บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย - คำที่ 10 ได้โอกาสแสดงฝีมือ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก,พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ย้อนยุค,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตหาเรื่องครั้งที่1,พล๊อตหาเรื่อง,เกิดใหม่ ,นิยายรักจีนโบราณ,พี่เฉินผัวแห่งชาติ,อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย

รายละเอียด

บทจะตายก็ตายง่ายๆ บทจะเกิดใหม่ก็วาร์ปมาเกิดกันเสียเฉยๆ แต่ไหนๆ ก็ได้โอกาสมาเกิดใหม่ทั้งทีครั้งนี้ต้องเป็นคนรวยให้ได้เลยเจ้าค่ะ

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

เพราะยังไม่ถึงที่ตายแต่ไลลากลับตายง่ายตายดายเพียงเพราะถูกรถประจำทางยางแตกเสยเข้ากลางลำตัวในตอนเช้าที่แสนสดใสขณะกำลังจะเดินทางออกไปขายของที่ร้านขนมไทยตามปกติแต่มันก้น่าแปลกความเจ็บปวดจากการถูกรถคันใหญ่ทับกลับไม่ได้หนักหนาอย่างที่กลัวมันเย็นวาบอยู่สักพักจากนั้นก็คล้ายว่าสตินั้นจะล่องลอยไปไกล จนเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเบื้องหน้าของเธอนั้นไม่ใช่สวรรค์หรือนรกแต่กลับเป็นชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่คมที่มีเด็กน้อยเด็กคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนแถมยังเรียกไลลาว่าแม่อีกต่างหาก


ยังไม่หายตกใจเรื่องมีลูกและมีสามีต้องกลับมาตกใจในเรื่องของฐานะครอบครัวที่เกือบจะเรียกได้ว่ายากจนแต่ในเมื่อไลลาได้โอกาสมาเกิดใหม่อีกครั้งแล้วเธอสัญญาต่อดวงวิญญาณของร่างซูอ้ายเย่วหญิงสาวผู้อาภัพและอายุสั้นเลยว่าต่อจากนี้จะทำทุกอย่างให้ลูกให้ผัวอยู่ดีกินดี



หมายเหตุ

นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ



กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างค่ะ

สารบัญ

แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 1 ไม่รู้จะตกใจเรื่องอะไรก่อนดี,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 2 คำตอบของทุกคำถาม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 3 การปรับตัวครั้งใหญ่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 4 ภารกิจประจำวัน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 5 สำรวจลู่ทางในการทำมาหากิน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 6 ซ้อมมือก่อนลงสนามจริง,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 7 ได้เวลาตั้งแผงขายขนม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 8 เมื่อสามีต้องเข้าป่าไปล่าสัตว์,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 9 เริ่มสำรวจหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 10 ได้โอกาสแสดงฝีมือ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 11 วางรากฐานการผลิตให้มั่นคงยิ่งขึ้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 12 ได้เวลานับผลกำไร,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 13 แรงริษยา,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 14 การพบหน้าเพื่อลาจาก,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 15 สิ่งที่ถูกปิดบังซ่อนเร้น,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 16 ได้เวลาสร้างบ้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 17 การข่มขู่ ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 18 สามีนำเสือกลับมาบ้าน,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 19 เป้าหมายสำคัญของครอบครัว,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 20 อยู่ที่บ้านก็ทำงานทำเงินได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 21 เปิดร้านใหม่,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 22 แค่ของเลียนแบบ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 23 เมื่อคนชั่วได้รับกรรม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 24 ใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 25 พี่ใหญ่บ้านสวีไปสร้างเรื่องอีกจนได้,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 26 ร่วมมือร่วมใจ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 27 เปิดร้านใหม่ก็ได้เวลาปล่อยของ,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 28 พิธีปักปิ่นของสวีไฉ่ห,แม่ค้าขนมหวานเกิดใหม่เพื่อมาสร้างตำนานและความร่ำรวย-คำที่ 29 อ้ายเย่วผู้ร่ำรวย (จบ)

