คิดว่าโลกหมุนรอบดวงทิตย์มาโดยตลอด แต่วันนี้ 'เมฆ' รู้แล้วว่าโลกหมุนรอบ 'พี่หมื่นปี' ต่างหาก
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,หมื่นเมฆ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ยิ้มหน้าบานนนน” เสียงของเบียร์ดังขึ้นหลังจากเมฆพึ่งนั่งลงที่โต๊ะในโรงอาหาร
เมฆได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไร
“เป็นไงคะสุดหล่อของเบียร์ ไปอ่อยพี่เขาเป็นยังไงบ้าง” เบียร์จ้องเมฆยิ้ม ๆ ไม่ต่างจากกัสที่ก็จ้องเขาหวังคำตอบ
พวกนี้ชอบเผือก!
“เก็บชีทได้ เลยเอาไปคืน” เมฆตอบเบา ๆ
พอคิดถึงเรื่องที่พึ่งผ่านมาแล้ว ก็อดเขินไม่ได้
นี่ไม่ได้แค่เจอแล้ว ทั้งได้คุย ได้กินข้าว ได้นั่งใกล้ แถมพี่เขายังมาส่งอีก
เมฆคุ้ม!
“เอาชีทไปคืนยังไงให้พี่เขามาส่งได้อะ บอกหน่อยซิ” กัสมองเพื่อนอย่างไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรมากกว่าคืนชีทแน่นอน กัสเอาหัวเป็นประกัน!
“อย่าเผือกเยอะ!” ไม่อยากตอบโว้ย มันเขินเนี่ย!
“คุยไรกันคุยด้วย!” ก่อนที่กัสกับเบียร์จะได้ซักไซ้เพื่อนเมฆนั้น ชายร่างถึกนามว่า พี่ปั้น อันเป็นพี่ปี 2 พ่วงตำแหน่งพี่ในสายของเมฆโผล่เข้ามา และแทรกกายนั่งลงข้างเมฆ
“ไม่ค่ะ” เบียร์ตอบยิ้ม ๆ
“โถ่! น้องเบียร์คนสวยขา เห็นพี่เป็นคนนอกเหรอคะ” พี่ปั้นทำหน้าตาน่าสงสาร
“ครับ” กัสเป็นคนตอบพี่ปั้นแทนเบียร์ ก่อนที่ทั้งสองจะหันไปแท็กมือกัน
เมฆมองทั้งสองคนก่อนส่ายหัวอย่างระอา จริง ๆ เบียร์กับกัสไม่ได้ ไม่ชอบอะไรพี่ปั้นหรอก ออกจะสนิทด้วยซ้ำ เพราะตอนรับน้องพี่ปั้นเป็นพี่เนียน ซ้ำยังมาเนียนเป็นเพื่อนในกลุ่มพวกเขา เมฆจำได้ว่าตอนเฉลยพี่เนียน เบียร์กับกัส งอนพี่ปั้นหนักมาก
“เอาล่ะ ๆ เลิกงอนพี่ก่อนเนาะ พี่มีเรื่องมาขอร้องทุกคนน” พี่ปั้นทำตาปริบ ๆ
“เรื่องอะไรคะ ถ้าเบียร์ช่วยได้จะได้ไม่ช่วย” เบียร์บอกยิ้ม ๆ
“เบียร์~” พี่ปั้นส่งเสียงโหยหวน
“อย่าแกล้งพี่ปั้น” เมฆบอกเพื่อน มัวแต่แกล้งพี่มันแบบนี้วันนี้ก็ไม่รู้เรื่องกันพอดี
“เอ็งมันน้องรักว่ะเมฆ” พี่ปั้นตบไหล่เมฆอย่างซึ้ง ๆ
“เดี๋ยวไปเรียนสาย” เมฆพูดยิ้ม ๆ เบียร์กับกัสพากันหัวเราะจนท้องแข็ง
ผิดกับพี่ปั้นที่ทำหน้าเหมือนตัวเองเป็นสาวน้อยที่ถูกอันธพาลรุมทำร้าย ทั้งที่ไม่เข้ากับหน้าเถื่อน ๆ และหุ่นนักกล้ามของตัวเองสักเท่าไหร่
