ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก

วิปลาสทรชน - ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (2) โดย myisodore @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

วิปลาสทรชน

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แอคชั่น,อาชญากรรม,ไทย,รัก,แฟนตาซี

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,พล็อตสร้างกระแส,แอคชั่น,นิยายชายหญิง

รายละเอียด

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก

ผู้แต่ง

myisodore

เรื่องย่อ


วิปลาสทรชน

ยามมนุษย์ที่บิดเบี้ยวและสายเลือดความเลวได้ส่งต่อไปยังบุตรหลาน ได้สร้างฆาตรกรขึ้นมาจากความรัก 

อัพตอนใหม่ ทุกวันพุธกับเสาร์

ปลดตอนอ่านฟรี 1 วันรอแจ้งนะคะ


วันที่สร้าง 22 มิ.ย 2567

วันที่ลงตอนแรก 29 มิ.ย 2567


เรื่องย่อ

ปลายฟ้า รินใจ นิสิตสาวมหาลัยวัย 22ปี จากคณะวิทยาศาสตร์และการกีฬามา ที่กำลังจะจบแล้วไปทำงานต่อที่บริษัทจังเกิ้ลเทคโน แล้วทันใดนั้นเธอก็ได้ตกหลุมรักหนุ่มหล่อเจ้าของรอยยิ้มแสนหวานอย่าง ปวริศหรือไนซ์ เขมทัศที่ทำงานฝ่ายโปรแกรมเมอร์รับผิดชอบระบบการทำงานทุกอย่างเกี่ยวกับโปรแกรมในบริษัททั้งหมด


แต่ยังไม่ทันได้รู้จักอะไรก็ทำให้เธอเจอแต่เรื่องสงสัยและไม่เข้าใจเต็มไปหมดราวกับว่าเหมือนทุกอย่างตั้งใจให้มันเกิดขึ้นเสียอย่างนั้น และไม่น่าเชื่อว่าการที่ได้รู้จักปวริศจะทำให้ชีวิตเรียบง่ายของเธอที่ใฝ่ฝันนั้นเปลี่ยนไปตลอดกาล



คำเตือน

ฆาตกรรม / ชำแหละศพ / บังคับขู่เข็ญ / กักหน่วงเหนี่ยว / ทำร้ายร่างกาย / ศีลธรรมครอบครัวในเชิงชู้สาว /นามธรรมความรักให้เหยื่อขาดไม่ได้ /อำพรางศพ / ฝังทั้งเป็น / อาการหลงรักฆาตกร / ฆ่านองเลือด / จิตวิทยาครอบครัว / ฆ่าด้วยหลายวิธีให้เหยื่อสิ้นชีวิต


#นึกออกเท่านี้ค่ะ ไว้นึกออกจะมาเพิ่มนะคะ




นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบุคคลที่สาม หากชื่อไปตรงกับใครขออภัยมา ณ ที่นี้


ในส่วนเนื้อหามีความรุนแรงเพศอาชญากรรมและการกระทำไร้ซึ่งความเป็นมนุษย์ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน




ช่องทางการติดตามทั้งหมด AllMyLink

สารบัญ

วิปลาสทรชน-ตอนที่ 1 สิ่งสกปรก #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 2 ความตาย #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 3 เธอมาที่นี่ (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 4 ครอบครัวอมาตยกุล (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (2) #รีไรท์ (อ่านตอน14.15น. สำหรับรีไรท์),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 5 ตัวหมาก (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (1) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (2) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 6 บ้าน (3) #รีไรท์,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (1),วิปลาสทรชน-ประกาศ หยุดอัพนิยายชั่วคราวไปจนถึงสิ้นเดือนหน้า,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 7 ความรัก (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (1),วิปลาสทรชน-ประกาศรีไรท์ ตอนใหม่+เนื้อหาที่เปลี่ยนเล็กน้อย+ติดเหรียญ,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 8 เรื่องของเธอคนนั้น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (1),วิปลาสทรชน-แจ้งวันอัพนิยายอย่างเป็นทางการ และวันปลดอ่านฟรี,วิปลาสทรชน-ตอนที่ 10 ดิ้นรนเพื่อคนอื่น (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (1),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (2),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 11 ล่าเหยื่อ (3),วิปลาสทรชน-ตอนที่ 12 พลิกกลับ (1)

เนื้อหา

ตอนที่ 9 ผกามาศเพชฌฆาต (2)

วิปลาสทรชน

ตอนที่9 ผกามาศเพชฌฆาต (2)


รถยนต์คันใหญ่สีดำที่แล่นตัวออกไปได้ก่อนฟ้าจะสว่าง ปลายฟ้า รินใจที่ได้ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียและต้นคอที่ปวดแปล๊บขึ้นมาทำให้ปลายฟ้าร้องโอดเจ็บเลยทีเดียว เจ้าของตาสีเขียวปรับสายตาการมองเห็นที่เริ่มชัดมากขึ้นหลังจากที่หลับไปนานในช่วงที่ภาพตัดตอนประชุม

