“ฤดูใบไม้ผลิแห่งรัก” รายการที่เชิญเหล่าบรรดาสาวสวยและหนุ่มหล่อ ในที่แห่งนี้ท่านสามารถตามหารักแท้อย่างที่วาดฝันไว้ได้ เราขอมอบโอกาสสำคัญนี้ให้กับท่าน ท่านยินดีที่จะเข้าร่วมฤดูใบไม้ผลิแห่งรักหรือไม่?
รัก,แฟนตาซี,ไทย,นิยายรัก,18+,หวาน,นิยายแฟนตาซี,นิยายชายหญิง,เวทมนต์,เวทมนตร์,รักโรแมนติด,รักโรแมนติก,โรแมนติก,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“พวกเราไปสำรวจรอบ ๆ ปราสาทด้วยกันทั้งหมดเลยดีมั้ยคะ?” ป๊อปปี้พูดชวนด้วยท่าทางตื่นเต้น
เมื่อแสงอาทิตย์ยามบ่ายสาดส่องผ่านหน้าต่าง และกระทบกับกระจกสีที่ประดับประดาไปด้วยลวดลายดอกไม้ เผยเห็นทิวทัศน์ของปราสาทที่งดงามตระการตา ภายนอกสร้างจากหินสีขาวที่ส่องประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ ทางเดินเข้าปราสาทถูกขนาบด้วยทุ่งดอกไม้หลากสีสัน กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาตามสายลม
“ซู่ ซู่” เสียงน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาใกล้ ๆ ทำให้มีบรรยากาศที่สดชื่นและเงียบสงบ เมื่อเดินเข้าสู่ปราสาท ประตูบานใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยลวดลายของเถาวัลย์และดอกไม้ที่กำลังจะผลิดอก
บันไดหินอ่อนที่นำไปสู่ชั้นบน แต่ละขั้นของบันไดถูกประดับด้วยคริสตัล พวกเราเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของปราสาท ระเบียงที่เปิดออกสู่ทิวทัศน์ที่งดงามของป่าและภูเขาที่เขียวขจี ห้องพักภายในปราสาทถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งแบ่งเป็นฝั่งชาย และฝั่งหญิง แต่ละห้องของปราสาทถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้โอ๊คและมีผ้าม่านไหมที่ทอด้วยมือเป็นลวดลายของดอกไม้ป่าที่ถูกถักทอด้วยความประณีตในระหว่างการสำรวจปราสาทโดยรอบพวกเราก็ได้ทำความรู้จักกันเพิ่มมากขึ้น
ฉันได้รู้ว่า เดซี่และป๊อปปี้ ทั้งคู่เป็นคนที่สดใสมากสมกับชื่อดอกไม้ของพวกเธอจริง ๆ ส่วนชายหนุ่มสองคน แอนทูเรียมค่อนข้างเป็นคนนิ่ง ๆ ส่วนนาร์ซิสซัสนี่ตรงกันข้ามกับแอนทูเรียมเลยหล่ะ
ณ ห้องพักฝั่งผู้ชาย
“แอนทูเรียม ในสามคนนั้นมีคนที่สนใจเป็นพิเศษบ้างมั้ยครับ?”
“ไม่รู้สิ เรื่องนั้นคงต้องดูไปอีกหน่อย ถึงจะรู้นะ”
“ส่วนผมแค่ เสี้ยววิ ก็รู้แล้วนะว่าคนไหนคือคนที่ใช่ของผม”
“เสี้ยววิ?”
“มองแค่แวบเดียวก็ได้แล้วว่า เธอคนนั้นคือคนที่ใช่สำหรับผม”
ณ ห้องพักฝั่งผู้หญิง
“คุณเดซี่ และคุณบลูเบลล์ในบรรดาสองคนนั้นมีคนที่สนใจมั้ยคะ?”
