ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก
แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี,วิปลาสทรชน,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
วิปลาสทรชนยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก
ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก
วันที่สร้าง 22 มิ.ย 2567
วันที่ลงตอนแรก 29 มิ.ย 2567
ปลายฟ้า รินใจ นิสิตสาวมหาลัยวัย 22ปี จากคณะวิทยาศาสตร์และการกีฬามา ที่กำลังจะจบแล้วไปทำงานต่อที่บริษัทจังเกิ้ลเทคโน แล้วทันใดนั้นเธอก็ได้ตกหลุมรักหนุ่มหล่อเจ้าของรอยยิ้มแสนหวานอย่าง ปวริศหรือไนซ์ เขมทัศที่ทำงานฝ่ายโปรแกรมเมอร์รับผิดชอบระบบการทำงานทุกอย่างเกี่ยวกับโปรแกรมในบริษัททั้งหมด
แต่ยังไม่ทันได้รู้จักอะไรก็ทำให้เธอเจอแต่เรื่องสงสัยและไม่เข้าใจเต็มไปหมดราวกับว่าเหมือนทุกอย่างตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น และไม่น่าเชื่อว่าการที่ได้รู้จักปวริศจะทำให้ชีวิตเรียบง่ายของเธอที่ใฝ่ฝันนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล
ฆาตกรรม / ชำแหละศพ / บังคับขู่เข็ญ / กักหน่วงเหนี่ยว / ทำร้ายร่างกาย / ศีลธรรมครอบครัวในเชิงชู้สาว /นามธรรมความรักให้เหยื่อขาดไม่ได้ /อำพรางศพ / ฝังทั้งเป็น / อาการหลงรักฆาตกร / ฆ่านองเลือด / จิตวิทยาครอบครัว / ฆ่าด้วยหลายวิธีให้เหยื่อสิ้นชีวิต
#นึกออกเท่านี้ค่ะ ไว้นึกออกจะมาเพิ่มนะคะ
นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลที่สาม หากชื่อไปตรงกับใครขออภัยมา ณ ที่นี้
ในส่วนเนื้อหามีความรุนแรงเพศอาชญากรรมและการกระทำไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
แก้ไขครั้งที่1 : 17 กันยายน 2567
แก้เยอะมากค่ะ เยอะจนเกือบทั้งหมดของตอนได้ ดีนะคะที่ปรับเข้ากับอันเก่าได้แบบปาฏิหาริย์ เลยไม่หายไปหมดจนได้แบบที่เห็นค่ะ
เลาจน์ที่สูงที่สุดในประเทศอังกฤษที่มีเหล่าลูกค้าระดับ VIP มากมายมาอยู่ที่นี่ และทุกคนก็มาสังสรรค์กันเพื่อที่จะอวดบารมีและหน้าที่การงานโดยไม่แพ้ใคร รวมไปถึงสิ่งที่ผิดหลักมนุษธรรมแต่พวกเขาไม่ได้สนใจหรอกหากเหล่าน้ันได้สร้างบารมีและข้อต่อรองกับอีกฝ่ายเพื่อที่จะเหนือกฏหมายได้โดยที่ไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกเขาได้
หนึ่งในนั้นคือครอบครัวแสงอุทัยกับฉากหน้าทำงานใสสะอาด นำเข้านวัตกรรมล้ำสมัยเข้ามาในประเทศไทย พวกเขายังผูกขาดอุปกรณ์ไอทีที่เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักเศรษฐกิจได้เลย
ทว่าพวกเขาไม่ได้จับแค่งานนำเข้าอุปกรณ์ไอทีอย่างเดียวเท่านั้น ครอบครัวแสงอุทัยมีธุรกิจรายได้หลักอย่างขนส่งยาเสพติดไปยังอีกหลายๆประเทศในประเทศโลกที่1 และเป็นรายใหญ่ ซึ่งใครๆต่างก็รู้จักกันดีว่าสามีพสุชา แสงอุทัยกับภรรยาปรานปรียา แสงอุทัยคือฟิโอน่ากับฟร็องซ์ เป็นชื่อที่ใครได้ยินต่างก็ร้องอ๋อทันทีในเรื่องอำนาจและเหนือกฏหมายของวงการนี้
ถ้าหากไม่นับรวมชื่อเก่าของเขา ฌาณกิจ ไตรภาคี กับผลงานค้ามนุษย์ ทารุณกรรมเหยื่ออีกมากที่นับไม่ได้ เรียกได้ว่านรกส่งมาเกิดไม่มีอะไรเปรียบ
พสุชา แสงอุทัย หรือ ฟร็องซ์ ชายหนุ่มในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเงา ใบหน้าเขาอ่อนเยาว์กว่าอายุและที่หยิบไวน์มาเทที่แก้วตัวเองอย่างพอเหมาะก่อนที่จะชิมมัน เขาก็ดมกลิ่นหอมจากไวน์ที่ให้เขาสัมผัสได้ถึงผลไม้เข้าไปเต็มปาก 1จิบเล็กๆ
“มิสเตอร์ฟร็องซ์ รสชาติไวน์ถูกปากไหมครับ?”
