คิดว่าโลกหมุนรอบดวงทิตย์มาโดยตลอด แต่วันนี้ 'เมฆ' รู้แล้วว่าโลกหมุนรอบ 'พี่หมื่นปี' ต่างหาก
รัก,ชาย-ชาย,ผู้ใหญ่,วัยว้าวุ่น,ไทย,หมื่นเมฆ,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เมื่อถึงเวลานัดทุกคนก็มาเจอกันที่หน้าร้าน Million ที่ดูเหมือนเป็นร้านเหล้าทั่วไป แต่การตกแต่งที่เน้นสีสันสดใส น่ารัก ดูเหมือนคาเฟ่มากกว่า ร้านมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นโต๊ะ เคาน์เตอร์บาร์ และเวทีเล็ก ๆ ชั้น 2 เป็นห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่ต้องการจัดเลี้ยง มีจำนวน 5 ห้อง ส่วนชั้น 3 เป็นห้องทำงานของพี่หมื่นปี มีห้องของพี่แสน และหุ้นส่วนของพี่แสนอีกคนด้วย เวลาตอนนี้ประมาณ 3 ทุ่ม คนเริ่มเต็มร้าน แต่หมื่นปีให้คนจองโต๊ะไว้ให้แล้ว
พอเข้าร้านมาหมื่นปีก็ขอตัวขึ้นไปห้องทำงานก่อน ตนโตกว่าชวนแฟนหนุ่มขึ้นไปด้วย แต่เมฆปฏิเสธไป เพราะไม่อยากขึ้นไปกวน เมื่อถึงโต๊ะทุกคนก็พากันสั่งเครืองดื่ม และกับเเกล้ม
สักพักเมฆก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ เมื่อทำธุระเสร็จก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถ ดีที่เขาพกกุญแจรถพี่หมื่นปีติดตัวมาพอดี
เด็กหนุ่มเดินมาเปิดรถเอาของเรียบร้อย แต่เมื่อหันกลับไปดันเจอกับร่างของหญิงสาวที่ดูเหมือนกำลังเมาได้ที่ ร่างบางเดินซวนเซ เหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่
“เห้ย! คุณ” ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษเต็มร้อยทำให้เมฆพุ่งตัวไปรับร่างหญิงสาวที่กำลังจะหน้าคะมำวัดพื้น “เป็นอะไรไหมครับ”
“ไม่ อึก ไม่ค่ะ” หญิงสาวตัวอ่อนซบเมฆราวกับคนหมดแรง
“เห้ย! ทำอะไรแฟนกูวะ” ก่อนเขาจะได้ตัดสินใจทำอะไร ก็โดนกระชากอย่างแรง หญิงสาวในอ้อมแขนร่วงลงไปกองกับพื้น เหมือนจะมีแผลถลอกด้วย แต่ชายที่อ้างตัวเป็นแฟนกลับไม่สนใจ
“เธอเมา ผมแค่ช่วยครับ”
“ตอแหล! อีนี่ก็เมาแล้วอ่อยไปทั่ว”
“ไม่ใช่นะพี่” หญิงสาวพยายามช่วยพูด มือก็เกาะเกี่ยวขากางเกงของแฟนตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่ฟัง ง้างหมัดเตรียมฟาดหน้าเมฆ เขาที่ไม่สู้คน ความสามารถในการแตะต่อยเท่ากับศูนย์ เตรียมจะตะโกนขอความช่วยเหลือ
แต่แล้วร่างของชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรง เมื่อมองไปที่ต้นเหตุก็พบกับผู้ชายตัวเล็ก น่าจะสูงประมาณ 160 กว่า ๆ ขาข้างซ้ายที่ประเคนให้กับคนที่ล้มอยู่ยังไม่ได้เอาลงเลยด้วยซ้ำ
“เสือกอะไรวะ” คนที่ล้มอยู่ตะโกนด่า
