อันนา โอโดจินเม, นักศึกษาสาวชาวไนจีเรียต้องเผชิญเรื่องสยองขึ้นเมื่อบิดาของเธอถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหดในบ้านพักของเธอ ณ ลอนดอน เธอจึงต่อสู้เพื่อความยุติธรรมท่ามกลางความลับอันดำมืดนี้ด้วยตนเอง...

The Misery ฆาตกรรมทมิฬ - บทที่ 1 Anne's Inquiry โดย Leopold @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ตะวันตก,อาชญากรรม,ลึกลับ,จิตวิทยาระทึกขวัญ,นักสืบ,จิตวิทยา,ลึกลับ,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

The Misery ฆาตกรรมทมิฬ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ตะวันตก,อาชญากรรม,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

จิตวิทยาระทึกขวัญ,นักสืบ,จิตวิทยา,ลึกลับ,ฆาตกรรมหักมุม,ฆาตกรรม,สืบสวนสอบสวน

รายละเอียด

อันนา โอโดจินเม, นักศึกษาสาวชาวไนจีเรียต้องเผชิญเรื่องสยองขึ้นเมื่อบิดาของเธอถูกฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหดในบ้านพักของเธอ ณ ลอนดอน เธอจึงต่อสู้เพื่อความยุติธรรมท่ามกลางความลับอันดำมืดนี้ด้วยตนเอง...

ผู้แต่ง

Leopold

เรื่องย่อ

กรกฎาคม 2026


ชีวิตของผมในฐานะทนายความคนหนึ่งก็ยังดำเนินไปตามปกติ ทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน สลับกับเรียนปริญญาโทอีกใบตามความฝันของตัวเอง ทว่าบัดนั้นคำพูดของศิษยาภิบาลหลี่ก็ดังก้องอยู่ในศีรษะขณะกำลังขับรถกลับบ้าน ณ เขตเคนชิงตันใต้ตามปกติ 

"เอ ผมก็ชนะกีฬาสแครบเบิ้ลระดับโลกมาแล้วนี่" ผมพึมพำเบา ๆ ก่อนจะหยิบหนังสือพิมพ์รายปักษ์มาอ่านพาดหัวข่าวที่เขียนว่า

"นักกฎหมายหนุ่มชาวอังกฤษเชื้อสายไต้หวันคว้าชัยในการต่อศัพท์ระดับโลก"

คืนนี้ก็ดูปกติเหมือนกันครับ กลับมาก็นอนดูโทรทัศน์กับปีเตอร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน ณ สำนักงานบริหารสินทรัพย์เลื่องชื่อก่อนจะผล็อยหลับตามปกติ 



ทว่าการเข้ามาของลูกความคนหนึ่ง ก็มาพร้อมกับความลับอันดำมืดอีกประการเช่นกัน...

หลิวเจิ้งหมิน





สวัสดีคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านนะครับ

สำหรับเนื้อหาของเล่มนี้มีความคาบเกี่ยวกับเล่ม Berlinau และ The Quarantine Diary's by Zhengmin ทั้งสองเล่มครับ โดยในเล่มนี้ถือเป็นผลงานสืบสวนเล่มที่สองของไรท์ ซึ่งทุกอย่างเริ่มต้นมาจากเหตุฆาตกรรมชายวัยกลางคนในเขตริชมอนด์ สหราชอาณาจักร และเรื่องนี้จะนำไปสู่ความลับอันน่าสยดสยองอย่างไรนั้น...

