บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ
จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
หลังจากที่ได้ดื่มยารักษาอาการเลือดคั่งที่ขมปี๋ถ้วยที่สองของวันหลังอาหารมื้อเย็นไปนั้นไลลาก็รู้สึกว่าศีรษะที่ปวดตุบๆ อยู่ตลอดเวลาได้มีโอกาสเว้นระยะอาการปวดกับเขาบ้างแล้วแต่ในเมื่อเธอยังทำอะไรไม่ได้มากเนื่องจากร่างกายยังต้องการการพักผ่อนเธอจึงเลือกที่จะนอนหลับพักผ่อนเพื่อเอาแรงก่อนเผื่อว่าตื่นมาอีกครั้งเธอจะได้กลับไปเป็นตัวเองเสียที
ในระหว่างที่นอนหลับนั้นหญิงสาวยังคงมีสติรู้ตัวดีทุกอย่างและการที่ตัวเองรู้สึกตัวเบาๆ และล่องลอยนั้นมันทำให้คิดได้ว่าก่อนหน้านี้เธอเคยได้รู้สึกเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่งและถ้าจำไม่ผิดมันหลังเกิดขึ้นจากที่ภาพตัดตอนที่มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาถามอาการของเธอที่กำลังนอนแบ็บติดอยู่กับพื้นถนน
“ว่ายังไงแม่หนูไลลาเจอกันอีกครั้งแล้วนะยังจำกันได้หรือเปล่า” ระหว่างที่ร่างกายกำลังผ่อนคลายพลันเสียงที่อ่อนโยนแต่ทว่าแหบพร่าคล้ายชายชราก็ดังขึ้นมาในโสตประสาททำเอาหญิงสาวถึงกับสะดุ้งแต่ก็ยังไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด
“ถึงจะจำไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรือเพราะเมื่อครั้งก่อนตอนพบกันแม่หนูก็แทบจะสิ้นสติอยู่แล้ว ครั้งนี้ข้ากลับมาเพื่อที่จะมาถามว่าแม่หนูพร้อมแล้วหรือยังกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยสมบูรณ์ พร้อมที่จะใช้ชีวิตที่เหลือต่อไปในนามของสวีอ้ายเย่วแล้วหรือยัง”
เมื่อเสียงของคุณตาพูดมาถึงตรงนี้แล้วไลลาก็เหมือนว่าจะคิดอะไรว่าออกก่อนหน้านี้เธอได้ทำข้อตกลงกับคุณตาปริศนาที่ยื่นข้อเสนอให้เธอมาเกิดใหม่เนื่องจากชีวิตก่อนนั้นเธอจากไปก่อนเวลาอันควรและนี่ก็เป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจในโลกหลังความตายสามารถจะมอบให้เธอได้
ข้อเสนอที่เลือกไม่ได้ในตอนแรกคือเธอต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในร่างของผู้ที่หมดอายุขัยไปตามครรลองและต้องมาอยู่ในโลกที่ไม่ใช่โลกใบที่เธอคุ้นเคยเลยแม้แต่น้อยเพื่ออะไรก็ไม่รู้และไลลาก็ไม่อยากจะหาคำตอบด้วยเพราะแค่การมาอยู่ในร่างของคนอื่นมันก็ทำให้เธอหดหู่มากพออยู่แล้ว
แต่ถ้าจะถามว่าเพราะอะไรถึงไม่ให้เธอเกิดใหม่เป็นตัวเองจริงๆ แทนจะเกิดใหม่ในร่างของคนอื่นข้อนี้เธอได้รับคำตอบว่าเพราะร่างเธอถูกทำให้ดับสลายไปก่อนเวลาจิตวิญญาณเธอจึงต้องลอยเคว้งคว้างอยู่ในที่นี้ไปจนกว่าเวลาของเธอจะหมดลงจริงๆ เพื่อไม่ให้ระบบจราจรของโลกวิญญาณนั้นรวนและด้วยความปรารถนาดีที่คิดแทนเธอว่ามันไม่น่าจะทนได้ทางเลือกที่เหลือคือมีอีกทางเดียวเท่านั้น
