“ฤดูใบไม้ผลิแห่งรัก” รายการที่เชิญเหล่าบรรดาสาวสวยและหนุ่มหล่อ ในที่แห่งนี้ท่านสามารถตามหารักแท้อย่างที่วาดฝันไว้ได้ เราขอมอบโอกาสสำคัญนี้ให้กับท่าน ท่านยินดีที่จะเข้าร่วมฤดูใบไม้ผลิแห่งรักหรือไม่?
รัก,แฟนตาซี,ไทย,นิยายรัก,18+,หวาน,นิยายแฟนตาซี,นิยายชายหญิง,เวทมนต์,เวทมนตร์,รักโรแมนติด,รักโรแมนติก,โรแมนติก,แฟนตาซี,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ยินดีกับผู้ชนะ! นาร์ซิสซัสและบลูเบลล์! คุณทั้งสองจะได้ไปดินเนอร์ที่เรือนกระจกลอยฟ้าสุดโรแมนติกในคืนนี้!”
บนเรือนกระจกลอยฟ้าที่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า แสงจันทร์ส่องลงมาสะท้อนกับพื้นผิวกระจก ทำให้บรรยากาศยิ่งดูโรแมนติก บลูเบลล์และนาร์ซิสซัสนั่งอยู่ที่โต๊ะดินเนอร์สุดหรู พร้อมด้วยแสงเทียนและดอกไม้ที่จัดไว้อย่างประณีต อาหารเรียงรายมาอย่างสวยงาม กลิ่นหอมของดอกไม้และเสียงเพลงเบา ๆ ทำให้บรรยากาศสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บางครั้งก็หัวเราะออกมาอย่างเบิกบานใจ ความเข้ากันได้ของพวกเขาสูงมากจนเหมือนว่ารู้จักกันมานาน
บลูเบลล์พูดขึ้น “พอเข้ามาให้เรือนกระจกนี้แล้ว มันทำให้ฉันนึกถึงเรื่องในอดีตเลยหล่ะ” นาร์ซิสซัสทำหน้าสงสัยพร้อมกับถามกลับ “จริงเหรอ!? ลองเล่าให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม?”
ฉันพยักหน้าพร้อมกับพูดต่อ “แน่นอนสิ ตอนนั้นฉันน่าจะอายุประมาณแปดขวบ เป็นงานเลี้ยงในสวนที่มีเรือนกระจกสวยงามมาก มีดอกไม้ทุกสีและกลิ่นหอมลอยมาในอากาศ พ่อแม่พาฉันไปเดินเล่นในเขาวงกต แต่ด้วยความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก ฉันก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนพลัดหลงกับพ่อแม่”
ฉันหยุดพูดชั่วขณะ แล้วหายใจลึก ๆ ก่อนจะเล่าต่อ “ตอนนั้นฉันกลัวมาก ฉันพยายามหาทางออก แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งหลง สวนเงียบสงบจนทำให้ฉันรู้สึกเหงาและหวาดกลัว แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ ดังขึ้นจากข้างหลัง ฉันหันไปเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เขาดูอายุไล่เลี่ยกับฉัน เขามองมาที่ฉันแล้วยิ้มให้”
ฉันยิ้มเล็กน้อยเมื่อคิดถึงช่วงเวลานั้น “เขาถามฉันว่า ‘เธอหลงทางหรือเปล่า?’ ฉันพยักหน้าแล้วเขาก็บอกว่า ‘ไม่ต้องห่วง ฉันจะช่วยเธอออกไปจากที่นี่’ เราสองคนเดินไปด้วยกัน เขาจับมือฉันแน่นและพาฉันเดินผ่านทางเดินคดเคี้ยวของเขาวงกต จนในที่สุดเราก็ออกมาพบกับพ่อแม่ของฉันที่กำลังตามหาฉันอยู่”
นาร์ซิสซัสฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าของเขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตลอดเวลา “เขาเหมือนเป็นโชคชะตาของเธอเลยนะ แล้วหลังจากนั้นหล่ะ?”
