ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก

วิปลาสทรชน - ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (1) #รีไรท์ โดย myisodore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิปลาสทรชน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง

รายละเอียด

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก

ผู้แต่ง

myisodore

เรื่องย่อ


วิปลาสทรชน

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก 

อัพตอนใหม่ ทุกวันพุธกับเสาร์

ปลดตอนอ่านฟรี 1 วันรอแจ้งนะคะ


วันที่สร้าง 22 มิ.ย 2567

วันที่ลงตอนแรก 29 มิ.ย 2567


เรื่องย่อ

ปลายฟ้า รินใจ นิสิตสาวมหาลัยวัย 22ปี จากคณะวิทยาศาสตร์และการกีฬามา ที่กำลังจะจบแล้วไปทำงานต่อที่บริษัทจังเกิ้ลเทคโน แล้วทันใดนั้นเธอก็ได้ตกหลุมรักหนุ่มหล่อเจ้าของรอยยิ้มแสนหวานอย่าง ปวริศหรือไนซ์ เขมทัศที่ทำงานฝ่ายโปรแกรมเมอร์รับผิดชอบระบบการทำงานทุกอย่างเกี่ยวกับโปรแกรมในบริษัททั้งหมด


แต่ยังไม่ทันได้รู้จักอะไรก็ทำให้เธอเจอแต่เรื่องสงสัยและไม่เข้าใจเต็มไปหมดราวกับว่าเหมือนทุกอย่างตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น และไม่น่าเชื่อว่าการที่ได้รู้จักปวริศจะทำให้ชีวิตเรียบง่ายของเธอที่ใฝ่ฝันนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล



คำเตือน

ฆาตกรรม / ชำแหละศพ / บังคับขู่เข็ญ / กักหน่วงเหนี่ยว / ทำร้ายร่างกาย / ศีลธรรมครอบครัวในเชิงชู้สาว /นามธรรมความรักให้เหยื่อขาดไม่ได้ /อำพรางศพ / ฝังทั้งเป็น / อาการหลงรักฆาตกร / ฆ่านองเลือด / จิตวิทยาครอบครัว / ฆ่าด้วยหลายวิธีให้เหยื่อสิ้นชีวิต


#นึกออกเท่านี้ค่ะ ไว้นึกออกจะมาเพิ่มนะคะ




นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลที่สาม หากชื่อไปตรงกับใครขออภัยมา ณ ที่นี้


ในส่วนเนื้อหามีความรุนแรงเพศอาชญากรรมและการกระทำไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน




ช่องทางการติดตามทั้งหมด AllMyLink

สารบัญ

วิปลาสทรชน-ตอนที่ 1 สิ่งสกปรก #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 2 ความตาย #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (2) #รีไรท์ (อ่านตอน14.15น. สำหรับรีไรท์),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (1),วิปลาสทรชน-ประกาศ หยุดอัพนิยายชั่วคราวไปจนถึงสิ้นเดือนหน้า,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (1),วิปลาสทรชน-ประกาศรีไรท์ ตอนใหม่+เนื้อหาที่เปลี่ยนเล็กน้อย+ติดเหรียญ,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (1),วิปลาสทรชน-แจ้งวันอัพนิยายอย่างเป็นทางการ และวันปลดอ่านฟรี,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 12 พลิกกลับ (1)

เนื้อหา

ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (1) #รีไรท์

แก้ไขครั้งที่1: 7 กันยายน 2567

มีการเพิ่มเนื้อเรื่องไป และเปลี่ยนอัตลักษณ์ตัวละครอย่างอดิสรณ์อย่างแต่ก่อนคือตาสีน้ำตาลตอนนี้เปลี่ยนเป็นตาฟ้า เพื่อเอกลักษณ์ที่แตกต่างนะคะ (⁠≧⁠▽⁠≦⁠) เนื้อหายังคงเดิมเพิ่มเติมและเปลี่ยนนิดหน่อยคนที่อ่านไปก่อนไม่ต้องกังวลไปนะคะ (⁠ ⁠╹⁠▽⁠╹⁠ ⁠)


รถยนต์เก้งคันสีดำได้ขับมาจอดที่บ้านหรูหลังใหญ่ตั้งเดี่ยวในชานเมืองกรุงเทพ ปวริศ อมาตยกุลได้ลงจากคนขับและเปิดประตูหลังคนขับที่มีหญิงสาวในชุดสีเอิร์ธโทนสลบพร้อมกับเลือดเลอะกางเกงที่ยากจะซักขัดให้ออก

ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวออกมาจากรถมาพาดไหล่กว้างของเขา พร้อมกับกดกริ่งหน้าบ้านซึ่งคนที่มาต้อนรับไม่ใช่ใคร เป็นน้องชายของเขาที่ตัวสูง 205 เซนติเมตร

“นั่นใคร?”

