ไอริส : นี่ฉันชอบเวลส์งั้นเหรอ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้วแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว………
ดราม่า,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,มีลูก,หนี,ท้อง,แอบรัก,แอบชอบเพื่อน,เพื่อน,มาเฟีย,ติดหนี้,หว๊านหวาน,badfriend,20+,18+,พระเอกเลว,เพื่อนสนิท,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,โรมานซ์,โรแมนติก,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ริส!!” ฉันหันไปตามเสียงเรียก เพื่อนๆ ฉันวิ่งเข้ามาหาฉันกอดฉันด้วยความเป็นห่วง น่าจะเป็นพี่ผู้จัดการที่โทรไปบอกพวกมันสินะ
“เป็นอะไรมั้ยมึง” ยาหยีถามฉันด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ไม่เป็นไร แค่มีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย” ฉันตอบกลับไปอย่างหมดแรง ก่อนจะมองไปยังสองคนนั้นที่มองมาที่ฉันเช่นเดียวกัน
“นิดหน่อยบ้าอะไรล่ะ” อลันพูดเสียงดังและมองแรงไปหาเพื่อนอีกคน นั่นก็คือเวลส์ ซึ่งเวลส์ไม่พูดอะไรแค่เงยหน้ามามองก่อนจะหันไปหายัยจีน่าเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวกูทำงานก่อน” ฉันบอกให้พวกมันหายห่วงก่อนที่จะเริ่มทำงานให้เสร็จ พวกมันก็นั่งรอฉันอยู่ที่เก้าอี้หลังกล้อง
พอฉันทำงานเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรเรียบร้อย ก็เดินออกมาหาพวกเพื่อนๆ ที่นั่งรอฉันที่เดิม
“ป้ะ กลับกันพวกมึง” ฉันเก็บสัมภาระเสร็จและกำลังจะเดินพ้นประตูออกไปพร้อมกับเพื่อนๆ ก็เหลือบไปเห็นเวลส์ที่มองมาที่ฉันเหมือนกัน
“โง่!!!” ยาหยีตะโกนไล่หลังก่อนผ่านพ้นประตู ตอนนี้ฉันออกมาก่อน ซึ่งเวลส์กับจีน่าก็น่าจะกำลังปลอบใจ พร้อมทำแผลต่างๆ นาๆ ฉันกลับถึงคอนโดโดยมีเพื่อนปลอบใจไม่ห่าง
Part เวลส์
“.......” ผมมองไอริสเพื่อนสนิทของผม เธอเดินออกไปด้วยสีหน้าไม่พอใจ หรือผมพูดแรงไปนะ ริสมันก็เพื่อนสนิทผมคนนึง แต่มันก็ทำเกินไป ผมรู้ว่านิสัยมันก็แรงแต่ก็ไม่ควรทำแบบนี้ไง
ผมกำลังนั่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ อย่างคิดไม่ตก แต่ผมก็ต้องหยุดความคิดนั้นลงและไปส่งจีน่า ที่สภาพดูไม่ได้ให้กลับถึงห้องสะก่อน
“…..” ตอนนี้ผมกลับมาถึงคอนโดตัวเองแล้ว ผมนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่นานก่อนจะส่งข้อความไปหาอลัน
“มึงริสเป็นไงบ้าง” ผมกดส่งไปหาอลัน รอไม่นานมันก็ตอบกลับมา
“มึงทำกับเพื่อนแบบนี้ได้ไงวะ ริสมันเสียใจมากนะเว้ย” ประโยคแรกมันก็ด่าผมเลย ผมคงจะด่ามันแรงไปแหละ
“นั่นเพื่อนมึงนะเว้ย เพื่อนสนิทมากๆ ของมึง สนิทกว่ากูอีก” มันรัวด่าผมไม่หยุดจนผมรู้สึกผิดแทบไม่ทันเลย
“เออออ. กูไม่ได้ตั้งใจ” ผมตอบกลับมันไป
“มึงไปง้อมันเลย” อลันบอกให้ผมไปง้อมัน ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ ผมอ่านข้อความอลันจบก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าคว้ากุญแจรถออกไปหามันที่บ้าน เพราะมันน่าจะกลับบ้าน