ปลายฟ้าพบว่าตัวเองนั้นกำลังอยู่ในรถยนต์โดยตัวเองนั้นโดนมัดอยู่ และสายตาได้ทอดมองชุดที่ใส่ก็เปลี่ยนเป็นเดรสผ้าพริ้วสีม่วงอ่อนยาวคลุมเข่าแขนกุดแต่งระบายแขน ที่ตอนไปซื้อปลายฟ้าจำได้มันคือชุดที่ปวริศเลือก

ถึงจะไม่รู้ว่าใครใส่ให้แต่ก็คงไม่พ้นคนในบ้านนี้ พอมาคิดว่าร่างกายตัวเองเปลื่อยเปล่าต่อหน้าชายหนุ่มไร้มนุษยธรรมแล้ว แทบจะอยากเจ็บปวดใจตัวเอง ปลายฟ้าตั้งคำถามตัวเองหลายรอบมากทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย

“ตื่นแล้วเหรอ?” 

เสียงอันคุ้นเคยได้ดังขึ้นมาข้างๆ ปลายฟ้าสะดุ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงของกรกฎ อมาตยกุล

“พี่กรกฎ…”

“รู้ด้วยเหรอว่าฉันอายุมากกว่า?”

“ก็หน้ามันบอก..”

“เธอเนี่ยไม่กลัวเลยเนอะ คำพูดน่ะพาซวยได้นะ”

“จะกลัวทำไมคะ ไหนๆก็จะตายอยู่แล้วนี่ ปากหมาก่อนตายไม่เป็นไรหรอก”

หญิงสาวต่อล้อต่อเถียงแบบไม่กลัวอันใด ซึ่งสิ่งที่พูดออกไปนั้นมันจากความจริงของเธอที่มีต่อสถานการณ์นี้ นัยน์ตาสีเขียวได้มองไปยังหน้าต่างของรถยนต์ที่ขับไปไกลโดยไม่รู้จุดหมาย ปลายฟ้าก็หันมาหาชายหนุ่มผมเงินข้างๆ

“เราจะไปที่ไหนเหรอคะ?”

“ก็บ้านของดารินไง อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี”

“อะไรนะคะ” 

ปลายฟ้าถึงกับลั่นออกมา เธอรู้ว่าจะต้องไปเป็นดารินในอีกไม่กี่วัน แต่ไม่กี่วันนี่คือวันนี้หรอกเหรอ สีหน้าของสาวผมทองซีดอย่างเห็นได้ชัดจนชายหนุ่มที่นั่งข้างๆถอนหายใจ

“จะตกใจทำไมไหนบอกว่าจะตายอยู่แล้วนี่ แปลกคนดีนะ” กรกฎพูดหน้านิ่งแอบรำคาญใส่ให้เธอ

“แล้วพี่ริทล่ะคะ เขาไม่มาส่งหนูเหรอ?”

เพราะปกติน่าจะเป็นคนมาส่งแท้ๆ ไม่สิมันควรจะเป็นเขาแต่แรกต่างหาก ไหงกลับเป็นน้องชายคนเล็กของบ้านได้ล่ะ

“ฉันขอพี่ริทว่าอยากมาส่งเธอน่ะ”

“อ๋อ ขอนี่เอง..” 

…ทำตัวเป็นเจ้าของไปได้ น่ารังเกียจชะมัด…ปลายฟ้าบ่นในใจ

แต่เอาเถอะถ้าเจอกัน ยังไงตอนนี้ปลายฟ้าก็ไม่อยากมองหน้าอีกอยู่ดี อีกอย่างกรกฎ อมาตยกุล ผู้เป็นลูกชายคนเล็กของบ้านยังดูเป็นมิตรอยู่หน่อย เธอรู้สึกได้แบบนั้น เพราะเขาจะส่งความรู้สึกเป็นห่วงเป็นใยอยู่หน่อย

น่าจะนะ...

