คิดว่าโลกหมุนรอบดวงทิตย์มาโดยตลอด แต่วันนี้ 'เมฆ' รู้แล้วว่าโลกหมุนรอบ 'พี่หมื่นปี' ต่างหาก
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,หมื่นเมฆ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“เดทแรกเป็นไงจ๊ะ” เบียร์แซวขึ้นทันทีที่เดินเข้าถึงตัวเมฆเพื่อนรักที่นั่งอ่านชีทอยู่ตรงโต๊ะประจำในโรงอาหาร
“เดทอะไร แค่ไปกินข้าว” เมฆตอบพลางทำหน้าเซ็ง จะมีสักครั้งไหมที่เพื่อนสาวคนสวยจะไม่แซวเขา
“ไหน ๆ เอามือมาดูซิ” ไม่พูดเปล่า เพื่อนสาวยังเอื้อมมือมาจากอีกฝั่งของโต๊ะมาคว้ามือเมฆไปดู
“ล้างไปแล้วไหมล่ะ” พลาดจริงเชียว ไม่น่าถ่ายรูปมือที่หมื่นปีเขียนไว้ว่าจองแล้วลงกลุ่มเลย
“ก็นึกว่าจะไม่กล้าล้างซะอีก”
ถ้าไม่รู้จักกัน เมฆก็คงคิดว่าเบียร์เป็นหมอดูซะแล้ว รู้ได้ไงว่าเขาไม่กล้าล้าง แต่พออาบน้ำแล้วมันก็ถูกล้างไปเอง รู้แบบนี้ใช้ปากกาเคมีเขียนไปซะก็ดี
“กัสอะ?” เมฆถามหาเพื่อนอีกคนที่ยังไม่มา
“กลับไปนอนบ้านใหญ่อะ คงมาช้าหน่อย”
เมฆพยักหน้ารับรู้
“แล้วนี่เมื่อไหร่จะพาพี่หมื่นปีมาเปิดตัว”
“เปิดตัวอะไร ยังจีบไม่ติดเลยเถอะ”
“พ่อขา พ่อไปนอนหอเขามาแล้ว เดทก็เดทแล้ว โชว์หวานลงไอจีก็ทำแล้ว นี่ไม่เรียกคบเหรอคะ?!”
“ที่นอนค้างเพราะพี่เขาเมาไปส่งไม่ไหว แล้วที่ออกไปด้วยกันก็แค่ไปกินข้าวเหอะ” เมฆตอบทั้งที่หน้าแดงหูแดง
“จ้า เชื่อจ้าาา” เบียร์ลากเสียงยาวอย่างไม่เชื่อ
“เอางานไปดูเลย” เมฆแก้เขินด้วยการส่งใบงานให้เพื่อนสาว ก่อนกดเข้าแชทของพี่หมื่นปีที่พึ่งทักมาบอกว่าถึงห้องเรียนแล้ว
“เหม็นความรักว่ะ” กัสที่มาถึงสักพักแล้วเอ่ยแซวขึ้น
“มึงมาตอนไหนเนี่ย?” เมฆทำหน้าสงสัย
“สักพักแล้วเถอะ ใช่ซี้~ กูไม่สำคัญเท่าคนในแชทนิ่”
“ทำงานไปเลย” เมฆพูดเสียงดุ
“เตง พ่อเมฆดุเค้าง่ะ” กัสหันไปอ้อนแฟนสาว พร้อมคล้องแขน และไถหัวไปบนไหล่ของเบียร์
“ไม่เป็นไร ๆ เตงสำคัญสำหรับเขาก็พอแล้ว” เบียร์วางปากกาแล้วหันมาลูบหัวลูบหางแฟนหนุ่มราวกับปลอบเด็กน้อย
เมฆที่มองอยู่ก็ได้แต่ส่ายหัวไปมา พลางคิดว่าใครกันแน่ที่ควรเหม็นกลิ่นความรักน่ะ!
