จิตติพัฒน์ เด็กหนุ่มที่ปิดกั้นหัวใจจากความรักเพราะบาดแผลในอดีต และเธอ แพรววา เด็กสาวผู้ที่เข้ามาทำให้หัวใจเย็นชาต้องสันไหว

Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ - บทที่สิบ 10 โดย ลักกี้ หยาง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,แฟนตาซี,วัยว้าวุ่น,ไทย,แฟนตาซี,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,แฟนตาซี,วัยว้าวุ่น,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,รักวัยรุ่น

รายละเอียด

จิตติพัฒน์ เด็กหนุ่มที่ปิดกั้นหัวใจจากความรักเพราะบาดแผลในอดีต และเธอ แพรววา เด็กสาวผู้ที่เข้ามาทำให้หัวใจเย็นชาต้องสันไหว

ผู้แต่ง

ลักกี้ หยาง

เรื่องย่อ

เนื้อเรื่อง : เพราะปมในวัยเด็ก จิตติพัฒน์ พรหมรักษ์ จึงกลายเป็นคนเย็นชาและไร้ความรู้สึก เขาหมดสิ้นศรัทธากับคำว่า "ความรัก" ไปโดยสิ้นเชิง จนกระทั่งในคืนวันครบรอบอายุสิบสามปีของจิตติพัฒน์ จู่ ๆ เด็กหนุ่มก็ได้ยินเสียงของโซลเมทลอยเข้ามาเพื่อปลอบประโลมจิตใจของเขา ทว่าถึงกระนั้นจิตติพัฒน์กลับใจแข็งที่จะไม่ยอมขานรับโซลเมทอยู่เป็นเวลาหลายปี


ด้วยความที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้านทำให้ แพรววา ดุจพิบูลย์ผล มักถูกพ่อคอยตามกีดกันทุกวิถีทางไม่ให้มีหนุ่ม ๆ เข้ามารุมต้อมเธอได้แต่โชคดีหน่อยที่มีแม่คอยช่วยไว้ ทำให้แพรววายังพอมีเพื่อนเป็นผู้ชายได้อยู่บ้าง แต่แล้ววันหนึ่งในคืนแห่งความสุขที่ทุกคนในบ้านกำลังเฉลิมฉลอง แพรววากลับได้ยินโซลเมทของเธอที่กำลังทุกข์ทรมานอย่างเจ็บปวด เธอจึงพยายามปลอบโยนโซลเมทของตนที่ไม่รู้อยู่ที่ไหนสักแห่ง แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมขานรับเธอเลยก็ตาม กาลเวลาผ่านไปแพรววาก็เริ่มที่จะตัดใจจากโซลเมทที่ชาตินี้คงไม่มีทางเห็นหน้ากัน จนกระทั่งเธอได้พบกับเด็กหนุ่มผู้แสนจะเย็นชาที่ซ่อนความเจ็บปวดอยู่ข้างใน

สารบัญ

Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่หนึ่ง 01,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สอง 02,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สาม 03,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สี่ 04,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่ห้า 05,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่หก 06,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่เจ็ด 07,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่แปด 08,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่เก้า 09,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สิบ 10,Love Forever ตอน เปิดล็อคหัวใจให้รักเธอ-บทที่สิบเอ็ด 11

เนื้อหา

บทที่สิบ 10

ถ้าเธอพร้อมเปิดใจ

ฉัน... ก็พร้อมที่จะเป็นผีเสื้อบินรอบตัวเธอ

แพรววา


เช้าวันต่อมาที่โต๊ะม้าหินอ่อนในโรงเรียนแพรววาตัดสินใจเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังว่า เมื่อวานนี้เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเสียงของโซลเมทตอบกลับมา และโซลเมทของแพรววาคือผู้ชายเมื่อเล่าจบทุกคนต่างตื่นเต้นแทน ราวกับพวกเธอได้เจอโซลเมทเสียเอง มีแค่อนัญลักษณ์ที่ส่ายหน้าเล็กน้อย ส่วนพิมพ์พรรณที่รู้เป็นคนแรกอยู่แล้วก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย ว่าทำไมจู่ ๆ โซลเมทถึงยอมคุยกับแพรววาได้ หลังจากที่ปล่อยให้แพรววาทนหูดับอยู่ตั้งนาน อย่างไรก็ตามแพรววาอยากให้รู้เรื่องนี้กันแค่ในกลุ่มเท่านั้น เพราะหากเผลอหลุดพูดออกไปละก็ มีโอกาสที่มันจะหลุดลอยเข้าหูพศพัชร์ ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ถึงกิตติศัพท์ความหวงของพศพัชร์อย่างดี

