หยางเฟิงเยว่ เธอหลงรักหวังอี้ป๋อ ศิษย์พี่ร่วมสำนักของเธออย่างสุดหัวใจ ถูกผลักดันสู่ขอบเหวของความสิ้นหวังเมื่อเขาไม่ยอมรับรักของเธอ เธอถูกทรยศทั้งจากคนที่เธอรักและเธอเคารพยิ่ง เธอจึงเลือกใช้มนตร์ดำเพื่อสังเวยตนเองต่อสวรรค์และนรก เพื่อจบชีวิตของเธอและเพื่อสาปแช่งสตรีที่เป็นที่รักของทุกคน ก่อนที่เธอจะสิ้นสติและจิตวิญญาณสลายไป พร้อมกับเส้นสายสัมพันธ์ของเธอกับหวังอี้ป๋อที่ผูกไว้ด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็ขาดสะบั้น

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์ - ตอนที่ 2 น้องสาวจักรพรรดิเทพมาร โดย หวังเหวินเยว่ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,จีน,ย้อนยุค,ผจญภัย,รัก,ย้อนยุค,เทพเซียน,ผจญภัย,เกิดใหม่ ,จีนโบราณ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,จีน,ย้อนยุค,ผจญภัย,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ย้อนยุค,เทพเซียน,ผจญภัย,เกิดใหม่ ,จีนโบราณ,แฟนตาซี

รายละเอียด

หยางเฟิงเยว่ เธอหลงรักหวังอี้ป๋อ ศิษย์พี่ร่วมสำนักของเธออย่างสุดหัวใจ ถูกผลักดันสู่ขอบเหวของความสิ้นหวังเมื่อเขาไม่ยอมรับรักของเธอ เธอถูกทรยศทั้งจากคนที่เธอรักและเธอเคารพยิ่ง เธอจึงเลือกใช้มนตร์ดำเพื่อสังเวยตนเองต่อสวรรค์และนรก เพื่อจบชีวิตของเธอและเพื่อสาปแช่งสตรีที่เป็นที่รักของทุกคน ก่อนที่เธอจะสิ้นสติและจิตวิญญาณสลายไป พร้อมกับเส้นสายสัมพันธ์ของเธอกับหวังอี้ป๋อที่ผูกไว้ด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็ขาดสะบั้น

ผู้แต่ง

หวังเหวินเยว่

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-0 ลิขสิทธิ์,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-0 คำนำผู้เขียน,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-บทเสริม ระดับพลังการบำเพ็ญจิตวิญญาณ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 1 หนึ่งพันสองร้อยปีก่อน,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 2 น้องสาวจักรพรรดิเทพมาร,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 3 ผู้บุกรุก,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 4 ถ้ำลึกลับ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 5 การดิ้นรนของกลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 6 จักรพรรดิเทพมารกับน้องสาวที่รักอิสระ

เนื้อหา

ตอนที่ 2 น้องสาวจักรพรรดิเทพมาร

ณ ภูเขาตี้อวู้ อาณาจักรหงเย่

“ปล่อยข้าออกไปจากห้องเดี๋ยวนี้นะ! ปล่อยข้าออกไป!”

ทันทีที่หลานวั่งจีกลับมาถึงวังของเขา เขาก็ได้เสียงตะโกนพร้อมกับเสียงทุบประตูดังขึ้นรัว ๆ บ่าวใช้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูต่างก้มหน้าก้มตาราวกับว่ากลัวโดนเขาตำหนิ

“เกิดอะไรขึ้น?” หลานวั่งจีเอ่ยถามบ่าวรับใช้คู่กายของน้องสาวของเขาทันที

“องค์หญิงหนีออกจากวังแล้วบังเอิญไปเจอมนุษย์คนหนึ่งหลงทางขึ้นมาบนเขา มนุษย์ผู้นั้นใช้มนต์สะกดให้คุณหนูตกหลุมรักพ่ะย่ะค่ะ หากกระหม่อมไปช้ากว่านี้องค์หญิงคงลงเขาไปด้านล่างกับผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณผู้นั้นไปแล้ว กระหม่อมขอประทานอภัยพระองค์อย่างสูงที่ไม่สามารถดูแลองค์หญิงได้ดีจนทำให้องค์หญิงโดนมนต์สะกดของมนุษย์ ขอพระองค์ได้โปรดลงโทษกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