------------------------
“ไปกินข้าววว” กัสตะโกนขึ้นหลังจากอาจารย์บอกเลิกคลาส อาจารย์ที่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องไปไหนก็มองมาทางพวกเขาอย่างยิ้ม ๆ เมฆเองก็หันไปยิ้มอย่างขอลุแก่โทษ
“ไม่เกรงใจอาจารย์เลย” เมฆหันมาดุกัส เจ้าตัวจึงหันไปยิ้มเหย ๆ ให้กับอาจารย์อีกคน
“ว่าแต่ไปกินข้าวไหน อยากไปลาบอุบลอะ อยากกินแกงส้มชะอมไข่ ตำซั่วแซ่บ ๆ” เบียร์เสนอร้านอาหารอีสานเจ้าประจำ ที่พอตกลงกันไม่ได้ว่าจะกินอะไร ก็จะจบที่ร้านนี้ทุกที
“มึง คือ พี่หมื่นปีชวนไปกินที่บริหารอะ” เมฆเอ่ยขึ้นเบา ๆ หลังจากเห็นข้อความของคนโตกว่าที่พึ่งส่งมา
“อะ ไปสิจ๊ะ เพื่อนจะแนะนำแฟนให้รู้จัก” เบียร์เอ่ยแซว
“ก็บอกว่ายังจีบไม่ติดไง!” เมฆเถียงด้วยหน้าที่ขึ้นสี
------------------------
ทั้งสามคนกระเตงกันขึ้นรถประจำทางของม. ไปที่คณะบริหาร เมฆเดินเข้าไปยังโต๊ะของหมื่นปี ซึ่งที่โต๊ะก็มี เอิ้นกับธีร์นั่งรออยู่แล้ว คนเด็กกว่าทั้งสามคนยกมือไหว้ทักทายพี่ ๆ ก่อนสอดตัวนั่งบนโต๊ะด้วย โดยเมฆนั่งข้างหมื่นปี ประกบอีกข้างด้วยเบียร์ ส่วนกัสก็นั่งฝั่งตรงข้าม ข้าง ๆ กับธีร์ และเอิ้น
พอนั่งแล้ว ยังไม่ทันที่เมฆจะแนะนำใคร เบียร์ก็แนะนำตัวเองขึ้นก่อน
“เบียร์ค่ะ เป็นลูกสาวพ่อเมฆ” เบียร์กล่าวอย่างร่าเริง
“กัสครับ เป็นลูกเขยพ่อเมฆ” กัสก็กล่าวตาม
ไอ้พวกนี้นี่...
ทั้งโต๊ะที่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะกันไปหมด
เมฆเป็นพ่อ แล้วไอ้หมื่นปีเป็นอะไรล่ะ” ธีร์ถามอย่างนึกสนุก
“เป็นคนที่พ่อชอบค่ะ” เบียร์ตอบแล้วหันไปแท็กมือกับกัส
ธีร์กับเอิ้นก็หัวเราะกันไม่หยุด คนที่พ่อชอบก็ถึงกับยกยิ้มกับมุกของพวกเด็ก ๆ ส่วนคนถูกยกเป็นพ่อก็หูแดงหน้าแดง ไปตามระเบียบ
“พี่ชื่อธีร์นะ” ธีร์ที่หัวเราะจนพอใจก็เอ่ยแนะนำตัว
“พี่ชื่อเอิ้น” เอิ้นก็กล่าวตาม
“เรื่องที่หัวทิ่ม พี่ขอโทษนะ ขอโทษทุกคนเลย” ธีร์กล่าวกับเด็กตรงหน้าทั้งสามคน
ทั้งสามส่ายหน้าบอกไม่เป็นอะไร พวกเขาก็ไม่ได้โกรธอะไร เพราะจริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่ธีร์ที่เข้าใจผิด
“งั้นเอางี้ เดี๋ยวเย็นวันนี้พี่เลี้ยงชาบูทุกคนเลย” ธีร์ตบอกตนเองเบา ๆ
“กูด้วยเหรอ” เอิ้นมองตาเป็นประกาย หมื่นปีเองก็เอียงคอชี้มือเข้าตัวเอง
“แค่น้องเว้ย พวกมึงจ่ายเอง” ธีร์ใช้มือทั้งสองข้างโบกหัวเพื่อนของตนไปหนึ่งที
“ดีลค่ะ”
“ดีลครับ”
กัสและเบียร์ที่ชอบของฟรีก็ตอบด้วยตาเป็นประกาย หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปซื้อข้าว เมฆเดินมากับหมื่นปี แล้วก็ซื้อข้าวที่ร้านเดียวกัน กินเหมือนกัน
“เลิกเรียนแล้วให้พี่ไปรับไหม?” หมื่นปีหันไปถามเมฆที่กำลังเก็บของเตรียมกลับไปเรียนที่คณะ
“เดี๋ยวผมไปกับเบียร์ก็ได้ครับ” คนเด็กกว่าตอบยิ้ม ๆ
“งั้นเจอกันที่ร้านนะ”
“ครับ”
ธีร์มองสองสามีขึ้นหิ้งที่ยืนร่ำลากัน ไม่ยอมไปไหนสักที เอาแต่มองกันไปมา ธีร์จึงหันไปส่งซิกให้เอิ้น ซึ่งอีกฝ่ายก็รู้ใจเพื่อนตัวเล็ก วิ่งไปล็อกคอหมื่นปี
“มองกันจะท้องแล้ว ไปเรียนสักทีจะสายละเนี่ยย”
หมื่นปีก็ได้แต่พยักหน้าเซ็ง และเดินตามเพื่อนไป คนเด็กกว่าก็โบกมือหยอย ๆ ให้
“ตามไปเรียนกับเขาด้วยเลยไหมอะ” กัสเข้ามากอดคอ
“คนมีความรักอะเนาะ” ตามด้วยเบียร์
“เลิกแซวสักที!” เมฆดึงตัวออกจากเพื่อน แล้วเดินนำหน้าออกไปโดยมีเพื่อนหัวเราะตามหลัง
ถามว่าเมฆรำคาญเพื่อนเหรอ?