คำเตือน : ในเนื้อเรื่องอาจมีฉากและเหตุการณ์ที่รุนแรง โดยเป็นเหตุการณ์สมมติทั้งหมดและไม่แนะนำให้เลียนแบบนะครับ



สารบัญ

The Misery ฆาตกรรมทมิฬ-บทที่ 1 Anne's Inquiry,The Misery ฆาตกรรมทมิฬ-บทที่ 2 Guardian

เนื้อหา

บทที่ 1 Anne's Inquiry

29 กรกฎาคม 2026
 
 “ขอบคุณที่ให้คำปรึกษาแก่ดิฉันค่ะ” สิ้นเสียงอ่อนหวานหญิงสาวจากไบรท์ตัน ผมพลันฉีกยิ้มกว้างแก่เธอก่อนจะตอบกลับอย่างสุภาพ “ไว้มีปัญหาเดี๋ยวแวะมาคุยด้วยใหม่ค่ะ คุณทนาย”

 หลิวเจิ้งหมินซึ่งสวมชุดสูทสีดำตัดกับเชิ้ตสีเหลืองอ่อนฉีกยิ้มปลื้มใจก่อนจะเดินไปชงชานมร้อนใส่แก้วมักซึ่งสกรีนรูปแมวมาดื่มระหว่างช่วงผ่อนคลาย รสชาติอันหอมหวานของนมเติมความอร่อยแก่น้ำชาราวกับว่าเป็นเครื่องดื่มของพระเจ้า ชายหนุ่มวัยยี่สิบสี่นอนเอนกายบนเก้าอี้บุหนังอย่างสบายใจก่อนที่เสียงเคาะจะดึงเขาให้ตื่นในทันใด

 “อื้ม ไม่ต้องกลัวครับ เข้ามาคุยได้เลย” ผมกล่าวอย่างอ่อนโยนก่อนจะปรับท่านั่งของตนให้สำรวม “ว่าแต่ปรึกษาเรื่องอะไรเหรอนั่น”

 หญิงสาวชาวไนจีเรียไม่แสดงออกใด ๆ ผ่านสีหน้าของตน ทว่าทนายความหนุ่มก็สามารถรับรู้ถึงความเศร้าโศกของเธอผ่านแววตาที่เก็บงำความรู้สึกของตนจนไม่อาจจะแยกออกได้ว่านี่คือสุข หรือเศร้า หรือเคียดแค้นแต่อย่างใด มือของเธอกำซองใส่เอกสารสีน้ำตาลไว้แน่นก่อนจะวางลงบนโต๊ะอย่างอ่อนโยนเมื่อเกิดความรู้สึกไว้วางใจบุรุษตรงหน้า 