ใช่แล้ว หลานวั่งจีคือจักรพรรดิเทพมารมังกรดำที่ใคร ๆ ต่างก็หวาดกลัวเมื่อหนึ่งพันสองร้อยปีก่อน แม้ตอนนี้หลายคนอาจจะหลงลืมนามของเขาไปแล้ว แต่ความน่ากลัวของเขายังไม่ได้ลดลงไปตามกาลเวลาเลย

“ไว้ข้าจะจัดการเจ้าทีหลัง เปิดประตู!” สิ้นเสียงของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีสาวใช้สองนางก็รีบเปิดประตูห้อง เมื่อไร้ประตูกั้นหญิงสาวด้านในก็พุ่งตัวออกไปด้านนอกทันที จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีรีบคว้าเอวของร่างบางเอาไว้ “เสี่ยวเยว่ตั้งสติ”

“ไม่! ปล่อยข้านะ ข้าจะไปหาท่านผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณ ท่านผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณของข้า!”

“เสี่ยวเยว่!” จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีตะคอกใส่หญิงสาวก่อนจะเป่าคาถาบางอย่างใส่หญิงสาวในอ้อมกอดของเขา จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีช้อนตัวของหญิงสาวที่เป็นลมหมดสติเดินเข้าไปในห้องนอนของเธอก่อนจะวางลงไปบนเตียงพร้อมกับห่มผ้าให้เรียบร้อย

“มนุษย์โง่เขลาผู้นั้นมันอยู่ที่ใด!” น้ำเสียงของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีเต็มไปด้วยโทสะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแต่นานนับวันมันยิ่งเกิดขึ้นบ่อยมากเกินไป

“อยู่ในคุกใต้ดินพ่ะย่ะค่ะ!”

“ลากตัวมันมาหาข้าเดี๋ยวนี้!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ร่างของผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณหนุ่มในชุดสีน้ำเงินถูกโยนลงกับพื้นอย่างแรงตรงหน้าของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำ

“ข ข้าขอโทษ ป ปล่อยข้าไปเถอะนะ” ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณหนุ่มร่ำไห้ด้วยความหวาดกลัว เขาคิดผิดจริง ๆ ที่เลือกขึ้นมาที่นี่

“ใครส่งเจ้ามา?” จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีกดสายตามองผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณหนุ่มที่คิดจะล่อลวงน้องสาวเขาด้วยความโกรธ

“ม ไม่มีขอรับ ข้าได้ยินมาว่าภูเขาตี้อวู้มีสาวงามอาศัยอยู่ ใครก็ตามที่ล่อลวงนางให้ตกหลุมรักได้คนนั้นจะได้ทรัพย์สมบัติมหาศาล มีอำนาจยิ่งใหญ่อยากที่จะหาใครเทียบ”

“เช่นนั้นเจ้าเลยขึ้นเขามาจนเจอน้องสาวข้าสินะ” จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีเอนหลังผิงบัลลังก์ของเขาก่อนจะหัวเราะขึ้น

“ข ข้าขออภัยจริง ๆ ข ข้าไม่รู้ว่า น นางคือน้องสาวของท่าน...” ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณผู้นั้นร้องไห้คุกเข่าพร้อมกับโขกหัวลงพื้นเพื่อขอโทษ บุรุษตรงหน้าของเขาช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน

“ไม่รู้อย่างนั้นหรือ? ฮึ ถึงต่อให้รู้เจ้าก็ไม่ควรใช้คาถามนต์เสน่ห์กับใคร!”

อัก

ตุบ

จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีโยนศีรษะของผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณหนุ่มคนนั้นที่เขาเพิ่งดึงออกลงกับพื้น ก่อนจะหันไปสั่งบ่าวรับใช้ของตน “ไปสืบมาว่าใครมันเป็นคนปล่อยข่าวลือบ้า ๆ พวกนี้”

“พ่ะย่ะค่ะ” ชายหนุ่มในชุดคลุมสีดำปิดหน้าตาหายตัวไปจากพื้นที่ตรงนั้นทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายของตน

“ฝ่าบาท ได้โปรดฟื้นความทรงจำให้องค์หญิงเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากองค์หญิงได้รับความทรงจำในอดีต องค์หญิงจะไม่มีทางโดนรังแกเช่นนี้แน่นอน” ซาซือตาน เทพมารแห่งโทสะเอ่ยขึ้น

