หยางเฟิงเยว่ เธอหลงรักหวังอี้ป๋อ ศิษย์พี่ร่วมสำนักของเธออย่างสุดหัวใจ ถูกผลักดันสู่ขอบเหวของความสิ้นหวังเมื่อเขาไม่ยอมรับรักของเธอ เธอถูกทรยศทั้งจากคนที่เธอรักและเธอเคารพยิ่ง เธอจึงเลือกใช้มนตร์ดำเพื่อสังเวยตนเองต่อสวรรค์และนรก เพื่อจบชีวิตของเธอและเพื่อสาปแช่งสตรีที่เป็นที่รักของทุกคน ก่อนที่เธอจะสิ้นสติและจิตวิญญาณสลายไป พร้อมกับเส้นสายสัมพันธ์ของเธอกับหวังอี้ป๋อที่ผูกไว้ด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็ขาดสะบั้น

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์ - ตอนที่ 4 ถ้ำลึกลับ โดย หวังเหวินเยว่ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,จีน,ย้อนยุค,ผจญภัย,รัก,ย้อนยุค,เทพเซียน,ผจญภัย,เกิดใหม่ ,จีนโบราณ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,จีน,ย้อนยุค,ผจญภัย,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ย้อนยุค,เทพเซียน,ผจญภัย,เกิดใหม่ ,จีนโบราณ,แฟนตาซี

รายละเอียด

หยางเฟิงเยว่ เธอหลงรักหวังอี้ป๋อ ศิษย์พี่ร่วมสำนักของเธออย่างสุดหัวใจ ถูกผลักดันสู่ขอบเหวของความสิ้นหวังเมื่อเขาไม่ยอมรับรักของเธอ เธอถูกทรยศทั้งจากคนที่เธอรักและเธอเคารพยิ่ง เธอจึงเลือกใช้มนตร์ดำเพื่อสังเวยตนเองต่อสวรรค์และนรก เพื่อจบชีวิตของเธอและเพื่อสาปแช่งสตรีที่เป็นที่รักของทุกคน ก่อนที่เธอจะสิ้นสติและจิตวิญญาณสลายไป พร้อมกับเส้นสายสัมพันธ์ของเธอกับหวังอี้ป๋อที่ผูกไว้ด้วยด้ายแดงแห่งโชคชะตาก็ขาดสะบั้น

ผู้แต่ง

หวังเหวินเยว่

เรื่องย่อ

สารบัญ

ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-0 ลิขสิทธิ์,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-0 คำนำผู้เขียน,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-บทเสริม ระดับพลังการบำเพ็ญจิตวิญญาณ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 1 หนึ่งพันสองร้อยปีก่อน,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 2 น้องสาวจักรพรรดิเทพมาร,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 3 ผู้บุกรุก,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 4 ถ้ำลึกลับ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 5 การดิ้นรนของกลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณ,ฝืนลิขิตฟ้าท้าชะตาสวรรค์-ตอนที่ 6 จักรพรรดิเทพมารกับน้องสาวที่รักอิสระ

เนื้อหา

ตอนที่ 4 ถ้ำลึกลับ

ยอดเขาตี้อวู้ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือพื้นดินดูเหมือนจะเป็นด่านแรกของการทดสอบที่พวกเขาต้องเผชิญ กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ร่างในชุดคลุมดำสองคนที่ปรากฏตัวขึ้นนั้นเต็มไปด้วยพลังที่แผ่กระจายออกมาทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความน่ากลัว

“เราจะจัดการพวกเขายังไง?” หญิงสาวคนหนึ่งกระซิบเสียงเบา เธอมองไปที่เพื่อนร่วมทางด้วยความกังวล

หวงตง ชายหนุ่มผู้นำกลุ่มเดินไปข้างหน้าพร้อมยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้ทุกคนเตรียมตัวสู้ เขาพูดด้วยเสียงที่มั่นใจ “พวกเรามาที่นี่เพื่อตามหาสิ่งที่จะช่วยเพิ่มพลังให้พวกเรา พวกเราจะไม่ถอยหลังกลับไปมือเปล่าเด็ดขาด”

ระดับพลังของหวงตงอยู่ที่ขั้นก่อกำเนิดจิตวิญญาณขั้นห้า ถือว่าเป็นผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณที่มีระดับพลังสูงเลยก็ว่าได้ ไม่แปลกที่เขาจะหยิ่งผยองไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด

ร่างในชุดคลุมดำสองคนเพียงแต่หัวเราะเสียงเยาะ “พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะชนะพวกข้าได้หรือ? ที่นี่คือสถานที่ที่คนเป็นผ่านไปไม่ได้ มีเพียงคนตายเท่านั้นที่จะผ่านไปได้” ชายในชุดคลุมดำคนแรกกล่าว

“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดูสิ” หวงตงตอบกลับพร้อมกับสัญญาณให้ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

การต่อสู้ระหว่างกลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณและร่างในชุดคลุมดำเริ่มขึ้นอย่างรุนแรง เสียงดาบกระทบกันและเสียงการปะทะของพลังเวทที่ปล่อยออกมาทำให้บรรยากาศรอบ ๆ เต็มไปด้วยความร้อนแรง การปะทะกันของพลังทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดประกายแสงสว่างและเสียงดังกึกก้องไปทั่วภูเขา

ในขณะที่การต่อสู้ที่ยอดเขาตี้อวู้กำลังเริ่มต้นขึ้น ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณหลายคนจากอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่งที่มีแสงสีฟ้าส่องออกมาจากปากถ้ำ

“พวกเจ้าดูนั่นสิ!” หญิงสาวคนหนึ่งชี้ไปที่ถ้ำที่อยู่ด้านหน้า “ต้องมีสมบัติวิเศษอยู่ในนั้นแน่นอน”

"พวกเราเข้าไปในนั้นกันเถอะ" ชายหนุ่มเพื่อนร่วมเดินทางเอ่ยขึ้น

กลุ่มคนเดินเข้าไปในถ้ำที่ลึกลับ พวกเขาพบกับภาพวาดโบราณบนผนังถ้ำที่เล่าเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างมารและมนุษย์ ภาพเหล่านั้นดูเหมือนจะเล่าเรื่องราวของอดีตที่ถูกลืมไป

“นี่คืออะไร?” กู๋เต๋อ ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณระดับก่อกำเนิดจิตวิญญาณขั้นหกถามขึ้น “ทำไมภาพเหล่านี้ถึงอยู่ที่นี่?”

“ข้าคิดว่านี่เป็นกุญแจสำคัญ” เย่เลี้ยว เพื่อนร่วมสำนักของกู๋เต๋อตอบกลับ “พวกเราอาจจะพบคำตอบเกี่ยวกับความลับของภูเขานี้ที่นี่” 

“นี่คือเรื่องราวของการต่อสู้ครั้งใหญ่ในอดีต” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวขณะพิจารณาภาพวาด “มันบอกเล่าเรื่องราวของความขัดแย้งและการแกร่งแย่งอำนาจ”

สายของกู๋เต๋อและเย่เลี้ยวเปร่งประกายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

“แต่มันก็ยังไม่บอกเราว่าทำไมเราถึงมาที่นี่” ชายคนหนึ่งตอบด้วยเสียงสงสัย “หรือว่าสิ่งที่เราต้องการอยู่ที่นี่จริง ๆ?”

คนที่เอ่ยถามคือตงเป่ย ผู้อาวุโสจากสำนักชีฮาน เขาดั้นด้นมาถึงที่นี่เพราะข่าวลือที่ลอยไปตามลม หากเขาได้ครอบครองสมบัติที่ว่านี้ได้ เขาจะสามารถทะลวงระดับก่อกำเนิดจิตวิญญาณไปยังขั้นสร้างรากฐานจิตวิญญาณได้

ในขณะที่พวกเขาสำรวจต่อไป พวกเขาพบกับห้องโถงที่ส่องแสงสีฟ้าสว่างออกมาจากภายใน ใจกลางห้องนั้นมีแท่นหินขนาดใหญ่ซึ่งมีหินพลังหยินที่ส่องแสงแปลกประหลาด หินนี้ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังมหาศาลที่กระจายออกมาเป็นวงกว้าง

“นี่คือสิ่งที่พวกเราตามหา” ตงเป่ยกล่าวด้วยความตื่นเต้น “หินพลังหยินนี้มีพลังมหาศาลที่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้”

แต่ก่อนที่พวกเขาจะสามารถเข้าถึงหินนั้นได้ พวกเขาถูกหยุดด้วยเงามืดที่ปรากฏขึ้นจากมุมหนึ่งของห้อง มันเป็นร่างของยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังหยิน มันมีความดุร้ายและทรงพลัง มันมองไปที่กลุ่มผู้ฝึกฝนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่พวกเราที่ต้องการ” หลิวเหมย ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณสาวกล่าวขณะเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้