 “ดีใจกับงานแข่งล่าสุดด้วยค่ะ คุณทนาย” สุภาพสตรีผู้สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัดกับกระโปรงสีครามฉีกยิ้มกว้างก่อนจะยื่นช่อดอกไม้ที่ตนซื้อมาให้ 
 “เอ ไม่มีเงินอยู่ในนี้แน่นะครับ คุณหนู” ผมถามพลางประสานมือรออีกฝ่าย
 “ฉันไม่กล้าให้สินบนทนายหรอกค่ะ” เมื่ออันนา โอโดจินเมยิ้มเรียบ ผมจึงรับช่อดอกไม้แล้ววางไว้ตรงชั้นหนังสือของตน “ขออนุญาตถามนะคะ ว่าแต่คุณได้ข่าวฆาตกรรมจิมที่บ้านพักในริชมอนด์ไหมคะ”
 “ได้ยินนะ แถมเกิดเหตุใกล้บ้านเช่าของผมอีก” หลิวเจิ้งหมินมองหญิงสาวหน้าตาผิวสีจิ้มลิ้มพลางพิมพ์รายละเอียดตามเอกสารที่แนบมา “อืม จากบันทึกของตำรวจบอกว่าเจอสภาพศพผู้ชายสูง 180 ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ รวมทั้งโดนตัดหัวด้วย ถ้างั้นพี่ขอถามหน่อยว่ามีภาพจากกล้องวงจรปิดไหมครับ”
 “กล้องโดนผ้าปิดค่ะ แถมไม่มีข้อมูลเรื่องรูปพรรณของฆาตกรอีกด้วย” อันนาถอนหายใจเล็กน้อยพร้อมกับสังเกตท่าทีของอีกฝ่าย “ถ้าจำไม่ผิด ตำรวจบอกว่าเจอแค่ยานอนหลับกับยาชาน่ะค่ะ”
 “เป็นการฆ่าที่เลือดเย็นสิ้นดีนะครับ” ผมถกแขนเสื้อสูทก่อนจะยืดเส้นเพียงเล็กน้อย “ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจเรื่องคุณพ่อด้วยครับ”
 “ขอบคุณค่ะ” เธอฉีกยิ้มขอบคุณแก่ทนายความก่อนจะดื่มน้ำเปล่าที่พกมา 
 “จากที่พี่ดูรูปมา คาดว่าน่าจะตายประมาณสองชั่วโมงก่อนเจอศพนะ ดังนั้นคนร้ายก็อาจหนีไปไม่ไกลก็ได้” ผมพึมพำพลางสังเกตสภาพศพจากวิดีโอที่ยังมีความใกล้เคียงกับปกติทว่าก็สามารถรู้สึกถึงการแข็งตัว “จากสภาพข้างต้นแล้ว กล้ามเนื้อน่าจะถูกสารแอกตินกับไมโอซินครอบไว้แล้วล่ะ อืม พี่ขอถามหน่อยว่าคุณพ่อได้ไปวิ่งหรือเดินที่ไหนมาก่อนไหม”
 “ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ท่านวิ่งออกกำลังประมาณชั่วโมงนึงค่ะ”
 “ตรงตามที่พี่วิเคราะห์ด้วย กล้ามเนื้อขาแข็งตัวเร็วกว่าที่อื่นเลย” หลิวเจิ้งหมินอุทานก่อนจะเปิดรูปดังกล่าวให้ดู “อื้ม ว่าแต่เบื้องต้นตำรวจว่าไงบ้างล่ะ”
 “ตอนนี้ก็กำลังสืบหาคนร้ายค่ะ แต่หลักฐานน้อยอย่างนี้อาจจะช้าไปพักใหญ่แน่ ๆ” อันนาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงใจพลางมองอีกฝ่ายให้รู้สึกอุ่นใจ “ว่าแต่ช่วยเป็นทนายในคดีนี้ได้ไหมคะ”
 “เอ ผมไม่ได้อยู่สายว่าความนี่ดิ แต่ผมจะช่วยเรื่องนี้เอง” ทันใดนั้นหญิงสาวก็ถึงกับดีใจจนน้ำตาลไหลออกมา “ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวคนว่าความนี่ ลองถามทนายเรนิทิสดูครับ”
 “ขอบคุณมากค่ะ ไว้เจอกันใหม่นะคะ” เธอรับซองเอกสารที่มีในตอนแรกกลับไปก่อนจะเดินออกไปอย่างสุภาพ

 หรือจริง ๆ นี่เป็นเรื่องใหญ่ตามที่คุณพ่อหลี่บอกกันแน่นะ ขนาดทนายใหม่ที่ทำงานแค่สองเดือนอย่างผมยังต้องเจอเรื่องฆาตกรรมชาวไนจีเรียปริศนาในถิ่นบ้านเช่าผมอีก แต่ก็ดีเหมือนกันที่ผมจะได้มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันบ้างนอกจากการให้คำปรึกษาเรื่องกฎหมายบริษัทแก่พวกสตาร์ทอัพกับคดีทั่วไปอื่น ๆ ที่แวะมาเป็นประจำ 

 “เงินเข้า +2600 ปอนด์ จากแอน สมิธ รวม 26xxxx” ผมพึมพำเบา ๆ ระหว่างยืนเปลี่ยนเสื้อคลุมจากเสื้อสูทเป็นเสื้อของสมาคมสแครบเบิ้ลเมื่อได้เวลาเลิกงาน 
 “แหม คุณทนายไต้หวัน ค่าเช่าบ้านเข้าทีไรรวยทุกทีเลยน้า” บุรุษชาวลัตเวียหน้าตาอ่อนโยนหัวเราะพลางตบบ่าหลิวเจิ้งหมินแก้เบื่อ “ไหนว่าจะพาไปเลี้ยงหั่วกัวไงครับ ได้แชมป์โลกมาไม่ใช่เหรอ”
 “หลักสัญญาต้องเป็นสัญญาสินะเนี่ย” หนุ่มแว่นชาวไต้หวันหัวเราะลั่นพลันตบหลังอีกฝ่าย “ก็ดี แต่หลังกินเสร็จ แวะมาคุยที่บ้านก่อนดิ”

