คิดว่าโลกหมุนรอบดวงทิตย์มาโดยตลอด แต่วันนี้ 'เมฆ' รู้แล้วว่าโลกหมุนรอบ 'พี่หมื่นปี' ต่างหาก
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,หมื่นเมฆ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เบียร์เอง : อะไรจ๊ะ ยังไงจ๊ะ
-ส่งรูป-
เมฆเปิดรูปที่เบียร์ส่งมา มันเป็นรูปที่แคปมาจากไอจีของเขา และรูปจากไอจีหมื่นปี
เมฆา : ก็ตามนั้นอะ
กัสจัง : มึงจีบติดแล้วเหรอวะ!!!
เมฆา : ก็ไม่รู้ดิ
เบียร์เอง : กูว่านะ พี่เขาทำแบบนี้ก็แสดงว่ามีใจแล้วแหละมึง
กัสจัง : เห็นด้วย ๆ
เบียร์เอง : อีกไม่นานก็จีบติดแล้วอะดิ
เมฆา : ถ้าอย่างนั้นก็ดี
เบียร์เอง : อย่างงี้กูก็กลายเป็นของเก่าแล้วดิ
เมฆหัวเราะกับข้อความตัดพ้อของเพื่อนสาว อดไม่ได้ที่จะเล่นด้วย
เมฆา : ขอโทษนะเบียร์ เราไม่รักเธอแล้ว
เบียร์เอง : ใช่สิ คนใหม่เขาดีกว่านี่ เลิก ๆ กันไปเลย
เมฆา : อือ เลิกกันเถอะ
เบียร์เอง : กัส ไอ้เมฆมันบอกเลิกกู
กัสจัง : 5555 มาซบออกกูนี่มา
เบียร์เอง : กูไม่รักมึงแล้วเมฆ กูรักกัส
กัสจัง : กูก็รักมึง
“ทำอะไรอยู่” หมื่นปีถามคนเด็กกว่าที่ยืนรอตนอาบน้ำอยู่
เมฆเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า ก่อนหันมาตอบว่าคุยกับเพื่อน คนโตกว่าพยักหน้ารับรู้ก่อนพากันเดินกลับไปเก็บของที่ห้อง
“เมฆ”
เมฆก็หันไปตามเสียงเรียก ก็พบหมื่นปีที่เอื้อมมือหยิบเอาใบไม้ที่ติดอยู่บนผมเขาออก ก่อนจัดทรงผมยุ่ง ๆ ของเมฆให้เข้าที่
“ขอบคุณครับ”
“จับมืออีกเปล่า”
“อย่ามาหลอกแต๊ะอั๋งผมนะ” เมฆตีมือคนโตกว่าที่ยื่นมาตรงหน้าเบา ๆ
“อย่ารู้ทันดิ”
เมฆแลบลิ้นใส่หมื่นปี
“ไม่จับจริงเหรอ”
“ไม่ครับ” เมฆหันมาตอบก่อนหมุนตัวเดินกลับไปทางที่พัก โดยมีคนโตกว่าเดินตามมาข้างหลัง
------------------------
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของค่ายแล้ว ตามกำหนดการในวันนี้ชาวค่ายจะช่วยกันบูรณะโรงเรียนกัน ก่อนเดินทางกลับในช่วงบ่าย ๆ พี่ปั้นได้แบ่งงานกันเป็นส่วน ๆ สิ่งที่ชาวค่ายจะทำในวันนี้ คือ ซ่อมหลังคาห้องสมุด ทาสีกำแพง และทาสีชุดเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่น
และด้วยว่าสนามเด็กเล่นมีเครื่องเล่นไม่ได้เยอะมาก ปั้นจึงกำหนดคนทำไว้แค่ 2 คน โดยตอนที่ประกาศชื่อผู้รับผิดชอบ ก็กลายเป็นเมฆกับหมื่นปีที่รับผิดชอบส่วนนี้ ทีแรกเขาคิดว่าหน่วยก้านอย่างหมื่นปีจะได้ซ่อมหลังคาซะอีก
เมื่อจัดการแจ้งชื่อและรับอุปกรณ์มาแล้ว ทั้งสองคนก็ขนของไปที่สนามเด็กเล่น เนื่องจากบริเวณนี้ค่อนข้างไกลจากสถานที่อื่น ๆ จึงเงียบสงบ ราวกับว่าที่แห่งนี้มีเพียงแค่พวกเขาสองคน
“ผมคิดว่าหน่วยก้านอย่างพี่หมื่นปีจะได้ไปซ่อมหลังคาซะอีก” เมฆที่กำลังเปิดถังสีเอ่ยถาม
“คนเยอะไป”
“ครับ?”