เปล่าหรอก มันเขินต่างหากล่ะ!!
------------------------
กัส เบียร์ และเมฆไปถึงที่ร้านชาบูก่อน ทั้งสามจึงเข้าร้านไปจองโต๊ะ กัสก็นั่งกับเบียร์ แล้วให้เมฆนั่งอีกฝั่งคนเดียว รอไม่นาน หมื่นปี และผองเพื่อนก็เดินเข้ามา ธีร์ดันให้หมื่นปีเข้าไปนั่งข้างเมฆ ก่อนหย่อนตัวนั่งส่วนเอิ้นก็นั่งข้างกัส
“สั่งอะไรกันรึยัง” ธีร์ถาม
คนอายุน้อยกว่าทั้งสามส่ายหน้า บอกว่ารอพวกพี่ ๆ มาก่อน ธีร์จึงเรียกพนักงานมาตั้งหม้อ และสั่งของ
“สุกแล้ว” หมื่นปีตักหมูหมักให้เมฆ
“ขอบคุณครับ” เมฆยิ้มรับ ก่อนคีบหมูจิ้มน้ำจิ้มกิน
“ค่าหมูครับ” คนเด็กกว่าหันไปแกะกุ้งให้หมื่นปี แถมด้วยหมึก และปลาที่สุกแล้ว
“แกะทำไมครับมือเปื้อนหมด” หมื่นปีดุเมฆ ก่อนหยิบทิชชูมาเช็ดมือให้
“ก็อยากแกะให้นี่นา” เมฆพูดเสียงอ้อน หมื่นปีจึงโยกหัวคนเด็กกว่าเบา
“เหม็นความรัก” เบียร์ที่มองสองคนตรงข้ามมุ้งมิ้งกันพูดขึ้นเบา ๆ แต่พอหันมาจะคุยกับแฟนตัวเองบ้างก็เห็นว่ากัสเขี่ยผักที่เธอตักให้ทิ้ง “ตัวเองเขี่ยผักทำไม”
“ก็เค้าไม่ชอบกินผักอะ” กัสเกาะแขนเบียร์อ้อน
“เค้าให้กินก็ต้องกิน กินชิ้นนี้แล้วเค้าจะไม่ตักให้อีก”
“แฟนเค้าน่ารักที่สุด” กัสไถหัวไปกับไหล่แฟนคนสวยของตัวเอง
เบียร์ได้แต่คิดว่าตัวเองมีแฟน หรือมีลูกกันนะ แต่มันรักไปแล้ว จะทำอะไรได้ล่ะ
“กูว่า คนที่เหม็นความรักควรเป็นกู” ธีร์ที่มองสองคู่รักก็ได้แต่บ่นขึ้นมา
“แดกไป ไม่ต้องเสือกเรื่องของเขา” เอิ้นดุ ก่อนยื่นหมูสไลด์ที่สุกแล้วให้
“พี่จะไปเอาน้ำ ใครเติมน้ำบ้าง” เอิ้นที่กำลังจะลุกไปเติมน้ำลุกขึ้น
“ผมไปด้วยครับ” เมฆเอ่ย ทำท่าจะลุกไป แต่ก็ช้ากว่าเพื่อนของตัวเองทั้งสองคน
“กูก็จะไปเอาน้ำ มึงเอาเหมือนเดิมเนาะ” เบียร์พูดจบก็คว้าแก้วเมฆมาถือไว้ และลากกัสออกไปส่วนธีร็คว้าแก้วหมื่นปีและลากเอิ้นไปด้วย สรุปว่าทั้งโต๊ะจึงเหลือแค่เมฆกับหมื่นปี
นี่มันจงใจชัด ๆ
“เพื่อนเมฆน่ารักดี”
“ครับ แต่บางทีก็กวนไป”
“ไม่ต่างกับเพื่อนพี่หรอก” ทั้งสองหันมาหัวเราะให้กัน