ดีแลน ฮาร์มมิ่งหนุ่มชนชาติผิวขาว ผมดาร์คบลอนด์ นัยน์ตาสีฟ้าและเป็นชาวอังกฤษได้ถามขึ้นหลังจากเห็นหนุ่มเอเชียชาวไทยเพื่อนสนิทตรงหน้าเขาที่แสดงสีหน้าดูชอบพลอ
“อร่อยมากเลยดีแลน ของอะไร?”
“เดาสิ”
“รสชาติเหมือนพีช เมลอน และสับปะรด…แม็กซ์ เฟิร์ด..มัลไฮเมอร์?”
“ถูกต้องไวน์นี้มาจากเยอรมันเป็นของแม็กซ์ เฟิร์ด ริชเตอร์ มัลไฮเมอร์ เฮเลนคลอสเตอร์ รีสลิง สเปเทิลส์ ดีใจที่นายดูชอบนะฟร็องซ์”
“ชอบสิ ฉันไม่เคยกินมาก่อนเลย สงสัยต้องเอาเข้าไปประดับบ้านสักหน่อยแล้ว ฟิโอน่าจะได้กินด้วย”
“เยี่ยมเลย แล้วดารินลูกสาวนายไม่มาด้วยเหรอ ฉันคิดถึงเธอนะ”
“ปล่อยยัยเด็กใจแตกนั่นไปเถอะ มันติดผู้ชายจนไม่กลับบ้านกลับช่อง”
พอพูดถึงดารินลูกสาวตัวดีคนนั้นแล้ว ฟร็องซ์รู้สึกรำคาญทุกทีเพราะดาริน แสงอุทัย ลูกสาวคนแรกของบ้านเป็นเด็กที่ไม่สามารถทำให้คนเป็นพ่อรู้สึกดั่งใจได้เลยสักครั้ง ขนาดตีจนตัวช้ำไปทั่วร่างกายก็ไม่สามารถเป็นเด็กที่อยู่ใต้อาณัติได้อย่างที่หวัง
ที่สำคัญฟร็องซ์ไม่ชอบเด็กที่พูดไม่รู้เรื่องและยังเถียงขาดใจ ยิ่งมารู้จักผู้ชายที่ไนซ์นั่นอีกทำให้เขาน่าจะบีบคอลูกสาวให้ตายไปรู้แล้วรู้รอด แต่ทุกอย่างห้ามไว้เพราะฟิโอน่าหรือปรานปรียาภรรยาเขาขอ
“มีลูกสาวเนี่ยก็เหนื่อยนะ”
“ทีแรกไม่อยากมีลูกสาวด้วยซ้ำ ฉันอยากได้ลูกชายต่างหากแต่พอมีลูกชายคนที่2 ก็เสียชีวิตเพราะฟิโอน่ามันจ้างพี่เลี้ยงคนไหนไม่รู้ทำให้ตัวน้อยตาย”
“แล้วจัดการได้ไหม?” ดีแลนถามอย่างเป็นห่วง
“ฟิโอน่าบอกว่าเรียบร้อยแล้ว”
“ขอแสดงว่าเสียใจด้วยนะ”
“ขอบคุณ แต่จะดีกว่านี้ถ้าดารินตายไม่ใช่ตัวน้อยของฉัน”
“เอาน่า อย่างน้อยลูกสาวคนสวยก็ยังอยู่นะฟร็องซ์”
“ฉันไม่ต้องการยัยเด็กนั่น มันไม่ใช่ลูกฉันด้วยซ้ำ”
ฟร็องซ์พูดด้วยเสียงเข้มที่มันออกมาจากใจเขา ในทีแรกชายหนุ่มตอนรู้ว่ามีลูกสาวนั้นเขาเหมือนโลกสลายเพราะไม่ต้องการแต่แรก ทว่านับวันยิ่งโตนานวัน จากเด็กหญิงได้กลายมาเป็นหญิงสาว สิ่งนั้นเป็นคำตอบได้ว่า
