บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย - คำที่ 4 ภารกิจประจำวัน โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย

รายละเอียด

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เพราะยังไม่ถึงที่ตายแต่ไลลากลับตายง่ายตายดายเพียงเพราะถูกรถประจำทางยางแตกเสยเข้ากลางลำตัวในตอนเช้าที่แสนสดใสขณะกำลังจะเดินทางออกไปขายของที่ร้านขนมไทยตามปกติแต่มันก้น่าแปลกความเจ็บปวดจากการถูกรถคันใหญ่ทับกลับไม่ได้หนักหนาอย่างที่กลัวมันเย็นวาบอยู่สักพักจากนั้นก็คล้ายว่าสตินั้นจะล่องลอยไปไกล จนเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเบื้องหน้าของเธอนั้นไม่ใช่สวรรค์หรือนรกแต่กลับเป็นชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่คมที่มีเด็กน้อยเด็กคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนแถมยังเรียกไลลาว่าแม่อีกต่างหาก


ยังไม่หายตกใจเรื่องมีลูกและมีสามีต้องกลับมาตกใจในเรื่องของฐานะครอบครัวที่เกือบจะเรียกได้ว่ายากจนแต่ในเมื่อไลลาได้โอกาสมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วเธอสัญญาต่อดวงวิญญาณของร่างซูอ้ายเย่วหญิงสาวผู้อาภัพและอายุสั้นเลยว่าต่อจากนี้จะทำทุกอย่างให้ลูกให้ผัวอยู่ดีกินดี



หมายเหตุ

นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ



กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างค่ะ

สารบัญ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 1 ไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 2 คำตอบของทุกคำถาม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 3 การปรับตัวครั้งใหญ่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 4 ภารกิจประจำวัน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 5 สำรวจลู่ทางในการทำมาหากิน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 6 ซ้อมมือก่อนลงสนามจริง,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 7 ได้เวลาตั้งแผงขายขนม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 8 เมื่อสามีต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 9 เริ่มสำรวจหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 10 ได้โอกาสแสดงฝีมือ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 11 วางรากฐานการผลิตให้มั่นคงยิ่งขึ้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 12 ได้เวลานับผลกำไร,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 13 แรงริษยา,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 14 การพบหน้าเพื่อลาจาก,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 15 สิ่งที่ถูกปิดบังซ่อนเร้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 16 ได้เวลาสร้างบ้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 17 การข่มขู่ ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 18 สามีนำเสือกลับมาบ้าน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 19 เป้าหมายสำคัญของครอบครัว,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 20 อยู่ที่บ้านก็ทำงานทำเงินได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 21 เปิดร้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 22 แค่ของเลียนแบบ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 23 เมื่อคนชั่วได้รับกรรม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 24 ใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 25 พี่ใหญ่บ้านสวีไปสร้างเรื่องอีกจนได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 26 ร่วมมือร่วมใจ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 27 เปิดร้านใหม่ก็ได้เวลาปล่อยของ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 28 พิธีปักปิ่นของสวีไฉ่ห,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 29 อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย (จบ)

เนื้อหา

คำที่ 4 ภารกิจประจำวัน

ในทุกๆ เช้าหลังจากรับประทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัวแล้วสองสามีภรรยาต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ประจำของตนเองซึ่งก็แน่นอนว่าสวีอ้ายเย่วนั้นมีงานหลักคือเลี้ยงลูกชายอยู่บ้าน ทำงานบ้านและดูแลสวนเล็กๆ ที่สามีของนางตั้งใจปลูกผักเอาไว้ให้และทางฝั่งของสวีเฉินนั้นในยามปกติที่ภรรยาไม่ได้เจ็บป่วยเขาก็มักจะเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์เอาไปขายให้กับเหลาอาหารในตำบลแต่เพราะช่วงนี้ไม่อยากไปอยู่ไกลบ้านเท่าไรนักชายหนุ่มจึงเลือกที่จะทำกับดักสัตว์ ลูกธนูและลูกดอกหน้าไม้อยู่ที่บ้านสองสามวันก็รวบรวมไปขายสักทีหนึ่งแบบรีบไปรีบกลับ