“สำหรับฉันตอนนี้ ฉันรู้สึกชอบคุณนาร์ซิสซัสนะคะ เขาดูเป็นคนที่ร่าเริงเหมือนกับฉันดี” เดซี่รีบตอบ
“เอ่อ... ส่วนฉันตอนนี้ยังไม่มีเลยค่ะ” ฉันที่ยังปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งยังต้องหาเหตุผลว่าทำไมคนที่ไม่ควรจะได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมรายการอย่างฉันถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ ถึงฉันจะดีใจที่จะสามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตได้ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ในเย็นคืนนั้น ก่อนที่จะได้ไปรับประทานอาหาร ฉันได้ถูกเรียกตัวโดยฟลอร์แมนเพื่อไปสัมภาษณ์เดี่ยว คนอื่น ๆ ก็คงที่จะถูกเรียกตัวไปด้วยเหมือนกันสินะ
คำถาม : ดอกไม้ดอกไหนที่คุณสนใจมากที่สุด?
“ตอนนี้ฉันยังไม่มีคนที่สนใจค่ะ” ฉันตอบออกไปอย่างมั่นใจ
“ผมขอถามอะไรสักหน่อยได้มั้ยครับ คุณลอเลนเซีย อันนี้จะไม่ได้ถ่ายทอดสดออกอากาศออกไปนะครับ แต่ตอนนี้คุณไม่มีคนที่สนใจจริง ๆ หรอครับ?”
“ใช่ค่ะ ฉันมานั่งคิดดูแล้วฉันไม่ควรจะได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมรายการแน่ ๆ เพราะจากเท่าที่ฉันดูรายการมา ส่วนมากผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงหรือคนที่มีความสำคัญ อย่าง รัชทายาทหรือองค์หญิงของจักรวรรดิอะไรแบบนั้น”
“เหตุผลจริง ๆ ที่คุณส่งจดหมายเชิญมาคืออะไรกันแน่คะ?”
หลังจากฟลอร์แมนได้ยินสิ่งที่ฉันพูดออกไป เขากลับมีอาการตกใจเล็กน้อยพร้อมกับพึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง “หรือว่าคุณหนู...” ก่อนเขาจะพูดตอบกลับมาว่า
“ถ้าหากคุณอยากตามหาเหตุผลที่คุณได้จดหมายเชิญแล้วละก็ ในทุกครั้งที่มีการแข่งขันของฝั่งผู้หญิงคุณต้องเป็นฝ่ายชนะเสมอ แล้วผมจะค่อย ๆ มอบบางอย่างให้กับคุณ”
คำถาม : ดอกไม้ดอกไหนที่คุณสนใจมากที่สุด?
“บลูเบลล์ครับ ดอกไม้ของเธอทำให้ผมนึกถึงคนคนหนึ่งครับ” - นาร์ซิสซัส
“ยังไม่แน่ใจครับ” – แอนทูเรียม
“ฉันหรอคะ!? ถ้ารูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ฉันชอบคุณแอนทูเรียมนะคะ แต่พอได้ลองพูดคุยกัน ใจฉันก็ดันเอนเอียงไปทาง คุณนาร์ซิสซัสซะแล้วหล่ะค่ะ~” - เดซี่
“ฉันชอบคุณแอนทูเรียมค่ะ เพราะเขาดูสุขุม แถมลุคภายนอกของเขาก็ดูเข้ากันกับฉันด้วย ดูสีแดงของพวกเราทั้งคู่สิคะ เข้ากั๊น เข้ากันแบบสุด ๆ ไปเลยเน้ออ~” - ป๊อปปี้
และแล้วก็ถึงเวลารับประทานอาหาร โต๊ะอาหารยาวที่ทำจากไม้โอ๊คเก่าแก่ถูกจัดเตรียมอย่างประณีต ผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดจรด แสงเทียนที่วางอยู่กลางโต๊ะส่องแสงอ่อนๆ เพิ่มบรรยากาศโรแมนติกและอบอุ่น อาหารค่ำที่เสิร์ฟบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจานหรูที่ถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถัน มีทั้งเนื้อย่างชุ่มฉ่ำที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ซุปเห็ดเข้มข้น และขนมปังอบใหม่ที่กรอบนอกนุ่มใน เสียงหัวเราะและการสนทนาที่อบอุ่นดังขึ้นในห้องอาหาร