“ถ้าไปตรงนู้น ก็ไม่ได้อยู่กันสองคนสิ” หมื่นปียิ้มเจ้าเล่ห์
“พี่หมื่นปีใช้อำนาจในทางมิชอบเหรอครับ” เมฆหรี่ตาจับผิด
“เปล่า ที่พี่ทำเรียกว่า ขอความเห็นใจโดยใช้ความยำเกรง”
“พี่ไปขู่พี่ปั้นมาจริง ๆ ด้วย”
หมื่นปียักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“นิสัยไม่ดีเลยครับ”
“ไม่ทำแบบนี้กับเมฆหรอก” หมื่นปีตอบแบบยิ้ม ๆ
“ไปทาสีเลยครับ” เมฆยัดถังสีที่แบ่งเรียบร้อย กับแปรงทาสีให้กับคนโตกว่า และผลักหมื่นปีไปทางเครื่องเล่น
จะบ้าตาย ตกลงว่าเขามาจีบพี่หมื่นปี หรือมาให้พี่หมื่นปีจีบกันแน่วะเนี่ย
ใช้เวลาไม่นานหมื่นปี และเมฆก็ทาสีเครื่องเล่นเสร็จทั้งสนามเรียบร้อยแล้ว น่าจะเป็นกลุ่มแรกที่ทำงานเสร็จเลยด้วยซ้ำ
“หน้าเปื้อนครับ” เมฆบอกหมื่นปีที่มีสีติดอยู่บนใบหน้า แต่หมื่นปีก็แบมือที่เปื้อนสีให้เมฆดูว่าเขาเช็ดหน้าเองไม่ได้
“งั้นไปล้าง...” เมฆที่มือก็เปื้อนเช่นกันก็ชวนหมื่นปีไปล้างหน้า แต่ก็ต้องชะงักไป เพราะคนโตกว่าก้มลงมาเช็ดหน้าตัวเองกับเสื้อบริเวณไหล่ของเขา
“หอม” หมื่นปีพึมพำกับไหล่ของเมฆ
“ก็...ก็ใช้ครีมอาบน้ำขวดเดียวกันเถอะครับ” คนเด็กกว่าตอบกลับเบา ๆ
“แต่พี่ว่าอยู่บนตัวเมฆมันหอมกว่า” คนโตกว่าพูดพร้อมกับสูดกลิ่นของหอม ๆ ของคนเด็กกว่าเข้าปอด
“ถ้าหอมมากก็ไปอาบน้ำเลยครับ จะได้ตัวหอม ๆ เหมือนกัน” พอจบประโยคเมฆใช้แปรงทาสีที่อยู่ในมือป้ายลงไปบนแขนของหมื่นปี
“เฮ้ย! มันเปื้อน” หมื่นปีรีบเด้งตัวออกจากเมฆ แต่คนเด็กว่าก็ยังไล่เอาสีมาป้ายอย่างไม่ลดละ “เขินแล้วพาลเหรอ”
“เขินอะไร ไม่เขินสักหน่อย” เมฆตอบแต่ก็ยังไม่หยุดไล่ป้ายสีใส่หมื่นปี
“ได้ คิดว่าป้ายสีพี่ได้คนเดียวเหรอ” หมื่นปีหยิบแปรงสีข้างตัวป้ายสีคืนเมฆบ้าง
“พี่หมื่นปี!”