ที่อาณาจักรเทพมาร หลานวั่งจีจ้องมองผ่านกระจกเวทมนตร์ที่สามารถเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ยอดเขาตี้อวู้ เขามองเห็นการต่อสู้และการท้าทายที่กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณกำลังเผชิญหน้า

“มีแต่พวกโง่” หลานวั่งจีพูดกับตัวเอง

เอ้าโม่เตี่ยขมวดคิ้วด้วยความกังวล “ฝ่าบาท พวกเราควรส่งกองกำลังไปสกัดกั้นพวกเขาเพิ่มไหม?”

หลานวั่งจียิ้มเบาๆ ก่อนจะตอบ “ไม่ต้อง ข้าอยากเห็นว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป ถ้าพวกเขามีปัญญาจริง ๆ สามารถเอาชนะเทพมารได้ ข้าก็จะไม่ขัดที่พวกเขาสามารถเอาหินพลังและลูกแก้ววิเศษออกไปได้”

“แต่เจ้าพวกนั้นไม่สามารถใช้พลังได้ทั้งหมดได้"

"แล้วอย่างไร พวกเจ้าเป็นถึงเทพ จะกลัวอะไรกับพวกผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณระดับล่างพวกนั้น"

"กระหม่อมแค่กังวลว่าหากหินวิญญาณและลูกแก้ววิเศษถูกนำออกไปจากถ้ำ มันจะส่งผลองค์หญิงนะพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าไม่ได้โง่ที่จะให้คนพวกนั้นมาแย่งชิงของสำคัญไปได้ หินพลังที่มีเพียงสิบก้อนกับลูกแก้วที่มีเพียงหนึ่ง การพยายามแย่งชิงเป็นสิ่งที่ทำลายพวกเขาเอง ไม่มีใครเข้ามาในเขตของของข้าแล้วจะรอดออกไปได้”

เขามองกลับไปที่กระจกเวทมนตร์ จับตาดูการต่อสู้และการท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด รอคอยที่จะเห็นผลลัพธ์ของการผจญภัยที่ยอดเขาตี้อวู้นี้

ในถ้ำที่ลึกลับนั้น ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณพบกับวัตถุที่ลึกลับ วัตถุที่เรืองแสงด้วยพลังที่แปลกประหลาด สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“นี่คือลูกแก้วแห่งความรู้” มู่ฮัน ชายชราคนหนึ่งกระซิบ “มันมีพลังที่จะสามารถล่วงรู้อนาคตได้ และเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้”

ทันใดนั้น เสียงฮือฮาของเหล่าผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณก็ดังขึ้น ดวงตาของพวกเขาต่างก็เปล่งประกายอยากครอบครองสมบัติวิเศษชิ้นนี้

ตงเป่ยได้ยินเช่นนั้น เขาก็เงื้อมือขึ้นเพื่อจะหยิบมัน แต่แล้วเขาก็ถูกพลังอันมหาศาลก็พุ่งเข้าหาตัว คลื่นพลังนั้นไม่ได้กระแทกใส่ตงเป่ยแค่ผู้เดียว แม้แต่เหล่าผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณที่อยู่หลังตงเป่ยพวกเขาถูกกระแทกกลับไปด้วยแรงที่ไม่อาจต้านทานได้

“ข้าคือผู้ดูแลสิ่งนี้ หากพวกเจ้าต้องการสิ่งของเหล่านี้” ชายในชุดคลุมดำกล่าวพร้อมกับหยิบลูกแก้ววิเศษขึ้นมาถือ “พวกเจ้าต้องผ่านบททดสอบของข้าไปเสียก่อน”

กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณมองไปที่ร่างในชุดคลุมดำด้วยความกลัวและความสงสัย พวกเขาตระหนักว่าเส้นทางสู่ความลับของภูเขาตี้อวู้ยังคงยาวไกลและเต็มไปด้วยอันตราย

ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณยังคงยืนตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้น ชายในชุดคลุมดำที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาดูเหมือนจะมีพลังที่ไม่อาจต้านทานได้

“บททดสอบ?” หลิวเหมยเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่สั่นเครือ “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

“พวกเจ้าไม่เข้าใจหรือ?” ชายในชุดคลุมดำกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความลึกลับ “ที่นี่ไม่ใช่เพียงถ้ำธรรมดา มันเป็นส่วนหนึ่งของบททดสอบแห่งภูเขาตี้อวู้ บททดสอบที่ผู้มีจิตใจแข็งแกร่งเท่านั้นจะผ่านไปได้”

เกาไป่ ชายอีกคนหนึ่งในกลุ่มถามขึ้นอย่างกล้าหาญ “แล้วเราต้องทำอะไรเพื่อผ่านบททดสอบนี้?”

