“ทำไมฉันต้องเป็นของนาย คืนนั้นเราแค่สนุกกัน อย่าคิดมาผูกมัดฉัน ถ้าอยากให้ฉันเป็นของนายก็ขอ 3 เหตุที่ฟังขึ้น แล้วฉันจะพิจารณา”
ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,เรื่องสั้น,ครอบครัว,อบอุ่นหัวใจ,18+,พระเอกอบอุ่น,โรมานซ์,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สายฝนเทลงมาเหมือนน้ำตาของเจ้าขา ถึงแม้ว่าหญิงสาวตอนนี้หยุดร้องไปแล้ว แต่สายฝนกลับยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตาม อาการรอบกายดูหนาวขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนคนตัวเล็กต้องโอบกอดร่างกายไว้
“คืนนี้เราคงต้องนอนที่นี่”
เจ้าขากอดตัวเองแน่นขึ้น สภาพของเธอตอนนี้มันล่อแหลมอยู่เป็นนัย ๆ สาเหตุก็มาจากชายตรงหน้านี้ละ แต่ยังดีที่เขาสละเสื้อของตนมาคลุมให้
“เธอจะไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ”
เขาเดินไปในห้องแล้วหยิบเสื้อผ้าของเขาส่งให้ร่างบาง เมื่อดูจากขนาดตัวของเขากับเธอแล้วมันก็ต่างกันเอามาก เจ้าขารับมันมาอย่างช่วยไม่ได้แล้วตรงเข้าไปยังห้องน้ำทันที
ร่างบางให้เวลาจัดการอาบน้ำไม่นานก็ออกมาก น้ำซึ่งเกาะยังเส้นผมของเธอมันช่างยั่วยวนเขาเสียจริง แล้วเสื้อที่เขาให้เธออีก มันเว้าลึกจนเห็นเนินอกขาวถึงด้านในจะใส่บราตัวเดิมก็ตาม
“มานั่งนี้” เสียงเข้มออกคำสั่งไปอยากไม่รู้ร้อนรู้หนาว ผิดกับหญิงสาวที่ตัวสั่นไม่รู้เพราะอากาศหนาวหรือเพราะกลัวเขาอันนี้ก็ไม่อาจทราบ แต่เจ้าขาก็ทำตามอย่างว่าง่าย การันต์ดึงผ้าขนหนูจากมือเธอไป
“จะทำอะไรคะ?” ไร้คำตอบกลับใด ๆ มีเพียงมือของการันต์เช็ดเส้นผมที่เปียกของเธออย่างบางมือ เจ้าขานั่งตัวแข็งอย่างทำตัวไม่ถูก แต่กลับนึกถึงคำพูดของเขาก่อนหน้านี้
‘ฉันจะบอกเหตุตามที่เธออยากรู้แต่มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน’ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไรกับฉันกันแน่ เจ้าขาได้แต่ถอนหายใจ
“เห็นทีคืนนี้เราต้องนอนเดียวกันอีกแล้วนะ”
“ไอ้บ้า!!! ใครจะไปนอนกับนาย”
“ทำอย่างไม่เคย” การันต์พูดปิดท้ายแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้เจ้าขานั่งหน้าแดงอยู่คนเดียวกับบรรยากาศที่ชวนวังเวง
อากาศตอนนี้จัดว่าหนาวใช้ได้ทำให้เจ้าขาไร้หลงทางต้องไปซุกตัวใต้ผ้าห่ม เสียงประตูเปิดออกให้ร่างของการันต์ซึ่งมีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอว
“กรี๊ด!!!” ไม่ต้องถามเลยว่าเสียงนั้นมาจากใคร เจ้าขาซุกหน้าเข้าไปใต้ผ้าห่ม