“พี่มีเรื่องขอร้อง” พี่ปั้นพูดเสียงจริงจังขึ้น ทั้งโต๊ะจึงเงียบลง “คือพี่เป็นประธานชมรมถ่ายภาพใช่ปะ แล้วที่ชมรมก็มีค่ายทุกปี แต่ปีนี้คนมันน้อยไป ทางม.ไม่อนุมัติให้ พี่เลยมาขอร้องให้พวกแกลงชื่อไปค่ายด้วยหน่อย” พี่ปั้นทำหน้าเครียดแบบที่ไม่ค่อยจะได้เห็นเท่าไหร่
ว่าแต่ชมรมถ่ายภาพก็คือชมพี่หมื่นปีนี่นา เมฆคิดว่าถ้ามีพี่หมื่นปีในชมรมคนจะต้องแย่งกันสมัครแน่ ๆ ทำไมถึงกลายเป็นว่าคนน้อยได้ล่ะ
“ทำไมคนน้อยล่ะครับ ผมคิดว่ามีพี่หมื่นปีในชมรม สาว ๆ ต้องแย่งสมัครกันจนล้นชมรมซะอีก” เมฆถามพี่ปั้นด้วยความสงสัย
“เมฆรู้ได้ยังไงว่าพี่หมื่นปีอยู่ชมรมถ่ายภาพ” พี่ปั้นหันขวับมามองเมฆ และถามด้วยท่าทีหวาดกลัว
“พี่หมื่นปีบอกครับ” เมฆตอบ
“นึกว่าข่าวหลุดมาจากไหน” พี่ปั้นทำสีหน้าโล่งใจ ก่อนพูดเสียงเบา “นี่รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ พี่หมื่นปีบอกว่า อย่าปล่อยข่าวเรื่องพี่เขาอยู่ชมรมถ่ายภาพเด็ดขาด พี่หมื่นปีอยากให้คนเข้าชมรมเพราะชอบถ่ายภาพจริง ๆ ไม่ใช่เข้ามาเพราะจุดประสงค์อื่น!” ปั้นยังจำได้ด้วยซ้ำว่าตอนพี่หมื่นปีพูดประโยคนี้หน้าตาดุแค่ไหน โดยเฉพาะตอนที่พี่มันบอกว่าถ้าข่าวหลุดไป เขาโดนเละแน่ ถึงไม่รู้ว่าโดนอะไร แต่พี่หมื่นปีก็ดูน่ากลัวเกินกว่าเขาจะลอง
เมฆมองพี่ปั้นที่ทำหน้าตาแบบกลัว ๆ ตอนพูดถึงพี่หมื่นปี ทำให้เมฆคิดถึงคนโตว่าตอนที่อยู่กับเขา ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นนะ
“แล้วไปกันทั้งชมรมเลยหรือเปล่าครับ” เมฆถาม เบียร์และกัสหันมาอย่างรู้ทัน
“ไปกันทั้งชมรมแหละ แต่พี่ปี 3 บางคนก็ยังไม่แน่ ส่วนปี 4 ก็อาจจะติดฝึกงาน ลามาไม่ได้งี้” พี่ปั้นตอบ
“แต่พวกเราไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการถ่ายรูปเลยนะพี่” กัสพูดกับพี่ปั้น
“พวกเอ็งถือว่าไปเที่ยวก็ได้นะ นะ ขอร้อง” พี่ปั้นพูดพลางทำหน้าตาน่าสงสาร
กัสกับเบียร์มองมาทางเมฆอย่างขอความเห็น เพราะ เบียร์กับกัสยังไงก็ได้อยู่แล้ว แต่เมฆไม่ค่อยชอบที่คนเยอะ ๆ อีกทั้งเมฆมีตารางชีวิตประจำวันค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว ก็เห็นมีแต่เรื่องพี่หมื่นปีเท่านั้นที่สามารถแทรกแซงตารางชีวิตประจำวันของเมฆได้
เมฆพยักหน้าตอบเพื่อนเบา ๆ
ถึงจะแอบเสียดายที่พี่หมื่นปีอาจจะไม่ไป แต่ถึงยังไงพี่ปั้นก็เป็นพี่ในสายของเขา ก็ต้องช่วยแหละ
หลังจากตอบพี่ปั้นว่าจะไป พี่แกก็ยิ้มหน้าบาน ขอบคุณ ๆ ขอบคุณ 4 ทิศไปเลย
เล่นใหญ่ชะมัด
“แล้วไปวันไหนอะพี่” กัสถาม
“วันศุกร์นี้” พี่ปั้นตอบยิ้ม ๆ
“เห้ย เร็วไปเปล่าพี่” เบียร์โวยวาย เพราะเวลาเตรียมตัวน้อยไป