เนื้อหา

คำที่ 10 ได้โอกาสแสดงฝีมือ

สิ่งที่สวีอ้ายเย่วไม่กล้าคิดไม่กล้าฝันในชีวิตของการเป็นแม่ค้าในชาตินี้คือการได้รับความไว้วางใจให้จัดเตรียมขนมหวานต่างๆ เพื่อใช้ในงานสำคัญทั้งๆ ที่ในชีวิตก่อนนางรับทำมาหมดแล้วไม่ว่าจะเป็นงานขนาดเล็กหรือว่าขนาดใหญ่ด้วยความพร้อมของตัวเองและศักยภาพของลูกน้องมากฝีมือที่มีอยู่ร่วมสิบชีวิต

แต่พอมาถึงตอนนี้เมื่อท่านป้าฟ่านซูลี่มาว่าจ้างให้นางจัดขนมรับรองแขกเหรื่อในงานแต่งงานของบุตรชายคนเดียวแห่งสกุลฟ่านนางจึงต้องใช้เวลาขบคิดและตัดสินใจอยู่หลายวันจนสามีเห็นอาการคิดไม่ตกของนางต้องเอ่ยปากเตือนสติ

“หากเจ้าไม่อยากรับก็รีบปฏิเสธท่านป้าไปเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อที่ทางนั้นจะได้มีเวลาไปหาร้านขนมเจ้าอื่นมาใช้ในงานแทนแต่ถ้าหากเจ้าตั้งใจจะทำงานนี้ก็เพียงแค่มั่นใจในตัวเองและข้ากับน้องๆ จะเป็นกำลังเสริมให้” สวีเฉินนั้นอาจจะช่วยงานทำขนมได้ไม่มากแต่เขาก็รับปากได้ว่าจะเป็นแรงสนับสนุนให้ภรรยาทุกๆ ด้านเพียงแค่นางเอ่ยปากบอก

“ข้าแค่กังวลเล็กน้อยเจ้าค่ะงานของท่านป้าย่อมทำให้เสียเรื่องมิได้”

“เจ้าพูดคล้ายกับว่าขนมที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันไม่อร่อย ไม่ใช่เพียงแต่รสชาติอร่อยล้ำที่ขนมของเจ้ามีคนมาต่อแถวซื้อกันยาวเหยียดทุกวันเพราะหน้าตาของพวกมันงดงามแปลกตาทั้งตำบลนี้ข้ากล้าพูดเลยว่ามิมีร้านขนมใดมาเทียบขนมที่เจ้าทำได้ ใช่ว่าข้าจะยกยอเพียงเพราะเป็นสามีของเจ้านะอ้ายเย่วแต่เพราะขนมพวกนั้นนั้นอร่อยจริงๆ ข้าจึงกล้าพูด” สวีเฉินยังคงพูดจาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่หนักแน่นโดยแต่เดิมนั้นเขาเป็นบุรุษคนหนึ่งที่มิได้มีความนิยมชมชมชอบในรสชาติของขนมหวานแต่ขนมที่ภรรยาทำเขากลับรับประทานได้ทุกอย่างโดยเฉพาะขนมเปียกปูนและขนมชั้นที่มีรสชาติหอมมัน

“ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะบอกท่านป้าว่าข้ารับทำขนมงานแต่งงานเจ้าค่ะ” เมื่อได้กำลังใจสวีอ้ายเย่วก็ฮึดสู้หลังจากที่พูดคุยกับสามีแล้วนางก็ใช้เวลาว่างร่างหน้าตาของขนมสำหรับงานแต่งงานเพื่อเอาไว้นำเสนอแก่ท่านป้าฟ่านซูลี่เพราะนอกจากขนมนั้นจะอร่อยด้วยตัวของมันเองแล้วหน้าตาและการจัดวางเพื่อนำเสนอก็จะต้องน่าประทับใจผู้คนไม่แพ้กัน

แต่ท้ายที่สุดแล้วท่านป้าก็ยังมิได้ดูหน้าตาแบบร่างขนมอย่างละเอียดถี่ถ้วนเหตุเพราะต้องวุ่นวายจัดการเตรียมงานหลายสิ่งหลายอย่างด้วยตนเองแต่กระนั้นก็ยังไม่ลืมที่จะฝากคนมาจ่ายเงินค่ามัดจำในการทำขนมเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้นางใช้เป็นทุนไปจัดเตรียมวัตถุดิบต่างๆ เอาไว้ให้พร้อม