“อยากเสือก มีอะไรไหม ถุย ตัวใหญ่ซะเปล่า แต่ทำร้ายคนไม่มีทางสู้กับผู้หญิง” คนตัวเล็กที่ดูดี ๆ ก็น่ารัก ตามไปเหยียบอก “คนมีแฟนแล้วไม่ควรยุ่ง มึงไม่รู้เหรอ”
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แฟนผมครับ” เมฆที่ประคองหญิงสาวลุกขึ้น รีบปฏิเสธทันที
“งั้นมึงไปยุ่งกับแฟนมันเหรอ” คนตัวเล็กหันมาถามเมฆ
“เปล่าค่ะ คือฉันทะเลาะกับแฟน เอ่อ…ผู้ชายที่คุณเหยียบอยู่น่ะค่ะ แล้วฉันก็เมาด้วย พอเดินมาเหมือนจะล้ม คุณคนนี้เขาช่วยไว้ แฟนฉันก็เลยเข้าใจผิดค่ะ”
“ไอ้นี่เป็นแฟนเธอเหรอ รีบเลิกเลยนะ แฟนล้มยังไม่ช่วย เสือกแต่จะตีชาวบ้าน” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับกระทืบเท้าลงบนอกของคนใต้เท้าอีกที ดูเหมือนจะช้ำน่าดู
คนตัวเล็กถอนเท้าออก นั่งยอง ๆ ใช้มือตบแปะลงบนหน้าของคนที่จับหน้าอกบริเวรณที่โดนกระทืบไปสองที
“กูเกลียดนักพวกไม่มีเหตุผล ยกตนเป็นใหญ่ หาเรื่องชาวบ้านเนี่ย อย่าทำอีกนะถ้ากูเห็นตีนกูจะไม่ใช่แค่เหยียบบนอกมึง แต่จะเหยียบหน้ามึงแทน”
ดูเหมือนคนเจ็บจะเถียงอะไรสักอย่าง แต่พอเหลือบเห็นคนที่มาใหม่ ก็ถึงกับยกมือไหว้แล้ววิ่งหนี พอเมฆมองคนคนนั้นก็เข้าใจได้ทันที ก็ดูหุ่นล่ำ ๆ นั่นสิ กล้ามแขน กล้ามขา เหมือนนักเล่นกล้ามอะไรประมาณนั้นเลย
“สร่างยังลำยอง” คนตัวเล็กหันไปถามหญิงสาวหนึ่งเดียวในที่นี้
“คะ? ฉันเหรอคะ? ฉันไม่ได้ชื่อ…”
“นี่ฟังนะ กินเหล้า อย่าให้เหล้ากินเรา กินพอประมาณ รู้ลิมิตตัวเองด้วย”
“ค่ะ”
“ไอ้เหี้ยนั่นมันเคยทำร้ายร่างกายเธอรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“หลังจากนี้ถ้ามันทำ ให้หนีจากมัน แจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ร่างกายของเรา จิตใจของเรา ไม่มีใครมีสิทธิมาทำร้ายทั้งนั้น”
น้ำตาของหญิงสาวไหลอาบแก้ม ปากพร่ำขอบคุณทั้งเมฆ และคนตัวเล็ก
“มึงก็ด้วย สู้ไม่ได้ก็ตะโกนให้คนช่วยสิวะ”
ก็กำลังจะตะโกน แต่คนตัวเล็กโผล่มาก่อนต่างหาก
“ขอบคุณมากนะครับ” เมฆกล่าว ก่อนหันไปถามหญิงสาวที่ตนช่วยประคอง “กลับบ้านเองได้ไหมครับ”
เธอพยักหน้า
“ถ้าอย่างนั้นรีบกลับนะครับ อย่าลืมทำแผลด้วยนะ” เมฆส่งผ้าเช็ดหน้าให้หญิงสาวเช็ดน้ำตา และชี้ตรงรอถลอกที่มือของเธอ “ผมว่า ผมไปส่งคุณขึ้นรถดีกว่า”
“ฉันไปเองได้จริง ๆ นะคะ”
“ให้ผมไปส่งดีแล้ว ขอบคุณทั้งสองคนอีกครั้งนะครับ ขอตัวก่อนนะ” เมฆบอกหญิงสาว ก่อนหันไปลาคนที่ช่วยตนไว้ เขาเดินออกมาจากตรงนั้นโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งที่มองตามจนสุดสายตา
-------------------------------
เมฆส่งหญิงสาวขึ้นรถ ที่เพื่อนเธอขับมารับ ก่อนรีบเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ เหมือนว่าพี่หมื่นปียังไม่ลงมาเลยด้วยซ้ำ