ทว่าถึงกระนั้นหยาดรุ้งก็อยากให้เสมอแมนรู้เรื่องนี้เผื่อว่าเขาจะยอมตัดใจ แน่นอนว่ามณีอรไม่เห็นด้วยและอาจจะบานปลายไปมากกว่านี้ นาถชญาขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงบานปลายมากกว่านี้ แต่ก็ไม่คิดจะถามอะไรต่อและหันมาสนใจชานมใส่ไข่มุกแทน สักพักยุวดีที่กำลังหมุนควงลูกบาสเล่นอยู่ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง และเมื่อเธอหันไปทางขวามือตรงมุมสุดเป็นโต๊ะม้าหินอ่อนอีกโต๊ะ กลุ่มเบลล่านั่งกันอยู่และยังมองมาที่กลุ่มยุวดีอย่างไม่เป็นมิตรนัก

"ฉันว่าเราย้ายที่กันไหม" ยุวดีพูดขึ้นและส่งสัญญาณให้ทุกคนหันไปทางขวามือ

คติยาถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "ให้ตายสิ เมื่อไหร่ยัยเบลล่าจะเลิกยุ่งกับเธอสักทีนะ ยัยแพรว" และหันมาจัดการกับกระเป๋าเรียนของตัวเอง "พูดตรง ๆ ฉันเบื่อหน้ายัยนั่นเต็มทีแล้ว" 

"ก็คงจนกว่าพี่เสมอแมนจะยอมเป็นแฟนกับยัยเบลล่าละมั่งถึงจะเลิกยุ่งกับฉัน" แพรววาตอบ

"และมันก็เป็นไปไม่ได้ด้วยเพราะยัยเบลล่าพึ่งถูกพี่เขาหักอกมา" หยาดรุ้งบอก

ทุกคนต่างหันมามองหยาดรุ้งเป็นตาเดียวเล่นเอาหยาดรุ้งทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว

"เธอรู้ได้ไง" อนัญลักษณ์ถาม

หยาดรุ้งเลิกคิ้ว

"อะไรกัน พวกเธอไม่รู้เรื่องกันเลยเหรอ" หยาดรุ้งว่า "คืองี้นะก่อนวันไปทัศนศึกษากัน ยัยนั่นไปสารภาพรักกับพี่เสมอแมนที่ชมรมว่ายน้ำ เพราะน้องสาวของพี่เสมอแมนอยู่ชมรมนั้น"

"พี่เสมอแมนไม่รับรักพี่เบลล่าสินะ แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับพี่แพรวสักหน่อยนี่" ลวิตตาพูดอย่างไม่เข้าใจ

"มันไม่ใช่แค่นั้นนะสิยัยลูกปัด ถ้าแค่ปฏิเสธรักก็แย่แล้วนะแต่นี่พี่เสมอแมนเล่นประกาศว่า คนที่เขาชอบจริง ๆ คือยัยแพรวซึ่งอยู่ชมรมนักวิ่งและคนที่ชื่อแพรวก็ดันมีคนเดียวอีก" หยาดรุ้งบอก

 "ทีนี้ก็ว้าวุ่นกันเลยสินะ" ยุวดีพูดประชด

แพรววารู้สึกเดือดดาลอยู่ในใจแต่เธอเลือกที่จะข่มมันเอาไว้ดีกว่า "เรื่องที่พี่เสมอแมนไม่รับรักเขา มันไม้ได้เกี่ยวกับฉันเลยด้วยซ้ำ" นั้นคือคำพูดสุดท้ายของเธอ ก่อนจะพากันทยอยขึ้นไปอยู่บนอาคารเรียนแทน โดยมีกลุ่มเบลล่ามองตามหลัง