ทั้งสองคนวิ่งไล่ใช้แปรงสีป้ายใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างสนุกสนาน กว่าจะหยุดเล่นกันได้ก็เหนื่อยหอบกันทั้งคู่ สภาพของหมื่นปี และเมฆนั้นเปื้อนกันไปทั้งตัว ทั้งสองคนสบตา และหัวเราะให้กับสภาพของอีกฝ่าย
หมื่นปีและเมฆที่เลอะเทอะไปด้วยสีเดินเอาของไปเก็บ ระหว่างทางก็เจอธีร์ที่นั่งอยู่บนหลังคาห้องสมุดตะโกนแซวลงมา
“เฮ้ย! เขาให้ไปทาสีเครื่องเล่น ไม่ใช่ทาสีกันเองเว้ย”
“ซ่อมหลังคาเฉย ๆ ก็ไม่มีใครว่าเป็นใบ้นะธีร์” หมื่นปีตะโกนตอบ
“จ้า กูมันของเก่าสู้ของใหม่ไม่ได้หรอก”
“ยุ่ง”
หลังจากบอกเพื่อนก็แตะศอกให้เมฆเดินต่อไปทางห้องน้ำเพื่อล้างสีออกจากตัว
“หือ? ยังไม่ออกเหรอ” หมื่นปีที่ล้างสีออกแล้วหันไปถามเมฆที่กำลังพยายามขัดสีออกจากแขนตัวเอง
“ยังเลยครับ พี่หมื่นปีแหละป้ายผม” เมฆหันไปค้อนคนโตกว่า
“เอ้า! เราก็ป้ายพี่นะ”
“ทำอะไรครับ” เมฆพูดอย่างตกใจ
ก็อยู่ดี ๆ พี่หมื่นปีก็มายืนซ้อนหลัง และเอื้อมมาจับมือที่กำลังล้างสีของเขา
“ก็ช่วยไง” หมื่นปีกระซิบที่ข้างหู
งือ จะช่วยก็ช่วยดิ ทำไมต้องมาโอบกันแบบนี้เล่า
มันเขินนะรู้ไหม!
กว่าจะช่วยกันล้างจนสีออกจากแขนหมด เมฆก็แทบจะระเบิดตัวตายเพราะความเขิน หมื่นปีผละออกก่อนหมุนคนเด็กว่ามาเผชิญหน้า
“เสร็จแล้ว”
“ขอบคุณครับ” เมฆก้มหน้าขอบคุณ
หมื่นปีเชยคางคนเด็กว่าให้ขึ้นมาสบตา พิจารณาหน้าที่แดงลามไปถึงหู น่าแกล้งจริง ๆ เลย
“มีอะไรครับ” เมฆถามเสียงสั่น
“หน้าเปื้อน เดี๋ยวเช็ดให้”
เมฆพยักหน้ารับคำ ก่อนหลับตาให้หมื่นปีเช็ดคราบสีบนใบหน้าตนเอง
หมื่นปีมองคนเด็กว่าที่หลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเนียนใส ขนตายาวเป็นแพ ปากสีชมพูระเรื่อดูสุขภาพดี น่าจูบ
เขาเลื่อนมือไปเช็ดสีที่เปื้อนบนหน้าคนเด็กกว่า
อือ เนียนมืออย่าที่คิดจริง ๆ ด้วย
สุดท้ายความอยากก็ชนะใจหมื่นปี คนโตกว่าค่อย ๆ เลื่อนหน้าลงไปทาบริมฝีปากลงบนริมฝีปากของคนตรงหน้า เมฆที่รู้สึกถึงความนุ่มหยุ่นที่ทาบลงมา ก็ลืมตาอย่างตกใจ แต่ก็ไม่ได้ผลักไสออกแต่อย่างใด
“พี่หมื่นปี...” เมฆเรียกคนโตกว่าเบา ๆ หลังจากหมื่นปีดึงเอาความนิ่มชื้นนั้นออกไป
“หือ?” คนโตครางรับ
“ผม...ผม ว่า...ว่า จะอาบน้ำครับ ผม ปะ... ไปเอาชุดก่อนนะครับ” พูดแค่นี้เมฆก็วิ่งไปทางที่พัก
หมื่นปีได้แต่มองตามอย่างขำ ๆ เขาไม่ได้รีบตามไป ปล่อยน้องมันให้ควบคุมสติไปก่อนก็ได้
เมฆที่วิ่งมาถึงที่พักก็ได้แต่ลูบหน้าอกข้างซ้ายตรงตำแหน่งอันมีก้อนเนื้อที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด ตอนนี้มันกำลังเต้นแรงจนเขาคิดว่าอาจจะทะลุออกมาเลยก็ได้ ถ้าถามถึงสาเหตุ ก็เพราะพี่หมื่นปีนั่นแหละ! อยู่ ๆ ก็จูบมาได้
โอ๊ย! เมฆขอยาดม!!