“สวีอ้ายเย่วคนนั้นแต่งงานและมีลูกแล้วแบบนั้นหนูจะทำตัวถูกหรือคะคุณตาขืนไปอยู่ด้วยจริงๆ แค่สองวันสามีของเธอตั้งจับได้แน่ๆ แล้วแบบนี้จะไม่ถูกหาว่าภรรยาของตัวเองผีเข้าสิงหรือไง” เท่าที่ดูคร่าวๆ โลกของหญิงเจ้าของชื่อสวีอ้ายเย่วนั้นแตกต่างจากโลกที่ไลลาเกิดมาโดยสิ้นเชิงในโลกที่ดูโบราณแบบนั้นคงยังมีความเชื่อเรื่องผีสางเทวดาอยู่มากถ้าเกิดทำให้เขาจับได้ขึ้นมาเธอน่าจะถูกหมอผีจัดการแน่ๆ
“เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาความคิด นิสัยใจคอและสิ่งต่างๆ ของสวีอ้ายเย่วจะถูกถ่ายทอดให้แม่หนูทั้งหมดแต่ในขณะเดียวกันตัวของแม่หนูไลลาก็จะไม่สูญเสียความเป็นตัวเองไปมันเหมือนกับเรามีพื้นจัดเก็บข้อมูลให้สองกอง กองหนึ่งเป็นข้อมูลสำรองส่วนอีกกองหนึ่งเป็นข้อมูลในปัจจุบันซึ่งสามารถเรียกใช้ได้ทั้งสองอย่างพร้อมๆ กัน” เสียงนั้นยังคงตอบแบบเรียบเรื่อยไม่ได้แสดงอารมณ์หรือความรู้สึกอะไรให้สัมผัสได้เลยแม้แต่น้อย
“แล้วถ้าหนูยังไม่ไม่ยอมรับร่างของสวีอ้ายเย่วล่ะคะคุณตา มันจะเป็นยังไงต่อไป”
“ถ้าหากยังไม่ยอมรับในตอนนี้แม่หนูก็แค่ต้องรอ รอจนกว่าจะมีคนที่เหมาะสมสิ้นอายุขัยอีกครั้งซึ่งไม่มีใครตอบได้เหมือนกันว่าจะต้องรอไปอีกนานแค่ไหน” เรื่องนี้ไม่มีใครเล่นเล่ห์แต่อายุขัยของมนุษย์ผู้หนึ่งนั้นไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะกำหนดให้เกิดหรือดับลงไปได้แม้แต่สวรรค์ไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องมานั่งแก้ไขความผิดกันเช่นนี้หรอก
“แต่จะได้กลับไปมีชีวิตใหม่ทั้งทีก็หาที่มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรือไงคะมองด้วยตาเปล่าก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นมีฐานะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือหนูไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกเธอแต่หนูแค่คิดว่าควรได้ไปอยู่ในร่างคนที่มีชีวิตดีกว่าตัวเองสักนิดก็ยังดีไม่ต้องถึงขั้นร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีแต่ก็ไม่ควรต้องมีสภาพแบบนั้น” ไลลากำลังคิดว่ามันไม่ต่างจากการมัดมือชกตอนตายเธอก็ไม่ได้เลือกที่จะตายแถมตอนจะไปเกิดเธอยังเลือกอะไรไม่ได้อีกเหรอทั้งๆ ที่การตายของเธอมันเป็นความผิดพลาดไม่ใช่เป็นการสิ้นอายุขัยตามที่มันควรจะเป็น
“แม่หนูเชื่อในคำที่ว่าลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตนหรือไม่หากไม่เชื่อแล้วจะลองดูสักหน่อยก็ไม่เสียงหาย สวีอ้ายเย่วจนแล้วอย่างไร นางมีชะตาต่ำต้อยแล้วอย่างไรในเมื่อทุกสิ่งมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา” เสียงปริศนายังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ ผิดกับไลลาที่เริ่มมีอาการหัวร้อนขึ้นมานิดๆ เพราะดูเหมือนคุณตาจะอยากให้เธอไปเกิดในร่างของสวีอ้ายเย่วเสียจริงๆ
