คิดว่าโลกหมุนรอบดวงทิตย์มาโดยตลอด แต่วันนี้ 'เมฆ' รู้แล้วว่าโลกหมุนรอบ 'พี่หมื่นปี' ต่างหาก
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,หมื่นเมฆ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“มาแล้วเหรอจ๊ะ พ่อหนุ่มคลั่งรัก” เบียร์ทักขึ้น เมื่อเห็นเมฆเดินมาถึงโต๊ะประจำ ตรงหน้าคณะ
“เป็นไง หลังจากไปสิงที่คณะบริหารเช้า กลางวัน เย็น ได้อะไรบ้าง” กัสถาม
“ได้เจอ” เมฆตอบนิ่ง ๆ แค่ได้เจอก็ดีแล้วเถอะ
“เจอ แบบมึงเจอเขา หรือเขาเจอมึง แบบเราเจอกัน” กัสถาม
“เจอแบบ กูเจอเขา”
“หนึ่งอาทิตย์เต็ม ได้แค่เจอ ไม่ได้จับ ไม่ได้จีบ ไม่ได้จูบ” เบียร์ส่ายหน้าระอากับความเชื่องช้าของเพื่อน
“มึงจะจีบเขา แต่มึงเป็นใครเขาก็ไม่รู้ หน้ามึงเขาก็ไม่เคยเห็น น่าสงสารว่ะ” เบียร์ลูบหัวเมฆอย่างเอ็นดู
“ทุกอย่างมันต้องค่อย ๆ เริ่ม ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ไม่รู้จักเหรอ” เมฆปัดมือเบียร์ออกจากหัว
“แล้วมึงจะทำไงต่อ จะไปซุ่มดูพี่เขาอีกนานไหม ชักช้าโดนตัดหน้าไปก็จบนะ”
“อย่างแช่งกูกัส” เมฆหันไปทำหน้าเบื่อใส่กัส “กูมีแผน”
9.00 น.
หอสมุด
หมื่นปีเดินทำหน้าเบื่อโลกเข้าหอสมุด เนื่องจากวันนี้มีนัดทำงานกลุ่มกับเพื่อน ๆ ทั้งที่ปกติเขาไม่ชอบมาที่ ที่คนเยอะแบบนี้ แต่กลุ่มที่เขาทำงานด้วยไม่ได้มีแค่ เอิ้น กับ ธีร์ ยังมีเพื่อนอีกสามคนที่เขาไม่ได้สนิท
ทีแรกก็นัดกันไปที่คณะ แต่ธีร์มันบอกว่าร้อน สุดท้ายเลยมาจบกันที่หอสมุด แล้วก็ต้องรีบมาจองที่ด้วย มันอยากได้ที่นั่งในห้องแอร์ชั้นหนึ่ง เพราะสามารถเสียงดังได้ (ถึงจะไม่มาก) และสามารถนำอาหารเข้าไปได้ แต่ต้องแลกกับการแย่งชิงกับคนอื่นที่คิดเหมือนกัน
แต่พอหมื่นปีมาถึงกลับพบว่า เพื่อนเขายังไม่มาสักคน ยังดีที่มีโต๊ะเหลือให้นั่ง
หมื่นปี : อยู่ไหน
หมื่นปีทักไลน์กลุ่มถาม
คนละธีร์ : กำลังออกไปปป
เอิ้นเอิ้น : ไปไหนวะ
คนละธีร์ : ไอ้เอิ้น ไอ้ง่าว มึงลืมเหรอว่าวันนี้นัดทำงานกลุ่มอะ
เอิ้นเอิ้น : เออ ลืมไปเลยว่ะ โทด ๆ แด่ะรีบไป
หมื่นปี : รีบ!