“ลุงชานน” กรกฎเรียกชื่อคนขับรถข้างหน้า

“ครับคุณชาย”

ชานน สีตาแสง คนขับรถรับขานจากคุณชายคนเล็กของตระกูลขึ้นโดยที่ตายังขับรถมองทางอยู่

“ผมจะคุยกับปลายฟ้า ช่วยทำเหมือนคนไม่ได้ยินและห้ามปริปากไปบอกใคร”

“เข้าใจแล้วครับ วางใจผมได้เลยครับคุณชาย”

หลังจากที่ลุงชานนพูดจบ หนุ่มผมเงินมองมาที่หญิงสาวด้วยแววตาจริงจังใส่ ปลายฟ้านั้นไม่รู้หรอกว่าความหมายของแววตาทอดมองมามันคืออะไร

“เธอรู้แล้วใช่ไหมว่าคนที่เราจัดการคือใคร”

“พสุชา แสงอุทัยค่ะ พ่อพี่ดาริน”

“ถูกต้อง แล้วเขาไม่ใช่คนธรรมดาที่วิปริตเอาลูกตัวเองอย่างเดียวหรอกนะ”

“ค้ายาเสพติดข้ามประเทศผิดกฏหมาย…สินะคะ”

“ใช่ และที่สำคัญเขาเป็นกาบุรุษ หนึ่งในรายชื่อที่ต้องโดนลบออกจากประเทศนี้ไป”

“คือหนูไม่ได้ว่าอะไรนะคะ ทำไมเรื่องพวกนี้ไม่ให้ตำรวจจัดการล่ะคะ?”

ปลายฟ้าถามอย่างใคร่สงสัย เพราะงานพวกนี้ดูยังไงก็ต้องให้ตำรวจหรือผู้มีอำนาจทางกฎหมายจัดการ จะดีที่สุดมากกว่ามาทำอะไรนอกเหนือตำรวจแบบนี้ อีกทั้งยังจะฆ่าคนที่มาขัดขวางแผนอีกต่างหาก การกระทำไม่ต่างอะไรกับจัดการคนไม่ดีและคนบริสุทธิ์ไปด้วย

ซึ่งกรกฎที่ได้ยินคำถามจากใบหน้าที่อยากรู้ ก็ไม่แปลกที่จะรู้สึกแบบนั้นเพราะพวกเขาเองก็ทำงานแบบนี้มาตั้งแต่เด็กและมือเปื้อนเลือดไปมากมาย เดิมทีไม่ได้อยากให้คนธรรมดาแบบสาวผมทองคนนี้มาเอี่ยวด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อเข้ามาในบ้านหลังนี้โดยพี่ชายคนโตผู้เป็นลูกรักของพ่อพามาด้วยแล้ว จำเป็นต้องให้เธอรู้จักงานพวกนี้ด้วยตัวกรกฎ อมาตยกุลเอง 

ที่ต้องทำแบบนั้นเพราะปวริศ พี่ชายคนโตของเขามันไม่ใส่ใจเลยยังไงล่ะ

‘พามาเอง แต่ไม่ดูแลเลยนอกจากซื้อของให้ แล้วจะให้ไปทำงานเสี่ยงอีก สมองกลับชัดๆ!’

พอมองหน้าหญิงสาวตาสีมรกตสวยแล้ว ก็รู้สึกได้ว่าไม่มีอะไรดีเลยนอกจากความสามารถมองคนเจ็บเท่านั้น เรียกได้ว่าทุกอย่างเป็นศูนย์

“คำตอบก็ง่ายๆ เพราะพวกกาบุรุษคือพวกที่มีอำนาจเหนือกฏหมาย” กรกฎอธิบาย “ตำรวจทั่วไปไม่สามารถจัดการพวกเขาได้ รวมไปถึงพวกทหารบางคนด้วย”

“แสดงว่าเป็นคนใหญ่คนโตสินะคะ แต่พวกพี่เองก็ดู..อา..” 

ปลายฟ้าเว้นเสียงพลางนึกคำที่จะพูดแต่กรกฎนั้นรู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เลยถอนหายใจออกมา

“เหมือนพวกมีอำนาจขัดขากันเอง อย่างไรอย่างนั้นสินะ” กรกฎถาม

“ค่ะ ประมาณนั้น”

"ไม่เถียงนะ พี่เองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันแต่ไม่ได้พูดออกไปน่ะ"

'ไม่ได้พูดออกไป ทำไหมล่ะ'

เป็นสิ่งที่หญิงสาวผมทองอยากรู้แต่ดูทรงถามไปคงไม่ใช่เรื่องที่เขาตอบให้เธอได้แน่ๆในตอนนี้ คงต้องสนใจสิ่งที่กรกฎบอกแต่แรกดีกว่านั่นคือ กาบุรุษ

"แล้วพวกกาบุรุษนี่คืออะไรกันแน่คะ"

“ถ้าจะให้เล่าแต่เริ่ม มันก็ยาว"

'อะไรนะ ยาวเหรอ!?' ปลายฟ้าอึ้งในใจ

"งั้นเอาคราวๆแล้วกัน แต่เดิมกาบุรุษนั้นมีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรน่ากลัวหรอก เป็นแค่พวกที่ก่อปัญหาไปวันๆ แต่มีอยู่วันหนึ่งคือวันที่พวกมันได้มีอำนาจ นั่นคือเรื่องราวจุดเริ่มต้นทั้งหมด”

“จุดเริ่มต้นทั้งหมดเหรอคะ…”

“จากแค่ก่อปัญหาเล็กๆน้อยๆเช่นสร้างความวุ่นวายทำตัวกร่าง เป็นในระดับที่ตำรวจจัดการได้ แต่นั่นแหล่ะทุกอย่างได้เริ่มเปลี่ยนไปตอนที่พวกมันได้อำนาจ…ความฉิบหายเลยบังเกิดขึ้น”

“เกิดอะไรขึ้นบ้างคะ..”