“ขอโทษเว้ย คือ พี่อะไปถามมาหลายคนแล้ว ทีแรกเพื่อนพี่ก็รับปาก แต่มันพึ่งเทพี่ไป ขอโทษ ๆ” พี่ปั้นทำหน้าสำนึกผิด
เมฆส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร ส่วนเบียร์กับกัสก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจก็ได้
พอคุยกันจบทุกคนก็แยกกันไปเรียน
------------------------
ตกเย็นหลังจากเมฆเรียนเสร็จก็แวะไปกินข้าวกับเพื่อน และแยกย้ายกันกลับหอ หลังจากอาบน้ำ เมฆจะเล่นโทรศัพท์สักพักก่อนจะเริ่มอ่านหนังสือ และสรุปเรื่องที่เรียนวันนี้ เดิมทีไม่มีช่วงเล่นโทรศัพท์ แต่หลังจากเมฆตกหลุมรักคน ๆ หนึ่งเขาก็เพิ่มช่วงเวลาไถไอจีพี่หมื่นปี และ จดบันทึกสมุดคลั่งรักหมื่นปีในตารางชีวิต
วันนี้เขามีเรื่องราวมากมายจดลงสมุดคลั่งรักหมื่นปี
หมื่นปี ชื่อที่แค่นึกถึงก็ทำให้เขายิ้มราวกับคนบ้า
เมฆกดเข้าไอจีพี่หมื่นปี เห็นว่าพี่เขาพึ่งลงรูปท้องฟ้าช่วงเย็น เขากดหัวใจไป เมฆมองรูปนั้นสักพักก่อนล็อกโทรศัพท์ และเริ่มเขียนบันทึกเรื่องราวของพี่หมื่นปีวันนี้ลงในสมุดคลั่งรักหมื่นปี
ผ่านไปราวสองชั่วโมง จากที่แค่เขียนสมุดคลั่งรักหมื่นปี เมฆก็เริ่มสรุปเนื้อหาที่เรียน และทำงานที่อาจารย์สั่งจนเสร็จเรียบร้อย ตอนนี้เขาง่วงเต็มทีแล้ว เมฆเก็บของให้เข้าที่ ก่อนเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมเข้านอน
ก่อนจะนอนก็คว้าโทรศัพท์เพื่อจะเข้าไปส่งงานที่เขาทำเสร็จแล้วไปให้กัส กับ เบียร์ดู แต่แล้วเมฆก็เห็นว่ามีแจ้งเตือนไดเรกไอจีมาจากพี่หมื่นปี
อ้ากกก!!
ตั้งแต่เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนเลยนะเว้ย!!
เมฆรีบกดเข้าไปดู
Muenpee : ว่างอยู่หรือเปล่า
ตอบตอนนี้ทันมั้ย แต่จะไม่ตอบก็ไม่ได้ พี่หมื่นปีทักมาเลยนะ
Mek123 : ว่างครับ
Mek123 : ขอโทษที่ตอบช้านะครับ ผมทำงานที่อาจารย์สั่งอยู่
เมฆตอบเสร็จก็จ้องโทรศัพท์ไว้ กลัวว่าจะตอบพี่หมื่นปีช้าอีก แต่รอเพียงไม่นาน คนโตกว่าก็ตอบกลับมาราวกับว่าฝ่ายนั้นเองก็รอให้เขาตอบอยู่เช่นกัน
Muenpee : นึกว่าคุยกับแฟนซะอีก
Mek123 : ผมไม่มีแฟนหรอกครับ ชีวิตมีแต่หนังสือ
...แล้วตอนนี้ก็มีพี่หมื่นปีด้วย
แต่เอ๊ะ! นี่พี่หมื่นปีไม่ได้แอบหลอกถามว่าเขามีแฟนอยู่หรือเปล่าใช่ไหมนะ?
Muenpee : ย้ายไปที่ไลน์ไหม เผื่อเมฆทักพี่ในไดเรกแล้วพี่ไม่เห็น
Mek123 : แอดผ่านเบอร์ก็ได้ครับ
เมฆส่งเบอร์มือถือให้พี่หมื่นปี เขาคิดว่าเขารู้ว่าพี่หมื่นปีกำลังเนียนขอไลน์เขา ถ้าแบบนั้นเมฆก็เนียนแจกเบอร์ไปเลยแล้วกัน!!