หมื่นปีส่ายหน้าระอากับเพื่อน ๆ ของตัวเอง ก่อนล็อกโทรศัพท์ และเริ่มทำงานในส่วนที่ตัวเองทำได้ก่อน ขืนรอพวกมันวันนี้อาจจะไม่เสร็จ
------------------------
“เอ่อ ขอโทษนะครับ”
หมื่นปีทำงานไปสักพักก็มีเสียงทักขึ้น เมื่อเงยหน้าขึ้นประโยคแรกที่เขาคิดได้ คือ
อือ...เจออีกแล้ว
เพราะคนที่มาทักเขา คือ น้องเมฆ น้องที่พวกเพื่อนเขาพูดถึงเมื่อวาน
หมื่นปีไม่ได้ตอบอะไร แต่คิ้วที่ขมวดเล็กน้อยก็พอให้ฝ่ายตรงข้ามตีความได้ว่ามาทักเขาทำไม
“ผมขอต่อปลั๊กได้ไหมครับ” เมฆพูดด้วยเสียงสุภาพ
หมื่นปีก้มลงมองปลั๊กที่เขาเสียบต่อมา จริง ๆ มันมีอีกรูหนึ่ง แต่โต๊ะข้างหลังเขาเสียบไปแล้ว ส่วนโต๊ะข้างหน้าเขาที่น้องนั่งมันไม่มีปลั๊กให้เสียบ
หมื่นปีพยักหน้าอนุญาต
น้องเมฆยิ้มขอบคุณเล็กน้อย ก่อนต่อปลั๊ก และกลับไปนั่งทำงานของตัวเอง
------------------------
น่ารักดี
หมื่นปีคิดหลังจากเห็นรอยยิ้มเมื่อสักครู่ของน้องเมฆ
ตอนไม่ยิ้มก็หล่อดี แต่พอยิ้มกลับน่ารัก
“ยิ้มอะไรวะ”
หมื่นปีตกใจเล็กน้อย ก่อนหันไปหาธีร์ ที่พึ่งมาถึง
“กูยิ้ม?” หมื่นปีถาม
นี่เขายิ้มเหรอ ยิ้มเพราะน้องมันยิ้ม?
“เออสิ มึงยิ้ม” ธีร์ยืนยัน ถึงแม้ว่ารอยยิ้มนั้นจะไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่หมื่นปียิ้มแน่นอน
“มึงตาฝาด เริ่มทำงานได้แล้ว ตามคนอื่นมาด้วย” หมื่นปีสั่งเสียงเข้ม
เขาขี้เกียจอธิบายกับธีร์ว่าเขายิ้มทำไม เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
------------------------
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เพื่อน ๆ ที่ทำงานด้วยกันก็มาครบ งานที่ทำก็มีความคืบหน้าไปบ้าง แต่ก็ยังมีส่วนที่ต้องถกเถียงกันบ้าง
หมื่นปีที่จ้องหน้าคอมฯ มาตลอดเกือบหนึ่งชั่วโมงรู้สึกตาล้า จึงขอตัวไปร้านสะดวกซื้อของหอสมุด เขาไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ จึงเดินวน ๆ ในนั้นสักพัก ก็เลือกหยิบขนมสองสามอย่าง ไปเผื่อพวกเพื่อน ๆ ด้วย แต่ก่อนที่เขาจะไปจ่ายเงิน กลับมีร่างร่างหนึ่งเดินมาจ่ายเงินก่อนเขา
เมฆ?
น้องเมฆอีกแล้ว เมื่อกี้ก่อนเขาออกมายังเห็นว่าน้องนั่งอ่านชีทอยู่เลย
ว่าแต่ทำไมถึงรู้เหรอ
เอ่อ... ยอมรับก็ได้ว่าเหลือบดูน้องบ้าง
“สักครู่นะครับ” น้องบอกกับพนักงาน ก่อนตบไปตามกระเป๋ากางเกงด้วยใบหน้าเจื่อน ๆ ดูเหมือนว่าน้องจะลืมกระเป๋าเงิน
“คิดรวมเลยครับ” ด้วยอะไรก็ไม่รู้ ทั้งที่เป็นคนไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น แต่กลับยื่นของในมือไปวางบนเคาน์เตอร์รวมกับของน้อง
“ค่ะ” พนักงานรับคำก่อนคิดเงิน
“ขอบคุณนะครับ” น้องเมฆหันมายิ้มเหยให้กับเขา
“ผมช่วยถือครับ” น้องมันรีบหยิบขนมขึ้นถือก่อนที่เขาจะทันห้าม “ผมเมฆนะครับ ปี 1 วิทยาศาสตร์ครับ พี่...?”
รู้แล้ว รู้แล้วว่าชื่อเมฆ
“หมื่นปี ปี 3 บริหาร”
“อ่าครับ พี่หมื่นปี” น้องพูดยิ้ม ๆ “ผมช่วยถือไปที่โต๊ะนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจ่ายเงินคืน”
“ไม่เป็นไร ให้”
“จะดีเหรอครับ?” น้องถามอย่างเกรงใจ
“อือ ให้”
“ขอบคุณครับ”
ยิ้มอีกแล้ว
ไม่ใช่น้องนะ เขาเนี่ยยิ้มอีกแล้ว...