“เริ่มมีการฆ่าฟันกัน จับลูกของคนยากจนไปขายตัว ไล่ขมขืนหญิงสาวและเด็กเป็นการล่าแต้ม คนไหนมีครอบครัวทำให้พวกมันฉิบหายตายตามกันไป ศพลอยน้ำเป็นว่าเล่น” 

“เดี๋ยวนะคะ…เรื่องจริงเหรอคะ?!”

เธอถามอย่างตกใจ และชายหนุ่มก็มองหน้าเงียบๆ ก็เล่าต่อโดยไม่เว้นช่องไฟ

“และยิ่งผ่านไปนาน เริ่มมีพวกวิปริตมากขึ้นโดยที่ไม่มีใครทำอะไรได้ แม้กระทั่งตำรวจก็แพ้อำนาจเงินตรา และพวกทหารบางคนอีกมากที่ดันไปเชื่อฟังกาบุรุษซะงั้น”

เขาเล่าปนหัวเราะสมเพชไป แต่แววตานั้นไม่ได้มีท่าทีจะติดเล่นแต่อย่างใด ปลายฟ้าที่ฟังก็พอปะติปะต่อได้บ้าง ไม่รู้อีกฝ่ายเล่าความจริงไหม สำหรับเธอแล้วแววตาของกรกฎ อมาตยกุลนั้นไม่โกหก

“นี่คือที่มาของพวกคุณเหรอ ทำไมไม่เห็นบันทึกลงในประวัติศาสตร์เลยล่ะ”

“จะไปบันทึกได้ไงเพราะกาบุรุษมันได้อำนาจ ที่สามารถเขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองได้ มันไม่ได้ฆ่าแค่คนทั่วไป แต่ฆ่าทุกคนเลยต่างหาก ไม่เว้นแม้แต่พวกเชื้อพระวงศ์หรือผู้มีอำนาจ ที่น่าตลกคือพวกเชื้อพระวงศ์เองก็ต้องการรอดเลยไปร่วมมือกับพวกกาบุรุษซะงั้น ฟอกขาวตัวเองไม่รู้แล้วรู้จบ”

“...”

ปลายฟ้ามองตาอึ้งปริบๆใส่ไป ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ฟังเรื่องน่าเหลือเชื่อเหมือนเรื่องแต่งแบบนี้ 

“ตอนนั้นเรียกได้ว่ามันเลวร้ายมากจนต้องทำให้เหล่าอำมาตย์และพระราชาทองปัญโยมหาราชได้หารือกัน เพื่อที่จะทำยังไงไม่ให้แผ่นดินแปดเปื้อนสิ้นคนดีไปมากกว่านี้”

“พระราชาทองปัญโยมหาราช?”

ชื่อนี้ปลายฟ้าเคยเห็นในหนังสือประวัติศาสตร์ตอนเรียนมัธยมปลาย แต่ประวัติเขานั้นน้อยนิดกว่าหนึ่งหน้ากระดาษ บันทึกไว้ว่าเป็นราชาในสมัยหลังจากสิ้นกรุงธนบุรีไปเท่านั้น

“ประวัติน้อยนิดใช่ไหมล่ะ?”

“ค่ะพี่ เหมือนท่านคือไม่มีอะไรสำคัญมากในทางประวัติศาสตร์น่ะค่ะ ข้อมูลเลยไม่มี”

“ก็ไม่แปลก…สมัยนั้นกาบุรุษครองเมืองเลยล่ะ เพราะเหตุนี้ท่านเลยไม่ออกตัวให้เป็นที่จดจำ ประวัติศาสตร์เลยไม่บันทึกนามของพระราชาทองปัญโยมหาราช”

“ค่ะ...แต่สมัยนั้นของท่านมีพวกกาบุรุษเยอะ ทำไม…ยังไงเหรอคะ”

“จำที่พี่เล่าไปเมื่อกี้ได้ไหม ท่านได้หารือกับเหล่าอำมาตย์น่ะ”

“จำได้ค่ะ”

“พระราชาทองปัญโยมหาราชกับเหล่าอำมาตย์ที่ขึ้นตรงต่อท่าน ได้เฟ้นหาเหล่าอำมาตย์ที่มากความสามารถเพื่อสร้างเหล่าผกามาศขึ้นมา โดยบ่มเพาะให้พวกเขามีความสามารถในด้านการฆ่าคนโดยเฉพาะ”

“คือฆ่าคนได้ เรื่องกฎหมายล่ะคะ?”

