ไอริส : นี่ฉันชอบเวลส์งั้นเหรอ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้วแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว………
ดราม่า,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,มีลูก,หนี,ท้อง,แอบรัก,แอบชอบเพื่อน,เพื่อน,มาเฟีย,ติดหนี้,หว๊านหวาน,badfriend,20+,18+,พระเอกเลว,เพื่อนสนิท,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,โรมานซ์,โรแมนติก,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“ก๊อกๆ” ฉันเคาะประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาหาร VIP ฉันก็เดินไปนั่งข้างๆ มาร์ชพระเอกซีรี่ย์ที่กำลังเป็นกระแสคู่จิ้นกับฉันในตอนนี้ เราสนิทกันพอสมควรเนื่องจากถ่ายซีรี่ย์กันมาหลายเดือน
“สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายผู้ใหญ่ มาร์ชก็เลื่อนโต๊ะให้ฉันนั่งลง ก่อนที่จะพูดคุยกันเล็กน้อยเพื่อรอคนมาครบก่อน
“ขอโทษที่มาชาครับ รถติดนิดหน่อย” เวลส์กับจีน่าเดินควงคู่กันมานั่งฝั่งตรงข้ามกันกับฉัน เราสบตากันเล็กน้อยก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่เป็นอะไร ไม่ได้รอนานขนาดนั้น” ผู้ใหญ่ได้ตอบกลับเวลส์ท่าทางสุขุม
“ในเมื่อมากันครบแล้วเราก็มาสั่งอาหารกันดีกว่า น้องรับออเดอร์หน่อย” ผู้ใหญ่ที่นั่งหัวโต๊ะเอ่ยก่อนจะเรียกพนักงานมารับออร์เดอร์ พวกเราก็สั่งกันตามปกติ
ในระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ก็มีการพูดคุยกันเรื่องการทำงานต่างๆ ตามปกติ ถามไถ่เรื่องซีรี่ย์เรื่องใหม่ การเป็นอยู่สารพัดสารเพ
“ขออนุญาตเสิร์ฟครับ” เราคุยกันได้สักพักพนักงานก็เข้ามาเสิร์ฟอาหาร บทสนทนาเลยจบลงเพียงแค่ว่าฉันสบายดี
“เชิญทุกท่านเริ่มรับประทานได้ครับ” หลังจากสิ้นเสียงเราก็เริ่มรับประทานอาหารกันอย่างสุภาพ
“อึบ!” ฉันพยายามจะตักอาหารที่อยู่ไกลจากฉัน เพราะฉันชอบกินมาก แต่มันดันไปอยู่ไกลสะงั้น หรือฉันแขนสั้นนะ
“อะ ผมตักให้” เสียงผู้ชายคู่จิ้นของฉัน มาร์ช เขาเอื้อมมือไปตักอาหารให้ฉัน เขาคงเห็นฉันพยายามตักมันอยู่นาน
“ขอบใจนะ” ฉันขอบคุณและยิ้มตอบรับ ในที่สุดฉันก็ได้กินมัน
“อื้มมม อร่อยมาก” ฉันตักเข้าปากไปก็สัมผัสถึงรสชาติสุดโปรดที่แสนจะอร่อย ฉันก็กินเอาๆ ไม่สนใคร
“อร่อยขนาดนั้นเลย?” มาร์ชหันมาถามฉัน ฉันจึงยิ้มจนตาหยี พยักหน้าให้เขารู้ว่าฉันชอบมาก แต่ก็สายตาไม่รักดี ดันหันไปเห็นจีน่าตักกับข้าวให้เวลส์เหมือนกัน
“ลองกินนี่ดูสิคะเวลส์ อร่อยมาก แถมมีประโยชน์ด้วย” สองคนนั้นดูสนิทกันขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรก่อนจะหันมากินอาหารบนจานต่อ
มาร์ชคอยตักอาหารให้ฉันตลอด ฉันก็กินอย่างเอร็ดอร่อย แต่มีแว๊บนึงที่ฉันรู้สึกเหมือนว่าร่างหนามองมาที่ฉัน แต่ก็คงคิดไปเอง ในขณะที่ฉันกำลังกินอยู่นั้น
“ไอริส” มาร์ชเรียกฉันเบาๆ ฉันจึงหันไปหาเขาทันที
“!!!!!” เขาเอาทิชชูมาเช็ดปากให้ฉัน ตอนนี้เขายื่นหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้น