 เบโนเองดูจะแปลกใจไม่น้อยเมื่อเขาเจอกับการรับประทานบุฟเฟต์ชาบูแบบไต้หวันจากความหายากของร้านแบบดังกล่าว ที่แม้แต่ในริกาซึ่งเป็นเมืองหลวงของมาตุภูมิตนเองก็ยังแทบไม่มี ทว่าเจ้าตัวก็ตัดสินใจลองตักวัตถุดิบที่ชอบภายใต้คำแนะนำของเจ้างานเลี้ยงอย่างหลิวเจิ้งหมิน ทว่าเมื่อถึงคิวตักน้ำจิ้มแล้ว หนุ่มแว่นกลมหน้าตานุ่มฟูผู้มีดวงตาสีอ่อนกลับรู้สึกชอบใจกับน้ำจิ้มงาญี่ปุ่นมากกว่าผิดกับผมที่ลองผสมเรื่อยเปื่อยตามแต่อารมณ์จะบันดาลใจในตอนนั้น

 “ใส่กระเทียมเต็มถ้วย น้ำจิ้มงา 6 กวางตุ้ง 4 นี่จะกินได้แน่นะ” เขาแหย่ทนายความร่วมสำนักอย่างกันเองก่อนจะลองกินซุปหม่าล่า “เผ็ดสั*หมาอะไรแบบนี้ ไอแว่นเจิ้งหมิน ไหนบอกสั่งเผ็ดน้อยไง”
 “เผ็ดน้อยแล้วนะ ก็ลัตเวียมีแต่อาหารจืด ๆ เองนี่นา” ผมฉีกยิ้มมุมปากแฝงความกวนส้นก่อนจะยื่นน้ำจิ้มงาอีกถ้วยให้ “เอาไปกินอีกดิ ดับความเผ็ดได้ดีเลยนะ”
 “แน่ใจว่าไม่ยำน้ำจิ้มเขามั่วนะ” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ลองคีบหมูสามชั้นที่ต้มสุกแล้วจิ้มในถ้วยดังกล่าวก่อนจะอุทานออกมา “อร่อยว่ะ”
 “เห็นปะล่ะ กินเยอะ ๆ คืนนี้คุยงานยาว” หลิวเจิ้งหมินยักไหล่พลันเพลิดเพลินกับมื้ออาหารของตนต่อ

 เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่มาตุภูมิของทนายเบโน เรนิทิส ผมจึงตัดสินใจขับรถไปที่ร้านขายเหล้านานาชาติในริชมอนด์ทันทีเพื่อซื้อสุราขึ้นชื่ออย่างริกาแบล็กบัลซาม ซึ่งคิดค้นโดยเภสัชกรชาวลัตเวียในศตวรรษที่สิบแปดอย่างอับราฮัม คุนเซอซึ่งเคยผสมเครื่องดื่มรักษาพระชนม์ชีพของสมเด็จพระราชินีนาถแคทเธอรีนที่สองแห่งรัสเซีย ขณะเดียวกันด้วยความใคร่รู้ของหลิวเจิ้งหมินก็ทำให้เจ้าตัวซื้อบอลติกพอร์เตอร์กับเบียร์โบราณฟาร์มเฮาส์เอลมาอีกอย่างละขวด

 “ที่เกิดเหตุถัดจากบ้านเช่าของนายอีกซอยนึง มิน่าถึงขึงไว้ซะแน่นเลย” เบโนเอ่ยพลันเปิดรูปที่ถ่ายมาให้ดู “นี่ไปดูมา เห็นเพื่อนบ้านบอกว่ายังเหม็นกลิ่นศพอยู่เลย”
 “อื้อหือ คนฆ่าต้องเก่งจิตวิทยาขนาดไหนนะ” ขณะนั้นผมก็จอดรถที่บ้านพักของตนในเขตเคนชิงตันใต้ก่อนจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปพร้อมกับแอลกอฮอล์สารพัดชนิด 