“มึงหายไปนานจังวะ ห้องน้ำคนเยอะเหรอ” เบียร์ถาม
“มีเรื่องนิดหน่อยอะ” เมฆเล่าเรื่องราวให้เพื่อน และรุ่นพี่ฟัง
“บ้าเอ๊ย! รู้แบบนี้ออกไปตามก็ดี แล้วมึงเจ็บตรงไหนไหม” หมอกจับแฝดน้อง ลุกขึ้น หมุนดูรอบตัว
“ไม่เป็นไรจริง ๆ”
“แน่นะ” ธีร์ถามย้ำ เขาพยักหน้ายืนยัน “คราวหลังให้เพื่อนออกไปด้วยแล้วกัน แถวนี้คนเมาเยอะ”
“ครับ”
ทั้งโต๊ะกลับสู่ความปกติ แต่ละคนกินดื่มอย่างสนุกสนาน เหมือนลืมไปว่าขับรถกันมา สงสัยว่าวันนี้คงต้องเรียกรถกลับแล้วล่ะ
“ฉิบหายแล้วเพื่อน” อยู่ ๆ เบียร์ก็สะกิดเรียก ก่อนชี้ไปทางบันไดขึ้นชั้นสอง เมื่อมองตามก็เห็นเป็นพี่หมื่นปี กำลังกอดคอคนตัวเล็กคนหนึ่ง คนตัวเล็กแทบจมหายไปในอกของคนโตกว่า
เมฆมองดูภาพนั้นด้วยความไม่สบายใจ
“อาจจะเป็นรุ่นน้องก็ได้” กัสปลอบ
“ไม่ใช่นะ” ธีร์ขัดขึ้น “เด็กนั่นจีบไอ้หมื่นปีมาสักพักแล้ว สลัดยังไงก็ไม่หลุด”
“เฮ้ย! ได้ไงวะ ลุกเลยแฝด มึงไปทวงแฟนมึงเลย” หมอกดึงเมฆลุกขึ้น
“เอาเลยเมฆ อย่าให้ใครมายุ่งกับแฟนเรา” ธีร์ทำหน้าจริงจัง
เขายอมรับเลยว่าหึงนิดหน่อย ดูรอยยิ้มนั่นสิ ไม่ชอบเลย ทำไมคนตัวเล็กถึงต้องยิ้มให้แฟนเขาแบบนั้นด้วยจะเอาความน่ารักมาสู้เหรอ เสียใจด้วยนะพี่หมื่นปีชอบคนหล่อเแบบเมฆต่างหาก
หมอกลุกตามแฝดตน หวังจะไปช่วย แต่กลับถูกถึงดึงแขนไว้ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นธีร์ที่กลั้นขำ มีเอิ้นนั่งทำหน้าเซ็งอยู่ข้าง
“ไม่ต้องไปหรอก” ธีร์เอ่ย
“เพื่อนเวร” เอิ้นผลักหัวเพื่อนตัวเล็กเบา ๆ
-------------------------------
“พี่หมื่นปีครับ”
“เมฆ” หมื่นปีเรียกชื่อแฟนตน พร้อมกับคลายอ้อมแขนที่ล็อกคนตัวเล็กไว้ เมื่อหลุดออกจากพันธนาการ เจ้าคนตัวเล็กก็มุดออกมา เมื่อหันมาสบตากับเมฆก็ต้องตกใจ คนที่หมื่นปีล็อกคอเมื่อครู่คือคนที่ช่วยเขาจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้
“คุณ”
“มึง”
“รู้จักกันเหรอ?” หมื่นปีทำหน้าสงสัย มองสลับไปมาระหว่างเมฆกับคนตัวเล็ก
“นิดหน่อยอะ” คนตัวเล็กชิงตอบก่อน เมฆมองมือที่จับแขนของแฟนตนเองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ถึงจะเป็นคนที่ช่วยเขาไว้ก็เถอะ แต่จะมาจับแขนแฟนเขาแบบนี้ไม่ได้นะ
“กรุณาปล่อยมือออกจากแขนของแฟนผมได้ไหมครับ” เมฆพูดเสียงนิ่ง
“แฟน?” คนตัวเล็กทวนคำของเมฆ ดูเหมือนดวงตาจะไหววูบเล็กน้อยจนแทบมองไม่ออก แต่แทนที่จะปล่อยแขนหมื่นปี มือเล็กนั่นกลับกระชับแน่นขึ้น
“มีแฟนแล้วไม่เห็นบอกเลย” คนตัวพูดพร้อมกับลูบแขนหมื่นปีเบา ๆ
“ไม่บอกมึงก็รู้อยู่แล้วไหม?”