❤️❤️❤️❤️


เมื่อรู้แล้วว่าโซลเมทของตนคือใคร จิตติพัฒน์ก็ลองค้นหาประวัติของเธอดู จึงรู้ว่าฝ่ายหญิงมีชื่อว่า แพรววา ดุจพิบูลย์พล ศึกษาอยู่โรงเรียนมัธยมในเขต A-03 ชื่อว่า "โรงเรียนเอลิสัน" เป็นโรงเรียนพลเรือนมีชื่อในเมืองราฟฝั่งตะวันตก ตามประวัติโรงเรียนนี้เคยถูกสร้างเป็นโรงแรมมาก่อนแต่ภายหลังเมื่อถูกซื้อมาโดยเศรษฐีหนุ่มชื่อ เจมส์ เอลิสัน และนำมาปรับปรุงใหม่เปลี่ยนจากโรงแรมกลายเป็นโรงเรียน หากดูจากบริเวณโดยรอบของโรงเรียนก็ถือว่ากว้างใหญ่พอสมควร

จิตติพัฒน์ได้แอบดูทำเนียบนักเรียนแต่ละชั้นปีซึ่งเขาพบว่าแพรววาอายุเท่ากับเขา ไม่รู้อะไรดลใจทำให้เขาแอบบันทึกเก็บภาพถ่ายของแพรววาเอาไว้ ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มก็คอยระแวดระวังไปด้วยสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ หลังจากที่จิตติพัฒน์บอกว่าโซลเมทของตนเองคือใคร ผลคือศรศิลป์กับคชสีห์แซวกันใหญ่ พร้อมทั้งอิจฉาที่เขาได้โซลเมทน่ารักน่าถนอม แน่นอนว่าจิตติพัฒน์ไม่คิดตอบโต้อะไรมาก และวันนี้เขาก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวในห้องพัก ในขณะที่คนอื่นพากันออกไปเที่ยวข้างนอก



"นายไม่ไปกับพวกเราจริงเหรอ เจต" มงคลพัสถามก่อนจะออกจากห้องพัก

"อืม" จิตติพัฒน์ตอบ "นายกับพวกหินไปเที่ยวกันก่อนเลย ฉันอาจอยู่ในห้องนี่แหละ" 

มงคลพัสพยักหน้ารับแต่ก็ยังไม่ออกจากห้อง "นายจะไม่แสดงตัวกับเธอคนนั่นจริง ๆ เหรอ" จิตติพัฒน์หันขวับมามองซึ่งมงคลพัสถอนหายใจ "นี่นายจะทำตามคำสาบานต่อหน้าหลุมศพผู้กอง ทั้งที่นายได้เจอกับโซลเมทแล้วเนี่ยนะ ไม่เอาน่าเจต ฉันว่ามันไม่เข้าท่าเลย" 

"ฉัน.... แค่ไม่อยากให้พ่อผิดหวัง" จิตติพัฒน์เอ่ย

"ผิดหวัง.." มงคลพัสขมวดคิ้วหนักขึ้นไปอีก "นายคิดว่าผู้กองจะผิดหวังอะไรในตัวนาย... เรื่องโซลเมทเหรอ" 

เมื่อเห็นจิตติพัฒน์นิ่งไปมงคลพัสแทบอยากกินยาแก้ปวดหัวสักขวดหนึ่ง แต่มงคลพัสก็เข้าใจความรู้สึกของจิตติพัฒน์ดี เรื่องราวในอดีตครั้งนั้น มันกัดกินจิตใจของเพื่อนสนิทเขาไปพอสมควร และในงานศพของร้อยเอกจตุพักต์เขาก็เป็นพยานในคำสาบานที่จิตติพัฒน์ลั่นเอาไว้อีกด้วย มงคลพัสคิดว่าส่วนหนึ่งที่จิตติพัฒน์ไม่ขานรับโซลเมท เพราะความกลัวลึก ๆ ว่าตนเองจะมีจุดจบแบบเดียวกับพ่อ ซึ่งมงคลพัสไม่อยากให้จิตติพัฒน์ผูกตัวเองไว้กับอดีต เขาอยากให้อีกฝ่ายมีความสุขกับปัจจุบันและอนาคตมากกว่า แต่มงคลพัสรู้ดีว่าคงพูดอะไรมากไม่ได้เพราะมันขึ้นอยู่การตัดสินใจของเจ้าตัว มงคลพัสเดินมาตบบ่าจิตติพัฒน์แผ่วเบา