 หนุ่มแว่นกลมผู้สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลเอาสุราและเบียร์มาแช่ในถังน้ำแข็งก่อนจะหอบขึ้นไปยังห้องหนังสือของหลิวเจิ้งหมินซึ่งอยู่ชั้นสามของบ้าน เมื่อเจ้าของบ้านชาวไต้หวันเข้าห้องดังกล่าวแล้วจึงตัดสินใจกลับป้ายว่า “กำลังคุยงาน อย่ารบกวน” แล้วล็อกกลอนลูกบิดในทันใด ก่อนจะเดินไปเปิดเครื่องปรับอากาศ

 “เมารึไงวะเจิ้ง ทำไมแกถึงรับเคสฆาตกรรมผู้อพยพแบบนี้” เบโนถามค้านด้วยความสงสัยในมุมมองของเพื่อนร่วมสำนัก “เมื่อสามปีก่อน ยังอวยร่างกฎหมายรวันดาอยู่เลยนะ”
 “ใช่ อันนากับพ่อไม่ได้ถือสัญชาติอังกฤษก็จริง แต่เขาก็อยู่ในฐานะเรซิเดนท์อังกฤษ” หลิวเจิ้งหมินตอบอย่างนิ่งขรึมพลันยื่นแฟ้มเอกสารให้ดู “ดูสำเนาเอกสารของน้องเขาทั้งหมด ก็ถือได้ว่าเข้าเมืองมาถูกกฎหมายนะ”
 “ก็ยังดีที่คิดได้” ชายหนุ่มตรงหน้าผมเผยยิ้มโล่งใจในทันใด “ขอดูเอกสารทั้งหมดหน่อยดิ”
 “ดูกันคนละครึ่ง แล้วหาข้อสรุปเบื้องต้นนะ” หนุ่มแว่นชาวไต้หวันวางแฟ้มเอกสารและซองทั้งหมดบนโต๊ะไม้สนเนื้อดีก่อนจะถอดสูทของตนออกพาดไว้กับพนักเก้าอี้ 

 ผมหยิบซองสีน้ำตาลมานั่งแกะดูหลักฐานอย่างพิจารณาทีละชิ้นไป ส่วนเบโนก็กำลังหาความเชื่อมโยงทั้งหมดของเรื่องราวผ่านภาพถ่ายที่เกิดเหตุ ตลอดจนวิดีโอที่เกี่ยวข้องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงรอยนิ้วมือบนหลักฐานซึ่งอาจนำไปสู่การกล่าวหาร้ายแรงในชั้นการพิจารณาและพิพากษาคดี ทั้งผมกับเพื่อนจึงใส่ถุงมือสีขาวไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะแตะต้องพยานหลักฐานใด ๆ 

 ภาพถ่ายสภาพศพซึ่งถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ ของพนักงานสอบสวนนามแพทริก เมลตันปรากฏถึงรายละเอียดของความสยดสยองได้อย่างครบถ้วน ทั้งคราบเลือดที่มีการกระจายตัวราวกับว่าฆาตกรได้สร้างศิลปะจากของเหลวสีแดงกลิ่นคาวนี้ รวมถึงร่างกายส่วนต่าง ๆ ที่ปรากฏสภาพเช่นเดียวกับที่ผมเคยกล่าวไว้ในเมื่อบ่ายไม่มีผิด ฉลากยาซึ่งเป็นภาษาจีนกำกับไว้พอจะถอดความได้ว่านี่คือยานอนหลับชนิดโซลพิเด็มซึ่งสามารถออกฤทธฺิ์ได้ทันทีที่เม็ดยาถูกกรอกเข้าปากของเหยื่อภายในสามสิบนาที ส่วนยาชาคาดว่าน่าจะเป็นชนิดที่ใช้ในทางการแพทย์ ทว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลาในการก่อเหตุ ฆาตกรจึงได้ใช้ยาชนิดคลอโรโพเคนซึ่งออกฤทธิ์ในระยะเวลาเช่นเดียวกับยาอันตรายดังกล่าว