อดิสรณ์ อมาตยกุล หนุ่มลูกครึ่งเชื้อสายไทยและแคนาดา เจ้าของผมสีดำ ตาสีเฮเซลสีฟ้าและผิวที่ขาวได้ถามพี่ชายตัวเองที่แบกใครสักคนมาที่บ้านพวกเขา

“คนรู้จักน่ะเอดดี้ เตรียมยาและที่นอนรักษาเธอด้วย”

“เธอเหรอ?”

หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้วพร้อมกับเรียกสรรพนามที่อีกฝ่ายพูดขึ้นเมื่อกี้ โดยปกติแล้วพี่ชายคนโตไม่เคยพาใครมาบ้าน ยกเว้นลูกคนที่สาม รังสิมันต์ อมาตยกุลที่ชอบพาเหยื่อที่ไม่ตายสนิทมา

แต่ก็เปิดทางให้พี่ชายคนโตของบ้านเดินเข้าไปในห้องที่มีที่นอน ก็คงไม่พ้นห้องนั้น

ห้องสำหรับแขกไว้ฝากขัง

ถึงเป็นชื่อที่ดูน่ากลัวก็จริงแต่มันเป็นเพียงห้องที่นอนพักไว้เฉยๆ มีทุกอย่างแสนอำนวยความสะดวก ถ้าไม่นับที่มันล็อคจากด้านนอก ร่างสูง2.5เมตร ได้เปิดห้องและเตรียมยากับอุปกรณ์รักษาให้ตามที่ปวริศขอไว้

อดิสรณ์มองแผ่นหลังพี่ชายที่วางหญิงสาวแปลกหน้าคนนี้อย่างนุ่มนวล ในสายตาคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กนั้น

ช่างเป็นการกระทำที่แปลกตา…

ปวริศ อมาตยกุล เขาเป็นพี่ชายคนโตที่ใจร้ายมากที่สุด เขาไม่มีความเอื้ออารีต่อพี่น้องด้วยกันเอง ยิ่งคนอื่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลย อดิสรณ์ยกยิ้มบางและอยากรู้เหลือเกินว่า หญิงสาวตรงหน้าที่แสนบอบบางคนนั้นเป็นใคร

“ออกไปได้แล้ว พี่รบกวนนายเท่านี้”

“เธอชื่ออะไรเหรอพี่ริท?” อดิสรณ์ถามพลางชำเลืองมองหญิงสาว

“ปลายฟ้า”

“ชื่อโหลจัง เขาเป็น–”

อดิสรณ์ยังถามไม่จบดี ลูกดอกเข็มได้ผ่านหน้าเขาระหว่างหูไปโดยไม่ทันตั้งตัวแบบเฉียด การโจมตีที่ไม่ปราณีและรวดเร็วยังคงเป็นเอกลักษณ์ของพี่ชายคนโตอย่างปวริศเหมือนเดิม

หนุ่มลูกครึ่งยักไหล่ก่อนจะยิ้มกว้างและมองตาที่แสนว่างเปล่าทว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อดิสณ์ไม่เคยเห็นในตัวพี่ชายคนโตของเขามาก่อน

“แหม น้องชายตัวน้อยแค่ถามเองนะ”

พูดเสร็จชายสูง 2.5เมตรก็ได้ออกไปโดยไม่ลืมปิดประตูให้เขา ปวริศที่สัมผัสเสียงฝีเท้าไปได้ไกลแล้วเจ้าตัวก็มองปลายฟ้า รินใจที่สลบจากการถูกเขาสับคอโดยไม่ถึงชีวิต สายตาอันนิ่งเฉยได้มองแผลที่ขาที่โดนยิง เขาก็ทำการรักษาให้เรียบร้อย

รวมไปถึงการเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยใช้เสื้อยืดไซส์ของชายหนุ่มและเช็ดตัวอาบน้ำให้หญิงสาว

ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปวริศก็เอาปลายฟ้าที่นอนไม่รู้สึกอะไรไปที่นอนอีกห้องในข้างในนั้นอีกที และเอาโซ่ตรวนกับที่ล็อคข้อเท้าที่แขวนไว้ตรงชั้นกำแพง มาล็อคขาทั้งสองข้างเล็กของหญิงสาว

“ขนาดความยาวคงออกไปได้แค่ห้องข้างนอกนี้”

ปวริศวัดความยาวโซ่นี้แล้วมองแผลที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี ชายหนุ่มผิวน้ำผึ้งก็ออกไปข้างนอกพร้อมกับปิดไฟให้ห้องนี้มืดสนิทและโดนล็อคห้องนี้ไว้จากด้านนอกยกเว้นห้องชั้นในที่ปลายฟ้า รินใจนอนสลบโดยไม่รู้สึกอะไร