“จะกรี๊ดทำไม ทำอย่างกับไม่เคยเห็น” การันต์เดินเข้ามาใกล้มากขึ้น ยิ่งเขาเห็นท่าทีเขินอายของร่างบางตรงหน้ามันทำให้เขาอยากแกล้งเธอมากขึ้น ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงแล้วตึงผ้าห่มที่ปิดหน้าเธอออก
“ขอร้องล่ะไปใส่เสื้อผ้าเถอะนะ” หญิงสาวยังคงหลับตาปี๋ ร่างหนาก้มลงมาใกล้เธอมากขึ้นจนรับรู้ถึงลงหายใจร้อนของกันและกัน แต่เขากลับไม่ได้ทำอะไร เจ้าขาลืมตาขึ้นมาสบตาคม ก่อนจะเห็นรอยยิ้มของเขาแล้วก้มลงกระซิบข้างหูเพื่อให้เธอได้ยิน
“ฉันไม่ชอบขื่นใจใคร” แล้วเขาก็ลุกออกไป ทิ้งให้เธอหน้าแดงอยู่อย่างนั้น
การันต์จัดการแต่งตัวจนเสร็จ เดินกลับมาหาเจ้าขาอีกครั้งพร้อมยื่นเสื้อแขนยาวมาให้ ถึงเสื้อผ้าของชายหนุ่มจะใหญ่ไปสำหรับเธอ แต่ตอนนี้ไม่มีทางเลือกเธอจึงรับมาใส่
“ออกไปกินข้าวกัน”
เจ้าขาเดินตามหลังของเขาไปยังห้องครัวเล็กๆ ภายในไม่ได้มีอะไรมากมาย ร่างหนาเปิดตู้หาว่ามีอะไรกินบ้างแต่กลับมีแค่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แถมมันยังเหลืออยู่แค่ห่อเดียว ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้มาที่นี่นานหรือว่าเขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้กันแน่
“โทษนะ มันเหลืออยู่แค่นี้” เขายิ้มเจื่อนๆ ให้พร้อมกับเสียงท้องของเจ้าขาที่ดังขึ้น จะว่าไปวันนี้ทั้งวันเธอเองก็ยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า ไม่รู้เหมือนกันตั้งแต่การันต์เข้ามาชีวิตเธอดูราวกับจะเจอเรื่องต่างๆ มากมาย เจ้าขาได้แต่ถอนหายใจอย่างรับชะตากรรม
“กินด้วยกันก็ได้” เขาพยักหน้ารับแล้วจัดการต้มมัน ส่วนเจ้าขาไปนั่งรอยังโต๊ะญี่ปุ่น เอาจริงบ้านหลังนี้แทบจะไม่มีอะไร มันเป็นบ้านโล่งๆ ไร้ข้าวของชิ้นใหญ่ ๆ แต่ดูเหมือนว่าการันต์จะให้ความสำคัญกับห้องนอนเอามาก ๆ ดูจากเตียงนอนขนาดคิงไซส์ซึ่งเป็นของสิ่งเดียวที่ชิ้นใหญ่
กลิ่นหอมลองมาแต่ไกลพร้อมกับการันต์ซึ่งยกอาหารเพียงน้อยนิดมาวางตรงหน้าเพียงถ้วยใบเดียวพร้อมกับตะเกียบสองคู่
“โทษนะ ที่พามาลำบาก” น้ำเสียงของเขาดูรู้สึกผิดขึ้นมา เจ้าขาเงยหน้ามองเขาแต่ไม่ได้ตอบอะไร ใจจริงเธอเองก็อย่างจะหนีความวุ่นวาย อยากหนีจากชีวิตที่เป็นอยู่
ร่างบางคีบเส้นเข้าปาก ไม่รู้ว่าความหิวมันทำให้บะหมี่อร่อยมากขึ้น หรือว่าเพราะมีคนทำให้กินเธอเองก็ไม่รู้ ไม่นานการันต์ก็กินตามในระหว่างนั้นไร้ซึ่งเสียงพูดคุยใดๆ ส่วนมากชายหนุ่มจะให้เธอกินแล้วเขาเอาแต่มองหญิงสาวไม่ว่างตา จนมันได้หมดลง
เจ้าขากำลังจะยกมันไปล้างแต่กลับถูกเขาคว้าตัวจนล้มไปในอ้อมแขน สายตาของเธอมองเขาไม่วางตา มันเกิดคำถามขึ้นมากมาย แล้วหัวใจที่เต้นแรงนี่อีก