“ไม่ต้องกังวลไป เพราะเหล่าผกามาศได้รับสิทธิพิเศษหลายอย่าง พี่จำไม่ได้ใดหรอกนะมันเยอะ รู้แค่ว่าเราสามารถฆ่าได้หลายวิธีจนกว่ากาบุรุษจะสิ้นใจ เรื่องกฎหมายหรืออะไรอย่าไปกังวล”

กรกฎหยิบไอแพดขึ้นมา แล้วเปิดหน้าแกลอรี่เปล่าพร้อมกับยกมาปลายฟ้าดู นั่นคือภาพดอกไม้ทั้ง 10 ดอกในไทยในหนึ่งรูปจัดเรียงเป็นตาราง หนึ่งในภาพนั้นมีต้นดอกพิกุล

“ใน 10ดอกไม้นี้คือตัวแทนพวกเราทั้งหมด สมญานามที่พระราชาทองปัญโยมหาราชมอบให้กลุ่มนี้คือ ผกามาศเพชฌฆาต

“ผกามาศเพชฌฆาต ดอกไม้…ดอกพิกุล?”

ภาพในสวนที่มีแต่ดอกพิกุลได้ลอยขึ้นมาในหัวขึ้นมาทันที ทีแรกคิดว่ามันเป็นเพียงต้นไม้ดอกประดับบ้านที่มีไว้เพื่อสิริมงคลอย่างที่รังสิมันต์พูดเสียอีก 

ก็ว่าทำไมถึงปลูกเต็มบ้านเลย และมารู้เรื่องราวพวกนี้ด้วยแล้วให้พูดตรงๆมันแอบน่าเหลือเชื่อมาก เพราะฟังยังไงมันก็เหมือนเรื่องแต่งอยู่ดี

“กำลังคิดว่าเป็นเรื่องแต่งสินะ ไม่แปลกทีแรกพี่เองก็คิดว่าเป็นเรื่องแต่งไม่ต่างจากเธอในทีแรก พอได้ทำงานถึงรู้น่ะว่ามันไม่ใช่เรื่องแต่ง”

ปลายฟ้าทึ่งกับสิ่งที่กรกฎพูด เหมือนตัวเองกำลังโดนอ่านใจอย่างไรอย่างนั้น เธอลดระดับความอันตรายของชายหนุ่มตรงหน้า โดยลืมไปว่าเขาเป็นคนในบ้านหลังนี้

“เหล่าผกามาศเพชฌฆาต ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการการกาบุรุษโดยเฉพาะ ทุกอย่างต้องทำเป็นความลับ เพื่อไม่ให้พวกมันไหวตัวทัน ดังนั้นงานของเราจึงเป็นการปิดทองหลังพระ โดยไม่รับค่าตอบแทนเป็นชื่อเสียงอันใดที่บันทึกลงประวัติศาสตร์”

“เลยเกิดชื่อ อมาตยกุล เหรอคะ?”

“อมาตยกุลมาจากเหล่าอำมาตย์และดอกพิกุลกับทายาในภาษากรีกที่แปลว่าการรักษาหรือเทพธิดา ต้นศัพท์เขียนคำว่า Thais หรือ Thea นี่คือที่มาของตระกูลอมาตยกุล”

“ถ้างั้นพวกพี่ก็ทำงานขึ้นตรงต่อกษัตริย์เหรอคะ!?”

“พวกเราพี่น้องทั้ง5แค่รับคำสั่งมา คนที่ขึ้นตรงจริงๆคือพ่อของเราต่างหาก”

ยิ่งฟังแล้วมีแต่เรื่องไม่น่าเชื่อเต็มไปหมด แต่สีหน้าของกรกฎ ชายหนุ่มผมเงินตรงหน้าแล้วดูไม่มีแววโกหกแต่อย่างใด 

ปลายฟ้าแอบหวั่นทันทีเพราะถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วทำไมต้องให้คนธรรมดาแบบเธอมาอันตรายด้วยในเมื่อคนหญิงสาวคือคนบริสุทธิ์เหมือนกัน

“ขอถามหน่อยค่ะ…”

“เชิญ”

“ในเมื่อเรื่องพวกนี้ เป็นงานของพวกคุณแล้วทำไมถึงต้องให้คนที่ไม่รู้เรื่องแบบหนูมาอยู่ในวงจรนี้ได้ค่ะ ไม่ใช่ว่างานพวกคุณมันแย่นะคะ..แต่มันเป็นเรื่องที่ถึงชีวิต แล้วทำไมถึงเอาคนนอกอย่างหนูมา”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

คำตอบที่ตรงไปตรงมาของกรกฎ อมาตยกุลทำเอาปลายฟ้าทำหน้าตกใจตาโตใส่ร้องห๊ะอย่างเห็นได้ชัด

“อะไรนะคะพี่กรกฎ ไม่รู้?!”