นอกจากนี้อาชีพหลักของสวีเฉินอีกอย่างหนึ่งคืออาชีพช่างไม้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากบิดาผู้มีนามว่าสวีไฉและท่านปู่ผู้ล่วงลับเรียกได้ว่าอาชีพหลักของบ้านสวีนั้นแท้จริงคือช่างไม้แต่ก็ยังคงไม่ทิ้งการทำไร่ทำนาปลูกข้าวเพื่อเก็บไว้กินกันภายในครอบครัวซึ่งตอนนี้แรงงานหลักที่ดูแลนาข้าวนอกจากสวีไฉแล้วก็ยังมีสวีเฉียนบุตรชายคนที่สามของบ้านสวีส่วนพี่ชายคนโตไม่ต้องเอ่ยถึงเพราะเอาแน่เอานอนไม่ได้แต่ถ้าหากที่บ้านขาดกำลังคนเพียงให้คนมาตามสวีเฉินก็พร้อมที่จะไปช่วยเหลือในทันที

“ซิงอีลูกไปตามแม่เจ้ามาให้พ่อหน่อยได้ไหม บอกแม่ว่าพ่อมีเรื่องอยากจะคุยด้วย” นั่งทำงานได้ไม่เท่าไหร่คนเป็นสามีก็นึกได้ถึงเรื่องสำคัญจึงเรียกลูกชายให้ไปตามภรรยามาซึ่งเจ้าก้อนแป้งน้อยก็ทำตามอย่างว่าง่ายท่านพ่อบอกอะไรมาก็รีบทำให้โดยไม่อิดออดโดยที่ตอนนี้สวีอ้ายเย่วต้องปล่อยลูกชายไว้กับสามีก็เพราะว่านางกำลังเก็บผักกาดเขียวที่โตเต็มที่อยู่หลังบ้านกลัวลูกจะเล่นซนจนมุดรั้วไม้ไผ่หลงเข้าไปในป่าเนื่องจากบ้านของนางนั้นอยู่ติดกับเชิงเขาพอดี

“ท่างแม่ ท่างพ่อเลียกขอยับ” ด้วยวัยเพียงสองขวบปีทำให้ยังออกเสียงไม่ชัดเจนและยังพูดประโยคยาวๆ ออกมาไม่ได้แต่ทั้งบิดามารดาต่างก็ตั้งใจฟังในสิ่งที่บุตรชายตัวน้อยพูดออกมาอยู่เสมอ

“ซิงอียืนรอแม่ตรงนี้ก่อนนะ ขอแม่ล้างมือให้สะอาดก่อนแล้วเราจะไปหาท่านพ่อด้วยกัน” ถ้าสามีเรียกหานางในระหว่างที่เขากำลังทำงานน่าจะเป็นเพราะมีเรื่องสำคัญที่จะพูดคุยดังนั้นสวีอ้ายเย่วจึงไม่ลังเลเลยที่จะวางมือจากสิ่งที่กำลังทำแล้วรีบล้างมือล้างไม้มาจูงลูกชายเดินมาหาสามีที่ทำงานอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน

“ท่านพี่ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ” มาถึงนางก็นั่งลงบนตอไม้ที่สวีฉันใช้ต่างเก้าอี้และไม่ลืมที่จะอุ้มลูกชายขึ้นมานั่งอยู่บนตักของตัวเองด้วย

“วันมะรืนข้าจะเข้าตำบลไปขายอาวุธและกับดักสัตว์เจ้ากับซิงอีอยากไปด้วยกันหรือไม่ถ้าจะไปข้าก็อยากให้เจ้าสำรวจข้าวของในบ้านสักหน่อยขาดอะไรเราจะได้ซื้อหามาเก็บไว้กินกัน” มือแข็งแรงที่หยาบกร้านเพราะการทำงานหนักหยุดงานที่กำลังทำอยู่ชั่วคราวเพื่อมาพูดคุยเรื่องสำคัญกับภรรยาที่เพิ่งจะหายจากอาการบาดเจ็บ

“ข้าอยากไปด้วยเจ้าค่ะ ซิงอีก็อยากไปใช้ไหมลูกเอาไว้ถ้าข้าทำผักกาดเขียวดองเสร็จแล้วจะรีบเข้าไปสำรวจเครื่องปรุงในครัวนะเจ้าคะ” แค่คิดว่าจะได้ออกไปเปิดหูเปิดตาหญิงสาวก็รู้สึกตื่นเต้นมากแล้วเหตุเพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่นางไม่เคยออกไปไหนไกลกว่ารั้วบ้านของตัวเองเลย