 “เจิ้งหมิน นายคิดว่าคนก่อเหตุเป็นหมอปะ” เบโนถามข้อสันนิษฐานของตนเมื่อสามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว 
 “อยู่ในสามอาชีพนี้แหละ ไม่หมอก็เทคนิคการแพทย์ หรือพยาบาล” ผมตอบเท่าที่เห็นถึงความเป็นไปได้จากข้อมูลข้างต้น “แต่ดูแล้ว หมอผ่าตัดก็เป็นไปได้สูงเหมือนกันนะ ว่าไหม”
 “ใช่ ดูจากรอยแล้วถือว่าฝีมือไม่ธรรมดา แต่ถามว่าเป็นหมอผ่าตัดทีเดียวไหม ก็ตอบไม่ได้นะ” ชายหนุ่มร่างผอมสูงดันแว่นของตนก่อนจะจิบริกาแบล็กบัลซามเพื่อเรียบเรียงความคิด “ได้เบาะแสอะไรอีกเจิ้ง”
 “ฆาตกรนี่ยังระบุชื่อไม่ได้นะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาจากไหน หรืออยู่ที่ไหนแล้ว” ผมปฏิเสธอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มบางพลันนึกถึงอดีตของตนทันที “ก็เหมือนกับเจ๊ฟริเดริกาแหละ ตอนนั้นถามเรื่องเวลาไปกรีซเฉย ๆ นะ ก็ไม่ยักจะรู้ว่าเป็นฆาตกรอะ”
 “แกเป็นไงบ้างล่ะตอนนี้” เบโนถามด้วยความสงสัยถึงข่าวเมื่อแปดปีก่อน 
 “อยู่ในวอร์ดจิตเวชที่ฮังการีนะ” ผมเอ่ยก่อนจะเดินไปรื้อกองหนังสือพิมพ์ ณ หลังชั้นหนังสือที่สามนับจากประตูด้านขวา จากนั้นจึงกางลงบนโต๊ะ “เพิ่งรู้ว่านางเป็นลูกสาวนักธุรกิจโซเวียตเอเวอลินา กอรีนอวา ส่วนพ่อนางเป็นถึงนักธุรกิจน้ำมัน ดู ๆ ไปก็เป็นชีวิตดังสวรรค์ แต่สุดท้ายกลับจะจบลงในบอลเกียที่สองในอนาคตซะงั้น...”
 “เขียนอะไรเหรอนั่นเจิ้งหมิน” หนุ่มแว่นชาวลัตเวียถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นกลอนดังกล่าวบนกระดาษเอสี่

 โอ้ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า บัดนี้เราไม่อาจรู้ได้ว่านี่คือลิมโบหรือที่ใด
 ชายร่างใหญ่จากลากอสพลีชีพท่ามกลางเลือดไหลนอง
 บัดนี้ ผมกลับรู้สึกว่าควรไถ่นวลอนงค์จากละอองอันมืดมน แลฉุดรั้งเธอจากหลุมลิมโบนี้เสีียที
 หากว่าพระองค์โปรดอวยพร จงชี้ทางสัญจรลงโลกันต์เพื่อตามหาผู้โฉดชั่วนี้เทอญ อาเมน

 “เปล่านี่ แค่แบล็กบัลซามออกฤทธิ์เองมั้ง เลยคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเฉย ๆ” หลิวเจิ้งหมินดันแว่นของตนก่อนจะจิบเหล้าขึ้นชื่อของลัตเวียต่อ 
 “เป็นการปวารณาตนที่ดี” เจ้าตัวฉีกยิ้มชื่นชมก่อนจะตัดสินใจรับงานเป็นตัวเอกหน้าโรงละครครั้งนี้ “ฉันขึ้นว่าความเอง นายหาข้อมูลช่วยนะ เจิ้งหมิน”
.

