ไอริส : นี่ฉันชอบเวลส์งั้นเหรอ เพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้วแต่สมัยเรียนมหาลัย แต่เขามีคนนั้นอยู่แล้ว………
ดราม่า,รัก,ผู้ใหญ่,ไทย,วัยว้าวุ่น,มีลูก,หนี,ท้อง,แอบรัก,แอบชอบเพื่อน,เพื่อน,มาเฟีย,ติดหนี้,หว๊านหวาน,badfriend,20+,18+,พระเอกเลว,เพื่อนสนิท,เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ,โรมานซ์,โรแมนติก,นิยายรัก,นิยายชายหญิง,ดราม่า,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
“น้องไอริสคะ!!” ขณะที่ฉันกำลังพักกอง ผู้จัดการส่วนตัวของฉันก็ตะโกนมาแต่ไกลพร้อมเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งพักอยู่ในร่มใต้ต้นไม้
“พี่จะเสียงดังทำไมคะเนี่ย?” ฉันเอ่ยแซว ก่อนจะหันหน้าไปหาพัดลมและซับเหงื่อที่มันผุดออกจากร่างกายเม็ดโต
“บริษัทดวลส์โทรมาหาพี่น่ะ” ฉันชะงักมือที่กำลังซับเหงื่อทันที เขาจะทำอะไรของเขา ปกติเราจะติดต่อกันส่วนตัวเลย เพื่อคุยงานแต่นี่เขาให้ฝ่ายประสานติดต่อมาทางผู้จัดการส่วนตัวของฉัน แต่การที่เวลส์ทำแบบนี้ก็คงแค่เรื่องงานแหละ
“ไม่รับค่ะ” ฉันตอบกลับไปก่อนหันไปซับหน้าที่มีเหงื่อต่อ
“แต่น้องคะ เขาเสนอเงินสองเท่าจากเมื่อก่อนเลยนะคะ” พี่ผู้จัดการของฉันทำเสียงแผ่วอ้อนฉัน นี่ร่างหนายอมจ่ายสองเท่าเลยเหรอ
“พี่ก็รู้ว่าเบื้องหลังว่าเราจบกันไม่ดี ริสไม่อยากปวดหัวอีกแล้วค่ะ” ฉันตอบกลับพี่ผู้จัดการสุดสวยอย่างมั่นใจ ฉันไม่อยากเข้าไปวุ่นวายแล้วแหละ ในเมื่อฉันก้าวออกมาจากตรงนั้นแล้ว
“ก็ได้ค่ะ เสียดายเงินอ่า~~” พี่ผู้จัดการยอมปฏิเสธเงินก้อนโตไป เมื่อหมดเวลาพักฉันก็ไปถ่ายเซตถัดไปทันที อากาศก็ร้อนมากกกก
“คัท!!!! วันนี้เลิกกองได้ครับ” ผู้กำกับสั่งเสียงดัง ทุกคนจึงรีบเคลียร์อุปกรณ์ต่างแล้วมุ่งตรงกลับบ้าน โดยฉันมีผู้จัดการสั่งให้คนขับรถมารับฉันและก็มาส่งฉันที่คอนโดด้วยตัวเอง
“!!!!!” ในระหว่างที่ฉันเลื่อนโซเชียลดูอยู่นั้นก็แอบไปเห็นโพสต์ข่าวฉันอีกแล้ว ซึ่งมีคนซุบซิบฉันว่าฉันไปอ่อยเวลส์ จนเวลส์กลับมาจ้างงานฉัน
“หึ คนพวกนี้ ไม่รู้อะไรแต่เอาไปพูดไปทั่ว” ฉันหัวเราะในลำคอเพื่อตอกย้ำความเหลวแหลกของพวกปากหอยปากปู
“อะไรอะ” ผู้จัดการส่วนตัวฉันถาม ฉันจึงยื่นไอแพดไปให้ดู
“!!!!” พี่ผู้จัดการหลังจากอ่านข่าวเสร็จก็คิ้วชนกันจนผูกเป็นโบว์ได้แล้วมั้ง
“ใครมันมาปล่อยข่าวแบบนี้ ดีนะข่าวไม่แรง” ผู้จัดการส่วนตัวเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะโทรไปให้ลูกน้องตามลบข่าวที่แสดงอยู่ตอนนี้