“หม่อมฉันเห็นด้วยกับท่านซาซือตานเพคะ พวกหม่อมฉันรู้ว่าพระองค์เป็นห่วงองค์หญิง หม่อมฉันเองก็เป็นห่วงองค์หญิงไม่น้อยไปกว่าพระองค์ แต่พระองค์จะให้องค์หญิงใช้ชีวิตอย่างหญิงสาวไร้เดียงสาแบบนี้ไม่ได้” เป่ยชีไป่ เทพมารแห่งความตะกละเอ่ยเสริมคำพูดของเทพมารแห่งโทสะ

เป่ยชีไป่อยู่กับจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก เธอเข้าใจความรู้สึกของจักรพรรดิเทพมารจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีดี พระองค์ทรงรักองค์หญิงเสี่ยวเยว่มากขนาดไหน แม้เธอและเหล่าเทพมารบาปทั้งเจ็ดจะเข้าใจจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีมากขนาดไหน แต่ก็คงไม่มีใครเข้าใจจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีได้ดีเท่ากับองค์หญิงเสี่ยวเยว่อีกแล้ว

องค์หญิงเสี่ยวเยว่คือคนที่ทำให้จักรพรรดิเทพมารมังกรดำผู้โหดร้ายกลายเป็นพี่ชายที่แสนดี คนที่ทำให้จักรพรรดิเทพมารมังกรดำยิ้มออกมาจากใจจริงไร้ซึ่งการเสแสร้ง และยังเป็นเจ้าของหัวใจของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีอีกด้วย

“พวกเจ้าคิดว่าข้าไม่อยากทำอย่างนั้นหรือ? พวกเจ้าจำสิ่งที่เสี่ยวเยว่ทำก่อนเกิดใหม่ไม่ได้หรือ! ฟื้นความทรงจำของนางก็ไม่ต่างอะไรกับผูกเส้นโชคชะตาใหม่” น้ำเสียงของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

“แต่หม่อมฉันว่าเราปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้วนะเพคะ ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณคนนี้คือคนที่สามในเดือนนี้แล้ว และคาดว่าน่าจะมีมาเพิ่มอีกแน่ ๆ หากพระองค์ไม่มีประสงค์คืนความทรงจำให้องค์หญิง อย่างน้อยก็ให้องค์หญิงฝึกควบคุมพลังวิญญาณเสียหน่อยเถิดเพคะ อีกไม่กี่ปีก็จะถึงวัยปักปิ่นขององค์หญิงแล้ว ถึงตอนนั้นองค์หญิงไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ จักเป็นอันตรายเป็นอย่างมากเลยนะพ่ะย่ะค่ะ” ลี่เว่ยถาน เทพมารแห่งความริษยาเอ่ยขึ้น ยิ่งโตขึ้นองค์หญิงเสี่ยวเยว่ก็ยิ่งฉายแววสวยงามมากขึ้นเรื่อย ๆ และความสวยงามนี้กำลังจะนำพาเรื่องวุ่นวายมาให้ตัวของเธอเอง

หลังจากเหตุการณ์เมื่อหนึ่งพันสองร้อยปีก่อนที่หยางเฟิงเยว่ได้สังเวยวิญญาณของตน จิตวิญญาณของเธอไม่ได้สลายหายไปไหนแต่ถูกจักรพรรดิเทพมารมังกรดำแย่งชิงมาจากราชทินนามเทพสงคราม ราชทินนามเทพสงครามเองก็เอ็นดูหยางเฟิงเยว่ตั้งแต่เป็นมนุษย์ และพอมีหนทางที่จะทำให้หยางเฟิงเยว่ไปอยู่กับตนบนสวรรค์ได้ ราชทินนามเทพสงครามก็ลงมือทันที

ตอนนั้นที่ไม่มีมารหรือปีศาจตนใดลงไปก่อกวนที่ดินแดนมนุษย์มนุษย์เลย ก็เพราะว่าพวกเขากำลังต่อสู้แย่งจิตวิญญาณของหยางเฟิงเยว่อยู่บนดินแดนเทพ และสุดท้ายฝั่งที่ชนะก็คือฝั่งของจักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจี

ดวงจิตวิญญาณที่แตกละเอียดของหยางเฟิงเยว่ยากเกินไปที่จะหลอมรวมให้กลับคืนมาเป็นดังเดิม จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจีและเทพมารแต่ละเสามารจึงรวมตัวกันเพื่อถ่ายทอดพลังวิญญาณให้ดวงจิตวิญญาณของหยางเฟิงเยว่ เพื่อให้มีพลังมากพอที่จะหลอมรวมจิตวิญญาณที่แตกสลายให้เป็นหนึ่งเดียวกัน