เธอไม่ใช่ลูกสาวแต่เธอคือผู้หญิงคนหนึ่ง
และดารินไปเข้าใกล้ชายคนไหนฟร๊องซ์จะไม่ยอมเด็ดขาด ดารินเป็นผู้หญิงของเขาไม่ใช่ลูก
ดีแลนเองก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ที่บอกว่าดาริน แสงอุทัยลูกสาวเขาเป็นเด็กไม่ได้เรื่อง เพราะตอนที่เจอครั้งแรกนั้นเป็นเด็กสาวเอเชียตัวเล็กหน้าตาน่ารักแต่บุคลิกดูเงียบและไม่พูด แถมดูมีอาการหวาดกลัวตกใจเป็นบางครั้งที่ได้ยินเสียงพ่อของเธอ
ก็พอเข้าใจไม่ได้เรื่องในที่นี้หมายถึงอะไร
แต่ตอนที่ดารินตกใจกลัว หญิงสาวแสนน่ารักช่างเหมือนกระต่ายที่ตื่นตู่มมากๆ น่าเอ็นดูจนอยากจะครอบครอง ถึงจะไม่ถูกใจคนเป็นพ่อแต่มันดันปลุกสัญชาติญาณความกระหือรือร้นจากชายหนุ่มอย่างดีแลน ฮาร์มมิ่งได้อย่างดีเลย
น่าเสียดายที่ดีแลน ฮาร์มมิ่งต้องมารู้สึกเสียดายที่เธอดันมีแฟนแล้ว แม้จะไม่เคยเจอแต่ทุกครั้งที่ดารินเล่านั้นสีหน้าเธอมีแต่ความสุข มันดูน่ารักและสดใสเหมือนหญิงสาวที่ควรเป็นมากกว่านั่งอมทุกข์ไม่ยิ้มเสียดีกว่า
ช่างน่าเสียดาย..รอยยิ้มของเด็กสาวที่กำลังผ่านวัยเจริญพันธ์ของช่วงอายุมันงดงามมาก
ดีแลน ฮาร์มมิ่งควรเป็นคนสร้างมันเองแท้ๆ เขาไม่พอใจมากที่มีคนมาแย่งต่ำแหน่งตรงนี้ไป แม้จะถามเรื่องแฟนเธอแล้วแต่ก็ไม่มีรูปถ่ายอะไรในโลกอินเตอร์เน็ต สืบทุกช่องทางก็รู้แค่ว่าทำงานที่บริษัทของฟร็องซ์ ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์เท่านั้น
“จะว่าไปวันนี้มีโชว์ของแปลกที่เรือเลวี่โรส นายจะมาไหม..ฉันมีบัตรขึ้นเรือให้นายทั้ง 2ใบเลย พาดารินลูกสาวมาด้วยสิ” ดีแลนหยิบบัตรมาให้เพื่อนตัวเอง
“อ๋อ ขอบใจ” ฟร็องซ์รับบัตรจากมือเขา
“อย่าลืมพาลูกสาวมาด้วยล่ะ”
“แกจะกินเด็กรึไง”
“ไม่อยากได้ฉันเป็นลูกเขยเหรอ?”
“ดีแลน นายเล็งลูกสาวฉันตอนไหน?”
