ไอริส : นี่ฉันชอบเวลส์งั้นเหรอ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้วแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว………
ดราม่า,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,มีลูก,หนี,ท้อง,แอบรัก,แอบชอบเพื่อน,เพื่อน,มาเฟีย,ติดหนี้,หว๊านหวาน,badfriend,20+,18+,พระเอกเลว,เพื่อนสนิท,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,โรมานซ์,โรแมนติก,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“แย่แล้วๆๆ เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วไอริส” ฉันมองข้อความด้วยใจที่สั่นไหว เกิดอะไรขึ้นปกติผู้จัดการไม่ทักมาหาฉันในวันหยุด แถมยังใจเย็นมาก ตอนนี้ผู้จัดการส่วนตัวฉันทักมาด้วยท่าทีร้อนรน ฉันจึงเริ่มหวั่นใจ
“กดเข้าไปดูในโซเชียลเดี๋ยวนี้เลยยยย” ฉันอ่านข้อความจบก็กดเข้าไปดูในโซเชียล ตอนนี้ทุกคนกำลังเมาท์มอยเรื่องที่ฉันถูกสั่งปลดจากตำแหน่งสำคัญ ในบริษัทของเวลส์
บ้างก็ว่าฉันเรื่องเยอะเรื่องมากในกองเลยโดนสั่งปลด บ้างก็ว่าฉันไม่มีคุณภาพเลยโดนบอร์ดบริหารปลด แต่ละคอมเมนท์ก็พูดแต่งต่างกันออกไปต่างๆ นาๆ แต่ฉันเลื่อนไปเจอโพสต์หนึ่ง
“ด่วนจ้านางเอกดังอักษรย่อ อร. ถูกบอร์ดบริหารปลดออกจากตำแหน่งเพราะแอบมีข่าวลือว่านางไปมีเรื่องกับหวานใจของผู้บริหารท่านหนึ่ง อักษรย่อ ว. เลยทำให้โดนปลดจ้า แซ่บมากกก” ฉันนั่งอ่านโพสต์ไปก็ลอบแบะปากไป ฉันไม่สงสัยเลยว่าทำไมมีเรื่องเมื่อวานแต่วันนี้ข่าวออกโครมๆ ได้ไวสะขนาดนี้
“ติ๊ดๆๆ” เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นสายของผู้จัดการส่วนตัวฉันเอง ฉันจึงกดรับทันที
“น้องไอริส เราต้องทำอะไรสักอย่างแล้วตอนนี้ผู้จัดหลายคนโทรมาเลื่อนงานเราบ้าง ยกเลิกงานบ้าง” ไม่ได้นะฉันจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
“เดี๋ยวริสจะแถลงข่าวค่ะ พี่นัดนักข่าวให้ริสด้วย” ฉันพูดจบก็วางสายผู้จัดการส่วนตัวทันที แต่จอยังไม่ทันได้ดับลงก็มีสายใหม่โทรเข้ามาที่เครื่องฉัน
“ฮัลโหล มึงเกิดไรขึ้น” ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ยาหยีน่าจะเห็นข่าวแล้วก็โทรมาหาฉันนั่นแหละ
“เรื่องมันยาวว่ะมึง” จริงเรื่องนี้ยาวมากและมีรายละเอียดเยอะ มีบางสิ่งที่ฉันไม่อยากพูดทางโทรศัพท์ด้วย
“งั้นกูไปหามึงที่คอนโด” ยาหยีได้ยินดังนั้นก็เข้าใจทันทีและจะมาหาฉันที่คอนโด เพราะสถานการณ์ตอนนี้ฉันไม่ควรออกไปพบเจอผู้คน ไม่งั้นฉันไม่รอดแน่ๆ
“โอเคๆ” ฉันตอบตกลงมันไปก่อนจะวางสาย แล้วจึงลุกไปอาบน้ำเพื่อรอคุยเรื่องราวต่างๆ กับยาหยี
“ซ่า~~~” เสียงน้ำในห้องน้ำดังอย่างต่อเนื่อง ฉันก็พลางคิดในใจว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี
เวลาผ่านไปไม่นานฉันอาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวออกมาเปิดทีวีดู แต่ก็ต้องหัวเสียเพราะไม่ว่าจะเลื่อนไปช่องไหน ตอนนี้ก็มีแต่ข่าวของฉันออกทีวีเต็มไปหมด ในโซเชียลถึงจะมีคนเข้าข้างฉันแต่นั่นก็เพียงแค่ส่วนน้อยนิดเท่านั้น
“กริ๊งงง~” ในขณะที่ฉันอ่านคอมเมนท์อยู่ก็ได้ยินเสียงกริ่งดังขึ้น สงสัยยาหยีจะมาถึงแล้ว ฉันจึงลุกออกไปเพื่อเปิดประตูให้มัน
“เซอร์ไพรส์!!!!” ฉันตกใจมากเพราะจู่ๆ ก็มีกลุ่มคนเสียงดังทันทีตอนฉันเปิดประตู
“เพี๊ยะๆ!!!”