“แต่ถ้าหากแม่หนูยังอยากใช้เวลาอีกนิดเพื่อตัดสินใจก็ย่อมได้เรายังมีเวลาอยู่อีกนิดหน่อย อีกสามวันข้างหน้าเราจะมาพบกันอีกครั้ง”
“อ้าว บทจะมาก็มาบทจะไปก็ไปมันดื้อๆ เลย” ไลลาที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาในความมืดบ่นอุบอิบอยู่คนเดียวและเหมือนคนที่อยู่ข้างนอกห้องจะได้ยินเพราะเพียงแค่ไม่กี่วินาทีร่างกายสูงใหญ่ของสามีสวีอ้ายเย่วก็โผล่เข้ามาในห้องพร้อมตะเกียงดวงหนึ่ง
“อ้ายเย่วเจ้าเจ็บตรงไหนหรือไม่ เหตุใดจึงตื่นขึ้นมากลางดึกเช่นนี้” สวีเฉินที่อาศัยเวลาที่ลูกและภรรยานอนหลับนั่งทำงานของตัวเองได้ยินเสียงออกมาจากห้องนอนจึงรีบเข้ามาเอ่ยถามภรรยาด้วยความเป็นห่วง
“เอ่อ พอดีว่าหิวน้ำนิดหน่อย” ไลลาพยายามเหลือเกินที่จะพูดออกมาให้มันน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ก็แอบนอนตัวเกร็งเพราะกลัวเหลือเกินว่าตัวเองจะหลุดสิ่งที่เป็นพิรุธออกไป
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปตักน้ำมาให้เจ้า เอ่อแต่เจ้าต้องดื่มน้ำยาแกช้ำในแทนน้ำไปก่อนนะท่านหมอบอกว่ามันจะช่วยให้เจ้าฟื้นตัวเร็วขึ้น” พูดจบเขาก็ไม่รอให้เธอตอบอะไรแล้วหายไปทำอะไรกุกๆ กักๆ อยู่พักหนึ่งจึงกลับเข้าห้องมาอีกครั้งพร้อมชามใส่น้ำยาแก้ช้ำในอุ่นๆ ในมือที่เมื่อส่งให้ไลลาก็รับไปดื่มรวดเดียวหมดชามเพราะความกระหายน้ำ
“ทีนี้เจ้าก็นอนได้แล้วนะพักผ่อนเยอะๆ ข้าอยู่ด้านนอกนั่งทำกับดักสัตว์อยู่ว่าจะเอาไปฝากขายในตำบลหลังเจ้าอาการดีขึ้นแล้วเราจะได้มีเงินซื้อหาอาหารดีๆ มาบำรุงร่างกายเจ้ากับซิงอีสักหน่อยจะได้แข็งแรงกันทั้งแม่ทั้งลูก”
“เอ่อ ขอบคุณมากนะ”
“มิเป็นไรเจ้าเป็นภรรยาหน้าที่ดูแลเจ้ากับลูกย่อมเป็นของข้าอยู่แล้ว นอนเถิดนะ” สวีเฉินไม่ได้โอ้เอ้รบกวนอะไรคนป่วยเขาช่วยพยุงร่างของสวีอ้ายเย่วลงนอนเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีจึงกลับไปนั่งทำงานของตัวเองต่อโดยใกล้ๆ กันนั้นมีร่างของลูกชายนอนอยู่บนที่นอนที่เขาลากออกมาปูบนพื้นเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนภรรยาที่ยังนอนป่วยอยู่บนเตียง
โดยปกติแล้วสามคนพ่อ แม่ ลูกจะนอนด้วยกันแต่หลังจากที่ภรรยาพลัดตกน้ำจนได้รับบาดเจ็บสองคนพ่อลูกก็ย้ายตัวเองมานอนที่โถงกลางบ้านเล็กๆ หลังนี้ซึ่งถ้านางยังต้องนอนพักผ่อนนานกว่านี้สวีเฉินก็ตั้งใจเอาไว้ว่าจะต่อเตียงไม้ไผ่เพื่อนำมาใช้นอนกับลูกชายชั่วคราวเมื่อภรรยาหายดีเขาก็จะยกเตียงนี้ไปให้ลูกชายใช้นั่งเล่นนอนเล่นที่หน้าบ้านแทนของที่ทำมาแล้วจะได้ไม่เสียเปล่า
แต่สิ่งที่ต้องเร่งทำในตอนนี้คือพวกกับดักสัตว์และอาวุธต่างๆ อย่างลูกธนูและลูกดอกหน้าไม้เพื่อนำไปฝากร้านขายในตำบลหลังจากที่สวีอ้ายเย่วเริ่มจะดูแลตนเองได้ไม่อย่างนั้นบ้านของเขาก็คงจะต้องขาดรายได้เช่นนี้ไปอีกนานแล้วคนที่ลำบากที่สุดคงเป็นใครไม่ได้นอกจากสวีซิงอีตัวน้อยแก้วตาดวงใจของเขา