ฟร็องซ์ถามอย่างขุนเขืองใจ เขาไม่คิดว่าเพื่อนสนิทตรงหน้าจะเล็งผู้หญิงของตัวเองมาแต่แรก ชายหนุ่มพยายามกลั้นความไม่พอใจไว้ในอก เพราะคนตรงหน้าคือเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขมามาก แม้ในตอนนี้หัวใจของเขาร้อนรนกับพฤติกรรมที่หมายตาดารินไว้ มือหนาที่ผ่านเลือดมาหลายครั้งหลายคราก็อยากจะชกหน้ามันไปตรงๆ แต่ต้องข่มตัวเองไว้
“ตั้งแต่ตอนที่นายพามาเที่ยวที่เลาจน์นี้ครั้งแรกน่ะ”
“ตอนนั้นพึ่งจะ 15เองนี่นา”
ฟร็องซ์นึกเขาจำได้ว่ารำคาญดารินมากที่ชอบไปไหนมาไหนและกลับดึก แถมวันนั้นภรรยาเขาก็ติดประชุมยังย้ำเรื่องไม่ให้ลูกสาวคนโปรดไปเที่ยวไหนดึก เลยจบการพามาเที่ยวอังกฤษและมาที่แห่งนี้ ซึ่งพอดุและทุบตีหน่อยเธอก็เชื่อฟัง
ทว่าคาดไม่ถึงเลยว่าดีแลน ฮาร์มมิ่งที่เป็นเจ้าของห้างและสินค้าโอท็อปจะสนใจดาริน สาวน้อยที่ไม่ได้เรื่องที่ตัวพสุชาแทบอยากตัดขาดสายเลือดนี้ให้พ้นๆไป เหลือเพียงแค่ตำแหน่งผู้หญิงอีกคนไว้
พอมาคิดดูอีกทีแล้วก็ดีเหมือนกันงานเบื้องหน้าของดีแลน ฮาร์มมิ่งก็ดีและงานเบื้องหลังที่เป็นนายหน้าส่งอาวุธสงครามผิดกฎหมายไปยังประเทศต่างๆ ถ้าได้มาเป็นคนในครอบครัวก็คงดีไม่น้อย จะได้ขยายฐานธุรกิจนี้ไปในตัวด้วย
จนถึงวันนั้นค่อยจัดการก็ไม่สาย
พอคิดแบบนี้แล้วฟร็องซ์เองไม่อยากปล่อยให้โอกาสนี้หลุดไป และดีแลน ฮาร์มมิ่งดูชอบดาริน ผู้หญิงของเขาเสียด้วย ไม่คิดว่าเด็กไร้ประโยชน์คนนั้นจะมีดีให้ใช้งานได้เหมือนกัน
“ตอนนั้นเองเหรอ ทำไมแกไม่บอกฉันแต่แรก จะได้จับหมั้นเลย”
“ก็ไม่แน่ใจนี่นา เพราะดารินยังอายุไม่เท่าไหร่เองแต่พอเจอเรื่อยๆเธอสวยขึ้นมาก แถมแต่งตัวมิดชิดด้วยนะ ฉันชอบคนที่ปิดบังเนื้อหนังตัวเองดูน่าค้นหาดี”
“เหรอ พอดีเธอชอบแต่งตัวแบบนั้นมาตลอดน่ะ”
ความจริงคือเพื่อปกปิดรอยฟกช้ำร่างกายจากการถูกทุบตีต่างหาก แน่นอนว่าไม่มีทางที่ใครจะรู้แม้แต่แม่ของเธอเอง
“ถ้างั้นวันที่ไปเรือเลวี่โรส พาดารินมาด้วยนะและห้ามยุ่งกับระหว่างเดทของฉันล่ะ”
“แน่นอน พ่อตาไฟเขียว”
เสียงหัวเราะชอบใจของสองหนุ่มที่คุยกัน ทั้งสองได้พูดคุยมากมายจนกระทั่งถึงเวลาได้กลับบ้าน ตอนนี้พสุชาหรือฟร็องซ์ได้เดินทางมาถึงคอนโดที่เช่าอยู่ในอังกฤษกลางเมือง ชายหนุ่มทิ้งตัวและหยิบโทรศัพท์มา เขาก็เข้าแอพแชทและเลื่อนหาแชทดารินซึ่งเวลาล่าสุดที่คุยกันคือเมื่อ 7 เดือนก่อน
พสุชา : ดาริน นอนรึยัง
ดาริน : ยังค่ะพ่อ วันนี้หนูอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนนะคะ
พสุชา : ตอนนี้ยังคบมันอยู่ไหม พี่ไนซ์นั่นน่ะ