“เมฆเอาอะไรอีกไหม” หมื่นปีหยิบกระดาษเมนูขึ้นมาถาม
“หมื่นปี 1 ที่ครับ” เมฆเท้าแขนลงบนโต๊ะ ประสานมือรองใต้คาง พร้อมเอียงหน้ามองคนโตกว่า
หมื่นปีที่กำลังจะเขียนเมนูเพิ่มถึงกับชะงัก เงยหน้าขึ้นมาสบตาคนเด็กกว่าที่มองตนอยู่ก่อน มีใครบอกเมฆไหมนะว่าถ้าทำท่าแบบนี้ แล้วมันจะทำร้ายคนอื่นมากแค่ไหน อย่างน้อยใจหมื่นปีคนนี้ก็บางไปหมดแล้ว
“ใครสอนให้ทำแบบนี้”
“ไม่น่ารักเหรอครับ”
“มันหล่อมากต่างหาก แต่...พี่ชอบคนหล่อนะ”
“อืมม เหมือนผมเลยผมก็ชอบคนหล่อ” เมฆพูดโดยไม่ละสายตาจากหมื่นปี
“เลิกจีบได้แล้ว” คนโตกว่าดีดหน้าผากเมฆเบา ๆ
“รำคาญผมแล้วเหรอ” เมฆลูบตรงที่หมื่นปีดีด พลางทำหน้าหงอย
“ไม่ได้รำคาญ” หมื่นปีเอ่ยเสียงจริงจัง “แต่บอกชอบก็บอกแล้ว จีบก็จีบแล้ว จองก็จองแล้ว จูบก็จูบแล้ว ดังนั้น…”
หมื่นปีค่อย ๆ เคลื่อนหน้าไปกระซิบข้างหูของคนเด็กกว่าเบา
“เป็นแฟนกันได้แล้ว”
------------------------
-เป็นแฟนกันได้แล้ว-
หลังจากหมื่นปีพูดคำนี้เสร็จคนเด็กว่าเขินจนเกือบจะไปไม่เป็น พอคนที่ลุกไปกลับมาก็เห็นเพียงแต่ หน้า และหูแดง ๆ ของเมฆ
จนทุกคนกินกันอิ่มจนแทบไม่แรงลุก ก็พากันไปจ่ายเงิน เอิ้นรีบลากธีร์ขึ้นรถ ส่วนเบียร์กับกัสก็ฝากฝังเพื่อนไว้กับหมื่นปี ก่อนพากันวิ่งจู๊ดหายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่เมฆกับหมื่นปีที่ยืนเคว้งกันอยู่หน้าร้าน
“ไปครับ พี่ไปส่งที่หอ” หมื่นปีดึงมือคนเด็กกว่าไปรถของตัวเอง เมฆที่เดินตามแรงจูงก็เอาแต่มองความอบอุ่นที่กำลังเกาะกุมมือของตัวเองอยู่
------------------------
“ขอบคุณครับ” คนเด็กกว่าเอ่ยขอบคุณเมื่อรถของหมื่นปีจอดลงตรงหน้าหอของตนเอง
“แล้วคำตอบพี่ล่ะ”
“ครับ?”
“ที่บอกให้เป็นแฟนกันได้แล้วไง”
“งื้อ พี่หมื่นปี ผมเป็นคนจีบก่อน ก็รอให้ผมขอสิครับ”
“ถ้ารอ แล้วเมื่อไหร่จะขอล่ะ”
“ก็...”
“พี่ไม่รอแล้ว”
“ใจร้อนเหรอครับ?”
“อือ กลัวไม่มีแฟน ว่าไงครับ?”
“ก็...ครับ”
“หือ?”
“เป็นแฟนกันได้แล้วครับ”