“ติ๊งๆๆๆๆ” เสียงรัวแชตขึ้นรัวๆ แต่ไม่ใช่ของฉันแต่เป็นของพี่ผู้จัดการสาวสวยของฉันเอง ทำไมเด้งรัวขนาดนี้นะ
“!!!!” พี่ผู้จัดการอ่านแชตก็ทำหน้าตกใจ เลยทำให้ฉันพลอยเครียดไปด้วย
“มีอะไรพี่” ฉันถามด้วยความอยากรู้ หรือจะเป็นเพราะเรื่องข่าวเมื่อกี้กันแน่
“มีลูกค้าและผู้จัดหลายคนเลื่อนงานเราออกไปเดือนหน้า!!” ฉันตกใจทันทีที่พวกเขาทำแบบนี้ เฮ้ออ การเป็นดารามันยากจริงๆ
“แต่ก็ยังดีที่เขาแค่เลื่อน ไม่มีใครยกเลิกงานเรา ตอนนี้ริสก็พักผ่อนไปก่อนนะ ถือสะว่าพักร้อน” ฉันกำมือแน่นแต่ก็จำใจยอมรับมัน
“เอี๊ยดด” รถจอดหน้าคอนโดของฉัน อำลาพี่ผู้จัดการส่วนตัวของฉันก่อนจะเดินเข้าไปภายในคอนโด
“คุณไอริสคะ!!” พี่พนักงานหน้าล็อบบี้เรียกฉัน ฉันจึงเลี้ยวหัวเดินเข้าไปหาเขาทันที
“มีอะไรรึป่าวคะ?” ฉันถามด้วยความสงสัย ปกติถ้าไม่มีธุระอะไรเขาก็จะไม่มารบกวนลูกค้า แสดงว่าครั้งนี้มี
“คือบิลค่าห้องดิฉันส่งไว้หน้าห้องให้แล้วนะคะ” เห้ออ ไม่มีอะไรหรอกทุกคน ก็แค่โดนทวงหนี้ ฉันทำงานหนักแต่ก็ไม่มีเงินเหลือเก็บหรอก แล้วนี่ฉันยังผ่อนคอนโดไม่หมดเลย เหลืออีกปีกว่าๆ แล้วตอนนี้งานฉันมาโดนเลื่อนแล้วจะเอาที่ไหนจ่างค่าห้องเนี่ย
“โอเคค่ะ” ฉันยิ้มเจื่อนตอบกลับพนักงานไป ก่อนจะหันหลังกลับเดินขึ้นลิฟต์ตรงไปที่ห้องตัวเอง เมื่อถึงห้องของเองก็มีจดหมายวางอยู่หน้าห้องจริงๆ เห้อออ ฉันจะทำยังไงล่ะทีนี้
“พรึบ!!!” ฉันอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนทันที หมดแรงชะมัด ในที่สุดฉันก็เผลอหลับไปท่ามกลางความเงียบสงบ เสียงเครื่องปรับอากาศดังอย่างสม่ำเสมอ
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันงัวเงียตื่นขึ้นมาอาบน้ำแปรงฟัน ก่อนที่จะนั่งจิบโอวัลตินร้อนๆ อยู่หน้าระเบียง ทำไมฉันถึงมีวันว่างกับเขาเนี่ย
“กริ๊งงงๆๆ” ในขณะที่ฉันกำลังนั่งกินลมชมวิวอยู่ที่ระเบียงนั้น เสียงกริ่งหน้าห้องก็ดังขึ้น ฉันวางแก้วโอวัลตินลงก่อนจะเดินไปดูจอตาแมวเพื่อดูว่าเป็นใครที่มากดกริ่งหน้าห้องฉัน
“มาทำไม?” ฉันอุทานเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดประตูให้พี่ผู้จัดการส่วนตัว ฉันเดินเข้ามาในห้อง
“มีคนติดต่องานมา” พี่ผู้จัดการพูดทันทีหลังที่นั่งลงบนโซฟา เมื่อได้ยินดังนั้นฉันก็รีบนำก้นหย่อนลงบนโซฟาเช่นเดียวกัน
“จริงเหรอพี่!!! ใครอะ?” ฉันถามด้วยความตื่นเต้น
“เวลส์” ฉันชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อผู้ว่าจ้าง ฉันเงียบและทำท่าจะลุกขึ้นจากตรงนี้