“ถ้าตัดผักเสร็จแล้วมาเรียกข้าอย่ายกตะกร้าใส่ผักหนักๆ ด้วยตัวเองเข้าใจหรือไม่” แม้ตะกร้าใส่ผักกาดเขียวจะมีน้ำหนักไม่กี่จินแต่สวีเฉินก็ยังไม่วางใจที่จะให้ภรรยาได้รับความกระทบกระเทือนไปมากกว่าที่เป็นอยู่ที่เขายอมให้นางลุกขึ้นทำงานบ้านได้ในทุกวันนี้ก็นับว่ายอมให้นางมากแล้วจริงๆ

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เอาล่ะเด็กดีของแม่เจ้านั่งเล่นอยู่กับท่านพ่อก่อนนะเอาไว้แม่ทำงานเสร็จแล้วเราจะเข้าไปสำรวจบ้านด้วยกัน” เมื่อพูดคุยกันเข้าใจแล้วสวีอ้ายเย่วก็เดินกลับไปทำงานของนางต่อโดยวันนี้สิ่งที่ตั้งใจจะทำคือการตัดผักกาดเขียวที่ปลูกไว้เยอะพอสมควรที่แปลงหลังบ้านมาทำผักกาดดองเก็บเอาไว้กินโดยจะแบ่งเป็นผักกาดดองเปรี้ยวส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งจะทำเป็นผักกาดดองเค็มตากแห้งที่เรียกกันว่าไช่กัวโดยเท่าที่เห็นจากความทรงจำของสวีอ้ายเย่วคนเก่านั้นนางเคยช่วยมารดาทำผักกาดดองอยู่บ่อยๆ จะมาลงมือทำเองบ้างก็ไม่แปลกอะไร

ใช้เวลาไปราวหนึ่งชั่วยามงานของสวีอ้ายเย่วก็เสร็จสิ้นผักทั้งหมดถูกล้างทำความสะอาดและดองเกลือเอาไว้เรียบร้อยอีกสองสามวันค่อยเอาออกมาจัดการทำขั้นตอนอื่นต่อไปโดยหลังจากนี้จึงจะเป็นการแยกผักกาดเขียวแบ่งเอาไปดองเปรี้ยวหรือตากแห้งกันต่อไป

ก่อนการสำรวจในครัวหญิงสาวไม่ลืมที่จะหากระดาษกับพู่กันมาใช้จดรายการต่างๆ ที่ต้องการซื้อเข้าบ้านในวันมะรืนนี้แต่หลังจากพยายามเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันแล้วมันออกมาค่อนข้างแย่นางจึงหันไปมองหาเศษไม้ฟืนแท่งเล็กๆ ที่ไหม้ดำจนเป็นถ่านมาให้เขียนแทนซึ่งมันก็ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจอยู่ไม่ใช่น้อยและก็นับว่าเป็นโชคดีที่ตัวสวีอ้ายเย่วนั้นเคยได้เรียนคัดตัวหนังสือจากบิดามาบ้างทำให้นางมีความรู้พออ่านออกเขียนได้แม้จะไม่แตกฉานเท่าไรนักก็ตาม

“ซิงอีช่วยแม่ดูหน่อยว่าของในไหนี้มีอะไรบ้างที่เหลือน้อยเจ้าก็ช่วยเปิดฝาไหทิ้งเอาไว้ให้แม่หน่อยนะ” แน่นอนว่าสวีซิงอียังอ่านตัวอักษรไม่ออกแต่ลูกนางดูเป็นว่าอะไรคือน้อยหรือมากและเพื่อฝึกให้เขาได้ช่วยงานได้ทำกิจกรรมร่วมกันนางจึงยอมเสียเวลาให้ลูกมาช่วยทำงานแทนที่จะทำคนเดียวให้มันจบๆ ไปถึงแม้อย่างหลังนั้นมันจะเป็นวิธีการที่ง่ายและรวดเร็วกว่ามากก็ตาม

สองแม่ลูกช่วยกันเปิดไหใบเล็กใบน้อยกันอยู่ราวๆ สองเค่อเห็นจะได้กระดาษในมือของสวีอ้ายเย่วก็มีรายการสิ่งของที่ต้องหาซื้อเพิ่มเติมมาประมาณหนึ่งและไหนๆ นางก็รื้อไหพวกนี้ออกมาแล้วจึงถือโอกาสทำความสะอาดชั้นวางเครื่องปรุงและชั้นเก็บวัตถุดิบในครัวเล็กๆ นี้ไปเสียในคราวเดียวกันเลย