“พวกเจ้าแต่ละคนต้องเผชิญหน้ากับความกลัวที่ซ่อนอยู่ภายในใจ” ชายในชุดคลุมดำกล่าว “มันจะนำพวกเจ้าไปสู่ความลึกซึ้งของความลับที่พวกเจ้าต้องการค้นพบ แต่ข้าขอเตือนว่า มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะผ่านมันไปได้”

พวกเขามองหน้ากันด้วยความสงสัยและความหวาดกลัว แต่ไม่มีใครที่เต็มใจถอยกลับ ทุกคนรู้ดีว่ามันคือโอกาสที่พวกเขาต้องใช้

“ข้าจะลอง” ตงเป่ยกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น ในกลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณนี้ เขามีพลังมากจิตวิญญาณมากที่สุด หากเขาสามารถครอบครองสิ่งนี้ได้ตั้งแต่คนแรก เขาก็สามารถกำจัดพวกที่เหลือทิ้งได้ทันที 

ทันใดนั้น พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน และแสงสีทองก็เปล่งออกมาจากจุดหนึ่งของถ้ำ มันเหมือนกับว่าถ้ำทั้งหลังเปิดเผยทางลับออกมา

“จงก้าวเข้าไป” ชายในชุดคลุมดำพูด “และเตรียมตัวเผชิญหน้ากับสิ่งที่อยู่ข้างใน”

ขณะที่เหตุการณ์ในถ้ำดำเนินไป ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ภูเขาตี้อวู้เริ่มสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดปกติ

“ท่านผู้ใหญ่บ้าน” หญิงชราผู้หนึ่งพูดขึ้น “ข้ารู้สึกว่ามีบางสิ่งแปลกประหลาดที่ภูเขานั้น พลังที่ไม่คุ้นเคย”

ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้า “ข้าก็รู้สึกเช่นเดียวกัน มันเป็นพลังที่รุนแรง ข้าคิดว่าเราควรเตรียมตัวสำหรับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น”

เสียงพูดคุยและความหวาดกลัวแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน ชาวบ้านรู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่อาจต้านทานได้ที่มาจากภูเขาตี้อวู้ ทุกคนต่างหวาดกลัวว่าเรื่องราวในอดีตจะกลับมาอีกครั้ง

ภายในถ้ำ กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณได้ก้าวเข้าสู่พื้นที่ใหม่ที่เต็มไปด้วยแสงสีทอง พวกเขารู้สึกถึงพลังอันมหาศาลที่กำลังล้อมรอบตัว

“อ้ากกกกกกกกกกกกกกก” ร่างของผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณแตกกระจายคนแล้วคนเล่า สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถถอยออกไปได้

“ข้าไม่อยากทำแล้ว” หลี่หนิง หญิงสาวพยายามที่จะปฏิเสธการทดสอบนี่ เพื่อนร่วมสำนักของเธอตายไปแล้วห้าคน แม้แต่ผู้อาวุโสจากสำนักชีฮานก็ไม่สามารถผ่านการทดสอบนี้ไปได้ เธอเป็นแค่ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณตัวเล็ก ๆ จะสามารถเอาตัวรอดไปได้อย่างนั้นหรือ เธอไม่อยากจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ 

เสียงระเบิดดังขึ้นราวกับเสียงฟ้าผ่าทำให้ทุกคนตื่นตกใจ ร่างของหลี่หนิงที่เพิ่งถูกแสงสีดำทะลุผ่านระเบิดออกเป็นเศษชิ้น ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยเศษซากที่ถูกกระจายออกไป ความเงียบงันที่ตามมาเต็มไปด้วยความสยดสยองที่แผ่กระจายไปในทุกทิศทาง

“ในเมื่อก้าวเข้ามาแล้วก็ไม่สามารถออกไปได้” ชายในชุดคลุมดำย้ำคำพูดเดิมด้วยน้ำเสียงเย็นชา

กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณต่างสั่นสะท้าน ร่างกายของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความไม่แน่ใจ ผู้ที่เพิ่งสูญเสียสหายไปในพริบตาเพียงแค่นั้น ความสยดสยองที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่เลวร้าย

“พวกเราจะทำการทดสอบบ้า ๆ นี้ต่อไปไม่ได้แล้ว!” ชายหนุ่มคนหนึ่งร้องออกมาด้วยเสียงสะท้อน “ไม่อย่างนั้นพวกเราต้องตายกันหมดแน่!”