ดาริน : หนูเลิกไปแล้วค่ะ
คำตอบของหญิงสาวที่ตอบแบบทันควันทำเอาจากที่เหนื่อยๆจากการเดินทางกลับบ้านถึงกลับตาตื่นทีเดียว
เขาไม่ได้ตาฟาด ดารินเธอบอกว่าเลิกแล้ว
จริงอยู่ว่าเขาไม่ชอบดารินที่เป็นลูกสาวตัวเองแต่นิสัยที่ชอบเรียกร้องความสนใจและกลัวเขานั้น พสุชารู้ดีเสมอซึ่งมันไม่น่าเชื่อว่า ไนซ์ เขมทัศชายหนุ่มที่ดาริน รักแทบถวายตัวจะมีการขอเลิกโดยที่คนเป็นพ่อแบบเขาไม่รู้
“อะไรจะเหมาะเจาะแบบนี้…”
เวลาแบบนี้พสุชาไม่ทิ้งโอกาสแน่นอน ไม่ต้องเสียเวลาจัดการไนซ์ เขมทัศหรืออะไรเพราะเขาจากไปด้วยตัวเอง การที่จะได้ดาริน แสงอุทัยได้กลับมาในอ้อมกอดของเขาอีกครั้ง มันยิ่งทำให้สิ่งที่ฝันไว้ได้เกิดขึ้นมา
ดาริน หญิงสาวที่สวยงามเติบโตน่าเชยชมเหมือนดอกดาเรืองที่เปร่งประกาย
ผู้หญิงของเขาที่รักสุดดวงใจได้กลับมาแล้ว พสุชาจะไม่ปล่อยไปไหนอีกแล้ว จะเก็บดารินไว้ข้างกายให้มากที่สุด
ไม่รอช้ามือหนาก็พิมพ์หาดารินต่อทันที นาทีนี้อยากได้ยินเสียงแสนไพเราะเหมือนนกน้อยที่พึ่งเกิดมา
พสุชา : สะดวกโทรไหม พ่อจะคุยหน่อย
ดาริน : หนูไม่สบายค่ะ แชทแบบนี้แหล่ะค่ะ
พสุชา : ได้ วันที่18 พ่อจะไปรับหนูที่ไทยนะพอดีพ่อได้ตั๋วไปเรือเลวีโรส แต่งตัวดีๆปิดรอยช้ำให้ดี เข้าใจไหม
ดาริน : ค่ะ
เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วเจ้าตัวออกจากแชทด้วยท่าทางมีความสุขพร้อมกับจูบหน้าจอแชทดารินด้วยรักใคร่
มือหนาก็เปลี่ยนมาดูอย่างอื่นคือแอพโชเชียลมีเดียทางอื่น ฟีดของเขามีแต่ข่าวต่างประเทศจนกระทั่งพึ่งสังเกตุแจ้งเตือนมากมายที่แท็กหาเขา พสุชาก็ได้เปิดไปพบว่าแจ้งเตือนที่แท็กถึงเขาคือข่าวการตายของภรรยาตัวเอง
ชายหนุ่มตาเบิกกว้างเมื่อได้เห็นในสิ่งที่ไม่น่าเชื่อต่อตาตัวเอง หัวข้อข่าวที่ออกทุกรายการในประเทศไทย อีกทั้งยังสถานที่เกิดเหตุคือบริษัทแม่ของครอบครัวเขาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นข่าวพาดหัวยิ่งทำให้พสุชาตกใจมากกว่าเดิม
ดับสลดตรอมใจตาย คุณแม่รับไม่ได้ที่ลูกทั้งสองจากไป
พสุชาตกใจมากกว่าเดิมแชทที่เขาคุยดารินเมื่อกี้นั้นเป็นใคร ไม่รอช้าชายหนุ่มเอาโทรศัพท์กดโทรออกหาดารินทันที แล้วสายอีกฝั่งก็รับ
“คะ พ่อ..”
เสียงหวานที่รับสายยังคงความสั่นกลัวและตกใจเมื่อรู้ว่าใครโทรหาเธอ
“เมื่อกี้พ่อเห็นข่าวที่ไทย แม่กับแกโดนฆ่าเหรอ?!”
“ค่ะ..แม่โดนฆ่าค่ะ แต่หนูรอดนะคะ ตอนนี้หนูหลบหนีมาได้”
“ตอนนี้หนูอยู่ไหน”
“อา…ที่บ้านจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกนะคะ”
“ไม่โดนฆ่าใช่ไหม?!”
