เพราะความฝันพังทลายจึงไร้หนทางไปต่อ อีกคนจึงพยายามสร้างความฝันให้คนนั้นได้เดินต่อ
รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
จากเด็กชายอินทรชิต ตอนนี้เขากลายเป็นนายอินทรชิต นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แล้ว ตัวเขายังคงสิงสถิตอยู่ที่โรงเรียนแห่งเดิม เป็นกีฬาบาสเกตบอลเหมือนเดิม ยังคงตามไปที่สระว่ายน้ำ และการแข่งว่ายน้ำเช่นเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ เขาไม่เจอพี่กาลอีกเลย
“วันนี้ก็ไม่เจอเลย” เด็กหนุ่มตัดพ้อกับเพื่อน
“ไม่รู้จะปลอบยังไงเลยว่ะ” จ๊อบได้แต่ส่ายหัว ไม่นานรุ่นพี่ก็เรียกซ้อม และเหมือนเช่นเดิมความโดดเด่นของอินทำให้เจ้าตัวเป็นนักกีฬาตัวจริงม.4 เพียงคนเดียวของทีม แต่รุ่นพี่ และเพื่อน ๆ ต่างเป็นคนที่มีน้ำใจนักกีฬาอย่างเต็มเปี่ยมไม่มีใครมานั่งอิจฉาไร้สาระ
“เจมส์” เสียงเรียกดังมาจากประตูโรงยิม กัปตันเทีมหนุ่มหันไปตามเสียงเรียกพบว่าเป็นเพื่อนของตนเองจึงวิ่งไปหา
“มีไรปะกาล”
กาล?
ชื่อที่คุ้นหูทำให้อินที่ถูกรุ่นพี่ และเพื่อนรุมล้อมฝ่ามวลมนุษย์ออกมา และเขาก็ได้เจอกับคนที่ตามหา คนที่ไม่ว่าเขาจะตามหาที่สระว่ายน้ำ การแข่งว่ายน้ำ ตามหาแทบพลิกสระแค่ไหนก็ไม่เจอ แต่พอจะเจอกลับเจออย่างง่ายดายที่โรงเรียนของเขา ที่หน้าประตูโรงยิมที่เขาสิงสถิตอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
โผล่มาง่าย ๆ แบบนี้เลย!
“มึงลืมรองเท้าไว้ในห้องอะ” กาลยื่นรองเท้าให้เพื่อนตัวสูง
“ก็ว่าลืมอะไร ใจมากมึง”
“กูไปก่อนนะ”
“อะเชค้าบบ”
“พี่เจมส์ ๆๆๆๆๆ” อินวิ่งเข้าชาร์จรุ่นพี่ทันทีที่เพื่อนของเจมส์เดินออกไป
“เฮ้ย ๆ อะไร ใจเย็น ๆ” เจมส์พยายามพูดกับคนที่เขย่าตัวเขาอยู่
“เมื่อกี้อะ เมื่อกี้ เมื่อกี้ คนเมื่อกี้”
“คนเมื่อกี้อะไร พูดดี ๆ” เจมส์จับให้รุ่นน้องตัวเขื่องยืนนิ่ง ๆ “ใจเย็น ใจเย็นนะ หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกช้า ๆ”
“คนเมื่อกี้ พี่กาลใช่ไหม” อินที่เริ่มสงบแล้วถามรุ่นพี่
“ใช่”
“กาล ชลเทพใช่ไหม”
“ใช่”
“ที่เป็นนักกีฬาว่าน้ำใช่ไหม”
“เมื่อก่อน ก็ใช่” เจมส์นิ่งไปนิดก่อนตอบ
“ลัคกี้! พี่เจมส์แม่ง โคตรรักพี่เลยว่ะ” อินใช้มือประกบสองแก้มของรุ่นพี่ดึงมาจุ๊บซ้ายจุ๊บขวา ก่อนวิ่งตามนักกีฬาว่ายน้ำในดวงใจของตนออกไป
“อี๋~” เจมส์เช็ดแก้มตนเองด้วยความขยะแขยง แต่พอเห็นรุ่นน้องวิ่งออกไปก็รีบตะโกนตามหลัง “มึงจะไปไหนวะไอ้อิน กลับมาซ้อมก่อนโว้ยยยย”
“ปล่อยมันเหอะพี่ มันตามหาของมันมานาน”
“จุ๊บล้างแก้มหน่อยดิ” เจมส์หันมาอ้อนรุ่นน้องที่ตนสนใจ