“ใช่ เพราะที่จริงเรื่องนี้ต้องถามพี่ริทนู่นแต่เจ้าตัวไม่ตอบหรอก พี่เขามองว่าเรื่องพวกนี้ไม่ได้สำคัญที่ต้องรู้ แต่ที่จริงแล้วมันโคตรจะสำคัญเลยต่างหากที่ไปเอาคนนอกแบบเธอมาน่ะ”

แค่ฟังจากปากของชายหนุ่มก็ทำเอาปลายฟ้าท้อเลยทีเดียว เท่ากับว่าปวริศ อมาตยกุลเอาคนนอกแบบเธอที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาแบบนี้มันก็ไม่มีทางรู้ได้เพราะเจ้าตัวไม่มีทางตอบอยู่ดี

“แต่จากที่ดูทั้งหมด…คงใช้งานเธอนั่นแหล่ะเพราะความสามารถแบบนี้ใช่ว่าทุกคนจะมี”

“พวกพี่เรียนด้านการฆ่าคนมา ไม่ใช่ว่าของพวกนี้เป็นสกิลพื้นฐานเหรอคะ”

ปลายฟ้าวิเคราะห์จากที่ดูหนังแนวนี้มาพอตัว เพราะพวกที่ใช้ทักษะนี้ สิ่งหนึ่งที่ต้องใช้มากที่สุดคือการสังเกตร่างกายอีกฝ่าย เพื่อนำมาสู่ชัยชนะ

เรียกได้ว่าต่อให้ไม่ทำงานด้านนี้ แต่มีอีกหลายอาชีพที่ใช้ทักษะนี้ นั่นก็คือการกีฬา ที่จำเป็นต้องมีบุคลากรความสามารถด้านนี้กันเยอะ และคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ปลายฟ้า รินใจจบมาคือตัวบ่มเพาะบุคคลเหล่านั้น

แม้ในตอนเรียนเธอจะโดดเด่นมากๆ จนได้เกียรตินิยมอันดับ1 มาแบบง่ายดาย

แต่เรื่องนั้นไม่ได้สำคัญเท่าให้เธอมาเป็นตัวแทนลูกสาวของโรคจิตในงานนี้หรอกนะ อันนี้มันสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้น

"ทุกคนเรียนมาอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เป็นเหมือนเธอที่ดูแว่บเดียวก็ดูออกว่าตรงไหนเป็นอะไร ยกเว้นพี่ที่ไม่มีความสามารถด้านนี้เลย ทุกอย่างเป็นศูนย์"

"ทั้งที่ตัวเองก็ทำงานพวกนี้แต่เป็นศูนย์ ฟังดูไม่ขึ้นเลยนะคะ"

"ความสามารถของพี่ไม่ได้มีไว้สู้นี่นา...ก็เหมือนเธอที่ไม่ได้ไว้สู้แต่เป็นเหยื่อให้มันพวกมันออกมา"

“ค่ะ"

ปลายฟ้ารับคำแบบไม่สบอารมณ์ของชายหนุ่มผมเงิน ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงที่เถียงไม่ออก มันก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี

"แล้วทำไมต้องให้หนูไปเป็นพี่ดารินด้วยคะ ในเมื่อพวกเขาเก่งขนาดนั้นโดยเฉพาะพี่ริทคงเป็นตัวจี๊ดเลยไม่ใช่เหรอคะ”

“พสุชา แสงอุทัยมันหนีเก่งและใช่ว่าจะฆ่าได้ง่าย มีนักฆ่าหลายคนถูกส่งไปจัดการแต่ตายหมด สิ่งเดียวที่จะทำได้คือฆ่ามันในทีเดียวนั่นก็คงเป็นเหตุผลที่พาเธอมา เพราะที่มีรูปลักษณ์คล้ายดารินไง”

ไม่ว่าจะเหตุผลไหนมันก็เห็นแก่ตัวหมดอยู่ดี ปลายฟ้า รินใจรับไม่ได้เสียจริงทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอเรื่องพวกนี้ด้วยและคนที่เธอต้องไปแทนตัวดันเป็นลูกสาวที่ถูกพ่อตัวเองขมขืนจนท้องด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นพวกนี้เอาเธอมาเพราะแค่เหมือนดาริน แสงอุทัย ไม่มีใครอยากตายโดยที่ตัวเองไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดหรอก

บ้าเอ๊ย!