คนตัวเล็กยิ้มให้เมฆ เป็นรอยยิ้มที่ดูสนุก เขารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลจากรอยยิ้มนั่น ชั่ววินาทีนั้น คนตัวเล็กคว้าคอหมื่นปีลงมาจุ๊บเบา ๆ เมฆรีบดึงแฟนตนออกมาทันที แต่ก่อนจะได้หันไปต่อว่าอะไรคนตัวเล็ก แฟนของเขาก็โวยวายขึ้นก่อน
“ทำเหี้ยอะไรวะเนี่ย!!!” หมื่นปีเช็ดริมฝีปากตนเองอย่างแรง
“อี๋ กูทำไรไปวะ ฟ้าจะผ่า” คนตัวเล็กก็ไม่ต่างกัน
“ทำอะไรไม่รู้จักคิด” หมื่นปีตบหัวคนเล็กด้วยแรงที่ไม่เบามากนัก
จากความไม่พอใจ ความหึงหวงในใจเมฆก็ลดฮวบฮาบ เหลือแต่ความงุนงง กับท่าทีของคนทั้งคู่ หมื่นปีคว้าคอเมฆมาจุ๊บเบา ๆ
“ค่อยดีขึ้นหน่อย”
“ทำอะไรครับ”
“ล้างปาก!”
“รำคาญ” คนตัวเล็กพูดเบา เมฆที่ได้ยินถึงกลับขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
“เห้ย ๆ ใจเย็นไอ้หนุ่ม” คนตัวเล็กรีบพูดเมื่อเห็นสีหน้าของเมฆ “กูไม่แย่งแฟนมึงแน่ไม่ต้องห่วง”
เมฆมองด้วยความคลางแคลงใจ
“ไอ้พี่เหี้ย ยังไม่แนะนำกูอีก ชอบให้แฟนหึงนักรึไง”
“มึงเริ่มก่อนปี” หมื่นปีจับมือเมฆก่อนเอ่ยแนะนำคนตัวเล็ก “นี่พันปีครับ น้องชายพี่เอง”
เมฆที่รู้ตัวว่าเผลอหึงน้องชายแฟนก็รีบหันไปขอโทษทันที
“ไม่เป็นไร กูก็ขอโทษมึงด้วยที่แกล้งแรง ๆ ”
พอมาย้อนคิดดูดี ไม่มีทางที่ธีร์จะไม่รู้ว่าพันปีเป็นน้องหมื่นปี นี่เขาโดนพี่ธีร์แกล้งเหรอ เมื่อหันไปมองทางโต๊ะของพวกเขา ธีร์ก็ยิ้มและโบกมือมาทางเมฆ
“พี่ธีร์แกล้งผม”
“ต้องให้รางวัลมันหน่อยละ”
“พี่หมื่นปี!”