เนื่องจากขนมที่ต้องทำนั้นมีปริมาณค่อนข้างมากสวีอ้ายเย่วจึงตั้งใจทำขนมทั้งหมดสองส่วนคือขนมกวนที่สามารถทำล่วงหน้าได้กับขนมนึ่งที่จะทำเช้ามืดของวันงานเลยเพื่อความสดใหม่เนื่องจากในยุคนี้ไม่ได้มีตู้เย็นที่จะใช้รักษาคุณภาพของอาหารเอาไว้สดใหม่อยู่เสมอ

“ท่านพี่ ข้าต้องการให้ท่านสานถาดไม้ไผ่สำหรับใส่ขนมให้หน่อยเจ้าค่ะแล้วก็แกสลักไม้เพื่อทำพิมพ์สำหรับทำขนมด้วย” อะไรที่เตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ได้สวีอ้ายเย่วก็จัดเตรียมไปทีละเล็กละน้อยไม่ว่าจะเป็นถาดที่จะใช้เป็นภาชนะบรรจุขนมหรือว่าพิมพ์กดขนมกวนที่นางอยากได้เป็นพิเศษ

“เรื่องถาดใส่ขนมข้าสามารถทำให้เจ้าได้สบายมากแต่สำหรับพิมพ์กดขนมนั้นอาจจะต้องใช้เวลาสักนิดเพราะต้องเลือกไม้ดีๆ ที่แห้งสักนิดมันจะได้ไม่หดตัวซึ่งอาจจะหาได้จากบ้านของท่านพ่อ ข้าจะรีบไปตัดไม้ไผ่มาเตรียมไว้ก่อนและหลังจากนั้นจะไปหาท่านพ่อที่บ้าน” ที่ผ่านมาสวีเฉินเคยทำงานแกะสลักพิมพ์ขนมมาบ้างแต่ของพวกนั้นล้วนเป็นพิมพ์ขนาดใหญ่ไม่มีใครมาสั่งทำพิมพ์ขนาดแค่หนึ่งชุ่นดังที่ภรรยาเขาต้องการและถึงแม้จะไม่เคยทำมันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำมันไม่ได้สักหน่อย

“หากต้องใช้เวลาข้าขอแค่สองลายก็พอเจ้าค่ะสลับใช้ด้วยกันด้วยสีขนมที่แตกต่างก็คงพอจะตกแต่งให้งดงามได้ไม่ยาก” อันที่จริงนางต้องการพิมพ์หลายๆ แบบเพื่อความสวยงามแต่ถ้าสามีต้องใช้เวลานางก็ลดความต้องการของตัวเองลงมาได้เขาจะได้ไม่ต้องกดดันเรื่องของเวลาในการทำเวลาที่ทำงาน

“ข้าจะพยายามทำให้เต็มที่เจ้าไม่ต้องกังวล” สวีเฉินรับปากภรรยาจากนั้นก็แยกตัวไปทำงานในความรับผิดชอบของตนเองโดยช่วงนี้เขายังไม่ต้องเข้าป่าแค่อยู่บ้านทำลูกธนูกับลูกดอกหน้าไม้ไปส่งร้านเท่านั้น

อีกอย่างหนึ่งคือเมื่อเข้าป่าครั้งที่แล้วเขาล่าได้ทั้งกวางทั้งหมูป่าที่ขายได้ราคาค่อนข้างดีจากการปลิดชีวิตสัตว์ทั้งสองตัวด้วยลูกธนูเพียงดอกเดียวอีกแถมยังได้ทั้งเขากวางและเขี้ยวหมูป่าและสภาพของสัตว์ที่สมบูรณ์มาขายส่งผลให้มีรายได้เข้าบ้านมากขึ้นช่วยสมทบทุนเงินสร้างบ้านในฝันของสวีอ้ายเย่วได้ส่วนหนึ่งจึงหันมาช่วยงานของนางอย่างเต็มที่แทนการเข้าป่า