สามวันผ่านไปไวเหมือนโกหกเมื่อไลลาเข้านอนตามปกติในขณะที่เธอกำลังเคลิ้มหลับร่างกายก็เริ่มรู้สึกล่องลอยเบาสบายและหลังจากนั้นไม่นานเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
“ครั้งนี้ได้คำตอบหรือยังแม่หนูไลลา” ไม่มีการทักทายและไร้ซึ่งอารัมภบทใดให้เสียเวลามาถึงเสียงของชายชราก็ถามเข้าประเด็นในทันที
“หนูตกลงค่ะคุณตา หนูจะใช้ชีวิตต่อไปในร่างและชื่อของสวีอ้ายเย่ว” เรื่องนี้ไลลาคิดว่าเธอทบทวนและชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียมาเป็นอย่างดีแล้ว ในหลายวันที่ผ่านมาสามีของสวีอ้ายเย่วที่มีชื่อว่าสวีเฉินนั้นดูแลเธอที่ยังต้องนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงไปพร้อมๆ กับดูแลลูกชายรวมทั้งทำหน้าที่ทุกอย่างในบ้านได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องแม้จะมีบางวันที่คนจากบ้านเดิมของผู้เป็นภรรยาและของตัวเองจะมาเยี่ยมหรือว่าทำอาหารมาให้บ้างแต่เขาก็ยังไม่ยอมละเลยเธออยู่ดี มาคิดๆ ดูมันก็คงไม่ได้มีอะไรแย่หากต้องใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายที่มีนิสัยใจคอที่ดีในระดับหนึ่งแบบนี้
แม้ช่วงนี้นางจะได้แต่นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ได้ลุกขึ้นมาจากเตียงบ้างก็แค่ตอนที่ต้องการขับถ่ายและเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ก็ยังต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสวีเฉินซึ่งในครั้งแรกๆ ไลลาก็ยอมรับว่าค่อนข้างอายแต่พอมาคิดๆ ดูแล้วร่างกายนี้เขาคงเห็นและสัมผัสมาแล้วทุกซอกทุกมุมเพราะมีลูกด้วยกันถึงหนึ่งคนก็พอจะทำให้มองข้ามความอายไปได้บ้าง
“หากเจ้าตัดสินใจแล้วหลังจากนี้สิ่งที่เคยเป็นของสวีอ้ายเย่วทั้งหมดมันจะเป็นของเจ้านะแม่หนูไลลาต่อไปก็ช่วยใช้ชีวิตให้ดีแทนนางด้วยก็แล้วก็แล้วกันนะ แม้เจ้าอาจจะเลือกที่จะเป็นใครไม่ได้แต่ข้ามั่นใจว่าสตรีที่มีความสามารถเช่นเจ้าจะพาให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรืองได้ไม่ยาก” แม้จะมั่นใจว่าไลลาจะใช้ชีวิตได้ดีมากแต่ก็อยากจะบอกเอาไว้อีกครั้งคล้ายกับต้องการจะชื่นชม
“เอ่อ แล้วถ้าหนูอยากคุยกับสวีอ้ายเย่วจะได้หรือเปล่าคะ” จะยึดทั้งร่างกาย ทั้งลูกและสามีคนอื่นไปไลลาก็อยากจะเป็นคนบอกเจ้าของเก่าเขาตรงๆ จะได้ไม่มีการมาอาฆาตแค้นอะไรกันภายหลัง
“เมื่อสวีอ้ายเย่วพร้อมที่จะไปเกิดเจ้าจะได้โอกาสนั้นในตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมเท่าไรนักแต่ไม่ต้องกลัวมันจะไม่นานจนเกินรอแน่นอน แม่หนูไลลาข้าต้องขออภัยในความผิดพลาดอันใหญ่หลวงและขอให้นับจากนี้ไปเจ้าได้ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุขและประสบความสำเร็จได้อย่างที่ใจเจ้าหวังและเราจะพบกันอีกครั้งเมื่อตอนที่หมดเวลาของตัวเจ้าจริงๆ”