เพราะความฝันพังทลายจึงไร้หนทางไปต่อ อีกคนจึงพยายามสร้างความฝันให้คนนั้นได้เดินต่อ

ผมจะเป็นฝั่งของคุณ - บทที่ 4 ผมจะเป็นฝั่งของพี่ให้เอง โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ผมจะเป็นฝั่งของคุณ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,วัยว้าวุ่น,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยรุ่น,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

ผมจะเป็นฝั่งของคุณ โดย อมณ. @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เพราะความฝันพังทลายจึงไร้หนทางไปต่อ อีกคนจึงพยายามสร้างความฝันให้คนนั้นได้เดินต่อ

ผู้แต่ง

อมณ.

เรื่องย่อ

‘อิน’ ถูกเพื่อนลากตัวไปดูแข่งว่ายน้ำทั้งที่เขากลัวน้ำแต่วินาทีที่เห็นนักกีฬาว่ายน้ำลู่ที่ 8 คนนั้น เขากลับหลงใหลแววตาแห่งความสุขตอนอยู่ในน้ำ ร้อยยิ้มนั้นกระแทกใจเขาอย่างแรง จนอินกลายเป็นแฟนคลับที่ไม่ว่าในจังหวัดมีแข่งว่ายน้ำที่ไหนก็จะตามไปทุกที่ ถึงแม้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนคนนั้นชื่ออะไร แต่แล้ววันหนึ่งนักกีฬาว่ายน้ำที่หนึ่งในดวงใจของอินก็หายไป เขาไล่ตามหาแทบทุกสระ ทุกการแข่งขัน แต่ไม่มีเลย ไม่เจอจนท้อ ราวกับพระเจ้าสงสารในที่สุดอินก็เจอคนคนนั้นซักที แต่ดันเจอในวันที่นักกีฬาว่ายน้ำ ไม่ว่ายน้ำเสียแล้ว….




อิน อินทรชิต นักกีฬาบาสร่างกายแข็งแรง บึกบึน แต่เขากลัวน้ำจับใจ เพราะตอนเด็ก ๆ เคยจมน้ำ แต่กลับหลงใหลนักกีฬาว่ายน้ำคนหนึ่ง หลงใหลแววตา ท่าทางที่มีความสุขเวลาอยู่ในน้ำ และแล้ววันหนึ่งเขาคนนั้นก็หายไป

กาล ชลเทพ นักกีฬาว่ายน้ำผู้มีความฝัน แต่วันหนึ่งความฝันมันกลับพังลงไม่มีเหลือ เขาไม่รู้ว่าจะต้องว่ายน้ำไปทำไม ว่ายไปเพื่ออะไร แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งเขามาสร้างความฝันของเขาขึ้นมาใหม่

​​​​​​

สารบัญ

ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 1 นักกีฬาว่ายน้ำคนโปรด,ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 2 พี่ไม่ว่ายน้ำแล้ว,ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 3 รู้ช้า แต่ก็รู้ตัวแล้วนะ,ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 4 ผมจะเป็นฝั่งของพี่ให้เอง,ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 5 ช่วยเป็นฝั่งให้พี่ได้ไหม?,ผมจะเป็นฝั่งของคุณ-บทที่ 6 นักกีฬาว่ายน้ำคนโปรด(อีกครั้ง)

เนื้อหา

บทที่ 4 ผมจะเป็นฝั่งของพี่ให้เอง


หมายเหตุ : วิ่งเก็บรอบ คือ การวิ่งที่ทางโรงกำหนดให้ว่านักเรียนจะต้องวิ่งให้ได้กี่รอบต่อเทอม โดยตอนวิ่งจะต้องสแกนบัตรก่อน และเมื่อวิ่งเสร็จก็ต้องแสกนบัตรอีกรอบ



กาลว่าช่วงนี้มันแปลก ๆ ไม่ว่าเขาจะไปไหน จะทำอะไรก็ต้องเจออินตลอด วันนี้ก็เหมือนกันระหว่างที่เขากำลังวิ่งเก็บรอบ เจ้าเด็กหมาน้อยก็โผล่มาวิ่งอยู่ข้าง ๆ

“มาวิ่งเช้าจังครับ”

“ตอนเย็นคนมันเยอะอะ เราล่ะไม่มีซ้อมเช้าเหรอ”

“มีครับ แต่วิ่งก่อน พี่กาลเหลืออีกเยอะไหม?”

