ

โดยในสมัยก่อนนั้นกลุ่มลูกค้าที่มาอุดหนุนขนมของยายเรไรนั้นจะเป็นกลุ่มคนทั่วไปโดยเฉพาะเด็กเล็กที่ชอบกินขนมหวานกับกลุ่มแม่บ้านที่ซื้อหาขนมไปใส่บาตรถวายพระหรือว่าใช้ในงานพิธีมงคลต่างๆ พอมาถึงรุ่นของไลลานั้นกลุ่มตลาดของเธอจะเป็นลูกค้าวัยทำงานและกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า

“อ้ายเย่วตื่นอยู่พอดีข้าต้มยามาให้เจ้าดื่มท่านหมอบอกว่ามันเป็นยาช่วยลดเลือดคั่งได้ตอนนี้ยังนับว่าเช้าอยู่เจ้ารีบดื่มเสียเถิด” ด้วยความที่เป็นห่วงภรรยาสวีเฉินจึงรีบต้มยามาให้นางดื่มด้วยเชื่อว่าหากนางได้ดื่มยารักษาเร็วมากเท่าไรนางก็จะยิ่งฟื้นตัวได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น