ชีวิตที่ผ่านมาหลังจากพ่อแม่ตาย เธอก็ลำบากตั้งแต่นั้นมาแม้จะมีเงินของคุณปริญที่โอนมาให้ทุกเดือนแต่ใช่ว่ามันจะพอใช้ขนาดนั้น ด้วยค่ากิน เดินทางและเรียนเสริมเพื่อให้ได้ที่เรียนที่ดีๆ โดยไม่ต้องพึ่งทุนการศึกษาเพราะญาติเธอมันก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก

มันพังไปหมดแล้ว!!

“เหี้ย! ไอ้สัส ควย!!!”

หญิงสาวผมทองสบถใส่โทสะในน้ำเสียงอย่างชัดเจน กรกฎที่ตกใจเมื่อเห็นคนตรงหน้าอุทานดื้อๆ เดิมทีเขาเป็นพวกตกใจง่ายถ้ามีเสียงดังใกล้แบบไม่ทันตั้งตัว

“สุภาพหน่อย! จะอุทานอะไรออกมาก็ดูคนข้างๆด้วย พี่เป็นอาวุโสนะ”

“แก่กว่ากูไม่กี่ปี เรียกตัวเองว่าอาวุโส ทุเรศ!!”

“ปลายฟ้าหยุด!”

กรกฎขึ้นเสียงใส่ปลายฟ้าที่ดิ้นแรงมากเพื่อที่จะหลุดจากการถูกมัดแบบนี้ พอเข้าใจแล้วทำไมตอนพาขึ้นรถปวริศถึงมัดเธอไว้แน่นแบบนั้น

“กูไม่หยุด กูไม่อยากตาย กูอุส่าห์สู้ชีวิตมาถึงตรงนี้เพื่อวันที่สดใสแท้ๆ ทำไมกูต้องมาเจอพวกมึงด้วย..ฮึก”

ปลายฟ้าเริ่มน้ำตาคลอเบ้า เธอเสียใจกับความโชคร้ายของตัวเองจริงๆที่มาพบเจอคนพวกนี้ จนร่างบางหยุดดิ้นและปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดทางกายและใจไปโดยไม่สนกรกฎที่มองเธอแต่อย่างใด

ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วหยิบกระเป๋าตัวเองพร้อมกับเปิดและเอาของข้างในมาให้เธอ นั่นคือเครื่องเพาเวอร์แบงค์ลายดอกไม้พาสแทลกับเครื่องประดับแหวนและกำไลข้อมือที่มีรูปดอกพิกุลเป็นสัญลักษณ์ ปลายฟ้ามองตาชายหนุ่มด้วยความงุนงง

“อะไรคะ ฮึก..อะไรอีก”

“ที่ช็อตไฟฟ้าและแหวนเลเซอร์ ส่วนนี่กำไลไฟฉาย”

“ทำไมถึงให้ของพวกนี้กับหนูคะ”

“พี่รู้ว่าเธอรับไม่ได้ แต่ในเมื่อมาอยู่ที่นี่แล้วมีแต่ต้องทำยังไงให้รอดเท่านั้น”

ไม่พอกรกฎก็เอากระเป๋าสะพายสวยสีน้ำตาลออกส้มให้ปลายฟ้า ในนั้นมีของมากมายไม่ว่าจะเป็นของกุ้กกิ๊กเล็กๆหรือตุ๊กตาน่ารักขนาดจับมือ

“พี่ไม่รู้ว่าเธอชอบอะไร เลยซื้อของที่คิดว่าอันนี้ผู้หญิงน่าจะชอบ”

“พี่ซื้อให้หนูทำไม…”

“เราเป็นคนบ้านเดียวกันแล้ว พี่ไม่ชอบทำตัวห่างเหินคนในบ้านน่ะ”

คำพูดที่จริงใจผ่านทั้งแววตาและน้ำเสียงของชายหนุ่ม หญิงสาวเองก็เริ่มเปิดใจให้หน่อยหนึ่งแม้จะยังไม่มากก็ตาม

“ทำไมคะ…”

“ทำไมเหรอ พี่ก็แค่รู้ว่าการโดนปกป้องมันย่อมดีกว่าไม่มีใครเลย ก็..เคยผ่านมาแล้วน่ะเกือบตายหลายรอบน่ะ ฮ่ะๆ”

กรกฎหัวเราะเบาๆยิ้มตาหยีให้ ถึงจะไม่เข้าใจเท่าไหร่ในเรื่องของเหตุผล ดีกว่าไม่มีใครปกป้อง พูดเหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยได้รับสิ่งนั้นเลย ปลายฟ้าพยายามหยุดน้ำตาตัวเองแล้วมองเขาด้วยความรู้สึกที่จริงใจโดยไม่ลืมสังเกตร่างกายอีกฝ่าย