“อีก 20 รอบอะ แล้วอินเหลือเท่าไหร่?”

“ครบแล้วครับ”

“เอ้า! แล้วมาวิ่งทำไม?” กาลหยุดวิ่งก่อนหันมาถามด้วยความสงสัย

“แค่อยากมาวิ่งกับพี่กาลครับ” อินตอบด้วยรอยยิ้มที่ทำให้รุ่นพี่แก้มร้อน

“อยากเหนื่อยก็ตามใจ” รุ่นพี่ตัวเล็กออกวิ่งด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม

“อย่าวิ่งเร็วสิครับ”

“ยุ่งน่า!”

ชอบมาทำให้เขินนักนะเจ้าเด็กหมาน้อย!!!



อีกแล้ว หลังจากที่ตอนเช้าวิ่งด้วยกัน ตอนกลางวันก็โผล่มานั่งกินข้าวที่โต๊ะด้วยกันอีก ถ้าเดาไม่ผิดคงได้ความร่วมมือจากเจมส์แน่ ๆ ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไปทำอะไรตอนไหน ส่วนผลประโยชน์ที่มีร่วมกันคงไม่พ้น จ๊อบ เพื่อนของอินที่นั่งหน้างออยู่ตรงข้ามเจมส์ตอนนี้

ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปเขาว่าที่อินทำแบบนี้คือจะจีบเขา

แต่ถามว่ารังเกียจ หรือรำคาญไหม?

ก็จะตอบว่าไม่

น้องมันก็...น่ารักดี

________________________



“มึงไปค่ายฝึกกับกูปะ?” เจมส์ถามเพื่อนตัวเล็กขณะเดินกลับบ้านด้วยกัน

ค่ายฝึกที่เจมส์พูดถึง คือค่ายฝึกกีฬาบาสเกตบอลอันเป็นความร่วมมือของเขต 4,5,6 จัดทำขึ้นทุกปี ปีนี้ก็เช่นกัน ทางค่ายจะจัดให้มีการซ้อมทีมของแต่ละโรงเรียนที่เข้าร่วม เห็นว่าปีนี้จะจัดที่ต่างจังหวัดด้วย

“แล้วจะให้ไปในฐานะอะไรอะ” อินถามกลับ

“ฐานะเพื่อนกัปตัน และว่าที่แฟนของตัวจริงม.4คนเดียวของทีม”

พอได้ยินที่เพื่อนพูดกาลก็ฟาดมือลงบนไหล่หนาของเพื่อนตัวโตทันที

“เจ็บนะกาล!” เจมส์ลูบไหล่ป้อย ๆ รู้ว่าเขิน แต่ฟาดเบา ๆ ไม่ได้รึไง

“สมน้ำหน้า พูดอะไรไร้สาระ”

“ไม่ไร้สาระสักหน่อย เรื่องที่ไอ้อินจีบมึงเขารู้กันทั้งทีม มึงรู้ปะว่าวันแรกที่มันเจอมึง มันว้าวุ่นจนเล่นแย่ไปหมด สุดท้ายต้องลาไปสงบสติอารมณ์เลยนะเว้ย มึงเองก็รู้สึกดีกับไม่ใช่เหรอ?”

“ยุ่ง!” กาลตอบแก้เขิน

“โอเค ๆ ไม่ยุ่งก็ด้ายย” เจมส์ชูมือยอมแพ้ “แล้วไง? ตกลงไปไหม?”

“ไปได้ยังไงเล่า ไม่ได้อยู่ในทีมสักหน่อย”

“พอดีว่าน้องที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมไปไม่ได้ ก็เลยมีที่ว่าง 1 ที่ ถึงชวนมึงนี่ไง”

“จะดีเหรอวะ?”

“เอาน่า ไปเถอะ”

“มึงขายกูกับอินอีกแล้วเหรอ?” กาลหรี่ตาจับผิด

“อันนี้ไม่ได้ขาย กูชวนจริง ๆ”

“แสดงว่าก่อนหน้านี้ขาย?”