ฉันหัวเราะเล็กน้อย “หลังจากนั้นฉันกับเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันค่ะ ทุกครั้งที่ฉันนึกถึงเหตุการณ์นั้น ฉันรู้สึกขอบคุณเขามาก ๆ”
นาร์ซิสซัสพูดอย่างอ่อนโยน “เขาคงดีใจมากที่ได้ช่วยเหลือเธอ บลูเบลล์”
บลูเบลล์ยิ้มและมองตานาร์ซิสซัสด้วยความอบอุ่น “เขาคือฮีโร่ของฉันในตอนนั้นเลยหล่ะ”
นาร์ซิสซัสฟังด้วยความสนใจและรู้สึกอบอุ่นในใจ เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตลอดเวลาที่บลูเบลล์เล่าพร้อมกับพึมพำ “น่าประทับใจสุด ๆ ไปเลยหล่ะ”
เรือนกระจกที่เต็มไปด้วยแสงดาวและแสงจันทร์ทำให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่สวยงามและน่าจดจำสำหรับบลูเบลล์และนาร์ซิสซัส ความรักอาจจะเริ่มต้นขึ้นในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความประทับใจที่ไม่มีวันลืม
ในขณะเดียวกันทางด้านของเหล่าบุปผางามที่เหลือ แมวน้อยฟลอร์แมนได้พาพวกเขามายังห้องอาหาร แต่ในห้องอาหารนั้นกลับไม่มีอาหารอะไรจัดเตรียมไว้ให้พวกเขาเลย
“อย่าบอกนะว่า...” ป๊อปปี้ที่พูดขึ้นมาขณะที่เห็นโต๊ะอาหารที่ว่างเปล่า
“ใช่แล้วครับ ดินเนอร์ในวันนี้ของเหล่าบุปผาที่เหลือ ทุกท่านต้องเป็นคนจัดเตรียมขึ้นด้วยตัวเอง” แมวน้อยฟลอร์แมนพูดขึ้นราวกับตอบกลับสิ่งที่ป๊อปปี้จินตนาการไว้ และพูดต่ออีกว่า
“ทางเราได้จัดเตรียมวัตถุดิบระดับพรีเมียม ให้กับพวกท่านไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้พวกท่านจงใช้วัตถุดิบเหล่านี้รังสรรค์ดินเนอร์สุดหรูขึ้นมาด้วยนะครับ กริ๊ง ๆ ” หลังจากสิ้นเสียงของกระดิ่ง แมวน้อยฟลอร์แมนก็หายตัวไป
“อืมม...ไหนขอดูวัตถุดิบที่เตรียมไว้ให้หน่อยสิ” ป๊อปปี้พูดขณะที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าเตาและมองเข้าไปยังวัตถุดิบที่ถูกเตรียมไว้
“ทำสเต๊กเนื้อกับมันบดราดน้ำเกรวี่ดีมั้ยครับ” แอนทูเรียมพูดเสนอเมนูสำหรับดินเนอร์ขึ้น
“ฉันชอบสเต๊กเนื้อค่ะ!!” เดซี่พูดขึ้นพร้อมกับท่าทางตื่นเต้น
“ฉันก็ชอบนะ...” ฮอว์ธอร์นพูดเสริม
“งั้นเรามาช่วยกันทำดินเนอร์นี้กันเถอะค่ะ!!” ป๊อปปี้พูดพร้อมกับท่าทางฮึกเหิม
ป๊อปปี้และเดซี่กำลังช่วยกันทำมันบดราดบนน้ำเกรวี่ “เดซี่ ช่วยคนมันฝรั่งให้เข้ากันหน่อยนะ” ป๊อปปี้พูดพร้อมกับเทนมและเนยลงในหม้อมันฝรั่งต้มร้อน ๆ เดซี่หยิบมีดขึ้นมาเพื่อหั่นเนยเป็นชิ้นเล็ก ๆ แต่ท่าทางของเธอดูจะไม่คล่องเท่าไหร่นัก
“ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวเธอก็เจ็บตัวอีกหรอก” ฮอว์ธอร์นพูดขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาหาเดซี่ เขาจับมือของเธออย่างอ่อนโยนเพื่อช่วยให้เธอใช้มีดได้ปลอดภัยมากขึ้น
เดซี่หน้าแดงเล็กน้อย “ขอบคุณนะ”
ในขณะที่ฮอว์ธอร์นและเดซี่กำลังทำมันบด ป๊อปปี้และแอนทูเรียมก็เริ่มเตรียมเนื้อสำหรับสเต๊ก “แอนทูเรียม ช่วยดูว่าเนื้อสเต๊กชิ้นนี้หน่อยสิ มันหนาพอหรือยัง” ป๊อปปี้ถามขณะเตรียมเครื่องปรุง
แอนทูเรียมมองดูแล้วพยักหน้า “มันหนาพอดีแล้ว ตอนนี้เราต้องหมักเนื้อให้เข้ากับเครื่องปรุงก่อนที่จะนำมันไปย่าง”