“เกือบตายค่ะแต่แม่ปกป้องหนูไว้”
“ดี..ดีมาก”
ยังดีที่อย่างน้อยเมียเขาได้ทำหน้าที่ปกป้องลูกตัวเอง ไม่สิ ผู้หญิงของเขาต่างหาก
“พ่อตอนนี้อยู่ที่ไหนคะ ช..ช่วยหนูด้วยหนูกลัว”
“หลบไปก่อน เดี๋ยวพ่อไปรับ”
ตอนนี้เรียกได้ว่าเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน ยังดีที่ดารินรอดตายมาได้ นึกว่าจะเสียนางฟ้าแสนงามคนนี้ไปเสียแล้วจากนั้นเขาก็ปิดสายแม้ในใจนั้นจะโล่งที่มีคนรอดแต่ก็ไม่วางใจอยู่ดี
ใครเป็นคนทำกัน
คำถามนี้ได้ผุดขึ้นมาในหัวของพสุชา ชายหนุ่มมั่นใจว่าพวกนักฆ่าที่ถูกส่งมาไม่น่าจะรอดไปเกือบหมดแล้วนี่นา แล้วทำไมถึงไปสาวถึงคนใกล้ตัวเขาได้กัน แม้จะเปลี่ยนชื่อและทุกอย่างมาหมดแล้วแท้ๆ ทว่าเหมือนจะมีแต่เรื่องไม่น่าเป็นได้เกิดขึ้นได้เยอะมาก
ยิ่งภรรยาเขาปรานปรียา ใช่ว่าจะโดนจัดการได้ง่ายเช่นกัน เธอเองก็มีความฉลาดหลบหลีกได้เก่งไม่แพ้ตน
“ใครกันนะที่ทำเรื่องเหี้ยแบบนี้”
เขาโมโหจนแทบอยากจะพังข้าวของทิ้งให้เสียหมดแต่ต้องใจเย็นไว้และหาทางรับมือคนที่จะทำแบบนี้ได้ ต้องเป็นพวกฝีมือเท่านั้นเพียงแค่ดาริน ผู้หญิงของเขาโชคดีที่รอดตายมา
“คงต้องไปรับก่อนวันที่ 18แล้วล่ะ”
อีกด้านเวลาเดียวกัน ห้องนอนเรียบง่ายไม่มีอะไรมากนอกจากโต๊ะคอมพิวเตอร์และหน้าจอคอมรวม 5 จอ และกระดานรูปภาพที่แปะรูปเหยื่อเป้าหมายไว้ตามแต่ละจุด หนึ่งในนั้นมีพายุชา แสงอุทัย
ปวริศ อมาตยกุล เจ้าของนัยน์ตาสีดำจ้องจอปิดสายไปของพ่อดารินด้วยสายตาที่นิ่ง เขาได้สนทนาด้วยเสียงกับเหยื่อของเขาโดยใช้เครื่องมือแปลงเสียงให้เหมือนกับลูกสาวคนโตของครอบครัวแสงอุทัย ซึ่งในปัจจุบันได้เสียชีวิตไปแล้ว ปวริศใช้เสียงของเธอสื่อสารอีกฝ่ายให้เข้าใจว่ายังมีชีวิตรอดอยู่คนเดียว
“ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ ก็นะผู้หญิงของเขานี่นา”
แค่ฟังน้ำเสียงในสายของพสุชาก็เดาได้อย่างไม่ต้องสงสัย ชายหนุ่มลุกขึ้นเต็มส่วนสูงและมองหาเข้าของที่เป็นของดารินไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือชุดต่างๆที่เขาได้เอามาจากบ้านของเธอ แน่นอนว่าทุกเข้าของเครื่องใช้เกือบทั้งหมดตอนนี้มาอยู่ห้องของปวริศ อมาตยกุล
“เรือเลวี่โรสสินะ…แต่งตัวดีๆให้มิดชิด”
ปวริศทวนความจำและเลือกชุดไปด้วยซึ่งเจอสองสามตัวพอดี เรียกได้ว่าเขาพร้อมที่จะเดินทางไปยังเรือเลวีโรสเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าการเอาโทรศัพท์ของดารินและทำเครื่องแปลงเสียงด้วยโปรแกรมเสียงจะได้ผลดีขนาดนี้
รู้เลยว่าเป็นพ่อที่ไม่สนใจหรือเอ๊ะใจอะไรเลยเพราะว่าไม่ได้เป็นลูกสาวแต่แรก
ทุกอย่างเข้าทางเขาหมด เหลือแต่ขั้นตอนต่อไปคือ ปวริศต้องทำอะไรสักอย่างให้รู้ว่าลูกสาวตัวจริง ไม่สิ ผู้หญิงตัวจริงของเขาที่ยังไม่ตายและสามารถเดินทางไปกับพสุชา แสงอุทัยได้ต่างหาก
“ตอนนี้ก็ตี4 แล้วสินะ เข้าของปลายฟ้าไปเอาตอนนี้เลยละกัน”
พูดจบเขาก็ออกจากห้องไปโดยที่เอาโทรศัพท์ของดาริน แสงอุทัยกับเครื่องแปลงเสียงไปด้วย