“เป็นอะไรเปล่าเมฆ” เอิ้นเดินเข้าที่พักมาเจอกับเมฆที่ยืนหน้าแดงหูแดงอยู่ ถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” อยากตอบกลับเหลือเกินว่าเป็นเพราะเพื่อนเอิ้นนั่นแหละ
“เอ่อ...” ธีร์มองมาที่เมฆ คิ้วขมวดเล็กน้อย เหมือนมีเรื่องอยากพูด แต่ก็ไม่พูด
“พี่ธีร์มีอะไรรึเปล่าครับ” เมฆตัดสินใจถามกลับไปแทน
“พี่มีเรื่องจะถาม” ธีร์พูดอย่าจริงจัง เมฆก็พยักหน้าเป็นเชิงว่าเชิญถามได้ครับ “คือ...”
“พี่หมื่นปีไปเล่นน้ำที่ไหนมาเนี่ย 555” ก่อนที่ธีร์เอ่ยคำถาม เสียงปั้นที่แซวหมื่นปีก็ดังขึ้นเสียก่อน
หลังจากนั้น หมื่นปี ปั้น และอีกหลาย ๆ คนก็เดินตามกลับเข้ามาในที่พัก เมฆที่เห็นดังนั้นก็รีบหยิบเสื้อผ้า และขอตัวไปอาบน้ำ
ขอหลบหน้าให้หายเขินก่อนนะ!
------------------------
พอถึงเวลาเดินทางกลับ ชาวค่ายก็พากันไปร่ำลา พร้อมขอบคุณชาวบ้านที่ให้การช่วยเหลือในช่วง 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมา หลังจากร่ำลากันเรียบร้อยก็เก็บของใต้ท้องรถ เช็กความเรียบร้อย และออกเดินทางกลับมหาวิทยาลัย
เมฆนั่งข้างหมื่นปีเช่นเดียวกับขามา แต่คราวนี้เปลี่ยนมาฟังเพลงจากเครื่องของหมื่นปีแทน รถออกมาได้สักพักคนเด็กว่าก็ฟุบหลับกับไหล่ขอหมื่นปีอย่าสบายใจ คนโตกว่าก็ได้เเต่มองยิ้ม ๆ และขยับปรับท่าทางให้เมฆได้นอนอย่างสบายใจ
หมื่นปีเหลือบตาไปมองเพื่อนที่นั่งอีกฝั่ง เขารับรู้สายตาที่มองมาของธีร์ได้สักพักใหญ่แล้ว เหมือนมีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่พูด หมื่นปีส่งสายตาเป็นเชิงถามว่ามีอะไรหรือเปล่า แต่ธีร์ก็ส่ายหัว ก่อนหันไปนอนซุกไหล่เอิ้น หมื่นปีจึงเลิกสนใจ คิดว่ามันคงจะแซวเหมือน ๆ เดิม
เมื่อมาถึงมหาวิทยาลัยทุกคนก็เริ่มเดินลงจากรถ เอาของของตนเองและทยอยกลับ
“กลับหอยังไง” หมื่นปีถามคนเด็กกว่าที่กำลังหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย “ให้ไปส่งไหม?”
“เพื่อนมารับครับ” ใจจริงเมฆก็อยากให้หมื่นปีไปส่ง แต่ว่าเบียร์มารอเขาแล้วนี่สิ
“ครับ ถึงเเล้วบอกพี่นะ” หมื่นปีบอกพร้อมกับจับผมที่ยุ่ง ๆ ของเมฆให้เข้าที่
คนเด็กกว่ารับคำก่อนเดินแยกไป เมฆเดินไปทางเบียร์ที่ยืนหรี่ตามองอย่างจับผิด
“ยิ้ม ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว” เบียร์แซวพร้อมกับเอามือมาบีบแก้มของเมฆ
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ” เมฆดึงมือเพื่อนสาวออกจากแก้ม
“บอกมานะ 3 วัน 2 คืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น” เบียร์ชี้นิ้ว “อย่าบอกไม่มีอะไร กูเห็นนะ มีจับหงจับหัวกันงี้”
“กลับ ๆ เดี๋ยวเล่า ๆ” เมฆดันหลังเพื่อนสาวขึ้นรถ
ทุกการหยอกล้อของเพื่อนทั้งสองคนอยู่ในสายตาของหมื่นปีที่มองอย่างสงสัย เมฆบอกว่าเป็นเพื่อน เขาก็จะเชื่อว่าเป็นเพื่อน เขายอมรับว่าหงุดหงิดเล็กน้อยกับการถึงเนื้อถึงตัว อีกทั้งรอยยิ้มกว้าง ๆ ของคนเด็กกว่าที่มอบให้กับคนที่น้องเรียกว่าเพื่อน
หมื่นปีหวง!
หวง!