ดราม่า,ผู้ใหญ่,ไทย,รัก,วัยว้าวุ่น,อ่อย,นางเอกรุก,พระเอกเลว,หนี,mydoctor,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,แอบรัก,คุณหนู,แค้น,ท้อง,ชาย-หญิง,หว๊านหวาน,โรแมนติก,18+,โรมานซ์,พี่หมอเย็นชา,เย็นชา,หมอ ,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Part คีตะ
08:24 น.
ตอนนี้ผมเข้ามาทำงานที่บริษัทแล้ว หลังจากที่เกิดเรื่องในผับหลายวันก่อนผมก็ไม่เห็นหน้าคนตัวเล็กอีกเลย ส่วนเรื่องโมนาเมื่อสืบดูแล้วก็เป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน
ผมรู้สึกผิดมากที่ว่าคนตัวเล็กอย่างรุนแรงไปวันนั้น ตอนนั้นผมโมโหจนขาดสติเลยไม่ได้คิดให้ดีก่อน เอไม่กลับมาบ้าน พอผมไปตามหาที่คอนโดก็ไม่เจอเธอ
“ไปอยู่ไหนของเธอ” คนตัวโตสบถออกมากับตัวเองเบาๆ ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะทำงานและต่อสายหาฝ่ายบุคคลของโรงพยาบาลทันที
“เข้ามาหาผมหน่อย” พอกดวางสายไปได้ไม่นานพนักงานฝ่ายบุคคลก็เข้ามาหาผมตามคำสั่ง ผมเลยสั่งให้ไปเอาใบสมัครฝึกงานของไอรีนมาให้ผม
“บ้านเหรอ?” พอผมนั่งอ่านประวัติเธอก็ทำให้นึกถึงอีกที่ที่เธอจะไปอยู่นั่นก็คือคฤหาสน์ของตระกูล เกียรติวัฒนะไพบูลย์
“........” ผมนั่งคิดอยู่นานก่อนจะคิดอะไรดีๆ ออกมา วิธีนี้ต้องทำให้เธอกลับมาทำงานแน่นอน รอยยิ้มอย่างมีเล่ห์นัยค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าของร่างหนา
Part ไอรีน
ณ คฤหาสน์ของตระกูล เกียรติวัฒนะไพบูลย์
หลังจากที่เกิดเรื่องฉันก็ตรงกลับมาบ้านคืนนั้นเลยทันที พอมาถึงบ้านคุณพ่อกับคุณแม่ท่านทั้งสองตกใจมากและพยายามคาดคั้นเอาคำตอบจากฉันแต่ดีที่พี่ชายกลับมาจากต่างประเทศมาช่วยไว้ได้ทัน
“ก๊อกๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ร่างบางแบกสังขารไปเปิดประตูให้คนที่เคาะ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนั่นคือพี่อลัน พี่ชายสุดที่รักของเธอนั่นเอง
“เข้ามาก่อนสิคะ” น้องสาวตัวน้อยเดินนำพี่ชายเข้ามาให้ห้อง อลันก็เดินเข้ามาและไม่ลืมที่จะหันไปปิดประตูให้น้องสาว
“จ้องน้องทำไมเนี่ย” เมื่อเธอรู้สึกว่าถูกพี่ชายจ้องก็เอ่ยถามกลบความเงียบทันที อลันไปเรียนแพทย์ที่ต่างประเทศ พึ่งเรียนจบแล้วบินกลับมาเซอไพรส์เมื่อคืนก่อนนี้เอง
“จะไม่บอกพี่จริงๆ เหรอ” พี่อลันถามฉันอย่างจริงจัง เพราะพี่ดันเข้ามาเห็นฉันตอนคืนนั้นพอดี อะไรมันช่างเหมาะเจาะแบบนี้
“ก็ตามที่พี่เห็นอะ” ฉันปิดบังพี่ชายฉันไม่พ้นหรอก ในที่สุดก็ต้องเล่าเรื่องคืนนั้นกับก่อนหน้านั้นให้พี่ชายฟังคร่าวๆ
“พี่จะไปเอาเลือดหัวมันออก มาว่าน้องสาวพี่ได้ยังไงกัน!” พอเล่าจบพี่อลันก็เดือดปุดๆ จนฉันแทบห้ามไม่อยู่
