ไอริส : นี่ฉันชอบเวลส์งั้นเหรอ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้วแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว………
ดราม่า,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,มีลูก,หนี,ท้อง,แอบรัก,แอบชอบเพื่อน,เพื่อน,มาเฟีย,ติดหนี้,หว๊านหวาน,badfriend,20+,18+,พระเอกเลว,เพื่อนสนิท,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,โรมานซ์,โรแมนติก,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“เฮือกก!!!!” ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเหงื่อที่ไหลเปียกเยิ้มเต็มตัว ทั้งๆ ที่ฉันเปิดแอร์นอน นี่ฉันฝันบ้าอะไรเนี่ย
ฉันฝันว่าเวลส์มีครอบครัวที่มีความสุข สุขสันต์ มีลูกกับจีน่า ยิ้มกว้างอย่างสบายใจ เมื่อฉันพบว่าตัวเองฝันไปจึงลุกไปดื่มน้ำเย็นๆ ในตู้เย็น
“คงไม่มีอะไรหรอก” ฉันรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แต่อาจจะเป็นเพราะคิดมากก็เท่านั้น พอคิดได้แบบนั้นฉันจึงรีบไปนอนต่อเพื่อตื่นเช้าไปทำงานพรุ่งนี้
“กริ๊งงง” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ฉันจึงสะดุ้งตื่นและกดรับโทรศัพท์ โดยไม่รู้ว่าใครโทรมา
“น้องไอริสคะ ใกล้ถึงรึยังเอ่ย” ฉันได้ยินเสียงคุ้นก็นึกออกทันที วันนี้ฉันมีออกอีเวนท์ที่ห้างของอีตานั่น ฉันหันขวับไปที่นาฬิกาบนหัวนอนก็พบว่า
“8:25 น.!!!!” ฉันอุทานเสียงดังก่อนจะหันไปสนใจคนในสายต่อ นี่ฉันหลับลึกขนาดนี้เลยเหรอ
“ริสกำลังรีบไปค่ะ ติ๊ดๆ” ฉันพูดจบก็ตัดสายทันที ไม่ทันแล้ววๆ ฉันดีดตัวลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาผู้จัดการส่วนตัวที่ห้างทันที
“ตายแล้วว!!! รีบเลยค่ะคุณน้อง” พอฉันมาถึงก็เข้าห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็ว งานเริ่ม 9:30 น. แต่ฉันมาถึงงาน 8:45 น. ไหนจะเปลี่ยนชุด แต่งหน้า ทำผมอีก ตายแล้วๆๆ
“ขอเสียงปรบมือให้กับนางแบบของเราด้วยครับ” ในที่สุดก็เสร็จทันเวลาจนได้ ฉันรวบรวมสติก่อนจะเดินขึ้นเวทีไป เฮ้อออ รอดอย่างหวุดหวิด
“กรี๊ดดดดด!!!!” งานวันนี้เป็นงานเสื้อผ้าแฟชั่น เป็นการเดินแบบของนักแสดงหลายท่าน ฉันเป็นคนเดินชุดฟีนาเล่ปิดท้ายงาน ในขณะที่ฉันแสตนบายอยู่ข้างหลังเวที
“ตึก ตึก ตึก” ฉันหันไปดูคนที่มาใหม่
“นี่เธอ...” จีน่ามาเดินงานนี้ด้วยเหรอ นางอยู่คิวก่อนหน้าฉัน 1 คิว ด้วยความที่ฉันมาสายเลยไม่ได้ทันสังเกตคนที่จะมาเดิน เพราะตอนแรกคนที่เดินก่อนหน้าฉันไม่ใช่นาง แต่น้องคนนั้นเกิดอุบัติเหตุข้อเท้าพลิกจึงมาเดินแบบให้ไม่ได้ แต่ไม่คิดว่าจะเป็น จีน่า
“ไง” หล่อนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะมาเบียดตรงหน้าฉันและเป็นผลทำให้ฉันต้องถอยหลังไปสองสามก้าว ไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไร หล่อนก็ออกเดินไปยังพรมแดงด้านหน้า
เอาไว้ก่อนแล้วกัน ฉันตั้งสมาธิมั่นและเดินออกไป แฟนคลับต่างกรี๊ดดังมากเมื่อฉันปรากฏตัวบนเวที ฉันเดินบนพรมแดงอย่างมืออาชีพและยิ้มทักทายแฟนๆ ที่อยู่ข้างเวที
ในขณะที่ฉันเดินไปได้ครึ่งทาง จีน่าก็เดินกลับมาพอดีทำให้เราได้เดินสวนกัน นางจงใจเดินเบียดเลนที่ฉันเดิน ทำให้ฉันต้องชิดริมขอบเวทีจนเหลือนิดเดียว แต่ฉันก็ต้องยิ้มเพราะตอนนี้เราอยู่ในที่สาธารณะ อีกอย่างเราจะทำงานพังไม่ได้
“พรึบ!!!”