ขนมที่สวีอ้ายเย่วตั้งใจจะทำให้ท่านป้าฟ่านซูลี่ประกอบไปด้วยขนมกวนหลากสีที่สามารถทำเอาไว้ล่วงหน้าได้ทั้งฟักทอง เผือก มันเทศสีม่วงและสีส้มกับกล้วยน้ำว้าเชื่อมสีแดงสวย อีกส่วนหนึ่งคือขนมนึ่งอันได้แก่ ขนมชั้นที่นางตั้งใจจะทำเป็นรูปทรงของดอกกุหลาบหลากหลายสีสันและขนมบุหลันดั้นเมฆที่มีชื่อเป็นมงคลและอย่างสุดท้ายที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดคือขนมเปียกปูนใบเตย

“ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าสีสันสวยงามของขนมพวกนี้จะมาจากพืชใกล้ๆ ตัวพวกเราทั้งสิ้น” สวีไฉ่หงตื่นตะลึงเมื่อเห็นกรรมวิธีในการทำสีจากธรรมชาติของพี่สะใภ้ที่วันนี้ต่างออกไปจากที่ทำอยู่ทุกวันตรงที่มีสีแดงและสีชมพูเข้ามาเพิ่มเติม

“ท่อนไม้นี้เป็นแก่นของต้นฝางมีสรรพคุณในการบำรุงเลือดเมื่อจะใช้ก็เอาแก่นฝางต้มกับน้ำเคี่ยวให้งวดสักหน่อยให้ได้สีแดงเข้มส่วนสีชมพูข้าใช้กลีบดอกบานไม่รู้โรยเอามาต้มและเคี่ยวให้งวดเช่นเดียวกันหรือจะใช้กลีบดอกเฟื่องฟ้ามาทำก็ได้แต่อาจจะต้องใช้ในปริมาณมากสักหน่อย

ส่วนขั้นตอนก็การทำขนมชั้นก็ทำแบบปกติเพียงแต่ครั้งนี้เราจะไม่ตัดขนมชั้นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมอย่างที่เคยทำแต่จะสอนกรีดขนมให้เป็นเส้นแล้วลอกออกมาทีละชั้นเพื่อนำมาตกแต่งเป็นดอกกุหลาบพี่สะใภ้จะสอนเจ้าทำทีละขั้นตอนหากไม่เข้าใจตรงไหนให้ถามได้เลยอย่าปล่อยผ่าน” สวีอ้ายเย่วบอกกับน้องสาวของสามีที่มาค้างที่บ้านตั้งแต่เมื่อวานเพื่อช่วยกันทำขนมกวนเตรียมเอาไว้ส่วนในวันนี้ก็ถึงคราวที่ต้องทำขนมชั้นแล้ว

นอกจากสามีจะทำพิมพ์ขนมให้นางได้ตามความต้องการแล้วพ่อสามียังลงมือช่วยด้วยตัวเองจนในที่สุดนางก็มีพิมพ์ขนมที่เป็นรูปดอกไม้และอักษรมงคลขนาดพอดีคำกว่าสามสิบชิ้นซึ่งนับว่าเหนือความคาดหมายของนางเป็นอย่างมากโดยหลังจากนี้นางตั้งใจจะหาซื้อของเป็นการตอบแทนบ้านพ่อแม่สามีเพราะถ้าจะมอบเงินให้พวกท่านคงไม่ยินดีรับแต่เอาไว้จะปรึกษาสามีก่อนเผื่อว่าเขาจะมีความเห็นว่าควรมอบสิ่งใดให้จึงจะเหมาะสม

การทำขนมขายของสวีอ้ายเย่วนั้นใช่ว่านางจะงุบงิบทำเพียงคนเดียวแต่นางจะกระจายรายได้ให้แต่บ้านของสามีช่วยทำด้วยส่วนทางบ้านเดิมของตัวเองนางก็ขอให้มารดาช่วยปลูกพืชผักให้เพื่อที่นางจะได้รับซื้อมาอีกต่อหนึ่งโดยพืชต่างๆ นั้นนางให้มารดากำหนดสัดส่วนในการเพาะปลูกได้เองตามใจจะปลูกอะไรมากอะไรน้อยหรือปลูกในช่วงเวลาไหนก็แล้วแต่แค่ขอให้มีผลผลิตมาส่งขายให้นางอย่างต่อเนื่องก็เพียงพอแล้ว