เริ่มแรกนั้นสวีอ้ายเย่วนำผ้าเช็ดหน้าสองผืนมาคาดปิดจมูกและปากของลูกชายกับตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากนั้นนางก็ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจากชั้นให้สะอาดมากที่สุดโดยที่มีเจ้าก้อนแป้งคอยช่วยปัดๆ เช็ดๆ ในจุดที่ตัวเองพอจะทำถึงเมื่อเห็นว่าคราบฝุ่นหายไปหมดแล้วนางจึงตักน้ำจากโอ่งข้างบ้านมาครึ่งถังเพื่อใช้ซักผ้ามาเช็ดถูชั้นไม้อีกทีโดยไม่ลืมที่จะเอาผ้าที่ใช้ปัดฝุ่นก่อนหน้านั้นสลับไปซักให้สะอาดเพื่อนำมาใช้เช็ดชั้นซ้ำอีกครั้งจะได้สะอาดมากยิ่งขึ้น

ระหว่างที่ทำความสะอาดในครัวสวีอ้ายเย่วก็นึกชอบใจในตัวสามีที่เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะมีระเบียบสังเกตได้จากข้าวของทุกชิ้นที่อยู่ในครัวนั้นต่างก็มีที่ทางของตัวเองไม่ว่าจะเป็นไหและขวดกระเบื้องบรรจุเครื่องปรุงต่างๆ ส่วนวัตถุดิบในการทำอาหารไม่เว้นแม้แต่หม้อชามรามไหถ้าไม่ถูกจัดวางไว้บนชั้นก็จะถูกเก็บในตู้ที่มีบานประตูปิดมิดชิดและแม้เครื่องเรือนเหล่านั้นจะไม่ได้มาจากร้านขายเครื่องเรือนแต่ทว่านางก็ดูออกว่าทั้งหมดนั้นสวีเฉินตั้งใจทำมันเป็นอย่างมาก

ในระหว่างที่สองแม่ลูกต่างช่วยกันตั้งใจทำความสะอาดครัวเล็กๆ ในบ้านดินสวีเฉินที่เห็นว่าทั้งลูกและภรรยาต่างก็เงียบหายกันมานานจึงเดินเข้าบ้านมาดูทั้งคู่ไม่คิดว่าภาพที่เห็นคนเป็นภรรยากำลังทำความสะอาดเตาไฟส่วนบุตรชายก็ช่วยใช้มือเล็กๆ หยิบผ้ามาเช็ดทำความสะอาดอยู่ไม่ไกลกันทำเอาหัวใจคนเป็นพ่อมีความรู้สึกหวานล้ำเข้ามาแทนที่ความกังวลที่จุกในอกอยู่เมื่อครู่

“ท่านพี่อยากได้อะไรหรือเปล่าเจ้าคะ เอ หรือว่าจะอยากได้น้ำดื่มนี้ข้าทำงานจนลืมชงชาให้ท่านไปเลยเหรอเนี่ย” สวีอ้ายเย่วที่หันไปเห็นสามีเข้าพอดีจึงเอ่ยถามและพลันก็คิดออกมาได้ว่าเขาทำงานตั้งแต่เช้าแต่นางยังไม่ได้ชงน้ำชาไปให้ดื่มเลยสักกาเดียว

“ไม่เป็นไรข้าแค่เข้ามาดูจ้าสองคนเฉยๆ เห็นว่าเงียบหายมานานนักไม่คิดว่าจะได้เห็นว่าซิงอีตัวน้อยของพ่อโตพอจะช่วยงานท่านแม้ของเจ้าได้แล้วช่างเก่งกาจยิ่งนัก” ระหว่างที่เอ่ยปากชมลูกชายอยู่นั้นแน่นอนว่าสวีซิงอีต้องยิ้มกว้างจนเห็นฟันน้ำนมซี่เล็กๆ ของตัวเองแทบจะครบทุกซี่เนื่องจากในตอนนี้ผ้าปิดปากปิดจมูกที่ท่านแม่ผูกให้นั้นร่วงไปกองอยู่ที่คอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