ชายหนุ่มในชุดดำล้วนที่กำลังขึ้นไปห้องนอนตัวเอง เขาก็ได้พบ วสันต์ อมาตยกุลในเสื้อยืดสีขาวและทรงผมเสยขึ้นทรงเรียบร้อยสีดำ ผิวขาวมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง นัยน์ตาสีเฮเซลน้ำตาลอ่อนมองปวริศอย่างไม่เข้าใจ

“พาใครมาเหรอครับพี่ปวริศ”

“ผู้หญิง”

“แปลกจังครับ ปกติพี่จะฆ่าหมดเลยนี่น่า ไว้ชีวิตเธอเพื่ออะไรเหรอครับ?”

“พอดีอยากพิสูจน์อะไรสักหน่อยน่ะ”

“พี่มีเรื่องที่ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”

วสันต์ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

“ใช่ นี่ก็ดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องไปสืบพยานโจทก์ทำให้ดีล่ะ”

“ไม่ต้องห่วงงานผมหรอกครับ ผมเองก็มี…”

วสันต์เว้นช่วงพลางมองพี่ชายจากชั้นบรรไดที่เจ้าตัวอยู่สูงกว่า

“คนที่อยู่ในสาวตาของผม มันก็ไม่มีใครหน้าไหนรอดหรอกครับ พี่ปวริศ”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ฉะฉานและมั่นใจแบบนั้นปวริศก็ไม่พูดอะไร เขาก็ขึ้นไปบนห้องตัวเอง วสันต์ก็ไม่ต่างกันแต่เขายังร่างฟ้องไม่เสร็จดีนัก

ชายหนุ่มตาสีเฮเซลน้ำตาลถอนหายใจเบาๆ และได้หยุดเดินตรงหน้าประตูบ้านเมื่อได้เห็นน้องชายที่เป็นลูกคนที่3 ของบ้านอยู่ในสภาพอิดโรยถึงบ้าน

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะครับ รังสิมันต์”

วสันต์ทักทายหนุ่มตี๋ภายใต้หน้ากากครึ่งใบหน้ารูปทรงประหลาด ซึ่งเขาถอดหน้ากากออกและพ่นลมหายใจแรง ก่อนที่จะยิ้มเป็นกันเองให้พี่ชายของเขา

“ครับ พี่วสันต์”

“งานทำความสะอาดหลังงานจบเป็นไงบ้าง พี่ปวริศทำเละเทะไหมครับ?”

“ก็ไม่เท่าไหร่ หรือเพราะผมชินดีนะ?”

“ชินเหรอครับ คนขี้เกียจแบบน้องใช้คำนี้ด้วยรึครับเนี่ย?”

เพราะรังสิมันต์ อมาตยกุลเป็นคนที่นับได้ว่าไม่ชอบออกแรงมากที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมดนี้ เขาเป็นพวกทำอะไรได้ไวและไม่เชื่องช้าแม้จะขึ้นชื่อว่าขี้เกียจ แต่ที่เป็นแบบนั้นแค่อยากพักเร็วเฉยๆ

เรียกได้ว่าย้อนแย้งในตัวเองเป็นอย่างมาก

"ก็นะ ช่วงนี้อยากเป็นคนขยันหน่อยน่ะ ไหนๆ วันนั้นก็ไม่ได้รับงานอะไร ก็ช่วยพี่น้องไปสักหน่อย และที่สำคัญ…”

รังสิมันต์หยิบกระเป๋าใบใหญ่ออกมา ทำให้ดึงดูดสายตาวสันต์จนเขาเดินไปหาน้องชาย และหนุ่มตี๋ก็ยิ้มพร้อมกับเปิดซิบออกมาก็พบกับศพหญิงสาวที่มีผมสีทอง ที่อยู่สภาพเริ่มบวมและรอยช้ำต่างๆ นาๆ ซึ่งวสันต์ดูยังไงศพคนนี้ก็โดนทุบจนตาย

“ศพนี่ใคร?”

“ดาริน แสงอุทัย ลูกสาวของปราณปรียา แสงอุทัย เธอโดนพี่ปวริศทุบจนตายน่ะ”

“ทุบจนตายเหรอ?” วสันต์หัวเราะในลำคอ “สงสัยเค้นถามแล้วยัยคนนี้ไม่ตอบเลยโดนไปเรื่อยๆ จนพูดหมดที่รู้ได้สินะครับ?”