ครืด
แจ้งเตือนไลน์บอกว่ามีคนแอดไลน์เมฆผ่านเบอร์ เมื่อกดเข้าไปจึงเห็นโปรไฟล์รูปท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆสีขาวลอยล่องดูนุ่มฟู เขากดรับเพื่อนแทบทันที
พี่หมื่นปีครับ : ทักครับ
เมฆา : ทักกลับครับ
พี่หมื่นปีครับ : ทำอะไรอยู่
เมฆา : ว่างครับ
พี่หมื่นปีครับ พี่หมื่นปีจะไปค่ายของชมรมถ่ายภาพไหมครับ
พี่หมื่นปีครับ : รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ
เมฆา : พี่ปั้นบอกคนน้อย เลยให้ช่วยลงชื่อไปด้วยครับ
พี่หมื่นปีครับ : พี่ไม่แน่ใจอะ ขอดูก่อนละกัน
เมฆา : ครับ
หลังจากนั้นก็เมฆก็คุยกับพี่หมื่นปีอีกพักใหญ่ และคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เขาได้คำบอกฝันดีจากพี่หมื่นปี
เมฆนอนห่มผ้าหลับตาไปด้วยรอยยิ้ม
ว่าแต่เขาลืมอะไรหรือเปล่านะ
อือ...ไม่หรอก
เบียร์เอง : มึง เมฆมันลืมเราเปล่าวะ
กัสจัง : มันอาจจะยังทำไม่เสร็จก็ได้ รอก่อน ๆ
เบียร์เอง : อือ รอก็รอ...
------------------------
วันนี้เป็นวันศุกร์
วันที่พี่ปั้นบอกให้ช่วยไปค่ายของชมรมถ่ายภาพ
ตอนนั้นตกลงว่า เมฆ กัส และเบียร์จะไป
แต่...
ตอนนี้เหลือเมฆแค่คนเดียว!!
กัสป่วย ส่วนเบียร์ถูกคุณนายแม่ลากตัวไป
เมฆไม่ได้โกรธเพื่อน เพราะทุกคนมีเหตุจำเป็น เพียงแต่ 3 วัน 2 คืน นี้ คงน่าเบื่อพอดู
ถ้าถามถึงพี่หมื่นปีล่ะก็ เงียบหายไปตั้งแต่วันนั้นที่คุยกัน
เมฆทักไปบ้างแต่พี่หมื่นปีไม่ตอบ เขาก็ไม่กล้าทักต่อ เพราะกลัวว่าคนโตกว่าจะรำคาญ
ไปที่โรงอาหารคณะบริหารก็ไม่เจอด้วย
เห้ออ!
คิดถึงพี่หมื่นปีจัง
เบียร์เอง : ขอโทษนะมึง ขอโทษจริง ๆ พ่อกูนัดนายแม่วันนี้พอดีอะ
เขาจะหย่ากันจริงจังแล้วว่ะ กูเลยต้องมาคุยด้วย เซ็ง
เบียร์ทักไลน์มาขอโทษ พ่อกับแม่ของเบียร์จะหย่ากันมาสักพักแล้ว วันนี้คงได้ฤกษ์คุยเรื่องสัญญาหย่า และข้อตกลงต่าง ๆ
ส่วนใครที่ห่วงเรื่องความรู้สึกของเบียร์แล้วล่ะก็ มันผ่านจุดเสียใจ ร้องไห้ มาหลายปีแล้ว แต่เขาว่ามันก็ยังคงมีความรู้สึกหลงเหลืออยู่บ้างแหละ
กัสจัง : กูก็ขอโทษน้า ขอโทษจริง ๆ อยู่ ๆ ก็ป่วย งงใจ
เมฆา : พวกมึงไม่ต้องขอโทษ มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกคนมีเหตุจำเป็น
กูไม่ได้งี่เง่าขนาดนั้นนะ
เมฆา : @เบียร์เอง มีอะไรก็บอกพวกกูนะ กูพร้อมรับสายมึง ไม่ต้องทำเข้มแข็งกับเพื่อนเข้าใจไหม
@กัสจัง มึงป่วยอยู่เลิกเล่นโทรศัพท์แล้วไปพักผ่อน อย่าดื้อ