“เดี๋ยว แต่ครั้งนี้เขาให้เงินเธอ 3 เท่า!!!!” ฉันเบิกตากว้างทันทีนี่เงินมันจำนวนมหาศาลเลยนะ
“แถมทางประสานงานยังบอกอีกด้วยนะว่าแค่โปรเจคนี้โปรเจคเดียว” ฉันได้ยินแบบนั้นก็นั่งลงใช้ความคิดอย่างหนัก ได้เงินสามเท่า แถมทำแค่งานเดียว ก็ดีเหมือนกันเจอกันแค่งานเดียวคงไม่มีอะไรหรอก จบงานนี้ก็คงไม่ต้องเกี่ยวข้องกันเหมือนเดิมนั่นแหละ
“งั้นพี่รับงานนี้เลยก็ได้ค่ะ” ฉันตอบกลับผู้จัดการส่วนตัวฉันไปทันทีที่คิดได้แบบนี้ งานนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม
“โอเค งั้นมะรืนนี้เธอกับพี่เข้าไปทำสัญญาด้วยกัน เดี๋ยวพี่มารับ 8:30 น.” ฉันพยักหน้ารับ หลังจากนั้นพี่ผู้จัดการก็กลับออกไปทันที
เช้าวันเซ็นสัญญา 8:55 พี่ผู้จัดการไปรับฉันที่คอนโดตรงที่ที่ตึกของนายนั่น เรานัดเซ็นสัญญาเวลาเก้าโมงตรง แต่ตอนนี้ฉันมาถึงก่อนเวลา
“ตึก ตึก ตึก” เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบพื้น ฉันกำลังเดินขึ้นลิฟต์ไปห้องประชุม
“แกๆ เริ่ดเนอะ”
“สวยมาก ตัวแม่สุดๆ อะ”
“บุคคลในตำนานที่ฆ่าไม่ตาย สวยยยเวอร์”
ฉันเดินผ่านเข้ามาห้องประชุมพนักงานต่างก็ชมฉันไม่หยุดปาก ฉันเข้ามาในห้องประชุมทุกอย่างก็เงียบสงบลง
“พลั่ก!!” ฉันนั่งได้ไม่นานก็มีคนมาใหม่ผลักประตูเข้ามาโดยที่ไม่มีการเคาะประตูก่อน ฉันจึงหันไปดูว่าใครกันที่กล้าทำแบบนี้
“???” จีน่างั้นเหรอ เข้ามาทำไม
“พี่ไปตามทีมงานมาเถอะค่ะริสจะรีบเซ็นสัญญา รีบประชุม จะได้รีบๆ กลับ บรรยากาศแถวนี้มันเหม็นอับ” ฉันเมินคนที่มาใหม่อย่างจีน่าก่อนจะหันไปบอกพี่ผู้จัดการ
“ได้ค่ะๆ” พี่เขารับปากฉันก่อนจะลุกขึ้นเพื่อนเดินไปตรงประตู
“เดี๋ยว!!!” จีน่าพูดดักขึ้นมาก่อนที่พี่ผู้จัดการจะเปิดประตูออกไปข้างนอก ฉันและผู้จัดการส่วนตัวของฉันจึงหันไปมองหน้ามันอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันนี่แหละคนนี้เธอต้องการจะเจอ” นางพูดจบก็ยกเอกสารสำคัญขึ้นให้เราดู ทำไมมันถึงมาทำหน้าที่ที่สำคัญแบบนี้
“พรึบ!!” มันวางหนังสือสัญญาลงบนโต๊ะอย่างดังก่อนจะนั่งตรงหัวโต๊ะตำแหน่งประธาน เมื่อเป็นแบบนั้นผู้จัดการส่วนตัวฉันก็เดินมานั่งข้างๆ ฉัน
“อึ้งเลยเหรอ 5555” มันนั่งไขว่ห้างกอดอกอย่างผู้ชนะ
“คืองี้นะ ฉันนะมาทำหน้าที่แทนเวลส์ เพราะว่าฉันมีสิทธิ์ทุกอย่างในบริษัทแห่งนี้” นางพูดจบก็ยื่นหนังสือสัญญาให้ฉัน ฉันรับมันมาอ่านแบบไม่สนใจคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
“........” ฉันกับผู้จัดการก็อ่านรายละเอียดในสัญญาอย่างตั้งใจ ก่อนที่จะตกลงเซ็นสัญญา ผู้ทำสัญญาคือฉัน ผู้ว่าจ้างคือบริษัทเวลส์ พยานคือผู้จัดการของฉันกับยัยจีน่า สองคน