“กินเลอะปากเป็นเด็กไปได้” เขาดุฉันเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มอ่อนมาให้ฉัน ฉันจึงยิ้มตอบกลับไป เพราะในซีรี่ย์เราก็เคยทำแบบนี้จึงไม่ได้เขินอะไร
“ว้าวๆๆ ผมก็นึกว่าเราถ่ายซีรี่ย์อยู่” ผู้จัดเอ่ยแซวฉันกับมาร์ช ก่อนที่คนอื่นๆ จะยิ้มและหัวเราะคิกคักแซวฉันกันใหญ่ ยกเว้นจีน่ากับเวลส์ที่เอาแต่ทำหน้านิ่งทั้งคู่ แต่ถึงยังงั้นฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
เราทุกคนพูดคุยกันท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเองสักพักก่อนจะเรียกเก็บเงิน ซึ่งผู้จ่ายครั้งนี้ก็คือผู้จัดสุดแสนจะใจดีของพวกเรานั่นเอง
“ขอบคุณนะคะ/ครับ” พวกเรากล่าวขอบคุณผู้ใหญ่ด้วยความสุภาพ
“ทุกคนครับเรามาถ่ายรูปร่วมกันดีกว่าครับ” พี่ตากล้องที่มาด้วยเอ่ยขึ้นให้พวกเราไปถ่ายรูปรวม เมื่อได้ยินดังนั้นเราก็พากันลุกไปยืนข้างหลังผู้บริหารบ้างด้านข้างบ้าง เราใช้เวลาจัดเฟรมไม่นาน ตากล้องก็ส่งสัญญาณ
“1 2 3 แชะ 123 แชะ เปลี่ยนท่าครับ 1 2 3 แชะ” เราก็ร่วมเฟลมถ่ายรูปด้วยกันโดยมีตากล้องคอยกำกับอยู่ เมื่อถ่ายเสร็จฉันก็ไหว้ลาผู้ใหญ่ทุกท่านอย่างสุภาพก่อนจะเดินกลับมาที่เก้าอี้เพื่อหยิบกระเป๋า
เมื่อได้กระเป๋ามาอยู่ในมือแล้วฉันก็เดินกลับไปยังลานจอดรถของร้านทันที หนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน ฉันเริ่มง่วงแล้วน่ะสิ เมื่อถึงรถฉันก็เปิดกระเป๋าควานหากุญแจรถ แต่ก็ไม่เจอสักที
“!!!!!!” ฉันไปลืมไว้ที่ไหนนะ ฉันพยายามความหาทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่เจอ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นจีน่าเดินไปกับใครสักคน ทำไมไม่กลับกับเวลส์
“???”
Part เวลส์
“เวลส์คะ วันนี้จีน่ากลับก่อนนะคะ จีน่าต้องกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ค่ะ ไม่ได้กลับนาน” จีน่าเอ่ยเสียงหวานขออนุญาตผม
“ให้ผมไปส่งมั้ย?” ผมถามกลับไปเพราะนี่ก็ดึกแล้วถ้ากลับเองน่าจะอันตราย ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียว
“ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนจีน่ามารับแล้ว งั้นจีน่ากลับก่อนนะคะ จุ๊บ!” จีน่าพูดรัวแล้วเขย่งเท้ามาจุ๊บแก้มซ้ายของผม ผมจึงพยักหน้าเข้าใจ และยิ้มให้เธอกลับ
พอจีน่าเดินออกไปผมก็หันไปหยิบกุญแจรถหรูของผมที่ยังวางอยู่บนโต๊ะอาหารอยู่ แต่ก็เหลือบไปเห็นกุญแจอีกพวงที่วางอยู่ตรงข้ามที่ที่ผมนั่ง
“ของไอริส?” ผมอุทานออกมาเบาๆ เพราะนั่นคือกุญแจรถของไอริสอดีตเพื่อนผมเอง วันนี้ริสก็ดูมีความสุขดีหนิ
“เหอะ” ผมแค่นหัวเราะหัวเราะออกมาก่อนจะเดินอ้อมไปหยิบกุญแจพวงนั้น และเดินไปยังโรงจอดรถเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ
ผมเดินเข้าโรงจอดรถ ยืนดูยัยไอริสกำลังหาอะไรสักอย่างในกระเป๋า แต่ผมก็ยืนดูอยู่สักพัก ดูว่าเธอจะทำยังไงต่อ เพราะตอนนี้กุญแจรถเธออยู่ในมือของผม
Part ไอริส
ฉันหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ฉันน่าจะลืมไว้ในห้องอาหาร พอคิดได้แบบนั้นฉันก็เงยหน้าขึ้นเพื่อนจะย้อนกลับไปดูทางเก่าว่าฉันทำตกไว้ตรงไหนหรือลืมไว้ตรงไหนรึป่าว
“!!!!!?” ฉันเงยหน้ามาก็เห็นร่างหนายืนมองฉันอยู่ตรงหน้าทางเข้าลานจอดรถ ฉันเมินไม่สนใจและเดินหากุญแจต่อ
“หมับ!!” เขาจับแขนฉันไว้ ฉันจึงหันไปใช้สายตามองอย่างเรียบนิ่ง
“นายมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอ” ฉันตอบกลับไปอย่างสุภาพ ทำเหมือนเราคือคนแปลกหน้าที่ทักทายกันเท่านั้นเอง แม้ในใจจะสั่นไหวเล็กน้อย แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“คงจะกินข้าวอร่อยกว่าทุกวันสิท่า ยิ้มหน้าบานเลย” เขาแขวะฉันเหรอ ทำไมถึงมาทำแบบนี้ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาแขวะฉัน แถมยังทำหน้าเหยียดกันแบบนี้
“ก็อร่อยนะ” ฉันสะบัดแขนออกก่อนจะหันหน้าไปเผชิญหน้าเขาตรงๆ
“ไปถึงไหนกันแล้วล่ะ” เขาหมายถึงมาร์ชสินะ หึจะมาสนใจฉันทำไม
“แล้วเกี่ยวอะไรกับนายไม่ทราบ” ฉันตอบกลับไปอย่างไม่ยอมแพ้ ฉันและเขามองหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายสุดๆ
“ป๊าว ก็แค่มาเตือนไว้ว่าระวังท้องก่อนแต่ง หึ ‘ง่าย’” เขาพูดกระแทกหน้าฉันด้วยคำว่า ‘ง่าย’ แต่เรื่องอะไรที่ฉันต้องมายืนเถียงกันเขาตรงนี้ ฉันต้องรับหากุญแจรถก่อนที่มันจะดึกดื่นไปกว่านี้
“ขอบใจ แค่นี้ใช่มั้ย ฉันไม่ว่าง” พูดจบฉันก็เดินเบี่ยงเขามาทันทีเพื่อที่จะตรงไปที่โต๊ะอาหาร
“หมับ!!” เขารั้งแขนฉันไว้อีกครั้ง นี่จะกวนประสาทกันใช่มั้ย
“นี่นาย!!” พอฉันหันไปจะต่อว่าเขาที่ทำให้ฉันเสียเวลา ก็ต้องชะงักฝีปากไว้ทันที เพราะว่าตอนนี้เขาชูพวงกุญแจของฉันขึ้นมาให้ฉันเห็นต่อหน้า
“ไปอยู่กับนายได้ยังไง?” ฉันถามเขาพร้อมเอื้อมมือหวังจะหยิบมาไว้ในมือฉัน แต่ก็ไม่ทันความไวของร่างหนา เขาชักมือออกห่างจากฉัน
“นี่!! เอาคืนมานะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดปนอารมณ์เสีย กุญแจของฉันแท้ๆ เขาไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้
“นายจะเอายังไง” หลังจากที่ฉันพยายามแย่งกุญแจซึ่งเป็นของฉันเอง แต่มันอยู่ในมือเขาจนเหนื่อย ฉันเลยหยุดและถามเขาตรงๆ
“จะให้ฉันทำยังไงนายถึงจะคืนกุญแจให้ฉัน” แต่เขาไม่ยอมตอบ ได้จะเล่นแบบนี้ใช่มั้ย
“ถ้านายไม่คืน ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ” ฉันพูดขู่เขาแต่เขาก็ยังนิ่ง คิดว่าฉันจะไม่กล้าทำจริงๆ น่ะสิ ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกำลังจะกดโทรออกหาตำรวจ
“พรึบ!!” เขาโยนกุญแจมาทางฉัน เมื่อเห็นอย่างนั้นฉันจึงเอื้อมมือไปคว้ามันมาจนในที่สุดตอนนี้มันก็กลับมาอยู่ในมือฉัน
“แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง น่าลำคาน” ฉันสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะปิดโทรศัพท์มือถือลงและเดินไปที่รถฉันทันที
“ก่อนจะว่าคนอื่นง่าย หันไปดูเมียตัวเองซะก่อน” ฉันพูดจบก็เดินชนไหล่เข้าไปขึ้นรถ แล้วขับออกไปจากที่นี่ทันที ปล่อยให้คนโง่ทำท่างงอยู่อย่างนั้น
“???”