“กรี๊ดดด” นางเดินเบียดฉันจนฉันหล่นจากเวที ฉันและทุกคนในที่นี้ต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดตกใจไปทั้งห้าง อึบ ฉันเกร็งตัวไว้เพราะตกลงไปจะได้ไม่เจ็บมาก
“แคว็ก......ฮือฮาๆๆ” ทำไมฉันไม่เจ็บนะ เวทีสูงมากฉันใส่ชุดที่รัดรูปและส้นสูงอีกต่างหาก ไม่ปล่อยให้ตัวเองสงสัยอยู่นานฉันจึงลืมตาขึ้นมา
“น....นาย” ตอนนี้ฉันถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดเวลส์ เราถูกสื่อต่างๆ และแฟนคลับถ่ายรูปรัวๆ ร่างหนาวางฉันลงและเอาสูทมาคลุมที่เอวฉันเพราะตอนนี้กระโปรงมันผ่าขึ้นมาสูงมากกกกก
“ถือไว้” ร่างหนาบอกฉันพร้อมส่งสัญญาณให้การ์ดเคลียร์ทางให้เราเดินออกไปจากตรงนี้
“อ...อืม ขอบใจ” ฉันรับสูทมาปิดไว้อย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะเดินผ่าวงล้อมคนกลับมา กว่าจะเข้ามาในห้องแต่งตัวได้ก็ใช้เวลาสักพัก
ในขณะที่ฉันกำลังเดินกลับฉันก็คิดว่าทำไมมันช่างเหมาะเจาะแบบนี้ ฉันร่วงลงมา นักข่าวก็ถึงตัวฉันทันทีเลย ฉันหันไปมองจีน่าที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเวที ก่อนที่เราต่างคนก็ต่างเดินเข้ามาด้านหลังเวที
“เป็นไงบ้างมึง” พอฉันเข้ามาในห้องก็เจอยาหยีที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
“ออกไปก่อน ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้า” ฉันหันไปบอกร่าหนา เขาพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจและก็เดินออกไปจากห้องนี้พร้อมทั้งสั่งให้ลูกน้องออกไปข้างนอกด้วย
“มึงคิดเหมือนกูมั้ย” ฉันถามยาหยีทันควันหลังจากที่ทุกคนออกไปจากห้องแต่งตัว เหลือเพียงแค่ฉันกับยาหยีสองคน
“กูว่าใช่” ยาหยีตอบฉันอย่างมั่นใจ นี่ต้องเป็นแผนการของจีน่าแน่นอน แล้วเมื่อกี้ฉันได้หน้าต่อนักข่าวด้วย นางคงจะอยู่ไม่ติดแล้วตอนนี้
“เดี๋ยวกูไปสืบให้ มึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” ฉันพยักหน้าก่อนจะรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะว่าฉันยังมีสัมภาษณ์เล็กน้อยอีกบนเวที
“โอเค” ฉันตกลงกับมันก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุด
“ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยาหยีเลยเดินไปเปิดประตู
“คุณไอริสคะ ถึงเวลาแล้วค่ะ” ฉันพยักหน้ารับและเดินตามทีมงานออกไปทันที และไม่ลืมส่งสัญญาณบอกให้ยาหยีไปสืบมา
“ขอเสียงปรบมือให้กับเจ้าหญิงแห่งวงการด้วยครับ ไอริส” เมื่อได้ยินเสียงพิธีกรพูดเปิดตัวฉัน ฉันก็ก้าวขึ้นเวทีไปด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง
“กรี๊ดดดดดด” ทุกคนให้ความต้อนรับฉันเป็นอย่างดี
อีกด้าน จีน่ายืนจ้องเขม็งไปที่ไอริส พร้อมหันไปฟาดงวงฟาดงาใส่ผู้จัดการส่วนตัว เพราะจีน่าไม่สามารถมีชื่อเสียงได้เท่าไอริสไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่ได้ผล
“ขอบคุณค่ะ” หลังจากที่ฉันให้สัมภาษณ์เสร็จก็กล่าวอำลาทุกคน ลงจากเวทีตรงไปยังห้องแต่งตัวเพื่อรอข่าวจากยัยยาหยี
“ก๊อกๆๆ แอ๊ดด” ฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จกำลังจะทักหายาหยีเพื่อนรัก ยัยนั่นก็เดินเข้ามาทันที
“อย่างที่มึงคิด” ยาหยีเข้าเรื่องทันที
“จีน่ามันจ้างนักข่าวให้ทำเรื่องพวกนี้ แล้วมันก็ตั้งใจเดินเบียดให้มึงร่วงเวที” คิดไว้ไม่มีผิด นี่มันกะเอาให้ฉันอับอายไม่พอ จะทำให้ฉันขาหักเลยเหรอ จะเล่นแรงเกินไปแล้ว
“ไม่ได้ฉันต้องเร่งมือเตือนเวลส์ให้รู้สันดานมันก่อน” ฉันพูดกับยาหยีก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกไปที่ลานจอดรถและขับตรงไปที่คอนโดของเวลส์ทันที
ตอนนี้ฉันขับรถมาถึงคอนโดเรียบร้อยแล้ว เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ในระหว่างที่ฉันขึ้นลิฟต์ฉันก็รู้สึกใจหวิวๆ ยังไงก็ไม่รู้ คงไม่มีอะไรหรอก
“ติ๊งงง” เสียงลิฟต์ดังขึ้นหยุดความคิดของฉันทันที ฉันก้าวตรงไปที่ห้องของเวลส์ทันทีอย่างไม่ลังเล
“กริ๊งง” ฉันกดกริ่งหน้าห้องของร่างหนา รอสักพักเวลส์ก็เปิดประตูให้ฉัน
“เวลส์ นายว่างมั้ย ฉันมีไรจะคุยด้วย คือว่า......” เมื่อร่างหนาเปิดประตูฉันก็เดินเบียดเขาเข้าไปในห้อง เดินตรงไปยังห้องรับแขก และพูดโพล่งๆ ออกมาทันที
“ฮึกๆๆ” นั่นเสียงอะไร ฉันหันไปมองตามเสียงเรียกและเดินไปใกล้ๆ เสียงนั้น......