จุดอ่อน ไม่มี

นับเป็นอีกคนที่ไม่มีจุดที่น่ากังวลแต่โดยรวมแล้วศักยภาพคราวๆ ช่างเหมือนคนทั่วไป ปลายฟ้าคิดดูแล้วที่บอกว่า การโดนปกป้องมันดีกว่า ราวกับเขาต้องผ่านสถานการณ์ที่เลวร้ายมามากแน่ๆ

หญิงสาวผมทองรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่น่าจะเข้ากันได้…กับคนหนึ่งคนในบ้านหลังนี้

“พี่จะช่วยหนูเหรอคะ…”

“แค่เรื่องนี้แหล่ะ แต่เรื่องหนีพี่คงไม่ทำเพราะไม่อยากทะเลาะกับพี่ริทลูกรักของพ่อน่ะ”

“หนูคงไม่ได้ใช้หรอกค่ะ ยังไงก็จะตายอยู่แล้ว”

หญิงสาวพูดอย่างน้อยใจไป แม้ในใจไม่ได้หวังอย่างนั้นเลยสักนิด

“แต่พี่ไม่อยากให้ตาย”

กรกฎ อมาตยกุลพูดเสียงและใบหน้าที่จริงจังออกมา ปลายฟ้าเปร่ยมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่

“ทำไมคะ..”

“เพราะบ้านเรามีกฎอย่างหนึ่งที่ตั้งขึ้นมา นั่นคือเราต้องปกป้องกันและกัน ถึงมันจะใช้แค่พวกพี่น้องเรา แต่...พี่ก็ไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไป ไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้วนี่”

ความจริงใจที่เผยออกมาอย่างสัมผัสได้ ปลายฟ้าที่เสียใจเรื่องตัวเองเมื่อกี้ก็รู้สึกตื้นตันใจขึ้นมา เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่อย่างน้อยก็ยังมีคนต้องการปกป้องเธอ ถึงจะไม่ได้หวือหวาอะไรแต่ดีกว่าไม่มีเลย 

แย่เหลือเกินมันควรจะเป็นเรื่องปกติแท้ๆ อาจเป็นเพราะเธออยู่ในที่ไม่ปกติเลยซึ้งใจกัน…

“ไม่ร้องน่า พี่รู้ว่ามันยากแต่ใช้ของพวกนี้เท่าที่ฉุกเฉิน พี่สร้างและออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ดูเหมือนเครื่องประดับที่สาวๆชอบ เกิดอันตรายอะไรกดปุ่มตรงนี้ มันจะบอกที่อยู่เธอ..พี่จะได้ไปช่วยทัน” 

กรกฎชี้ที่ปุ่มเพาเวอร์แบงก์ที่เป็นเครื่องช็อตไฟฟ้าลายดอกไม้พาสเทลน่ารักดูถึงขั้นตอนใช้งานง่ายๆ พร้อมกับสวมแหวน กำไลข้อมือ ให้ปลายฟ้าที่ร้องสะอื้นไปด้วย

“แผนของเราก็คือเธอต้องไปกับพสุชาที่เรือเลวี่โรส บอกจุดอ่อนและตำแหน่งมันและรีบหนีออกมาให้เร็ว เข้าใจไหม”

“ค่ะ…”

“ไม่ต้องกลัวนะ เธอไม่ตายหรอก…ต่อให้พี่ริทไม่ปกป้อง พี่ก็จะทำเอง”

มือหนาของหนุ่มผมเงินได้ลูบหัวปลอบประโลมพร้อมรอยยิ้มให้หญิงสาวตรงหน้าสบายใจ ถึงปลายฟ้าไม่อยากทำแต่ถ้ามันไม่มีทางเลือกแล้ว ก็ต้องทำตามนี้ทุกอย่างเท่าที่ตัวเองไหว

“ได้ค่ะ..พี่ มาช่วยหนูด้วยนะคะสัญญานะ”

“อื้ม สัญญา”

อย่างน้อยความหวังที่จะมีชีวิตต่อก็ยังถูกเติมเต็มในสถานที่แบบนี้

 

To be continued

ตอนนี้ได้เผยที่มาของบ้านอมาตยกุลแล้วววว ยากมากนึกว่าจะไม่ได้เล่าในตอนต้นๆเสียแล้วค่ะ แน่นอนว่าเหล่าผกามาศเพชฌฆาตไม่ได้มีแค่อมาตยกุลแน่นอน(⁠≧⁠▽⁠≦⁠)

ไปๆมาๆ ตอนแรกคิดว่าจะอัพสัปดาห์ละ 2 ตอน แต่ตอนนี้คือ 4 ตอนแล้วอะ รู้เลยว่าคึก5555