“เรื่องแฟนเก่าเธอนะ…” เจ้าขารอฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ เอาจริงเธอตัดใจเรื่องของฉลามได้ตั้งแต่วันนั้นแล้ว เธอรู้นิสัยของฉลามดีว่าเป็นแบบไหน ต้องขอบคุณเสียด้วยซ้ำที่ออกไปจากชีวิตเธอ
“ฉันตัดใจได้แล้ว คนแบบนั้นไม่สมควรต้องเก็บมาใส่ใจ”
“ไปนอนกันเถอะ” ไม่ว่าเปล่าการันต์อุ้มเธอราวกับเด็กน้อย ตรงไปยังห้องนอน แล้ววางเธอลงอย่างแผ่วเบา สายฝนยังคงตกลงมากสร้างบรรยากาศให้แบบสุด ๆ หัวใจดวงน้อยของเจ้าขาเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาโน้มหน้าลงมาจูบที่หน้าผากของเธอ
“ฉันจะไม่ทำอะไร ถ้าเธอไม่ยินยอม” คำพูดนั้นมันทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง
การันต์ล้มตัวลงนอนข้างกายของหญิงสาว แต่ด้วยอากาศที่หนาวขึ้นมันทำให้เจ้าขาขยับเข้าไปนอนใกล้เขามากขึ้น ทำให้ร่างหนาดึงหญิงสาวเข้าไปกอดไว้ เธอไม่ได้ขัดขืนอะไร ความอบอุ่นที่เจ้าขาได้รับมันทำเธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยได้รับมากก่อน ชีวิตของเธอเติบโตโดยมีแค่ยายเท่านั้น ไม่รู้ว่าพ่อแม่เป็นใครแล้วไม่นานนี้ยายยังมาเสียไปอีก มันทำให้เธอเหมือนขาดที่พึ่งทางใจไป
กลิ่นหอมจากกายของเจ้าขามันดันไปปลุกอารมณ์ของเขาให้ตื่นขึ้น ยิ่งตอนนี้เขากอดตัวของเจ้าขาเอาไว้ด้วยไม่รู้ว่าเธอจะสัมผัสถึงสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงได้หรือไม่?
การันต์ต้องข่มใจเป็นอย่างยิ่ง มันเหมือนฝันร้ายที่เขากำลังต้องประเชิญอยู่ จนเมื่อเจ้าพลิกตัวมาหาเขา มันยิ่งทำให้เขาต้องห้ามใจมากเข้าไปอีก ก็เชายหนุ่มบอกเธอไปเองว่าจะไม่ทำอะไร ถ้าเธอไม่ยินยอม
“เป็นอะไรไป” คำพูดและสายตานั้นของเธอ มันทำให้เขาอยากขย้ำเจ้าขามากขึ้นทุกที จนในที่สุดความอดทนของการันต์มาถึงขีดสุด ร่างหนาจับไปที่ใบหน้าของเธอ
“คือว่า…” เขาไม่รู้จะต้องพูดอย่างไร การันต์ห้ามตัวเองไม่ได้อีกแล้วจริงๆ ใครให้เธอน่ารักเองล่ะ เจ้าขา
“ฉันขอมีอะไรกับเธอนะ” ในที่สุดชายหนุ่มก็บอกความต้องการออกไป เขาลุ้นว่าเจ้าขาจะอนุญาตหรือปฏิเสธด้วยใจที่เต้นแรง ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงมีแต่จะวิ่งเข้าหา แต่เจ้าขาต่างออกไปถ้าไม่นับตอนที่เมานะ หญิงสาวดูลังเลอยู่ไม่น้อย ร่างหนาเข้าใจดีว่าเพราะอะไร ถ้าหญิงสาวปฏิเสธเขาคงต้องหาทางจัดการกับเจ้ามังกรน้องเอง
เจ้าขาพยักแทนคำตอบ ใจจริงเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตั้งแต่เจอเขาหัวใจของเธอก็เต้นแรงทุกครั้งถึงจะมีบ้างที่เขาทำให้เธอกลัว แต่ส่วนมากมันก็มาจากตัวเธอเองทั้งนั้น ร่างหนาดึงเธอเข้ามาจูบ ลิ้นหนากวาดต้อนเข้ามาในโพรงปากกวาดหารสหวานมันทำเอาเธอเคลิ้มตามกับรสสัมผัส