------------------------
“ผมขอต่อปลั๊กได้ไหมครับ” กัสพูดพร้อมทำท่าเลียนแบบเมฆเมื่อวาน
ตอนนี้พวกเขาสามคนมารวมกันที่หอของกัส หลังจากเมื่อวานเมฆตามพี่หมื่นปีไปที่หอสมุด
ใช่ เขาตามพี่หมื่นปีไปหอสมุด
“แผนสูงงง” เบียร์หันมาแซว
ผมยิ้มให้เบียร์เล็กน้อย
“เออ สูงจริงมึง” กัสพูดเสริม “ตามเขาไปหอสมุดเพราะได้ยินพี่เขาคุยกันว่าจะไป แถมเนียน ๆ ไปขอต่อปลั๊ก ไม่พอยังลุกตามเขาไปซื้อขนม แต่ที่พีกกว่าคือตอนขากลับมาถือขนมกลับมาให้เขาด้วยย
“เห้ยยย ยังไง ไหนเล่าซิ~” เบียร์ทำหน้าเผือกเต็มที่
“ก็...”
.
.
.
หลังจากที่เมื่อวานเมฆได้ยินว่าพี่หมื่นปีนัดกันมาทำงานที่หอสมุด เขาก็แหกตาตื่นมาตั้งแต่ หกโมงเช้า
ใช่ หกโมงเช้า
ก็เขาไม่รู้นี่น่าว่าพี่หมื่นปีจะมากี่โมง
เมฆมานั่งรอตรงโถงชั้นหนึ่งขอหอสมุด แอบหลบมุมหน่อย
สุดท้ายพี่หมื่นปีก็มาหอสมุดในเวลาเก้าโมงเช้า เขาเกือบหลับแน่ะ
พี่หมื่นปีทำหน้าเซ็ง แต่มันก็ไม่ได้กลบความหน้าตาดีของพี่เขาลงไปได้เลย พอพี่หมื่นปีเดินเข้าไปในห้องแอร์ชั้นหนึ่ง เขาก็เดินตามเข้าไปอย่างเนียน ๆ โชคดีที่มีโต๊ะว่างสองโต๊ะพอดี พี่หมื่นปีเลือกโต๊ะตัวที่ใกล้ปลั๊กไฟ ส่วนเขาก็นั่งลงตรงโต๊ะที่อยู่ตรงข้ามกับพี่เขา
เมฆหยิบชีทขึ้นมาอ่านบังหน้า ความจริงคือแอบมองพี่เขาอยู่ เมื่อเห็นว่าพี่หมื่นปีเสียบปลั๊กไฟ เขาจึงนึกอะไรดี ๆ ออก โชคดีที่วันนี้เขาเอาปลั๊กสามตามาด้วย จึงแอบเนียน ๆ ไปขอต่อปลั๊กพี่เขา
ตอนที่พี่หมื่นปีหันหน้ามาทางเขา ให้ตายเถอะ ยอมรับเลยว่าเขินสัด ๆ แต่ต้องเก๊กนิ่งเข้าไว้
“ผมขอต่อปลั๊กได้ไหมครับ” เมฆสะกดความเขิน และทักพี่หมื่นปีด้วยเสียงสุภาพ
พี่หมื่นปีพยักหน้าอนุญาต
เขิน เขิน เขิน
หน้าเขาร้อนไปหมด เขายิ้มพร้อมพูดขอบคุณ
แต่พอกลับมาที่โต๊ะก็ก้มหน้าซ่อนยิ้มแทบตาย อย่าเขินออกหน้าออกตา!!
“ยิ้มอะไรวะ” เสียงของคนที่เขาได้ยินพี่หมื่นปีเรียกว่าพี่ธีร์ดังขึ้น
เมฆจึงอดเงยหน้าขึ้นมามองไม่ได้ และเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ที่แบบถ้าไม่สังเกตจริง ๆ ก็จะไม่รู้เลยว่าพี่หมื่นปีกำลังยิ้ม
พี่หมื่นปียิ้ม พี่หมื่นปียิ้มทำไม?