“อุ้ย! หลุดปาก” เจมส์ทำท่าตกใจที่ดูยังไงก็ปลอม “ไปเหอะ ไปเที่ยวกัน”

“อือ ๆ ไปก็ไป”

________________________



ค่ายฝึกดำเนินมาจนถึงวันสุดท้ายแล้ว ตอนแรกเจ้าเด็กหมาน้อยก็ชอบมาวิ่งรอบตัวเขา ตอนนั่งรถมาอินก็ขายเพื่อนจ๊อบทันทีโดยการแลกที่นั่งเจมส์ ทีแรกดูเหมือนจะแลกที่นอนด้วย แต่จ๊อบห้ามไว้ เรียกว่าทั้งขอร้องทั้งข่มขู่เลย กาลว่าแบบนั้นก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงหัวใจวายตายเพราะความเขิน

แต่พอเข้าวันที่สองจนถึงวันนี้รุ่นน้องนักบาสก็ไม่มีเวลามาวิ่งวุ่นรอบตัวเขามากเท่าไหร่ จริง ๆ ไม่ใช่แค่อินหรอก ทุกคนในทีมเลยมากกว่า เพราะการซ้อมค่อนข้างหนักเอาเรื่อง แต่ละวันพอซ้อมเสร็จแค่ลากสังขารกลับไปอาบน้ำนอนก็หมดพลังแล้ว

และในวันสุดท้ายนี้ทางโค้ช ครูที่ปรึกษา และเหล่าผู้จัดการทีมจึงช่วยกันจัดปาร์ตี้หมูกระทะ เพื่อช่วยฟื้นฟูจิตใจ และร่างกายที่บอบช้ำของเหล่านักบาส

เมื่อเหล่าชายฉกรรจ์มาเห็นขุมทรัพย์อาหารก็กรูใส่ราวกับหิวโหยมาสิบชาติ นอกจากเรื่องบาสแล้ว ก็มีเรื่องกินนี่แหละที่พวกนี้ไม่ยอมกัน

พอกินเสร็จทุกคนก็ช่วยกันเก็บกวาด และแยกย้ายไปพัก ทีมโรงเรียนของกาลจึงชวนกันไปแม่น้ำสายเล็ก ๆ ทางหลังค่าย ทุกคนเฮโลลงเล่นในน้ำกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากความลึกถึงแค่เข่าเท่านั้น กาลจึงนั่งตรงโขดหินกลางน้ำ ปล่อยให้สายน้ำพัดผ่านขาไป แต่พอหันไปตรงฝั่งก็เห็นว่าเจ้าเด็กตัวเขื่องนั่งกอดเข่ามองเขาอย่างยิ้ม ๆ ที่สำคัญคือนั่งค่อนข้างไกลแม่น้ำเลย

“เคยได้ยินว่ากลัวน้ำ?” กาลเดินมาหย่อนตัวนั่งลงข้างรุ่นน้องตัวโต

“ครับ ตอนเด็ก ๆ เคยจมน้ำ”

“แต่ชอบพี่เนี่ยนะ?”

“ครับ?”

“พะ พี่หมายถึงการว่ายน้ำของพี่” กาลที่รู้ตัวว่าพึ่งพูดอะไรออกไปก็ละลักละล่ำบอก

“ใช่ครับ” อินตอบยิ้ม ๆ

“ทำไมถึงชอบ?”

“วันนั้นเป็นวันแข่งกีฬาเขตครับ จ๊อบมันลากผมไปดูแข่งว่ายน้ำ แล้วผมก็เจอพี่ นักกีฬาว่ายน้ำลู่ที่ 8”

“ลู่ที่ 8?” กาลนึกถึงการแข่งวันนั้นเขายกมือมาแตะหน้าผากอย่างเขิน ๆ “ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นพี่...แพ้”

“ครับ แพ้ และทั้ง ๆ ที่แพ้ แต่พี่ก็ยิ้ม ยิ้มในแบบที่คนกลัวน้ำแบบผมไม่มีวันมีได้ หลังจากนั้นผมก็ตามไปทุกการแข่ง ก็เจอพี่บ้าง ไม่เจอบ้าง” อินยิ้มเมื่อนึกถึงช่วงเวลาเหล่านั้น “ยิ่งตามดูพี่มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าในน้ำเป็นที่ของพี่ พี่ทั้งสนุก ทั้งมีความสุข จนผมหลงใหล จนกลายเป็นชอบ”