“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์น่ะ แต่…สภาพเธอแค่ฟกช้ำ ส่วนอื่นยังใช้ได้อยู่ เหมาะแก่การทดลองสารนี้สักหน่อย”

“สารนั้นเหรอครับ?” วสันต์ขมวดคิ้ว

“ครับพี่”

หนุ่มตี๋ยิ้มรับ แค่มองก็เข้าใจโดยรวมว่าสิ่งที่รังสิมันต์หมายถึงอะไร วสันต์มองศพหญิงสาวอีกรอบและมองตาน้องชายตรงหน้าอย่างสงสัยครู่หนึ่ง

“แล้วศพเด็กลูกชายของปรานปรียาที่พี่ปวริศฆ่าไปน่ะ ผลเป็นไงบ้างครับ”

“น่าผิดหวังนิดหน่อย ก็เลยเอาไปใส่โหลดองแทน”

“ตายแล้วเหรอครับ?”

“ใช่ เสียดายมากเลยเพราะตอนที่ผมจะไปทำความสะอาด เด็กคนนั้นอึดมากแท้ๆ”

“เอาเถอะครับ เรื่องโหลอะไรนั่นวางให้เป็นที่ล่ะรังสิมันต์ กรกฎยิ่งซุ่มซ่ามอยู่นะครับ”

“ครับพี่วสันต์ รู้แล้วน่า~”

รังสิมันต์รับคำและรูดซิปปิดพร้อมกับยกกระเป๋าจะไปห้องทำงานใต้ดินของตน

“เดี๋ยวก่อนรังสิมันต์ พี่ขอถามอะไรหน่อยครับ” วสันต์เรียก

“ถามว่า”

“ผู้หญิงที่พี่ปวริศพามา น้องรู้จักไหมครับ?”

“ไม่เลย เธอเป็นคนนอก”

“คนนอก?”

“ครับ อาจจะเป็นคนที่พี่ริทน่าสนใจมั้ง”

รังสิมันต์คิดเดาบอกพี่ชายไป แล้วก็จากไปโดยให้วสันต์อยู่คนเดียวพลางคิดไปเกี่ยวกับหญิงสาวแปลกหน้า ที่น้องชายเขายืนยันแบบนั้นก็คงเป็นคนนอกจริงๆ สิ่งเดียวที่วสันต์ไม่เข้าใจคือ

ทำไมถึงพามา

เพราะปกติแล้วปวริศ อมาตยกุลเป็นคนที่ดับลมหายใจเหยื่อก่อนตลอด น้อยมากที่จะมีไม่ตายสนิท ถ้าไม่อึดมากพอแต่ก็ตายก่อนที่จะไปหาใครคนอื่นได้เสมอ

และทุกงานที่ชายหนุ่มได้รับแทบไม่มีใครมีชีวิตรอดไปได้

เว้นเสียแต่ว่า..

“ไม่มีทาง”

เพราะปวริศ อมาตยกุลเป็นชายหนุ่มที่ไร้เมตตาและเอื้ออารี ถ้าไม่ใช่ ‘คนสำคัญ’ วสันต์คิดไม่ออกเลยว่าหญิงสาวที่พามาเป็นสถานะไหน ทว่า..เขาก็คำพูดพี่ชายได้ตอนเจอกันเมื่อครู่แว่บเข้ามาในหัว

'พอดีอยากพิสูจน์อะไรสักหน่อยน่ะ’

ไม่รู้ว่าปวริศ พี่ชายเขาหมายถึงอะไร ถึงอย่างนั้นก็เรียกความตื่นเต้นให้กับวสันต์ อมาตยกุลไม่น้อยเลยทีเดียว

“เริ่มเป็นผู้เป็นคนแล้วเหรอ ขนลุกว่ะ”

วสันต์ไม่อยากเชื่อกับความคิดในหัวเท่าไหร่ เขาพยายามปฏิเสธมันออกไป เพราะคนอย่างปวริศ ให้คุยแล้วไม่รู้สึกว่าเหมือนตัวเองโดนฆ่าทุกวินาทีก่อนจะดีกว่า


ทั้งนัยน์ตาที่แสนว่างเปล่า

ลูกตาสีดำ ที่ไร้แวววับเมื่อสัมผัสต่อแสง

ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ราวกับคนตาย

ด้วยสายเลือดฆาตกรไหลเวียนอยู่ในกายหยาบ


นี่คือบุคลิกและตัวตนเขาลูกชายคนโตของอมาตยกุล ชื่อนั้นคือปวริศ อมาตยกุล ชายเพียงหนึ่งเดียวที่มีชีวิตเพื่อชดใช้สายเลือดแสนสกปรกที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้

ดังนั้นมันยากที่จะคิดไปทางเรื่องความรักและเมตตาต่อหญิงสาวแปลกหน้าคนนั้น

“จะพูดแบบนั้นก็แย่ไปหน่อย ฉันเองก็ไม่ต่างจากพี่ปวริศเหมือนกัน”

แม้เขาไม่มีสายเลือดแบบนั้นเหมือนปวริศแต่สถานะก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก

To be continue