"เจต ฉันอยากให้นายทำเพื่อตัวเองบ้างนะเพื่อน" 

พูดจบมงคลพัสก็เดินจากห้องไปทิ้งจิตติพัฒน์ให้นั่งคิดอะไรอยู่คนเดียวในห้องพัก


❤️❤️❤️❤️


"ทำไมฝนตกหนักจังวะ" จิตติพัฒน์สบถออกมาเล็กน้อย

ตอนนี้เขาอยู่ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำตกลงมาและไม่มีท่าทีจะอ่อนลงเลย ทำเอาเด็กหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าตัดสินใจถูกหรือไม่ ที่ออกมากด้านนอกเพื่อหาอะไรกิน เนื่องจากจิตติพัฒน์ไม่ค่อยชอบอาหารในโรงแรมสักเท่าไหร่ แถมพออยู่ในห้องนาน ๆ ไป มันก็เริ่มเบื่อหน่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น ซึ่งจิตติพัฒน์เดินออกจากโรงแรมได้ไม่นาน ฝนก็ตกลงมาทันทีและเขาก็ไม่ได้พกร่มมาเสียด้วย จึงต้องหลบฝนอยู่ตรงป้ายรถเมย์ไปก่อน ระหว่างนั้นเขาก็ได้ส่งข้อความหามงคลพัส จึงรู้ว่าตอนนี้คนอื่น ๆ อยู่ที่ร้านอาหารแถวสวนสาธารณะ

หากเดินด้วยเท้าก็คงไม่ไกลมาก จิตติพัฒน์ตัดสินใจนั่งรออยู่ป้ายรถเมย์เพื่อรอให้ฝนหยุดตกเอง เด็กหนุ่มนั่งมองดูเม็ดฝนตนตกมากระทบกับพื้นถนนจนไม่รู้ว่า เวลามันผ่านล่วงเลยไปนานมากแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งจิตติพัฒน์ได้ยินเสียงจี้ดดังขึ้นและเช่นเคย เขาไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้กระทั่งเสียงหยดน้ำของฝน เสี้ยววินาทีนั้นเองที่จิตติพัฒน์ได้ยินเสียงแทรกเข้ามาในจิตสำนึก



[ฝนตกหนักเหมือนกันนะเนี่ย จะไปกันทันไหม] 

เด็กหนุ่มนั่งนิ่งไม่การแม้กระทั่งจะเคลื่อนไหวใด ๆ ราวกับกลัวว่า โซลเมทจะจับได้ว่าเขาอยู่ที่นี่แต่พอตั้งสติได้จิตติพัฒน์ก็ลืมไปว่า เธอไม่รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นแบบไหนนอกจากรู้ชื่อเล่นเท่านั้น แถมตอนอยู่ในพิพิธภัณฑ์เขาก็เล่นปิดปากสนิททั้งที่หูดับ พอคิดแบบนั้นมันก็ทำให้เขาเบาใจขึ้นมาบ้าง จนกระทั่งพอเขาเงยหน้าขึ้นมาจากการดูหยดฝนและหันไปทางขวามือ หัวใจของจิตติพัฒน์เกือบหยุดเต้นกะทันหัน

เพราะขวามือคือกลุ่มนักเรียนหญิงโรงเรียนเอลิสัน ซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากตรงที่จิตติพัฒน์นั่งอยู่พอดี แถมแพรววาผู้เป็นโซลเมทของเขาอยู่ใกล้แค่ไม่กี่ศอกเอง ทำเอาเด็กหนุ่มหวนนึกถึงคำแซวของรุ่นพี่ในหน่วยรบพิเศษว่า หากได้พบคู่ของตนเองแล้วก็ยากที่จะสลัดพ้น ตอนแรกเด็กหนุ่มในตอนนั้นเขายังไม่เชื่อจนกระทั่งมันเกิดขึ้นกับตัวเองในตอนนี้