“มันทำให้พี่เห็นตอนเมฆหึงนี่น่า” คนโตกว่าลูบหัวแฟนหนุ่ม
“แล้วคนที่มากับพันปีล่ะ” เมฆหันมาถามคนตัวเล็กแก้เขิน
“ไอ้หมีอะเหรอ กลับไปแล้วอะ มันมาส่งเฉย ๆ ”
“ยังไม่ตอบพี่เลยว่ารู้จักกันได้ยังไง” คนโตกว่าย้ำถาม
“เสือก”
หมื่นปียกขาเตะไปทางพันปี แต่คนเป็นน้องหลบทัน ทั้งยังแลบลิ้นใส่อีก ร่างสูงปล่อยมือเมฆ เพื่อตามไปเตะน้องชาย แต่เหมือนคนตัวเล็กจะรู้ทัน อ้อมมาหลบหลังเขาซะงั้น หมื่นปีเลยได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
-------------------------------
สุดท้ายเมฆก็เป็นสงบศึกนั้น โดยการลากสองพี่น้องมานั่งที่โต๊ะ เมื่อพันปีแนะนำตัวกับเพื่อนของเขาแล้ว ชายหนุ่มก็ได้เล่าเรื่องที่พันปีช่วยตนเมื่อสักครู่ให้หมื่นปีฟัง พอฟังจบ คนโตกว่าก็ลุกขึ้นทันที
“จะไปไหนครับ?” เมฆถามแฟนหนุ่ม
“พี่จะไปต่อยมัน” หมื่นปีตอบเสียงจัง
“ช้าไปไหมไอ้พี่ ป่านนี้มันกลับไปกอดหมอนนอนร้องไห้แล้ว” พันปีตอบ พลางยกแก้วขึ้นจิบ
“ทำไมมึงไม่หักแขน หักขามันไปเลยวะ!”
“เย็นนะพี่มึง ไหนบอกไม่ชอบใช้กำลังตัดสินปัญหา”
“ยกเว้นเรื่องนี้”
“นั่งเถอะครับ เรื่องผ่านไปแล้วนะ” เมฆดึงแขนแฟนหนุ่มให้นั่งลง แต่คนโตกว่ากลับดึงเขาให้ลุกขึ้น พร้อมกับหมุนไปมา
“เจ็บตรงไหนไหม”
“เหมือนฉายภาพซ้ำเลยว่ะ” ธีร์เอ่ยแซว
กว่าหมื่นปีจะวางใจได้ก็ใช้เวลาสัก ทั้งโต๊ะเริ่มคุยเรื่องเฮฮากันอีกครั้ง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เมฆจะลุกไปห้องน้ำ หรือจะไปไหน ก็จะมีหมื่นปีตามไปเป็นเงา
ด้านพันปีผู้มาใหม่แต่กลับ ซี้กับเบียร์ กัส และหมอก ได้อย่างรวดเร็ว อาจจะเพราะอายุเท่ากันด้วย คนมาใหม่เขย่งกอดคอกัส และซัดโฮกราวกับในแก้วนั้นเป็นน้ำเปล่า พลางร้องเพลงโยกหัวตามนักดนตรี ล่าสุดสี่เพื่อนซี้ที่ดื่มเหล้าสาบานกันเมื่อครู่ ก็ลากกันไปกระโดดเหยง ๆ ที่หน้าเวที เป็นนานกว่าจะพากันกลับมา ซึ่งบอกเลยว่าสภาพแต่ละคนคือ สุดแบบไม่ไหว ยิ่งพันปี ยิ่งแย่ เพราะเหมือนว่าจะไม่มีสติเหลือแล้ว แต่ก็ยังคว้าแก้วมาดื่มได้ต่อ
“แบบนั้นจะไม่เป็นอะไรเหรอครับ” คนเด็กกว่าถาม พลางชี้ไปที่พันปี คนตัวโตส่ายหน้ากับสภาพของน้องชาย ก่อนเรียกเด็กในร้านให้ช่วยกันลากพันปีไปไว้ที่ห้องข้างบน พอหันไปหาเพื่อนที่นั่งเงียบไปสัก ก็เห็นว่าธีร์หลับไปแล้ว คงคอนเซ็ปเมาไหนนอนนั่นได้อย่างคงเส้นคงวา เอิ้นเองก็นั่งจิบน้ำเปล่า กัส เบียร์หมอก นั่งอึนแบบขอยอมแพ้
สุดท้ายคืนนี้ก็จบกันแบบที่กัสให้รถที่บ้านมารับ และพาเบียร์ไปด้วย หมอก เอิ้น ธีร์ ติดรถหมื่นปีกลับ เพราะคนโตกว่าแทบไม่ดื่มเลยด้วยซ้ำ ส่วนพันปีก็ถูกทิ้งให้นอนเฝ้าร้านอย่างโดดเดี่ยว
“จะทิ้งปีไว้แบบนี้เหรอครับ” เมฆเอ่ยอย่างรู้สึกผิด หมื่นปีหัวเราะเบา ๆ ก่อนออกรถ
“ปกติไอ้ปีเมาแล้วนอนข้างถนนบ่อยมาก มีครั้งหนึ่งพี่ตื่นมาเจอตอนเช้า นอนอยู่หน้ารั้วบ้านโน่น ถามว่ากลับมายังไงยังไม่รู้เลย นี่ยังถือว่าพอสติอยู่บ้าง”
“นี่มีสติแล้วเหรอครับ?”