“เอาน่าพี่ อีกแค่อาทิตย์เดียวรีนก็ฝึกเสร็จแล้ว” ฉันพยายามพูดให้พี่ชายใจเย็นลงมากบ้าง ซึ่งก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่
“หนูยังจะไปฝึกต่ออีกเหรอ” พี่อลันหันขวับมาถามฉัน จะไม่ไปได้ไงล่ะก็เมื่อเช้าทางศูนย์ฝึกโทรมาเตือนแล้วที่ฉันไม่ได้ไปที่โรงพยาบาลนาน
“เอางี้ พี่ก็ไปรับไปส่งรีนแทนแล้วกัน อีกแค่นิดเดียวรีนก็จบแล้ว นะๆ น้า~” ร่างบางอ้อนพี่ชายสุดฤทธิ์ยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้าง จนพี่ชายของเธอต้องยอม
“ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปส่ง” ฉันส่งยิ้มพร้อมกับพุ่งตัวเข้าไปกอดพี่ชายสุดหล่อของฉันทันที พี่ชายฉันดีที่สุดในโลกแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้น
“แกร๊ก!” เมื่อเช้าพี่อลันก็มาส่งฉันอย่างที่ตกลงกันไว้ ฉันตั้งใจแล้วว่าจะตัดใจจริงๆ จังๆ ฉันจะไม่ลดค่าตัวเองเด็ดขาด
Part คีตะ
“ฟุ่บ~” วันนี้ผมตั้งใจมาทำงานแต่เช้าเพราะรู้ว่าคนตัวเล็กต้องมาทำงานแน่ๆ ไม่นานคนตัวเล็กก็เปิดประตูเข้ามานั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“มานี่หน่อย มีเรื่องจะคุยด้วย” ผมเอ่ยพูดกับร่างบางซึ่งเธอต่างไปจากเดิมมาก เธอไม่ได้งอนหรือโกรธผมเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมรู้สึกเหมือนว่าเธอห่างจากผมไปไกลกว่าเดิม
“มีอะไรรึป่าวคะ” เธอทำตัวเหมือนพนักงานคนนึงอย่างจริงจัง ปกติเธอจะเข้ามาอ้อนผมแต่วันนี้กลับเปลี่ยนไป สายตาเธอเย็นชาเอาซะผมเริ่มหวั่นใจ
“เรื่องคืนนั้น ขอโทษเธอนะที่พูดออกไปโดยไม่คิด” ผมพูดสิ่งที่คิดเอาไว้ก่อนหน้ากับเธอตรงๆ เพราะเรื่องนี้ผมผิดจริง
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” ร่างบางพูดเสียงนุ่มก่อนจะส่งยิ้มกลับมา แต่รอยยิ้มนั้นมันกลับไม่เหมือนเดิมเอาซะเลย คนตัวเล็กเดินไปนั่งทำงานต่อเหมือนเดิม ใจของผมมันหวิวยังไงบอกไม่ถูก
“........” หลังจากที่เราต่างก็แยกกันทำงานอยู่นานพอสมควร ร่างหนาลอบมองคนตัวเล็กเป็นระยะๆ จนตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว
“ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย?” คนตัวโตเอ่ยชวนร่างบางอย่างไม่เคยทำมาก่อน แต่รอยยิ้มที่ส่งกลับมาจากคนตัวเล็กมันช่างเยือกเย็นเหลือเกิน
“ขอโทษทีค่ะ รีนมีนัดแล้ว” พอเธอพูดจบก็คว้ากระเป๋าเดินออกไปทันที ปล่อยให้คนผมนั่งเหว๋ออยู่ที่เดิมอยู่หลายนาที
“ใคร?” เมื่อผมตัดสินใจเดินลงมาด้านล่างเพราะคิดว่าเธอน่าจะมีนัดทานข้าวกับหมอตะวัน แต่พอเดินลงมาก็เห็นเธอเดินขึ้นรถไปกับใครสักคน ผมเองก็ไม่ทันเห็นหน้าคนขับ
“เฮ้อออ~~” ร่างหนาถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะหันหัวกลับขึ้นลิฟต์ไปห้องทำงานตามเดิม ข้าวเที่ยงนี้มันไม่น่ากินพอที่จะให้เขาเอาเข้าท้อง
13:14 น.