“ถาดขนมนี้ก็งดงามนักฝีมือการสานไม้ไผ่ของพี่รองละเอียดมากเลยนะเจ้าคะแล้วยิ่งพี่สะใภ้นำใบกล้วยป่ามาตกแต่งเช่นนี้ยิ่งงดงามมากขึ้นตั้งไม่รู้กี่เท่า” สิ่งที่สวีอ้ายเย่วเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าอีกหนึ่งอย่างคือถาดใส่ขนมที่ทำจากไม้ไผ่แต่นำมาตกแต่งให้งดงามมากยิ่งขึ้นด้วยใบตองที่จับจีบสวยงามทั้งใบแก่ใบอ่อนสลับชั้นสลับสีกันได้อย่างลงตัว

ขนมกวนทั้งหลายและกระทงใส่ขนมกล้วยเชื่อมและขนมอื่นๆ ถูกจัดวางลงบนถาดด้วยความระมัดระวังโดยตอนนี้จึงเหลือเพียงขนมชั้นที่จะม้วนเป็นดอกกุหลาบที่กำลังจะถูกจัดวางลงไปเป็นอย่างสุดท้ายแต่สวีอ้ายเย่วก็ไม่ได้ตั้งใจจะใช้แต่ขนมที่สวยงามเพียงเท่านั้นแต่ขนมชั้นแบบตั้งเดิมของนางจะดูกจัดวางลงไปก่อนเพื่อใช้เป็นฐานก่อนจะวางดอกไม้ไปด้านบน

เนื่องจากต้องขนของเข้าไปส่งในตำบลเป็นจำนวนมากสวีเฉินจึงจัดการเหมาเกวียนของท่านลุงกงเสิ่นเอาไว้ล่วงหน้าให้ไปส่งถึงหน้าเรือนของท่านป้าฟ่านซูลี่ที่วันนี้มีผู้คนคึกคักกันตั้งแต่ต้นยามเหม่าเพื่อเป็นการเตรียมพร้อม

“ท่านป้าเจ้าคะขนมทั้งหมดอยู่ในกล่องแล้วนะเจ้าคะแต่มีสองถาดที่แตกต่างโดยข้าตั้งใจให้ท่านใช้ต้อนรับแขกเหรื่อผู้อาวุโสของบ่าวสาวโดยเฉพาะเจ้าค่ะ” เมื่อมาถึงบ้านที่จัดงานมงคลเจ้าของเรือนเป็นผู้ที่ออกมาต้อนรับสวีอ้ายเย่วและขนมที่นางทำมาด้วยตัวเองทั้งๆ ที่วันนี้จะมีงานยุ่งมากเท่ากับว่าผู้อาวุโสให้เกียรติร้านขนมเล็กๆ ของนางเป็นอย่างยิ่ง

“ขอบใจเจ้ามากนะอ้ายเย่ว อาเฉินแล้วก็แม่หนูไฉ่หงด้วย โอ้ เหตุใดขนมของเจ้าจึงงดงามเช่นนี้ อ้ายเย่วเจ้าเป็นนางฟ้านางสวรรค์สวรรค์โปรดข้าหรืออย่างไร” ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือความโชคดีที่กล่องใบแรกที่ท่านป้าเปิดออกมานั้นเป็นกล่องที่จัดถาดใส่ขนมแบบมีขาเป็นรูปทรงของขันโตกในโลกเก่าสำหรับใช้ต้อนรับแขกผู้อาวุโสมาให้เมื่อท่านป้าเห็นดอกกุหลาบที่ทำจากขนมก็เอามือทาบอกอุทานเสียเสียงดังเรียกสายตาให้ผู้คนที่กำลังจัดงานให้เข้ามามุงดูกันยกใหญ่

ขนมที่แต่เดิมก็ว่ามีความงดงามแล้วแต่การจัดวางมาในกระทงที่จับจีบเย็บด้วยความประณีตและถาดไม้ไผ่ที่สานด้วยความละเอียดยิ่งทำให้ขนมธรรมดาที่เคยวางขายด้วยราคาเพียงห้าอีแปะยิ่งมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเป็นห้าตำลึงทองนั้นไม่เกินจริงเลยสักนิด