เมฆตอบไลน์เพื่อนทั้งสองคนยาวในแบบที่ไม่เคยยาวแบบนี้มาก่อน ก็พวกมันชอบทำตัวให้เป็นห่วงตลอด เมฆก็อดบ่นไม่ได้
กัสจัง : ครับพ่อเมฆ
-ส่งรูป-
เบียร์เอง : ค่ะพ่อเมฆ
-ส่งรูป-
เมฆยิ้มน้อย ๆ กับรูปของเบียร์ที่เซลฟี่ตัวเองยิ้มแฉ่ง ชูสองนิ้ว ส่วนกัสก็เป็นท่าเดียวกันเพียงแต่กัสนั่งอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเป็นแบ็คกราวน์
เมฆที่มัวแต่ก้มหน้าตอบไลน์เพื่อน เงยหน้าขึ้นมาอีกทีคนก็มาที่ลานกิจกรรมเล็ก อันเป็นที่นัดหมายกันค่อนข้างเยอะแล้ว พี่ปั้นเข้ามาทักทายก่อนถามถึงกัสกับเบียร์ พอได้ยินว่าคนหนึ่งติดธุระ อีกคนป่วยก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่กลับขอโทษเมฆแทน เมฆได้แต่ยิ้มเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร พี่ปั้นคุยกับเขาอีกสักพักก่อนขอตัวไปเช็กชื่อคนในชมรม และจัดการอะไรหลาย ๆ อย่าง
ไม่นานคนก็เริ่มทยอยเอาของไปเก็บ และต่อแถวขึ้นรถ เมฆไม่ได้รีบอะไร จึงยืนรอเป็นคนท้าย ๆ เมื่อขึ้นไปบนรถเห็นว่าแถวหลังว่างทั้งแถบ เขาจึงเดินไปนั่งติดหน้าต่าง ใส่หูฟัง เปิดเพลง เตรียมนอนเต็มที่
สักพักเมฆก็รู้สึกถึงแรงยวบตรงเบาะข้าง ๆ
มีคนมานั่งข้างเขา
กลิ่นคุ้นจัง
“ขอนั่งด้วยนะ” เสียงทุ้มเอ่ย
ถึงแม้เมฆจะได้ยินเสียงไม่ชัด เพราะเพลงที่เปิดกรอกหู แต่เขาก็จำได้ดีว่าเสียงนี้เป็นของใคร เมฆหันไปมองคนที่นั่งข้าง ๆ
“พี่หมื่นปี” เมฆพูดเบา ๆ
บ้าเอ๊ย! เขาห้ามรอยยิ้มไม่ได้
“มาคนเดียวเหรอ” พี่หมื่นปีถามอะไรสักอย่างที่เขาได้ยินไม่ชัด
“ครับ?” เมฆยกมือจะดึงเอาหูฟังออก เพื่อฟังคำถามของพี่หมื่นปีอีกครั้ง
แต่ก็ช้ากว่าคนโตกว่าที่เอื้อมมือมาดึงเอาหูฟังออก ก่อนก้มหน้าลงมาใกล้ ๆ เอียงหน้าเล็กน้อย และเอ่ยคำถามอีกครั้ง
“มาคนเดียวเหรอ”
ใกล้ ใกล้เกินไปแล้วว
โอ๊ยเจ้าหัวใจ เจ้ากล้ามเนื้อขนาดประมาณ 300 กรัม ช่วยเต้นเบากว่านี้หน่อยยยย
เดี๋ยวพี่หมื่นปีได้ยินนนนนน
“ครับ พอดีเพื่อนเท” เมฆตอบเบา ๆ
“แต่พี่ไม่เทเมฆนะ” พี่หมื่นปีตอบกลับ ทั้ง ๆ ใบหน้าไม่ได้ขยับออกไป ทำให้เมฆเห็นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของคนโตกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เมฆเห็นรอยยิ้มที่ไม่ใช่เพียงแค่ยิ้มน้อย ๆ
พี่หมื่นปียิ้มทั้งปาก และตา แววตาที่มองเขามันอ่อนโยน และดูอบอุ่น
อบอุ่นจนเมฆหน้าร้อนไปหมด
นี่พี่หมื่นปียิ้ม หรือ แผ่นดินไหว
ใจเมฆสั่นไปหมดแล้ว
ใครไหวเชิญไปก่อน
ส่วนนายเมฆาคนนี้ขอสลบคาอกพี่หมื่นปีตรงนี้สักแป๊บบ
แอ่ก