จิตติพัฒน์รีบทำเป็นเสียบหูฟังเพลงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงมันก็ตาม ทว่าด้านแพรววาที่ไม่รู้เลยว่าโซลเมทของเธอนั่งอยู่ข้าง ๆ เพราะตอนนี้เธอกำลังร้อนรุ่มใจมากเนื่องจากพึ่งได้รับข่าวไม่ดีมา ป้าเอมแม่บ้านของแพรววาประสบอุบัติเหตุถูกรถจักรยานชนล้มลง ทันทีที่ทราบเรื่องแพรววาก็รีบออกจากโรงเรียนทันทีที่เลิกเรียน โดยมีกลุ่มเพื่อน ๆ ตามมาด้วยและเนื่องจากโทบี้ไม่สามารถมารับได้ แพรววาตัดสินใจขึ้นรถเมย์

เนื่องจากตอนนี้แพรววาอยู่ในอาการหูดับทำให้พวกเธอจำต้องใช้ข้อความแชทติดต่อกัน

คติยา : โรงพยาบาลที่ป้าเอมรักษาตัวอยู่ไกลไหม ยัยแพรว

แพรววา : ไม่ไกลหรอกแค่นั่งสาย 80 ก็ถึงแล้ว

อนัญลักษณ์ : ป้าเอมถึงมือหมอแล้วคงไม่เป็นอะไรหรอก

หยาดรุ้ง : เดี๋ยวฉันดูรถให้นะ

ด้านแพรววาตัดสินใจละสายตาจากโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับพึมพำออกมาว่า "ป้าเอมอย่าเป็นอะไรไปนะ" ซึ่งมันทำให้จิตติพัฒน์ที่นั่งอยู่ด้วย (แบบเนียน ๆ) ได้ยินพอดี ดูเหมือนคนที่เธอรู้จักกำลังเดือดร้อนอยู่และท่าทางเด็กสาวจะดูกังวลมาก จิตติพัฒน์เกิดสองจิตสองใจขึ้นมาว่าเขาควรจะทำอย่างไรดี ใจหนึ่งก็อยากแสดงตัวต่อหน้าแพรววาว่าเขาคือใคร

แต่อีกใจหนึ่งก็นึกถึงคำสาบานที่เคยลั่นไว้ว่าจะไม่สานสัมพันธ์กับคู่ของตนเองเป็นอันขาด พอตัดสินใจอะไรไม่ได้สุดท้ายจิตติพัฒน์ก็ทำได้แค่นั่งเฉย ๆ ทำเหมือนไม่ได้ยินบทสนทนาของกลุ่มเด็กสาว (หูดับอยู่คงไม่ได้ยิน) และทางฝั่งแพรววาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่ได้มีท่าทีที่สนใจเขาเลยเช่นกัน เล่นเอาจิตติพัฒน์รู้สึกน้อยใจแบบแปลก ๆ ไม่นานรถเมย์ก็แล่นเข้ามากำลังจะจอดเทียบท่าตรงป้าย และมันคือรถที่แพรววาต้องขึ้นไปโรงพยาบาลที่รักษาป้าเอม



"ยัยแพรว รถมาแล้ว !" หยาดรุ้งร้องบอกโดยลืมไปว่าแพรววาหูดับอยู่

โชคดีที่แพรววาเห็นรถเมย์เหมือนกันจึงพากลุ่มเพื่อน รีบขึ้นไปอยู่บนรถเมย์ทันทีโดยมีจิตติพัฒน์นั่งมองตามหลังเด็กสาว และเมื่อกลุ่มแพรววาขึ้นรถและรถก็แล่นออกทันที ทว่าจิตติพัฒน์ก็ยังคงมองตามหลังรถคันนั้นไปจนลับตา รู้ตัวอีกทีเขาก็กลับมาได้ยินเสียงรอบข้างอีกครั้งและฝนมันก็หยุดตกเรียบร้อยแล้ว 


❤️❤️❤️❤️