“ท่านป้าเจ้าคะข้าเป็นแค่สวีอ้ายเย่วแม่ค้าขายขนมธรรมดามิใช่นางฟ้านางสวรรค์แต่อย่างใดแต่ถ้าท่านชอบใจในผลงานของข้าก็นับว่าอ้ายเย่วประสบความสำเร็จไปอีกขึ้นหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ” นางยังคงถ่อมตัวและนอบน้อมต่อผู้อาวุโสอยู่เสมอ

“ข้าพอใจมากอ้ายเย่วขนมนี้งดงามเหลือเกินกลิ่นหอมอ่อนๆ แค่สูดดมเข้าไปโดยไม่ต้องชิมก็รู้ได้แล้วว่าจะมีรสชาติหอมหวานเพียงใด นี่เป็นเงินค่าขนมในส่วนที่เหลือส่วนนี่เป็นรางวัลที่ข้าขอมอบให้พวกเจ้าอย่าได้ปฏิเสธผู้อาวุโสในงานมงคลมาๆ พวกเจ้ามารับไปแล้วข้ามีของขวัญฝากไปให้ซิงอีน้อยด้วย” นอกจากถุงเงินค่าสินค้าที่เหลือแล้วท่านป้าฟ่านซูลี่ยังแจกถุงแดงมงคลให้ทั้งสามคนอีกคนละถุงแถมยังไม่ลืมส่วนของซิงอีที่วันนี้ท่านย่าช่วยรับไปเลี้ยงชั่วคราวอีกด้วย

หลังจากรับเงินค่าจ้างแล้วสวีอ้ายเย่วก็ยังพูดคุยกับท่านป้าเพื่อแนะนำวิธีการรับประทานขนมโดยเฉพาะกล้วยเชื่อมที่ต้องราดน้ำกะทิเค็มๆ มันๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความอร่อยจากนั้นก็ขอตัวลากลับให้เจ้าของงานได้มีเวลาเตรียมการต้องรับขบวนเจ้าสาวที่กำลังจะเดินทางมาถึงภายในหนึ่งชั่วยามข้างหน้า

“ท่านพี่ข้าอยากซื้อของขวัญให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของท่านเจ้าค่ะตั้งแต่ข้าขายขนมมาพวกท่านต่างก็สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแต่ลูกสะใภ้คนนี้ยังมิเคยได้ตอบแทนอะไรพวกท่านเลย” ระหว่างที่เดินลัดเลาะไปตามทางเพื่อแวะเข้าตลาดหาซื้อของจะเป็นกลับบ้านสวีอ้ายเย่วก็เอ่ยปากพูดกับสามี

“ทุกวันนี้เจ้าก็ดูแลพวกท่านดีอยู่แล้วไม่ได้ทิ้งขว้างผู้ใดเลยไม่ว่าจะเป็นครอบครัวสามีหรือว่าครอบครัวบ้านเดิมของตนเอง”

“แต่มันไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ ช่วยข้าคิดหน่อยนะเจ้าคะว่าจะหาซื้ออะไรไปฝากพวกท่านดี” สวีอ้ายเย่วอดไม่ได้ที่จะมองค้อนสามีที่ตอบกลับนางแบบหน้าตาเฉย

“เสื้อผ้าฝ้ายเนื้อดีสักคนละชุดก็น่าจะถูกใจท่านแม่พักหลังเห็นบ่นว่าเย็บผ้าได้ฝีเข็มไม่งดงามอย่างที่เคยถ้าได้รับของขวัญเป็นเสื้อผ้าท่านแม่น่าจะถูกใจ” แม้มารดาจะยังไม่ได้ชราถึงขั้นที่สายตาฝ้าฟางแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาของนางเริ่มจะไม่คมชัดเช่นดังสาวๆ อีกแล้ว

“ถ้าเช่นนั้นไปซื้อเสื้อสำเร็จให้บ้านท่านแล้วก็บ้านข้ากันนะเจ้าคะ ไฉ่หงเจ้าก็ด้วยเลือกสีชุดสวยๆ ให้ตัวเองได้เลยพี่สะใภ้จะซื้อให้เอง”