เมื่อหมดเวลาพักคนตัวเล็กก็กลับเข้ามาพร้อมรอยยิ้มที่สดใส ซึ่งรอยยิ้มนั้นมันเคยเป็นของผมมาก่อน ใครกันนะที่ทำให้เธอยิ้มกว้างได้ขนาดนี้
“เอากาแฟมาให้หน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยสั่งเด็กฝึกงานอย่างไอรีน เธอเองก็รับรู้และออกไปชงกาแฟกลับมาให้เจ้านาย
“อ...โอ๊ย ซี๊ด~~” เมื่อคนตัวเล็กเดินเอากาแฟมาเสิร์ฟก็ไม่ทันเล่ห์ของชายตรงหน้า เขาแกล้งเอาตัวเข้ามาชนเธอจนแก้วกาแฟหกใส่ทั้งสองคน
“ข..ขอโทษค่ะ เดี๋ยวเช็ดให้ค่ะ” มือบางรีบปัดป่ายตามรอยเปื้อนบนเสื้อของคีตะ
“หมับ!!” มือหนาจับมือคนตัวเล็กไว้เป็นเชิงห้ามก่อนที่มือเรียวจะเปื้อนไปมากกว่านี้ เขาจูงมือร่างบางหายเข้าไปในห้องนอน
“เดี๋ยวรีนออกไปข้างนอกดีกว่าค่ะ หมอจะได้เปลี่ยนเสื้อผ้า” คนตัวเล็กเปลี่ยนสรรพนามความเกรงใจของเธอทำผมรับไม่ไหว
“เดี๋ยวสิ” มือหนาคว้าข้อมือร่างบางเอาไว้ก่อนจะดึงเธอให้ถอยหลังมาดังเดิม เขาเดินไปกดล็อกประตูบานเดียวที่มีอยู่
“ล...ล็อกทำไมคะ” เสียงหวานตะกุกตะกักเมื่อพี่หมอคีตะกลายร่างเป็นพ่อหนุ่มแบดบอย คนตัวโตเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้ร่างบาง ก่อนจะโน้มหน้าลงมาใกล้เธอ จนคนตัวเล็กต้องหลับตาปี๋
“เธอต้องเปลี่ยนเสื้อให้ฉัน” เสียงแหบพร่าดังข้างหูของคนตัวเล็กทำเอาเธอสะดุ้งโหยงกับประโยคเมื่อครู่
“ไม่ดีมั้งคะ” คนตัวเล็กก้าวถอยหลังเล็กน้อยสายตาหลุบต่ำลงไปที่พื้นเรียบ แต่คนตัวโตก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปสักที
“ไม่ดีอะไรล่ะ ทีวันนั้นเธอยังจูบลงมาตรงนี้อยู่เลย” คนตัวโตพูดพร้อมกับชี้ไปบนหน้าอกของตนเองที่คนตัวเล็กเคยฝังรอยจูบไว้ตอนถ่ายแบบครั้งก่อน
“.........” เมื่อคนตัวเล็กเถียงไม่ออก ร่างหนาก็เดินไปเลือกเสื้อในตู้เสื้อผ้าและนำมันมายื่นให้คนตัวเล็กที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
“~~” เรียวนิ้วของไอรีนค่อยๆ ปลดกระดุมคนตัวโตออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ ต่างจากสาวแซ่บในคืนนั้นอย่างไกลลิบ
“พรึ่บ!!” เมื่อเห็นว่าเธอปลดกระดุมไม่ถนัดเนื่องจากเขายืนเต็มความสูง เลยใช้แขนช้อนตัวเธอขึ้นไปนั่งบนเคาร์เตอร์ริมหน้าต่าง
ร่างหนาจับขาของคนตัวเล็กอ้าออกก่อนจะแทรกตัวเองเข้าไปในหว่างขาของเธอ ท่าทางล่อแหลมแบบนี้มันยิ่งทำให้คนตัวเล็กกระอักกระอ่วน ความประหม่าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เร็วๆ สิ” เสียงทุ้มเอ่ยเร่งคนตัวเล็กที่จับผิดจับถูกอยู่ที่เสื้อของเขา คนตัวเล็กจึงรีบเร่งความเร็วจนในที่สุดเสื้อของผมก็หลุดติดมือเธอไป
“เอาเสื้อมาค่ะเดี๋ยวรีนใส่ให้ เราจะได้ไปทำงานกันต่อ” คำว่าทำงานทำให้ผมต้องขมวดคิดทันทีขนาดผมอ่อยขนาดนี้เธอยังจะมีกะจิตกะใจจะกลับไปทำงาน
“พรึ่บ!” ตอนนี้คนตัวเล็กใส่เสื้อให้ผมเสร็จแล้วเอจะกระโดดลงจากเคาท์เตอร์ แต่ฝันไปเถอะว่าจะสำเร็จ
“หมับ!!” ผมพุ่งเข้าไปรับคนตัวเล็กก่อนจะวางเธอบนเคาท์เตอร์ดังเดิม เธอมองผมอย่าง งงๆ
“อื้อออ~~” ริมฝีปากหนาพุ่งเข้าไปประกบริมฝีปากบางอย่างเอาแต่ใจ กำปั้นน้อยๆ ทุบอกของผมเบาๆ ก่อนจะนิ่งไปในที่สุด
“อย่าเป็นแบบนี้อีกได้มั้ย?” ผมจูบเธออยู่เนิ่นนานก่อนจะละริมฝีปากออกและตั้งใจพูดกับเธออย่างจริงจัง ผมไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้เลย
“..........” ไร้การตอบรับจากคนตรงหน้าแต่ผมสังเกตได้ว่าแก้มเธอเริ่มขึ้นสีแดง เธอผลักผมเบาๆ ก่อนจะวิ่งออกไปจากห้องนอน ก็ถือว่าเธอไม่เย็นชาใส่ผมบ้างแล้ว วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน
17:34 น.
ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงานแล้วเธอก็เดินลงมาก่อนผมตามเคยผมเลยเดินตามลงมาหวังว่าจะคุยกับเธอ
“!!!!!!” แต่คนตัวเล็กวิ่งเข้าไปกอดผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมจำได้ว่ามันคือรถเมื่อตอนกลางวัน เธอยิ้มกว้างมากๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะลูบหัวเธอเบาๆ อย่างอ่อนโยน ผมมองตามทั้งคู่ที่ขึ้นรถไปด้วยกันและขับออกไปในที่สุด
“............”