เสียงของเขาทำให้ทุกคนมองไปรอบๆ อย่างหวาดหวั่น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัว ความเป็นไปได้ของการหลบหนีหรือการต่อสู้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกินกว่าความสามารถของพวกเขา

“เราจะต้องหาทางออกจากที่นี่” หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวด้วยเสียงที่สั่นไหว “เราไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไป”

แต่ก่อนที่พวกเขาจะสามารถหาทางหนีได้ ร่างในชุดคลุมดำอีกคนก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับยิ้มเยาะ “เจ้าไม่สามารถหนีได้” เขากล่าว “ที่นี่คือที่ที่พวกเจ้าต้องเผชิญหน้ากับความกลัวของพวกเจ้าเอง การทดสอบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของพลัง แต่เป็นเรื่องของจิตใจด้วย”

ชายในชุดคลุมดำยกมือขึ้นอีกครั้ง และแสงสีดำที่ส่องออกมาจากปลายนิ้วของเขาก็พุ่งเข้าหาผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณอีกคนหนึ่ง ทุกคนมองดูด้วยความหวาดกลัว แต่คราวนี้ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มยกมือขึ้นและปล่อยพลังออกมาต่อต้าน แสงสว่างจากมือของเขาปะทะกับแสงสีดำและทำให้เกิดการระเบิดขนาดเล็กที่ผลักดันทั้งสองฝ่ายถอยหลัง

ชายหนุ่มผู้ยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อปกป้องเพื่อนร่วมทางมองไปที่ศัตรูด้วยสายตาที่แน่วแน่ “พวกเราไม่กลัวเจ้าหรอก!” เขาพูดอย่างหนักแน่น

คำพูดของเขาทำให้ความกล้าหาญในใจของทุกคนกลับมา ทุกคนรวมพลังกันเพื่อยืนหยัดต่อสู้ พวกเขารู้ว่าเส้นทางข้างหน้านี้เต็มไปด้วยอันตรายและความท้าทาย แต่พวกเขาก็ไม่ยอมแพ้

การต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้นอีกครั้ง ร่างในชุดคลุมดำสองคนปล่อยพลังออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง พวกเขาใช้พลังที่เป็นเงามืดโจมตีไปยังกลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณทุกคนต้องใช้ทุกทักษะและพลังที่พวกเขามีในการต่อสู้

“เราต้องร่วมมือกัน” หญิงสาวคนหนึ่งพูด “ถ้าเราสามารถรวมพลังของเราได้ เราอาจจะสามารถเอาชนะมันได้”

พวกเขาร่วมมือกันวางแผนใช้พลังของตนในการต่อสู้และป้องกันการโจมตีของชายชุดดำ พลังหยินและหยางที่ปะทะกันทำให้เกิดประกายแสงและเสียงดังกึกก้องไปทั่วถ้ำ

“เราต้องทำให้มันอ่อนแรง” ชายหนุ่มหนึ่งกล่าวขณะใช้พลังของเขาโจมตีไปยังจุดอ่อนของชายชุด

หลังจากการต่อสู้อย่างหนักหน่วง ชายชุดดำก็เริ่มอ่อนแรงลง พวกเขาสามารถจัดการกับมันและทำให้มันพ่ายแพ้ในที่สุด เมื่อชายชุดดำล้มลง กลุ่มผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณก็มองไปที่หินพลังหยินที่อยู่บนแท่นหินด้วยความสำเร็จ

“เราทำได้” หญิงสาวกล่าวด้วยความดีใจ “เราสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้”

แต่ก่อนที่พวกเขาจะสามารถชื่นชมกับความสำเร็จได้มากขึ้น พวกเขารู้สึกถึงการสั่นไหวของพื้นดิน ถ้ำเริ่มสั่นและผนังถ้ำเริ่มแตกร้าว

“รีบออกไปจากที่นี่!” ชายหนุ่มตะโกน “ถ้ำนี้กำลังจะถล่ม!”