นาร์ซิสซัสเล่าเรื่องตลกที่ทำให้ทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข ในขณะที่เสียงเพลงบรรเลงจากพิณเวทมนตร์เบา ๆ ดังก้องในห้อง ป๊อปปี้เองก็พูดคุยกับแอนทูเรียมอย่างสนุกสนาม จนเวลาล่วงเลยไปเมื่ออาหารคาวเสร็จสิ้นลง ขนมหวานที่ถูกเตรียมมาอย่างพิถีพิถันก็นำมาวางบนโต๊ะ ขนมหวานเหล่านี้หลากหลายและน่าตื่นตาตื่นใจ ทั้งเค้ก ทาร์ต และคุกกี้ที่ตกแต่งด้วยผลไม้สดและครีม
ฉันยิ้มและหัวเราะไปกับบทสนทนาของทุก ๆ คน ขณะที่พวกเราเริ่มลิ้มลองขนมหวานต่างๆ บนโต๊ะ มีเค้กช็อกโกแลตที่มีถั่วโรยอยู่ด้านบน ถูกจัดวางอย่างสวยงาม เดซี่ หันไปยิ้มทาร์ตผลไม้และชิมด้วยความพอใจ
“หื้มม ทาร์ตนี่มันอร่อยสุด ๆ ไปเลย” พร้อมกับทำหน้ามีความสุข
ฉันยิ้มให้กับการแสดงออกทางสีหน้าที่น่ารักของเดซี่ และหยิบเค้กช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งขึ้นมา โดยที่ฉันไม่รู้ว่ามันมีถั่วผสมอยู่ ฉันได้ลองชิมคำแรกและรู้สึกถึงรสชาติหวานละมุนของช็อกโกแลต แต่ทันทีที่คำแรกผ่านไป ความรู้สึกไม่สบายก็เริ่มก่อตัวขึ้น
สายตาของฉันเริ่มเบลอ และหายใจไม่ออก ฉันลุกขึ้นจากโต๊ะพยายามพูดเพื่อจะขอตัวออกมา ทุกคนที่โต๊ะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติเมื่อฉันเริ่มตัวสั่นและหน้าแดง
“เดี๋ยวฉันมะ...”
“บลูเบลล์!!” ทุกคนพูดขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่ฉันล้มลงจากเก้าอี้ไปยังพื้นห้องอาหาร นาร์ซิสซัสรีบเข้ามาพยุงฉันขึ้น ในขณะที่แอนทูเรียมวิ่งไปหยิบน้ำและยาแก้แพ้ออกมาจากกระเป๋าของเขา ฉันที่สติเลือนราง มองเห็นหน้าของแอนทูเรียมเบลอไป ซ้อนทับกับใบหน้าของใครบางคนในอดีต ภาพเหตุการณ์ครั้งนั้นที่ฉันเคยแพ้ถั่วและเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักกับคำว่ารักกลับมาทำให้ใจของฉันเต้นแรง ความรู้สึกเก่าๆ และความรักที่ไม่เคยจางหายได้ย้อนกลับมาอีกครั้ง
ขณะที่ยาเริ่มออกฤทธิ์ อาการของฉันค่อย ๆ สงบลง ฉันหายใจได้ดีขึ้นและตาเริ่มกลับมามองเห็นชัดเจนอีกครั้ง ฉันที่ตื่นขึ้นมาเห็นนาร์ซิสซัสที่จับมือของฉันไว้แน่น ฉันสังเกตเห็นสายตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยและรอยแดงรอบดวงตาของเขา “ค่อยยังชั่วที่เธอปลอดภัย”
แอนทูเรียมยิ้มด้วยความโล่งอก “ขอบคุณพระเจ้า เธอปลอดภัย” ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย เดซี่และป๊อปปี้พุ่งเข้ามากอดฉันพร้อมกับร้องไห้ “ดีใจจริง ๆ ที่เธอปลอดภัย”
ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้รับจากทุกคน ฉันยิ้มอ่อน ๆ แล้วพยักหน้า “ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะคะทุกคน”