“เห้อ” จ๊อบถอนหายใจพลางส่ายหัว ก่อนกลับไปวิ่งกับเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจรุ่นพี่
“จ๊อบบบบ” เจมส์แสร้งทำหน้าเศร้า
“ว่าแต่ไอ้อินไปรู้จักกาลตอนไหนวะ” กัปตันเจมส์พึมพำสงสัย ก่อนสะบัดหัวทิ้งความคิดนั้นทันทีตามฉบับคนไม่คิดมาก หรือเอาจริง ๆ ก็คือคนที่ไม่คิดอะไรเลย
________________________
อินวิ่งตามร่างโปร่งของกาลออกมาจากโรงยิม ไม่เจอกันปีกว่า ๆ รุ่นพี่นักกีฬาว่ายน้ำสุดยอดในดวงใจของนายอินทรชิตดูเหมือนจะสูงขึ้นแหะ
“พี่กาล”
“ครับ?” คนที่ถูกเรียกตกใจรีบหันมองทันที
“พี่กาลจริง ๆ ด้วย” อินยิ้มกว้างอย่างดีใจ ผิดกับอีกคนที่ทำหน้างงว่าตนไปรู้จักรุ่นน้องตัวสูงชะลูดเหมือนตีพ่อตีแม่มาทั้งชาติคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จะว่าไปก็คุ้น ๆ อยู่นะ
“ผมโคตรดีใจเลย!”
“เราดีใจ พี่ก็ดีใจด้วย แต่...เรารู้จักกันใช่ไหม?” คนเป็นรุ่นพี่ถาม
“อืม ๆ ผมรู้จักพี่” คนเด็กกว่าแต่สูงกว่าพยักหน้าหงึก ๆ
“แต่พี่ว่า พี่ไม่รู้จักเรานะ” กาลเริ่มมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง
“เห้ย ๆ พี่ไม่ต้องระวังผมขนาดนั้น ผมมาดี มาดีมาก ๆ เลย”
“อ่า”
“ผมชื่ออิน อินทรชิต แม่ชื่อมณโฑ แต่พ่อไม่ได้ชื่อทศกัณฑ์นะ”
กาลยิ้มกับการแนะนำตัวของรุ่นน้อง
“ผมอยู่ม.4 เป็นนักบาสครับ”
“อ่า ครับ ว่าแต่เราเรียกพี่มีอะไรรึป่าว”
“คือผมชอบพี่ครับ”
“ห๊ะ!!”
“ไม่ใช่ ๆ หมายถึงชอบการว่ายน้ำของพี่ ชอบแววตา ชอบรอยยิ้มตอนอยู่ในน้ำของพี่ พี่เป็นนักว่ายน้ำในดวงใจผมเลย ผมตามพี่ไปทุกสระ ทุกการแข่ง แต่วันหนึ่งพี่ก็หายไป ผมแทบจะพลิกสระหาพี่เลย!”
เมื่อคำว่าว่ายน้ำหลุดออกมาจากปากของรุ่นน้อง สีหน้าของกาลก็หม่นลง
ว่ายน้ำเหรอ?
“อิน พี่ขอบคุณนะที่ชอบการว่ายน้ำของพี่”
“ครับ” อินยิ้มกว้าง
“แต่ขอโทษนะ พี่...ไม่ว่ายน้ำอีกแล้วล่ะ”
________________________
“ทำไมวะ?” หลังจากอินกลับเข้ามาในโรงยิม คนตัวสูงก็เอาแต่นั่งจุ้มปุ๊กคุยกับลูกบาสด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อินลองถามเจมส์ดูแล้วว่าทำไมนักกีฬาว่ายน้ำสุดยอดในดวงใจของเขาถึงเลิกว่ายน้ำ แต่รุ่นพี่ในทีมกลับส่ายหัว เพราะเจ้าตัวก็ไม่รู้เหมือนกัน เจมส์พึ่งเจอกับกาลตอนม.4 ซึ่งตอนนั้นกาลก็เลิกว่ายน้ำไปแล้ว
และอีกเรื่องที่อินหงุดหงิดคือกาลเข้ามาเรียนที่นี่ตั้งแต่ม.4 ทำไมเข้าไม่รู้ล่ะ ทำไมเขาไม่รู้อะไรเลย! ร่างสูงยีหัวด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
“ทำไมวะ ทำไม ไม่เข้าใจ!”
“นั่นสิทำไม?” จ๊อบมานั่งยอง ๆ ตรงหน้าเพื่อน
“ใช่ไหม?”