ตลอดระยะเวลาหกเดือนของการถ่ายทอดพลังวิญญาณอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดความพยายามของพวกเขาก็ได้สัมฤทธิผล เมื่อดวงจิตวิญญาณที่แตกสลายของหยางเฟิงเยว่สามารถหลอมรวมกันและก่อรูปร่างจนกลายเป็นองค์หญิงเสี่ยวเยว่อย่างทุกวันนี้

“ลี่เว่ยถาน!” เพ่ยเฟยเกอ เทพมารแห่งความขี้เกียจตวาดใส่ลี่เว่ยถานพร้อมกับส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายหุบปาก

“ก็ข้าพูดเรื่องจริง พวกท่านควรยอมรับความจริงว่าองค์หญิงไม่ใช่เด็กอายุสามขวบ ดูอย่างวันนี้สิแค่เฉินเคอคาดสายตาไปแป๊บเดียวก็เกิดเรื่องแล้ว ไม่รู้แหละ ถ้าพวกท่านไม่สอนวิทยายุทธให้นาง ข้าจะสอนนางเอง” สำหรับลี่เว่ยถานแล้วองค์หญิงเสี่ยวเยว่ก็เปรียบเสมือนลูกสาวของเธอ และเธอไม่มีทางยอมให้ลูกสาวที่เธอดูแลอย่างดีต้องโดนรังแกง่าย ๆ

“แต่องค์หญิงยังไม่พร้อม! พวกเจ้าคิดว่าองค์หญิงจะรับมือกับความจริงทั้งหมดได้หรือ? องค์หญิงยังเด็กเกินไป!” เพ่ยเฟยเกอสะท้อนความรู้สึกของเขาออกมาอย่างไม่ปิดบัง ความรู้สึกที่ผสมผสานระหว่างความรัก ความห่วงใย และความกลัวว่าองค์หญิงเสี่ยวเยว่จะไม่สามารถรับมือกับชะตากรรมที่รอเธออยู่ได้

ซาซือตาน เทพมารแห่งโทสะ มองเพ่ยเฟยเกอด้วยสายตาหนักแน่น “ท่านอาจจะมองว่าองค์หญิงยังเด็ก แต่นั่นก็เพราะท่านปกป้ององค์หญิงมากเกินไป พวกเราทุกคนต่างก็รักและห่วงใยองค์หญิง แต่การปกป้องที่มากเกินไปไม่ใช่ทางออก องค์หญิงต้องเรียนรู้ที่จะยืนหยัดด้วยตนเอง เผชิญหน้ากับความจริง และต่อสู้เพื่อสิ่งที่องค์หญิงต้องการ”

“ท่านซาซือตานพูดถูก” เป่ยชีไป่ เทพมารแห่งความตะกละ กล่าวเสริม “พวกเราไม่สามารถปิดบังความจริงจากองค์หญิงตลอดไปได้ ในไม่ช้าองค์หญิงจักต้องเผชิญกับชะตากรรมที่รออยู่ข้างหน้า พวกท่านรู้ดีว่าศัตรูของเราไม่เคยหยุดนิ่ง พวกมันจะไม่ปล่อยให้พวกเราอยู่อย่างสงบสุข”

“และถ้าเราไม่เตรียมตัวองค์หญิงให้พร้อม องค์หญิงจะกลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการโจมตี” ลี่เว่ยถานสรุป “พวกเราไม่สามารถหยุดยั้งโชคชะตาขององค์หญิงได้ แต่พวกเราสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ที่จะมาถึงให้องค์หญิงได้”

หลานวั่งจีถอนหายใจหนัก ๆ เขารู้ว่าพวกเทพมารพูดถูก ทุกคำพูดของพวกเขาล้วนเป็นความจริง แต่การตัดสินใจนั้นยากยิ่ง การบอกความจริงให้เสี่ยวเยว่รู้เกี่ยวกับอดีตของเธอ และการฝึกเธอให้พร้อมรับมือกับอนาคต จะทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล

“ข้าไม่เห็นด้วย!” เพ่ยเฟยเกอเถียงกลับ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางยอมลงง่าย ๆ

“ใช่ องค์หญิงยังไม่พร้อม” ลู่ชีฟา เทพมารแห่งความหยิ่งยโสเอ่ยเสียงเรียบ แม้จะดูนิ่งเฉย แต่ในแววตาของเขามีความกังวลเจือปนอยู่ “หากองค์หญิงรู้ว่าชีวิตในอดีตของนางเป็นเช่นไร เราอาจต้องสูญเสียนางไปอีกครั้ง ข้าไม่อยากให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก”