สองมือเขาถอดเสื้อแขนยาวตัวนอกของเธอออก ทำให้เห็นเนินอกจากเสื้อเว้าลึก เขาไม่รอช้าจัดการถอดทั้งหมดที่เหลือออกแล้วจัดการส่วนของเขาด้วย ไม่นานทั้งสองก็มีแค่ตัวเปลือยเปล่า แท่งร้อนซึ่งพองใหญ่พร้อมให้งานได้ออกมาสู่ด้านนอก เจ้าขายังอายอยู่จึงได้ยกมือมาปิด ไม่รู้ต้องปิดร่างกายหรือตากันแน่น
“ไม่ต้องอายแล้ว ทำอย่างกับไม่เคย”
“ก็…ตอนนั้นกับตอนนี้มันต่างกันนิ” เสียงหวานใสตอบแบบเขินอาย การันต์ไม่ได้เร่งเร้าอะไรเธอ เขารู้ว่าเธออายจริงอย่างที่ว่า แต่ไม่เป็นไรฉันจะสอนเธอเองรับรองว่าต่อจากนี้จะไม่มีอะไรให้ต้องอายกันอีก
ร่างหนาบดริมฝีปากของเธออย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือหนาเริ่มซุกซนไม่คิดจะเกรงใจกอบกุมและขยำทรวงอกอวบอิ่มอย่างเร้าใจ ส่วนมือบางได้แต่กอดคอเขาเอาไว้
“อื้อ อ๊า อ๊า” เสียงครางในลำคอบ่งบอกว่าถึงความสุขที่การันต์มอบให้
“เธอช่วยทำให้ฉันบ้างสิ” ร่างหนาดึงมือของเธอมายังแกนกายซึ่งมันได้แข็งเป็นที่เรียบร้อย เขาประคองมือบางไว้แล้วสอนให้เธอต้องทำอย่างไงต้อง ไม่นานหญิงสาวก็เป็นงาน เธอชักมันขึ้นลงตามที่เขาสอน
มีหรือที่คนอย่างการันต์จะยอมน้อยหน้า มือหนาลูบไล้ต่ำลงไปยังเนินสาวอย่างช้าๆ จนสัมผัสยอดเกสรสีแดงซึ่งมันได้มีน้ำหวานไหลออกจากทางรักมารอเขาแล้ว นิ้วเรียวยาวแหวกร่องสาวออกบดบี้เม็ดเสียวให้ร่างบางครวญครางออกมา
“อื้อออ…อ๊าาาา…อ๊าาา…”
นิ้วกลางยาวสอดใส่เข้าไปยังปากทางฉ่ำแฉะ สัมผัสปุ่มเนื้อด้านในมันตอดรัดนิ้วเป็นอย่างมาก จนตอนนี้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
การันต์ดันเจ้าขาให้นอนราบก้มลงไปจูบที่ซอกคอขาว จากนั้นก็ประกบริมฝีปากก่อนที่จะมากระซิบที่ข้าหูเธออย่างแผ่วเบา
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว ขอใส่เลยแล้วกัน”
ชายหนุ่มจับแก่นกายของตนถูไถไปมาบนน้ำรักสอง สามที แล้วดันมันเข้าไปจนสุดความยาว เจ้าขาร้องออกมาด้วยความเจ็บ เขาหยุดนิ่งสักพักรอให้เธอปรับตัวได้ก่อน
“หายเจ็บยัง?” การันต์ถามออกมาเพราะเขาเองก็อยากให้หญิงสาวได้มีความสุขเช่นกัน ไม่ใช่มีแต่เขาฝ่ายเดียว เมื่อร่างกายของเจ้าขาผ่อนคลาย เขาถึงทำมันต่อ
ครั้นร่างหนาเริ่มขยับเข้าออก เจ้าขาก็ร้องครางออกมาอย่างไม่เหลือความเขินอายอีกต่อไป
“อ๊ะ…อ่าา…ซี๊ด…” รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อได้ยินเสียงครางของเธอ
“เหตุผลข้อแรก…ฉันเป็นคนแรกของเธอ”