“ฉันตกใจหมดเลยยย” ฉันตีเข้าไปที่แขนของอลันกับคีย์และดุพวกมันไปนิดหน่อย ที่อยู่ๆ ก็โผล่ออกมาจากหลังของยาหยี ทำให้ฉันหัวใจเกือบวาย
“โอ๊ยย เจ็บนะเว้ย ตีมาได้แรงคนหรือแรงช้างเนี่ย” มันร้องเสียงหลงฉันก็อดยิ้มให้กับท่าทีของเพื่อนไม่ได้
“มึงจะคุยตรงนี้อีกนานมั้ย เข้าไปๆ ยาหยีเอ่ยเมื่อเราไม่ยอมเข้าห้อง และดันฉันเข้าห้องมาทันที อลันก็ทำการปิดประตูให้เรียบร้อย ส่วนคีย์หิ้วถุงที่บรรจุแอลกอฮอล์หลายขวดไปวางบนโต๊ะหน้าโซฟา
“มึงไหวมั้ยเนี่ย?” อลันหันมาถามฉัน ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาที่มีคีย์กับยาหยีนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“ทำไมจะไม่ไหวอะ” ฉันตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่ไม่เดือดร้อนอะไรมาก
“ปกติเมื่อก่อนมึงจะฟูมฟายแล้วเนี่ย” อลันตอบฉัน เมื่อก่อนอาจจะใช่แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วล่ะ ฉันสัญญากับตัวเองว่าฉันจะเป็นคนใหม่
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันจะต้องแคร์ด้วย” ฉันมั่นใจมากว่าฉันจะกลับมายืนได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาเวลส์เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว
“สรุปมันเกิดอะไรขึ้น” ยาหยีขยับเข้ามากุมมือฉันไว้แล้วถามด้วยสีหน้าจริงจัง
ฉันมองหน้าทุกคนก่อนจะเล่าเรื่องทุกอย่างทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่ต้นให้เพื่อนๆ ฉันฟังจนหมดเปลือก ฉันเล่าด้วยน้ำเสียงที่ทุกคนรู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
“เชี่ยยยยย ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้” อลันอุทานออกมากอย่างตกใจ จะทำยังไงได้ก็ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
“เดี๋ยวกูจะไปคุยกับมันเอง” คีย์ทำท่าจะลุกขึ้น ตอนนี้พวกเพื่อนฉันทุกคนที่ไม่รวมเวลส์ ต่างก็พากันโกรธแทนฉัน
“ไม่ต้องหรอกมึง กูไม่อยากเข้าไปยุ่งอีกแล้ว” พอฉันพูดจบมันก็ยอมนั่งลงทันที
“แล้วมึงจะทำยังไงต่อไป” ยาหยีถามฉันเสียงแผ่ว ทุกคนต่างจ้องมาที่ฉันเพื่อรอคำตอบ
“ฉันจะแถลงข่าว พรุ่งนี้” ฉันบอกพวกมันเหมือนที่เคยบอกผู้จัดการส่วนตัวฉันเมื่อเช้านี้ ฉันจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ ให้คนกดขี่แน่ๆ
“เดี๋ยวพวกกูไปเป็นพยานให้ ว่ามึงไม่ใช่คนแบบนั้น” ฉันปลื้มใจมากที่ในยามลำบากยังมีพวกมันคอยซัพพอร์ตฉันอยู่ ไม่ทิ้งฉันไปไหน
“ขอบใจพวกมึงมากๆ เลยนะ กูไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย” ฉันดีใจมากจริงๆ นะ
“ทำไมมึงพูดยังงี้ มึงคือเพื่อนพวกกูนะเว้ย” ฉันยิ้มตอบรับให้ทุกคน
“งั้นเบียร์กูก็เป็นหมันแล้วอะสิ” ฉันกลั้นขำให้กับคีย์ มันคงคิดว่าฉันจะตรอมใจเลยซื้อมาชวนฉันดื่มเพื่อลืมเหมือนทุกครั้งสินะ แต่เมื่อเห็นฉันไม่เป็นอะไรมันก็ทำหน้าเสียดายที่อดดื่ม
“สักหน่อยก็ดีนะมึง” ฉันตอบกลับคีย์พร้อมยิ้มกริ่ม
“จัดเลยเพื่อน” หลังจากที่คีย์พูดจบ อลันก็ไปหยิบแก้ว คีย์ทำหน้าที่ใส่น้ำแข็ง ยาหยีทำหน้าที่ชงเหล้า พวกเราต่างดื่มกันไปนิดหน่อยคุยกันคลายเครียด ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ
Part ยาหยี
หลังจากที่ฉัน อลัน และคีย์เดินออกมาหน้าห้องปล่อยให้ไอริสมันพักผ่อน ทุกคนก็มองหน้ากันอย่างรู้ใจ ถึงไอริสจะบอกไม่อยากให้พวกเราไปยุ่งกับเวลส์ แต่พวกเราก็อดที่จะช่วยมันไม่ได้
“กูเอง” คีย์พูดขึ้นก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ส่งข้อคความไปหาเวลส์ทันที
“ไอ้เวลส์ มึงทำไรไว้” หลังจากข้อความถูกส่งทุกคนก็รอคำตอบจากมัน ซึ่งพักใหญ่กว่ามันจะตอบพวกเราเลยลงมานั่งรอที่คาเฟ่ด้านล่างคอนโดไอริส
“มันฟ้องพวกมึงแล้วสินะ” เวลส์ตอบกลับมาด้วยถ้อยคำที่ไม่ค่อยจะน่าฟังสักเท่าไร
“มึงต้องไปแก้ข่าวช่วยไอริสมันซะ อย่างน้อยมึงก็เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน ถือว่าช่วยมันครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไม่เจอกันอีก” พวกเราต่างช่วยกันหว่านล้อมจนเวลส์ยอม
พรุ่งนี้เวลส์ก็จะไปแถลงข่าวเหมือนกัน เมื่อรู้แบบนั้นพวกเราก็พากันแยกย้ายกันกลับ
เช้าวันรุ่งขึ้น
Part ไอริส
ตอนนี้ฉันและเพื่อนๆ ก็ต่างให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างๆ มากมาย ตอบคำถามนักข่าว อธิบายเรื่องต่างๆ แต่ไม่ได้พาดพิงถึงใคร โดยมีเพื่อนๆ เสริมฉันอยู่ข้างๆ
“ดิฉันขอให้ทุกคนเขียนข่าวอย่างตรงไปตรงมา ขอบคุณทุกคนที่สละเวลามานะคะ ขอบคุณค่ะ” เมื่อฉันพูดจบก็ไหว้ลานักข่าวและสื่อต่างๆ ก่อนจะเดินลงเวทีพร้อมกับเพื่อนๆ
“มึงๆ มาดูนี่เร็ว” อลันเรียกพวกเราก่อนจะยื่นไอแพดให้ดู สิ่งที่ฉันเห็นคือเวลส์กำลังช่วยฉันแก้ข่าวให้ นั่นก็สมควรแล้วแหละที่นายนั่นต้องมารับผิดชอบด้วย ฉันและเพื่อนก็ฟังไลฟ์สดไปเรื่อยๆ
“และผมมีข่าวดีจะบอกทุกคนครับ ผมมีคนรู้ใจแล้ว เขาก็คือ จีน่า”
“!!!!!!!” พวกเราฟังไลฟ์สดจนมาถึงช่วงสุดท้ายก็ต้องตกใจทันทีกับประโยคที่ร่างหนาประกาศต่อหน้าสื่อ
“มึงโอเคนะ” ยาหยีหันมาถามฉัน ฉันพยักหน้ารับและเดินออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที จบจริงๆ แล้วสินะ เรื่องราวทั้งหมดระหว่างเรา......
หลังจากวันนั้นที่ฉันและเวลส์แถลงข่าว ฉันก็เริ่มกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้งและมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ฉันตั้งใจทำงานจนไม่มีเวลามาสนใจอะไร
“กรี๊ดดดด พี่ไอริส!!!” ฉันยิ้มให้กับแฟนคลับตามสถานที่ต่างๆ เช่น อีเวนท์ กองถ่าย ออกงานต่างๆ ชีวิตฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิม และตอนนี้ฉันก็ทำใจได้แล้วแหละ
อาจจะมีบ้างที่ฉันเจอร่างหนา เพราะมีบางงานฉันได้ร่วมทำกับจีน่า เวลส์จึงตามมาดูแลนาง แต่ฉันก็ไม่รู้สึกอะไรแล้ว ต่างคนต่างอยู่
“เรามีนัดกินข้าวกันอาทิตย์หน้ากับนักแสดงซีรี่ย์เรื่องล่าสุดนะ” ตอนนี้เราก็เลิกกองแล้วทางผู้จัดก็มาพูดกับเราเล็กน้อยก่อนกลับ
“แต่จะมีเวลส์กับจีน่ามาแจมด้วย จะได้ช่วยดับข่าวลือด้วย” ผู้จัดพูดและหันมามองฉัน ตอนนี้ฉันกลับมาดังเหมือนเดิมแต่ก็ยังมีข่าวซุบซิบอยู่บ้าง ถ้าไปรับประทานข้าวด้วยกันครั้งนี้น่าจะทำให้ข่าวพวกนี้หายไปสนิท
“โอเคค่ะ” ฉันตอบตกลงอย่างว่าง่าย อย่างที่ฉันเคยบอก ไม่มีความรู้สึกใดๆ แล้ว
1 สัปดาห์ผ่านไป ณ ร้านอาหารจีนสุดหรูแห่งหนึ่ง