ทุกสายตาในห้องเงียบงัน จ้องมองไปที่จักรพรรดิเทพมารมังกรดำหลานวั่งจี ในฐานะผู้นำ เขาต้องตัดสินใจในสิ่งที่ยากลำบากนี้เอง

“อืม” หลานวั่งจีพูดอย่างสงบ สายตาของเขาจ้องมองกระจกเวทย์ที่แสดงน้องสาวที่ยังคงหลับอยู่บนเตียง “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าห่วงเสี่ยวเยว่ และข้าเองก็ไม่ต้องการให้นางเผชิญกับอดีตอันเจ็บปวดนั้นอีก”

“พวกเรารักองค์หญิงเหมือนดั่งที่ท่านรัก แต่หากเราไม่ทำอะไรเลย...” เป่ยชีไป่กล่าวต่อ “พวกเราอาจต้องสูญเสียนางให้กับพวกผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณอีกครั้ง หากคนพวกนั้นรู้ว่าจิตวิญญาณขององค์หญิงได้ถูกรวบรวมและเกิดใหม่”

หากผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณทำการบูชาวิญญาณของให้สวรรค์หรือนรกแล้ว ต่อให้ผู้มีพลังจิตวิญญาณมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่ใครจะสามารถเก็บรวบรวมวิญญาณที่แตกสลายและหลวมรวมจนเกิดใหม่ได้อีกครั้ง นอกเสียจากว่าผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณคนนั้นจะมีสิ่งพิเศษภายในตัว เช่น สายเลือดของสวรรค์ หรือสายเลือดของมาร

หลานวั่งจีเงียบไปครู่หนึ่ง ความทรงจำของเขาย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่เขาสูญเสียน้องสาวครั้งแรก ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นยังคงหลอกหลอนเขามาจนถึงวันนี้

“ข้าจะไม่ยอมให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น” เขากล่าวอย่างแน่วแน่ “ข้าจะหาวิธีที่จะปกป้องนางโดยไม่ต้องเปิดเผยอดีตของนาง”

ลี่เว่ยถานและลู่ชีฟาทำหน้าผิดหวังแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ซาซือตานเองก็ได้แต่พยักหน้าและยอมรับการตัดสินใจของหลานวั่งจี

“ข้าจะเฝ้าดูแลนางอย่างใกล้ชิด” หลานวั่งจีกล่าวต่อ “และหากมีความจำเป็นจริง ๆ ข้าจะคืนความทรงจำให้นาง แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้น ข้าจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้นางปลอดภัย”

เทพมารทั้งหลายพยักหน้ารับคำสั่งของผู้นำของพวกเขา แม้ว่าจะมีความกังวล แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งของหลานวั่งจี

“ไปทำงานของพวกเจ้าต่อเถอะ” หลานวั่งจีสั่ง “และอย่าลืมดูแลเสี่ยวเยว่ให้ดี”

หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันไป หลานวั่งจีก็หายตัวไปในห้องนอนของเสี่ยวเยว่ เขาเดินไปนั่งข้างเตียงของเสี่ยวเยว่ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความอ่อนโยน

“เสี่ยวเยว่” เขากระซิบเบา ๆ พร้อมกับลูบศีรษะของหญิงสาวอย่างช้า ๆ “พี่จะปกป้องเจ้า ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรก็ตาม พี่จะไม่ยอมสูญเสียเจ้าไปอีกครา”

ในขณะที่หลานวั่งจีกำลังอยู่กับน้องสาวของเขา ข่าวการปรากฏตัวของผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณที่เขาตี้อวู้ก็แพร่กระจายไปทั่วอาณาจักร พวกฝึกฝนจิตวิญญาณหลายคนเริ่มมีความสนใจและเริ่มต้นการเดินทางไปยังภูเขาตี้อวู้ ด้วยความหวังที่จะค้นพบความลับหรือได้รับพลังพิเศษจากที่นั่น

หลานวั่งจีเองก็สืบหาต้นตอของข่าวลือและมนต์สะกดที่พยายามจะเข้ามาแทรกแซงชีวิตของเสี่ยวเยว่ เขาได้รู้ว่ามีคนบางคนในโลกมนุษย์ที่พยายามจะใช้เสี่ยวเยว่เพื่อประโยชน์ของตนเอง

“ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกมันทำร้ายเจ้า” หลานวั่งจีสาบานในใจ “ไม่ว่าพวกมันจะเป็นใคร ข้าจะทำลายพวกมันให้สิ้นซาก”