“เอี๊ยดด” ผมมาถึงหน้าบ้านมันแล้วแต่ประตูรั้วกลับปิดสนิท มันไม่มาที่บ้านหรอกเหรอ งั้นก็คงอยู่ที่คอนโด เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็กลับหัวรถตรงไปที่คอนโดมันทันที
Part ไอริส
“ติ๊ง” เสียงแชตเด้งขึ้นมา พอฉันหยิบมาดูก็เห็นว่าใครก็ไม่รู้ทักมา ด้วยความสงสัยฉันจึงกดเข้าไปอ่าน
“สมน้ำหน้า เห็นแล้วใช่มั้ยว่าใครสำคัญกว่า หัดเจียมตัวแล้วก็ไสหัวออกไปจากเวส์ได้แล้ว” พอฉันอ่านข้อความจบก็เข้าใจได้ทันทีว่านี่คือข้อความจากจีน่า
“จะออกไปตอนนี้หรือว่าต้องให้เขาเกลียดเธอก่อน ฉันเตือนเธอแล้วนะ” ฉันอ่านข้อความจบขีดอารมณ์ก็พุ่งสูงขึ้นทันที ฉันหยิบหมอนมาและกระหน่ำตีไปที่เตียงเพื่อระบายความโกรธและเสียใจ
“กริ๊งงง” ในขณะที่ฉันโวยวายอยู่นั้น เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้นฉันจึงรีบเช็ดน้ำตา จัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย ก่อนจะไปดูที่จอว่าใครมาหา
“.......” ภาพในจอแสดงให้เห็นว่าเวลส์ยืนอยู่หน้าประตูของฉันตอนนี้ เขาจะมาทำอะไรในเมื่อเขาไม่เชื่อฉัน
ฉันยืนดูเขาเฉยๆ และไม่ยอมเปิดประตูให้เขาเข้ามา เขากดกริ่งหน้าห้องอยู่ 2-3 ครั้งก่อนที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่างที่หน้าประตู
“!!!!!” ฉันเบิกตากว้างทันทีที่นึกได้ว่า เขารู้รหัสห้องของฉัน ตอนนี้เขากำลังกดรหัสอยู่ และในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปซ่อนตัว ฉันไม่อยากเจอเขาตอนนี้
“ตี๊ดด แกร๊ก” ฉันก้าวได้ไม่กี่ก้าวประตูก็เปิดออก ฉันจึงจำเป็นต้องหยุดแล้วหันไปสบตากับเวลส์นิ่ง
“มาทำไม” ฉันกอดอกและถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ เขาไม่ตอบอะไรก่อนจะพาตัวเองเข้ามาในห้องของฉันและปิดประตูลง เขาหันมาหาฉันและเดินเข้ามาหาฉันเรื่อยๆ
“หมับ!” ร่างหนาแกะมือฉันออกก่อนที่จะจูงมือฉันไปนั่งที่โซฟา โดยมีเขาตามมานั่งติดๆ ฉันจึงขยับออกไปนั่งโซฟาอีกตัว
“เฮ้อออ” ร่างหนาถอนหายใจให้กับการกระทำของฉัน ซึ่งฉันก็ไม่สนใจอะไรไขว่ห้างกอดอกมองไปทางอื่น ไม่สนใจคนตรงหน้า
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ร่างหนานั่งลงทำท่าทางจริงจัง
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย” ฉันตอบกลับเสียงแข็งแต่ยังไม่มองหน้าคนตัวโต หน้าคนใจร้ายที่เห็นคนอื่นดีกว่าแบบไม่ฟังเหตุผลอะไรเลย
“ฉัน...ขอโทษ” ฉันหันขวับกับประโยคที่ร่างหนากล่าวเมื่อสักครู่ เขามาขอโทษฉันหรือว่าเขารู้แล้วว่าฉันไม่ได้ทำอะไร
“หมายความว่านายเชื่อฉันแล้วใช่มั้ย” ฉันถามกลับด้วยความตื่นเต้น เวลส์จะได้ตาสว่างสักที
“คือฉันมาขอโทษที่ฉันตะคอกใส่เธอ แต่ฉันก็ยังไม่เชื่อว่าจีน่าจะทำร้ายตัวเอง มันไม่มีเหตุผลเลยนะริส” ฉันอ้าปากค้างกับคำพูดของคนตรงหน้า
“ถ้าฉันมีหลักฐานล่ะ นายจะยอมเชื่อฉันมั้ย” ฉันพูดโน้มน้าวร่างหนาสุดๆ
“หลักฐานอะไร?” ร่างหนาถามฉันด้วยความสงสัย ในระหว่างที่คนตัวโตกำลังทำหน้างง ฉันจึงลุกไปหยิบโทรศัพท์ที่ฉันทิ้งไว้ในห้องนอนมา