ทั้งแววตาและคำพูดของอินพุ่งเข้ากลางใจของกาลอย่างจัง ทุกอย่างทำให้รู้ว่ารุ่นน้องตรงหน้าไม่ได้โกหก

“อินคงตกใจที่พี่เลิกว่ายน้ำ”

“สุด ๆ เลยครับ ยิ่งกว่าตอนที่อยู่ ๆ พี่ก็หายไปอีก”

“ขอโทษนะ”

“ไม่เห็นต้องขอโทษเลยนี่ครับพี่ไม่ผิดสักหน่อย”

“ขอบคุณนะที่ชอบ...การว่ายน้ำของพี่” กาลยิ้มให้คนตรงหน้า

“ผมถามได้ไหมว่าทำไมพี่ถึงเลิกว่ายน้ำ แต่ถ้าพี่ไม่สบายใจก็ไม่เป็นไรครับ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของรุ่นพี่ตัวเล็กค่อย ๆ เลือนหาย ราวกับว่าใครสักคนกำลังฉายภาพวนซ้ำในหัว เรื่องราวที่ตัวเขาเองอยากจะฝังมันให้หายไป แต่กาลกลับรู้สึกว่าถ้าเล่าให้คนคนนี้ฟังเขาจะไม่เป็นอะไร

“พ่อพี่เป็นนักว่ายน้ำ พี่เริ่มว่ายน้ำตั้งแต่จำความได้ เขาสอนให้พี่รู้ถึงความสุขของการอยู่ในน้ำ แต่พี่ไม่ได้เก่งอะไร เรียกว่าฝึกหนักเอาเรื่องเลย กว่าพี่จะได้ลงแข่งก็ตอนม.2 แล้ว และสนามแรกของพี่ก็แพ้ด้วยซ้ำ” แววตาสวยมีน้ำใส ๆ เอ่อคลอเมื่อนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น

“พี่มีความฝันนะ พี่ฝันว่าสักวันจะว่ายน้ำชนะพ่อให้ได้ เราสัญญากันไว้ว่าเราจะแข่งกันว่ายน้ำทุกอาทิตย์ จนกว่าพี่จะชนะ พี่ที่ว่ายตามหลังพ่อตลอดจะต้อง...จะต้องนำเขาให้ได้ แต่มันไม่มีอีกแล้ว พ่อทิ้งพวกเรา พ่อทิ้งแม่ ทิ้งพี่ไปกับคนอื่น วันที่เขาก้าวออกจากบ้านไป เขาได้เอาความฝันของพี่จากไปด้วย”

อินดึงรุ่นพี่เข้ามากอดแน่น ไม่มีเสียงสะอื้นดังมาจากคนในอ้อมแขน มีเพียงแค่ความเปียกชื้นตรงหัวไหล่เท่านั้นที่พิสูจน์ว่ากาลหัวใจแตกสลายมากเพียงใด

“พี่ไม่รู้ว่าจะว่ายน้ำไปอีกทำไม พี่ไม่มีความฝันไม่มีจุดมุ่งหมายเลย”

“แล้วพี่คิดถึงมันไหมครับ” อินลูบหลังคนในอ้อมแขน

“คิดถึงสิ คิดถึงมากเลย แต่พี่ว่ายน้ำไม่ได้อีกแล้ว...” กาลตอบเสียงเศร้า พลางทิ้งน้ำหนักตัวเข้าหาความอบอุ่นของคนที่กอดตนอยู่

“เป็นผมได้ไหมครับ?”

“หือ?” กาลผละตัวออกมามองตารุ่นน้องตัวสูง

“ถ้าพี่ไม่รู้ว่าจะว่ายน้ำไปทำไม ไม่มีจุดมุ่งหมาย ไม่มีความฝัน ก็ให้เป็นผมได้ไหม ผมจะเป็นฝั่งของพี่ให้เอง”



ถ้าความฝันมันพังก็แค่สร้างมันขึ้นมาใหม่

อินทรชิตคนนี้จะเป็นทุกอย่างของคุณให้เอง