“ซิงอีช่วยได้มากเลยเจ้าค่ะแต่ดูท่าอีกสักพักก็น่าจะทำไม่ไหวแล้วน่าจะทั้งเหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วย” ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าลูกชายลดความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวร่างกายไปหลายส่วนแถมดวงตาก็ยังเริ่มที่จะปรือและฉ่ำเยิ้มทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงเวลานอนกลางวันของเจ้าตัวแต่ก็น่าจะง่วงและเพลียจากการเล่นซนอยู่กลางแจ้งและช่วยมารดาทำงานมาหลายชั่วยาม

“ถ้าเช่นนั้นเดี๋ยวข้าพาเขาไปเช็ดตัวแล้วส่งให้นอนกลางวันส่วนเจ้าทำงานแค่นี้ก็พอแล้วเก็บเอาไว้ทำวันอื่นบ้าง เสร็จงานก็ไปล้างหน้าล้างตาแล้วนอนกลางวันเป็นเพื่อนลูกก็ดีวันนี้เรากินข้าวกลางวันกันช้าหน่อยก็ได้รอให้ซิงอีตื่นขึ้นมาก่อน” ระหว่างที่ช้อนร่างกายนุ่มนิ่มของบุตรชายขึ้นแนบอกสวีเฉินก็ยังมีแก่ใจหันไปบอกกล่าวภรรยาด้วยความเป็นห่วง

“ถ้าเช่นนั้นข้าจะชงชาเอาไว้ให้ท่านก่อนนะเจ้าคะเสร็จแล้วจึงจะไปนอนกลางวันเป็นเพื่อนซิงอี” อันที่จริงสวีอ้ายเย่วก็รู้สึกว่าร่างกายจะอ่อนเพลียอยู่เล็กน้อย เมื่อสามีบอกให้นอนกลางวันนางเป็นเพื่อนลูกจึงไม่ขัดอะไรเขาเลยสักนิดด้วยส่วนหนึ่งก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าร่างกายนี้ยังต้องได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องจึงจะกลับมาสมบูรณ์แข็งแรงได้ดังเดิม

ก่อนหน้าที่จะประสบอุบัติเหตุสวีอ้ายเย่วนั้นก็เป็นสตรีที่มีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงคนหนึ่งนางสามารถทำงานในไร่นาได้เฉกเช่นชาวบ้านทั่วไปที่เขาทำกันจนเมื่อได้แต่งงานกับสวีเฉินแล้วเขากลับเลี่ยงไม่ให้นางทำงานหนักในยามที่ครอบครัวบ้านเดิมต้องการแรงงานในการทำสวนหรือทำนาเขาก็มักจะแบ่งเวลาไปทำให้แทนเรียกได้ว่าเขาทำงานให้ทั้งที่นาของบ้านเดิมตัวเองและบ้านเดิมของภรรยาด้วย

ส่วนหน้าที่หลักของนางนั้นก็คือดูแลบ้านเพียงเท่านั้นพอมีบุตรชายคนแรกก็ดูแลแต่สวีซิงอีอย่างเดียวจนเขามีอายุได้เกือบขวบปีสามีจึงยอมปล่อยให้นางหยิบจับงานอื่นๆ ได้บ้างนับว่าเป็นวาสนาของนางที่ได้แต่งให้เขาไม่ใช่คนเป็นพี่ชายอย่างสวีฉางคนเกียจคร้านและไม่เอาไหนคนนั้น

ภารกิจประจำวันของสองสามีภรรยาบ้านสวีรองจะเสร็จสิ้นก็เมื่อตอนพระอาทิตย์ตกดินโดยหลังจากที่รับประทานอาหารเย็นด้วยกันแล้วก็จะแยกย้ายกันไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายกันที่ห้องอาบน้ำเล็กๆ ที่สวีเฉินสร้างไว้ให้นอกบ้านบ้านซึ่งเท่าที่สวีอ้ายเย่วจำได้นั้นตอนที่สร้างบ้านสามีบอกกับนางว่าเขาจำแบบมาจากบ้านของชาวบ้านในอำเภอที่มักจะแยกห้องขับถ่ายและห้องอาบน้ำออกจากกันเพื่อความสะดวกและความสะอาดซึ่งนางก็เห็นด้วยเป็นอย่างมากกับความคิดดีๆ ของคนเป็นสามีนางจึงไม่ต้องไปอาบน้ำกลางแจ้งให้อายฟ้าอายดิน