“ถ้าเมาจริง ๆ แบบขาดสติเลย ก็จะปีนขึ้นโต๊ะ แก้ผ้า แล้วคว้าใครสักคนมาจูบ เผลอ ๆ อาจจะลากใครสักคนไปปล้ำเลย”
“มันเคยเกิดขึ้นเหรอครับ”
“ตอนมันหัดดื่มแรก ๆ อะ ปียังไม่รู้ลิมิตตัวเอง ดีที่วันนั้นดื่มกับที่บ้าน และคนที่มันลากไปจะปล้ำก็เป็นคนรู้จัก อ่อ ไม่ต้องห่วงนะ ปล้ำไม่สำเร็จ”
“โล่งใจไปครับ”
“หลังจากนั้นปีก็เริ่มรู้ลิมิตตัวเอง เหตุการณ์มันยังฝังใจน่ะ หึ ๆ ” คนโตกว่ากลั้นขำเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น “อีกอย่างที่ร้านก็ปลอดภัยดี และที่สำคัญคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปีมันเมาแล้วนอนที่ร้านหรอก เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงนะครับ พี่หวง” หมื่นปีเอื้อมมือมาลูบแก้มแฟนเด็ก
“นั่นน้องชายพี่หมื่นปีนะครับ”
“หวงหมดครับ กับหมอกยังหวงเลย”
เมฆเสตาออกไปมองนอกรถแก้เขิน เมื่อส่งผู้โดยสารครบทุกคนแล้ว สองสามีขึ้นหิ้งก็พากันกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟา เมฆกวาดสายตามองรอบห้องที่มีของวางระเกะระกะด้วยรอยยิ้ม มือสวยเอื้อมกอดแขนคนข้างกาย เอนหัวซบหน้าลงตรงลาดไหล่
“เป็นอะไร หืม?”
“แค่รู้สึกดีน่ะครับ ดีจนคิดว่าฝัน”
“เรื่องจริงครับ” หมื่นปีจับมือที่จับตรงแขนตนขึ้นมาจูบ
“ผมรู้สึกเหมือนว่าผมพึ่งตกหลุมรักพี่หมื่นปีเมื่อวานนี้เอง เรื่องของเรามันเร็วไปไหมครับ?”
คนโตกว่าประคองหน้าแฟนหนุ่มให้เงยขึ้นรับจูบแผ่วเบา เขาจูบย้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น ไม่มีการรุกล้ำแต่อย่างใด วงแขนอบอุ่นรั้งร่างคนเด็กกว่าเข้ามากอด พลางโยกไปมาราวกับเมฆเป็นเด็กตัวน้อย
“พี่มั่นใจว่าต้องเป็นเมฆ ถึงแม้ว่าเราจะใช้เวลาทำความรู้จักกันน้อย แต่เราจะใช้เวลาหลังจากนี้เรียนรู้กันไปอีกนานแสนนาน”
เมฆผละออกมาสบตาที่จริงจังของคนโตกว่า ดวงตาคู่สวยคลอด้วยน้ำสีใส พลางคิดว่า ดีจริง ๆ ดีที่วันนั้นเขาตัดสินใจตามไปที่หอสมุด ดีที่กล้าทำความรู้จักกับหมื่นปี จนทำให้ในวันนี้ เขามีคนคนนี้อยู่ข้างกาย
ดีจริง ๆ นะ
ดีที่สุดเลย