“อะ ดูซะสิ คนดีของนาย” ร่างหนาทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ยอมรับโทรศัพท์จากมือฉันไปแล้วอ่านข้อความที่คนแปลกหน้าส่งมาหาฉัน
“…..” ฉันตั้งใจจดจ่อรอให้ร่างหนาอ่านข้อความจนจบ ในตอนแรกเวลส์แสดงอาการตกใจออกมาเล็กน้อยแล้วก็นิ่งไป
“อะ คืน” คนตัวโตคืนโทรศัพท์มาให้ฉันพร้อมทั้งส่ายหัว นี่ไม่เชื่อรึไงหลักฐานชัดขนาดนี้
“นี่จีน่าส่งมาชัดๆ นายไม่เชื่องั้นเหรอเวลส์” ฉันเหลือจะเชื่อกับนายนี่ชะมัด รักกันจนโงหัวไม่ขึ้น หลงหัวปักหัวปำ
“มันอาจจะมีการเข้าใจผิดกันก็ได้” ร่างหนาตอบกลับเพื่อปกป้องยัยนั่น ซึ่งเขาก็แสดงออกทางสีหน้าว่าฉันกุเรื่องขึ้นมา
“ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันเคยโกหกนายที่ไหน” ฉันตอบกลับอย่างมั่นใจ แต่ร่างหนาก็ทำหน้าคิดหนัก
“เฮ้อออ เธอหยุดเถอะ ตอนนี้เธอกำลังมีอคติกับจีน่า ฉันรู้จัดจีน่ามานาน”
“อืม เข้าใจแล้ว นายกลับไปเถอะ” ในเมื่อร่างหนาไม่เชื่อ ก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดกันแล้ว ยิ่งพูดยิ่งปกป้องกันทำให้ฉันเสียใจเปล่าๆ
“ริส อย่าทำนิสัยแบบนี้ได้มั้ย” เขาว่าฉันอย่างหัวเสีย ฉันคิดว่าเขาจะฉลาดกว่านี้ซะอีก
“งั้นก็อย่ามายุ่งกับคนนิสัยเสียแบบฉัน!” ฉันโต้กลับด้วยอารมณ์โมโห เสียงดังลั่นห้องและลุกขึ้นทันที เหอะนายนี่มันเหลืออดจริงๆ
“.......” ร่างหนา มองการกระทำฉันเมื่อกี้ ก่อนจะลุกขึ้นและปากระดาษทิชชูลงพื้น
“ปัง!!! เออได้! จะเป็นอะไรก็เรื่องของเธอ!” ฉันสะดุ้งกับการกระทำของคนตัวโต เขาไม่เคยก้าวร้าวใส่ฉันแบบนี้มาก่อนเลย แค่คนคนเดียวทำให้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ
“ว...เวลส์” ฉันเรียกเขาเสียงอ่อนลง ฉันเสียใจมากไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้กับฉันจริงๆ
“ฉันอุส่ามาง้อเธอ คิดว่าโตๆ กันแล้วจะพูดคุยกันเข้าใจได้ แต่นี่ไม่เลย” ร่างหนาทำหน้าตาผิดหวังในตัวฉัน ซึ่งฉันก็ยังคงอึ้งไม่หาย
“อุส่างั้นเหรอ ถ้าไม่เต็มใจก็ไม่ต้องมา!” ฉันตะคอกกลับไปพรางน้ำตาคลอเบ้า เหอะงั้นนายก็ไม่ต้องมา ฉันพยายามกลั้นน้ำตาไว้
“......” เขาส่ายหน้าใส่ฉันก่อนจะหยิบกุญแจรถและเดินออกจากห้องไป
“ปัง!!” เสียงปิดประตูดังสนั่น ร่างหนาเดินออกไปแล้ว
“พรึบ!” หลังจากที่ประตูปิดลงฉันก็เข่าทรุดลงพื้นทันที น้ำตาที่กลั้นเอาไว้มันทะลักออกมาเหมือนกับเขื่อนแตก
“ฮึกฮือออออ” ฉันนั่งกอดเข่าร้องไห้อย่างไม่กลั้นอยู่ที่โซฟาที่เดิม ฉันไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรแล้ว
เวลาผ่านไปนานพอสมควร ฉันหยุดร้องไห้แล้วลุกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวพักผ่อน เพราะฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายชีวิตของฉันได้ง่ายๆ ฉันต้องเข้มแข็ง เมื่อคิดได้แบบนั้นหลังจากที่อาบน้ำเสร็จฉันจึงปิดเปลือกตาลง และเข้าสู่ห้วงนิทราไปด้วยความอ่อนแรง
“เฮือกก!!!!”