“!!!!!!!” จีน่า นางนั่นมาทำอะไรที่ห้องเวลส์ แถมยัง....ร้องห่มร้องไห้อยู่ตรงหน้าทีวีจอยักษ์ อย่าบอกนะว่าฉันช้ากว่ามันไปก้าวหนึ่งอีกแล้วอะ
“เธอมาก็ดีเลย ฉันก็มีเรื่องอยากคุยด้วยพอดี” ในขณะที่สมองฉันกำลังประมวลผลภาพตรงหน้าอยู่นั้นร่างหนาก็เดินตามหลังมาและทักฉันอย่างดุๆ
“ทำไมนังนี่มาอยู่ที่นี่” ฉันหันขวับไปที่คนตัวโตทันที ปกติเวลส์จะไม่ชอบพาใครเข้าคอนโด มีฉันแค่คนเดียวที่เข้าออกห้องนี้มาตลอดหลายปี
“ริส! พูดดีๆ” ร่างหนากดเสียงต่ำเมื่อฉันเรียกจีน่าอย่างไม่สุภาพ หึ ปกป้องกันเข้าไปแตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้วเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องมานั่งบีบน้ำตาอยู่ตรงนี้” ฉันพูดให้เบาลงแต่ก็แอบเหน็บอย่างห้ามไม่ได้
“เราขอโทษเรื่องวันนี้นะ เราไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฮึกๆๆ” ฉันพูดจบจีน่าเธอก็เข้ามาจับมือฉันแสดงสีหน้าท่าทางน่าสงสาร หึ คิดว่าฉันจะดูแกไม่ออกหรือไง
“พรึบ!!” ฉันสะบัดมือออกทันที ก่อนจะหันหน้าไปหาคนตัวโต
“ฉันรู้ว่าเธอโกรธ แต่จีน่าเขาไม่ได้ตั้งใจ เขาก็มาขอโทษเธอแล้วนี่ไง” ร่างหนาพูดแบบนี้ก็แสดงว่ามันวิ่งแจ้นมาแสดงกับเขาถึงห้อง หึ กลัวว่าเวลส์จะรู้สันดานหล่อนน่ะสิ เลยมานั่งแอ๊บอยู่แบบนี้
“แค่มันร้องไห้ พูดกับนายนิดๆ หน่อยๆ นายก็เชื่องั้นเหรอ” ฉันถลึงตาใส่ร่างหนาก่อนจะหันไปมองตาขวางใส่จีน่าติดๆ
“นี่!!! พอเลยนะริส” จีน่าทำท่าทางกลัวฉันจนทำให้ร่างหนาเดินมาบังตัวนางไว้
“ฉันจะบอกอะไรให้นะเวลส์ นังนี่อะจงใจทำเรื่องวันนี้ทั้งหมด นายน่ะตาสว่างสักทีว่ามันไม่ได้ดีอย่างที่นายคิด” ฉันขึ้นเสียงและบอกสิ่งที่ยาหยีไปสืบมาอย่างเหลืออด
“ไม่จริงนะ เวลส์ก็รู้เราดังไม่เท่าไอริส เราจะมีอำนาจอะไรไปทำเรื่องแบบนี้” พอฉันพูดจบ จีน่าก็ออกปากปกป้องตัวเองทันที
“......” ร่างหนาเงียบไม่ตอบอะไร ก็คงต้องเชื่อฉันบ้างแหละไม่มากก็น้อย เพราะฉันก็เคยสนิทกับร่างหนามากๆ มาก่อน