“เออ ทำไม ทำไมมึงไม่ลุกไปซ้อม!” เพื่อนสนิทสุดที่รักโบกหัวร่างสูงไปหนึ่งที
“เจ็บนะเว้ย!”
“กูรู้ว่ามึงกำลังคิดไม่ตก แต่มึงต้องรับผิดชอบหน้าที่ของมึงก่อน มึงดู ทั้งรุ่นพี่ ทั้งรุ่นเดียวกันอยากยืนในตำแหน่งของมึงมากแค่ไหน มึงกำลังแบกความฝันของคนทั้งทีมไว้บนบ่า ไอ้ตัวจริงม.4อย่างมึงนี่ยังไง ไม่ซ้อมก็เก่งได้เหรอห๊ะ! รุ่นพี่ยืนรอกันเต็มสนามแหกตาดูด้วย!!”
อินถึงกับคอตกกับสิ่งที่เพื่อนพูด ก่อนลุกขึ้นตะโกนขอโทษทุกคน และวิ่งเข้าสนามเริ่มซ้อมทีม รุ่นพี่หลายคนหันมายกนิ้วให้กับจ๊อบ ตัวจ๊อบเองก็ยกนิ้วตอบ
“เมียกัปตันมันดุจริงเว้ย” เสียงลอยมาจากที่ไหนซักแห้ง
“ใครพูด!!!” จ๊อบตะโกนถาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
________________________
เด็กหนุ่มร่างสูงโปร่งยืนมองเข้าไปในสระว่ายน้ำ เสียงหัวเราะ เสียงน้ำกระจายดังเป็นระยะ มีเสียงตะโกนเชียร์กันอย่างสนุกสนาน
คิดถึงจัง...
เพราะเด็กนั่นพูดอะไรแบบนั้นออกมา ชอบการว่ายน้ำของเขา ชอบรอยยิ้ม ชอบแววตาตอนอยู่ในน้ำของเขาอย่างนั้นเหรอ?
ของแบบนั้นมันเป็นยังไงนะ เขาจำแทบไม่ได้แล้ว...
“พี่กาล!”
กาลตกใจกับเสียงเรียก เสียงนี้อีกแล้ว
“พี่มาทำอะไรที่นี่เหรอ มาว่ายน้ำเหรอ งั้นไปกัน” ร่างสูงของรุ่นน้องลากร่างบางกว่าเข้าไปในบริเวณสระ
“ไม่เอา พี่ไม่ไป” พยายามแล้ว กาลขืนตัวแล้ว แต่สู้แรงเจ้าหนุ่มนักบาสไม่ไหวจริง ๆ
“อ้าวเจ้าอินมาแล้วเหรอ?” เสียงทักมาจากชายที่ดูมีอายุ
“สวัสดีครับโค้ช” อินรีบหันไปไหว้โค้ชเก้า โค้ชประจำชมรมว่ายน้ำของโรงเรียนอย่างสนิทสนม
“แล้วพาใครมาล่ะนั่น”
“นี่พี่กาลครับ กาล ชล-ละ-เทพ”
“เห้ย! ยินดีที่ได้รู้จัก มาเข้าชมรมว่ายน้ำใช่ไหม โค้ชได้ยินชื่อเธอมานานแล้ว เอาไงลงน้ำเลยไหม”
“ไม่ครับ ผมโดนเด็กนี่ลากมาเฉย ๆ และผมเลิกว่ายน้ำแล้วครับ”
“อ้าว!”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” กาลหันหลังเตรียมกลับ แต่ถูกรั้งไว้
“ไหน ๆ ก็มาแล้วอยู่เดินเล่นแถวสระก่อนสิ แค่เลิกว่าย แต่ไม่ได้เกลียดใช่ไหม?” โค้ชเก้าถามเสียงอ่อน
“ครับ” กาลรับคำเสียงอ่อน ใช่เขาไม่ได้เกลียด ออกจะคิดถึงด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ว่าจะว่ายไปทำไมต่างหาก
โค้ชเก้ายิ้มอย่างใจดีก่อนเดินไปดูเด็ก ๆ ในชมรมต่อ ส่วนรุ่นน้องตัวโตก็ดึงมือให้ไปนั่งตรงแสตนข้างสระ
“พี่นั่งตรงนี้ก่อนเดี๋ยวผมไปหาน้ำมาให้ อย่าหนีนะ!” คนตัวสูงขู่ก่อนวิ่งออกไป
กาลมองตามอินอย่างยิ้ม ๆ สดใสดีจังนะ ร่างโปร่งละสายตามามองรอบสระ รอยยิ้มของเหล่าผู้คนที่อยู่ในน้ำมันดูสดใส รอยยิ้มแบบนี้รึเปล่านะที่อินบอกว่าชอบ เขาเองก็เคยมีรอยยิ้มและแววตาแบบนี้สินะ ด้วยมนต์สะกดอะไรบางอย่างทำให้กาลเดินไปนั่งขัดสมาธิที่ริมสระ มือสวยสัมผัสผิวน้ำแผ่วเบา
เย็นจัง...