5 วันต่อมา
สถานีตำรวจนครลอนดอน

 “หลักฐานเรียบร้อย ถูกต้องครับ” พลตำรวจแดเนียล พิตต์ยิ้มกว้างเมื่อพิจารณาบรรดาเอกสารเสร็จสิ้นทุกกระบวนความ “ส่วนเรื่องความเห็นประกอบสำนวน ผมได้เพิ่มเติมให้แล้วครับ”
 “ขอบคุณมากค่ะ คุณตำรวจ” อันนาฉีกยิ้มกว้างก่อนจะจับมือกับอีกฝ่ายอย่างสุภาพเพื่อเป็นการบอกลา “หนูไปเรียนก่อนนะคะ”
 “ตั้งใจเรียนล่ะ จบมาจะได้เก่งแบบทนายเจิ้ง ฮ่า ๆ” ชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดยูนิฟอร์มสีดำตัดกับขาวหัวเราะอย่างเอ็นดูก่อนจะอวยพรทิ้งท้าย “เดินทางดี ๆ ระวังตัวด้วย”

 ระหว่างทางไปที่ตึกเรียนของเธอในคิงส์คอลเลจลอนดอน เธอก็บังเอิญสบกับหลิวเจิ้งหมินซึ่งกำลังสวดภาวนาในวัดน้อยของมหาวิทยาลัยดังกล่าว ทว่าด้วยความเร่งรีบจึงได้เพียงแค่โบกมือลาก่อนจะปั่นจักรยานไปยังตึกเรียนคณะนิติศาสตร์

 “ข้าแต่พระองค์ ลูกได้รักษาตนตามบัญญัติสิบประการ แลหลีกเลี่ยงบาปทั้งมวลไปอย่างเด็ดขาด ได้โปรดเสริมกำลังให้ลูกจบคดีนี้อย่างราบรื่นเทอญ อาเมน”

 เสร็จจากการยืนสวดภาวนาต่อหน้าไม้กางเขนท่ามกลางแสงเทียนเป็นประกายสีส้มเหลือง ชายหนุ่มซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีน้ำตาลก็เดินออกไปพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นก่อนจะเดินไปนั่งพักที่สวนสาธารณะของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่ซึ่งปีเตอร์จบมา บัดนั้นเจ้าตัวก็เข้ามาอย่างคาดไม่ถึงพร้อมกับกระเป๋าหนังเรียบหรูสีดำตามแบบฉบับที่ปรึกษาการเงินในสำนักงานบริหารสินทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในใจกลางเมืองลอนดอน

 “ตอนนี้เคลียร์เคสเป็นไงบ้างพี่” หนุ่มแว่นผมน้ำตาลหนาตบบ่าก่อนจะยื่นชานมไต้หวันให้ทาน “เหนื่อยก็พักนะพี่เจิ้ง”
 “เพื่อนพี่บอกได้รับเอกสารถูกต้องแล้วล่ะ เหลือแค่ส่งไปให้ศาลพิจารณา” หลิวเจิ้งหมินกล่าวอย่างโล่งอกก่อนจะเสริมต่อ “ในวันที่เข้าไปแถว ๆ บ้านที่พี่ปล่อยให้เช่า ตำรวจก็เจอหลักฐานเด็ดเยอะเลยนะ”
 “โหพี่ เรื่องนี้น่าจะลึกกว่าดันเต้คอมเมดีอีกนั่น” ปีเตอร์เปรียบเปรยพลางอ่าหนังสือพิมพ์ที่ตนซื้อมาตอนเช้า “ผมนึกไม่ออกเลยนะพี่ว่าตอนจบจะเป็นไง”
 “พี่ว่าเราอยู่ในลิมโบของลิมโบอีกทีมากกว่านะ” คำเสียดสีของทนายความชาวไต้หวันกลับแฝงถึงความหมายอันลึกซึ้งบางอย่าง...
.