คิดไปเองได้ไหม ว่าพี่หมื่นปียิ้มให้เขา งือออ
นั่งเขินไปไม่ถึงนาที กัสก็เดินเข้ามานั่งด้วย พร้อมกับชี้ไปที่โทรศัพท์ของเขา เมื่อเมฆหยิบมาดูจึงเห็นว่ากัสไลน์มา แล้วมันจะไลน์มาทำไม มันก็นั่งอยู่นี่
“อ่าน” กัสพูดแบบไร้เสียง เมฆจึงหยิบมาดู
กัสจัง : ยี้มมมมมมมมมมมมม
แก้มแตกแล้ววววววว
เมฆเงยหน้ามามองกัส
บ้า เขาว่า เขาไม่ได้ยิ้มแก้มแตกนะ แต่ถ้าเขินจนแก้มแตกนี่ว่าไปอย่าง แง
เมฆา : เกินไป
กัสจัง : มีความไปขอต่อปลั๊กก
เมฆา : เห็นด้วยเหรอ?
กัสจัง : กูมาสักพักแล้วเหอะ แต่เห็นเพื่อนจะจีบผู้ชาย เลยไม่เข้ามาทัก ขอเป็นกำลังใจแทน
เมฆเงยหน้ามามองกัสที่ยิ้มล้อ ๆ ก่อนที่กัสจะฟุบลงนอน
ใช่ นอน
เพราะที่กัสมาหอสมุดวันนี้ เพราะมาเผือกเรื่องเขาล้วน ๆ
เกือบชั่วโมงหนึ่งแล้วที่พี่หมื่นปีนั่งทำงาน คิ้วขมวด จะปวดตาหรือเปล่านะ นั่งจ้องคอมมานานแล้วไม่พักเลย เป็นห่วงจัง
“เดี๋ยวมานะ” พี่หมื่นปีบอกเพื่อน ก่อนจะเดินออกไปตรงร้านสะดวกซื้อ
“กัส” เมฆเรียกกัส ก่อนจะชี้มือไปทางร้านสะดวกซื้อ เป็นการบอกว่าเขาจะตามพี่หมื่นปีไป กัสพยักหน้ารับรู้ พร้อมยิ้มล้อ ๆ ส่งมา แต่ถามว่าเมฆสนใจไหม ก็ไม่
พี่หมื่นปีเดินวน ๆ ในร้านสักพัก สุดท้ายเขาก็เลือกขนมสองสามอย่าง แต่ก่อนที่คนโตกว่าจะเดินไปจ่ายเงิน เขาก็รีบพุ่งไปจ่ายเงินก่อน เขาแกล้งตบตามกระเป๋ากางเกง เป็นการบอกว่าเขาลืมกระเป๋าเงิน
วัดดวงไปเลยว่าพี่หมื่นปีจะช่วยไหม
ถ้าช่วย เขาจะได้ชวนคุย
แต่ถ้าไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร ถือว่าเขาได้สร้างตัวตนในสายตาคนโตกว่าแล้ว
“คิดรวมเลยครับ” ตบไปไม่นาน พี่หมื่นปีก็เอื้อมเอาของของตัวเองมาวางลงบนเคาน์เตอร์
เยสสสส!!! สำเร็จจจจ
“ขอบคุณนะครับ” เขาหันไปยิ้มอย่าสำนึกผิด “ผมช่วยถือครับ” เมฆรีบหยิบขนมขึ้นถือ วันนี้เขาต้องให้พี่หมื่นปีรู้จักเขาให้ได้
“ผมเมฆนะครับ ปี 1 วิทยาศาสตร์ครับ พี่...?” เมฆแนะนำตัว พร้อมกับเนียนถามชื่อ
“หมื่นปี ปี 3 บริหาร”
งืออ รู้แล้วครับบบ
“อ่าครับ พี่หมื่นปี” เมฆบอกยิ้ม ๆ “ผมช่วยถือไปที่โต๊ะนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจ่ายเงินคืน”
“ไม่เป็นไร ให้”
หืออ? ใจดีจังงง
“จะดีเหรอครับ?” เมฆถามอย่างเกรงใจ
“อือ ให้”
“ขอบคุณครับ”
ยิ้มอีกแล้ว
พี่หมื่นปีทำเขายิ้มอีกแล้ว สัญญาเลยว่าไอ้หมากฝรั่งอันนี้เขาจะเก็บรักษาไว้อย่างดี ถือว่าเป็นของชิ้นแรกที่พี่หมื่นปีซื้อให้!