ภาพความทรงจำในอดีตหลั่งไหลเข้ามาในหัวไม่หยุด ทั้งตอนที่พ่อสอนเขาว่ายน้ำ การแข่งขันครั้งแรก แพ้ครั้งแรก ชนะครั้งแรก เรื่องราวฉายวนซ้ำในหัวไม่จบสิ้น
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีตอนที่โค้ชเก้ามาสะกิดเรียก บอกว่าจะใช้สระซ้อมแข่ง ก่อนชี้ไปที่เด็กหนุ่มรุ่นน้องที่นั่งหลับอยู่
“ไม่ได้เห็นภาพนี้นานมาสักพักเลย”
“ครับ?”
“ก็เจ้าอินน่ะสิ มันชอบมานั่งมองสระแบบนี้บ่อย ๆ ตั้งแต่สมัยม.ต้นเลย ทีแรกก็นึกว่าอยากเข้าชมรมว่ายน้ำ แต่พอไปชวนมันกลับปฏิเสธใหญ่เลย เห็นว่ากลัวน้ำน่ะ”
“กลัวน้ำ?”
“แปลกใช่ไหมล่ะ? กลัวน้ำ แต่กลับหลงใหลนักกีฬาว่ายน้ำ” โค้ชเก้ามองกาลยิ้ม ๆ
เจ้าเด็กมันแปลก แปลกจริง ๆ นั่นแหละ
________________________
กาลเข้าไปเรียกคนเด็กกว่าให้ตื่นก่อนบอกว่าตนจะกลับแล้ว ทั้งสองคนจึงเดินออกมาจากบริเวณสระว่ายน้ำ ความเงียบปกคลุมไปทั่วบริเวณ และก็เป็นรุ่นน้องที่เอ่ยขึ้นมาก่อน
“เป็นยังไงครับเริ่มจะอยากกลับมาว่ายน้ำหรือยัง”
“พี่ว่าเราต้องคุยกันให้เข้าใจ”
“ครับ”
“พี่เลิกว่ายน้ำแล้ว”
“เลิกว่ายก็กลับมาว่ายใหม่ได้นี่ครับ หรือพี่กาลบาดเจ็บตรงไหน!?” อินถามด้วยสีหน้าตื่น ๆ
“พี่ไม่ได้บาดเจ็บ พี่เลิกว่ายน้ำเพราะ...” กาลเงียบไม่พูดต่อ
“เพราะ? เพราะอะไรครับ?”
“จะเพราะอะไร พี่ว่ามันก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับอินนะ” กาลพูดเสียงนิ่ง ยอมรับว่าไม่พอใจที่รุ่นน้องมาก้าวก่ายในชีวิตตนเอง
“ผมไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่ เมื่อกี้พี่ก็ดูคิดถึงการว่ายน้ำมากแท้ ๆ” อินพูดอย่างไม่ยอมแพ้
“แล้วทำไมต้องเข้าใจพี่ด้วย เผื่ออินจะลืมไปนะว่าวันนี้เป็นวันแรก ที่เราได้เจอ ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ!” กาลเผลอขึ้นเสียงใส่รุ่นน้อง
“ไม่ใช่วันแรกสักหน่อย” อินพึมพำเบา ๆ
“เฮ้อ! พี่ขอตัวก่อน” รุ่นพี่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนเดินออกไป อินได้แต่มองตามไปจนลับสายตา
________________________
เด็กหนุ่มอดีตนักว่ายน้ำนั่งมองเหรียญทองที่ห้อยเรียงรายอยู่บนผนังห้องนั่งเล่น เขานั่งมองอยู่แบบนั้น นั่งมองอยู่เฉย ๆ ทำไมเขาถึงเลิกว่ายน้ำอย่างนั้นเหรอ?
ก็แค่...
ไม่มีเหตุผลที่ต้องว่ายอีกแล้วเท่านั้นเอง