“หึ ก็แค่งานเดียวเท่านั้นแหละ” พอเซ็นสัญญาเสร็จจีน่าก็แขวะฉันทันที นางเป็นหมาบ้ารึไงฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย
“ก็แค่งานเดียว ทำไมเขาไม่จ้างคนเก่าน้า?” ผู้จัดการสาวของฉันเอ่ยลอยๆ ฉันจึงลอบยิ้มให้กับท่าทีเดือดดาลของจีน่า
“เธอพูดอะไรออกมา” จีน่าอยู่ไม่สุขรีบตอบกลับทันที เพราะฉันแอบได้ยินข่าววงในมาว่ายอดขายดรอปลงหลังจากที่นางมาเป็นพรีเซ็นเตอร์แทนฉัน
“ป๊าว ฉันพูดลอยๆ ใครอยากรับก็รับ” นางพูดไม่ออก ฉันกับพี่ผู้จัดการหัวเบาๆ ในลำคอ คงจะจริงอย่างที่ฉันคิด
“นี่!! เธอจะไปรู้อะไร” นางลุกขึ้นต่อว่าอย่างหัวร้อน แล้วสะบัดก้นเดินดุ่มๆ ออกจากห้องนี้ไป
“เวลส์คบยัยนี่ลงได้ยังไง สู้เธอไม่ได้สักอย่าง” พี่ผู้จัดการพูดหลังจากที่มันออกไปจากห้องนี้แล้ว ฉันได้ยินประโยคหลังก็ชะงักทันที
“อ...เอ่อพี่ไม่ได้ตั้งใจน่ะ” ฉันยิ้มกลับไปเพื่อบอกว่าฉันไม่เป็นอะไร ไม่นานทีมงานฝ่ายต่างๆ ก็เดินเข้ามาให้ห้องประชุมไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์ การตลาด ประสานงาน เอกสาร สถานที่ และอื่นๆ อีกมากมาย
“สวัสดีค่ะคุณไอริส นี่เอกสารรายละเอียดงานนะคะ” ทีมงานเข้ามาทักทายฉันเหมือนปกติที่เราเคยทำงานร่วมกัน และส่งเอกสารงานให้ฉันกับผู้จัดการคนละชุด
“งานนี้เราไปถ่ายนอกสถานที่ค่ะ เราจะไปถ่ายที่รีสอร์ตเลย เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้าพักรีสอร์ตของเรา อาจจะมีชุดว่ายน้ำด้วยเพื่อพรีเซนท์สระว่ายน้ำของทางโรงแรม คุณไอริสโอเคมั้ยคะ” ทีมงานนำเสนองานและถามฉันเพื่อความสะดวกใจ
“สะดวกค่ะ” ฉันตอบรับอย่างเต็มใจ เราประชุมกันผ่านไป 2-3 ชั่วโมง
“ค่ะวันนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ เจอกันวันอังคารที่รีสอร์ตเลยน้าทุกคน” หัวหน้าทีมงานกล่าวจบทีมงานทุกคนก็ต่างเก็บเครื่องมือต่างๆ และกลับไปทำงานที่โต๊ะของใครของมันต่อ
“ป้ะ กลับกัน” ผู้จัดการส่วนตัวของฉันเอ่ยกับฉันเบาๆ
“พี่ไม่ได้ไปด้วยนะ พี่จะตามไปทีหลังถ้าแม่พี่ออกจากโรงพยาบาลไวอะ” พี่เขาเอ่ยขึ้นกับฉันระหว่างทางกลับบ้าน แม่เขาป่วยเข้าโรงพยาบาล งานนี้ไปต่างจังหวัดไกลเลยไม่ค่อยสะดวกที่จะไปกับฉัน
“ไม่เป็นไรเลยพี่ ริสเข้าใจ” ฉันตอบกลับอย่างอ่อนโยน ให้พี่เขาได้อยู่ดูแลแม่ที่นี่ก็ได้ฉันดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว
“ขอบใจมากนะ” ฉันยิ้มรับก่อนจะลงจากรถเพื่อนขึ้นห้องไปพักผ่อนหย่อนกาย
“กรี๊ดดดด!!!!”