เมื่อป๊อปปี้และแอนทูเรียมสังเกตเห็นฮอว์ธอร์นและเดซี่ที่กำลังใกล้ชิดกันขณะทำมันบด ทั้งคู่ก็เริ่มแซวกันอย่างสนุกสนาน “ดูเหมือนว่าตรงนั้นจะมีเชฟส่วนตัวกันเลยนะ” ป๊อปปี้พูดพลางหัวเราะ
แอนทูเรียมยิ้มอย่างขบขัน “ฮอว์ธอร์น ดูแลเดซี่อย่างดีเลยนะ ระวังด้วยเดี๋ยวอาหารมื้อนี้มันจะหวานเกินไป”
ฮอว์ธอร์นหัวเราะเบา ๆ “แหม ฉันก็แค่ไม่อยากให้เธอเจ็บตัวหรอกนะ” เขาพูดพลางมองเดซี่ด้วยความอ่อนโยน เดซี่หน้าแดงอีกครั้งและยิ้มอย่างเขินอาย บรรยากาศในครัวเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่น ทุกคนที่ร่วมด้วยช่วยกันทำอาหารอย่างมีความสุขและความสนุกสนาน เมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้น พวกเขาก็มีมื้อค่ำที่สุดแสนจะเพอร์เฟค
กลิ่นหอมของสเต๊กเนื้อและมันบดราดบนน้ำเกรวี่ ลอยอบอวล พวกเขานั่งล้อมรอบโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารที่พวกเขาช่วยกันเตรียม ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับมื้อค่ำที่แสนอร่อยนี้
ป๊อปปี้ยกแก้วขึ้นยิ้มแย้ม “ต้องขอบคุณฮอว์ธอร์นมากเลยนะเนี่ย ที่ช่วยเดซี่หั่นเนย ไม่งั้นเราอาจจะได้กินมันบดรสชาติเหมือนเลือดก็ได้”
ทุกคนหัวเราะอย่างสนุกสนาน เดซี่หน้าแดงเล็กน้อยแต่ก็หัวเราะไปด้วย “ฉันไม่คิดว่ามันจะเลวร้ายขนาดนั้นหรอกนะ ป๊อปปี้”
แอนทูเรียมเอียงคอแล้วยิ้ม “นั่นสินะ ฮอว์ธอร์นนายนี่เป็นฮีโร่ของเราจริง ๆ”
ฮอว์ธอร์นหัวเราะเบา ๆ “แหม พวกนี้แซวกันเก่งจริง ๆ ฉันก็แค่ไม่อยากให้เดซี่บาดเจ็บก็เท่านั้นแหละ”
ป๊อปปี้พูดเสริมอีก “นี่ ฮอว์ธอร์น พูดแบบนี้เดี๋ยวทุกคนก็จะคิดว่าคุณเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวที่มาช่วยเดซี่จากอันตรายในครัวแล้วนะ”
เดซี่หัวเราะพร้อมกับยิ้มแย้ม “ถ้าฮอว์ธอร์นเป็นเจ้าชายจริง ๆ ฉันก็คงเป็นเจ้าหญิงที่ซุ่มซ่ามที่สุดในอาณาจักรแล้วล่ะ”
แอนทูเรียมหัวเราะ “และเจ้าชายของเราก็ไม่ยอมให้เจ้าหญิงบาดเจ็บแน่นอน เขาถึงได้อยู่ข้างๆ ตลอดเวลา”
ฮอว์ธอร์นยิ้มอย่างอาย ๆ “เอาล่ะ ๆ ทุกคนพอแล้ว ผมแค่ช่วยเหลือนิดหน่อยเอง พูดเวอร์สุด ๆ”
ทุกคนในโต๊ะหัวเราะเสียงดังหลังจากที่ฮอว์ธอร์นพูดจบ ป๊อปปี้มองไปที่เดซี่แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “เดซี่ แล้วเธอล่ะ คิดยังไงกับการมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยในครัวแบบนี้?”
เดซี่หน้าแดงอีกครั้งและยิ้มเขิน ๆ “ฉันรู้สึกปลอดภัยมากเลยค่ะที่เขาคอยช่วยอยู่ข้าง ๆ”
“ฟังดูเหมือนเรื่องในนิยายเลยนะ ว่าไหม? เจ้าหญิงซุ่มซ่ามและเจ้าชายที่แสนดี” แอนทูเรียมยิ้มกว้าง
ฮอว์ธอร์นยิ้มพร้อมกับยกแก้วขึ้น “ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผมก็ยินดีเป็นเจ้าชายของเดซี่นะ”
เสียงหัวเราะและเสียงชนแก้วดังก้องในห้องอาหาร ป๊อปปี้ยกแก้วของเธอขึ้น “เพื่อเจ้าหญิงและเจ้าชายของเรา ขอให้ทั้งคู่มีความสุขนะคะ” ทุกคนชนแก้วกันพร้อมกับหัวเราะอย่างมีความสุขความรู้สึกผูกพันกันมากขึ้น ผ่านการแบ่งปันเรื่องราวและความทรงจำที่อบอุ่นในมื้อค่ำแสนพิเศษนี้