หลังจากทุกคนวางใจในอาการของฉันแล้ว ก็ค่อย ๆ ทยอยกันออกไปพักผ่อนที่ห้องของตัวเอง ในขณะที่ฉันกำลังนั่งพักอยู่บนเตียง ทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำในระหว่างที่ฉันสติเลือนราง ฉันได้มองหน้าของแอนทูเรียมเบลอไปซ้อนทับกับใครบางคนในอดีต ทำให้ฉันหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ขณะที่ฉันกำลังสนุกสนานอยู่ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง และเผลอกินถั่วเข้าไปโดยไม่รู้ตัวจนสติเลือนราง ทันใดนั้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาพยุงฉันขึ้นพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อฉัน “ลอเลนเซีย!!” และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ราวกับกลัวว่าจะสูญเสียฉันไป “เธอห้ามเป็นอะไรนะ ลอเลนเซีย”
ความทรงจำครั้งนั้นยังคงอยู่ในใจของฉันเสมอ ภาพของเด็กหนุ่มคนนั้นที่ช่วยเหลือฉัน แต่ไม่ว่าฉันจะพยายามนึกแค่ไหนฉันก็นึกชื่อของเด็กคนนั้นไม่ออก แต่ในวันนี้ความรู้สึกมันกลับชัดเจนอีกครั้ง ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นและความห่วงใยนั้นได้จากแอนทูเรียมที่ช่วยเหลือฉันเหมือนกับในวันนั้น หรือว่าเด็กคนนั้นในความทรงจำของฉัน คือ...
และฉันก็ผล็อยหลับไปรู้สึกตัวอีกที แสงยามเช้าก็ส่องเข้ามาในห้องของฉัน พร้อมกับเสียงนกร้องดังจากยอดไม้สูง ทำให้บรรยากาศยามเช้าดูสดใสและมีชีวิตชีวา ฉันลืมตาขึ้นมา พร้อมกับเดินไปเปิดหน้าต่างบานใหญ่เพื่อออกไปสูดอากาศ ภาพที่เห็นคือท้องฟ้าสีครามที่ค่อย ๆ สว่างขึ้นทิวทัศน์ของป่าเขาและทะเลสาบที่เป็นประกายใต้แสงแดดอ่อน ๆ ฉันรู้สึกถึงความสุขที่ได้ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่
ที่ปลายระเบียงอีกฝั่ง ฉันเห็นนาร์ซิสซัสกำลังยืนอยู่ เขาหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของฉัน มุมปากของเขาค่อย ๆ ยกขึ้น “อรุณสวัสดิ์ บลูเบลล์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“อรุณสวัสดิ์ นาร์ซิสซัส” ฉันตอบกลับไปพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย
“สงสัยวันนี้ฉันคงจะใช้โชคดีหมดแล้วละมั้ง เพราะฉันตื่นมาก็เจอนางฟ้าเลย” เขายิ้มและหันมองหน้าของฉัน
ฉันรู้สึกได้ถึงความอุ่นที่แพร่กระจายไปทั้งตัว “นายพูดเวอร์ไปแล้ว”
“ก็ฉันรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ นี่ หน้าของเธอแดงไปหมดแล้วนะ” นาร์ซิสซัสที่สังเกตเห็นใบหน้าของฉันแดงเรื่อด้วยความเขินอายพูดแซว ทั้งสองหัวเราะไปด้วยกัน บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะที่แสนอบอุ่น เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่แสนพิเศษและน่าจดจำ....