"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี - บทที่ 4 กลับบ้านด้วยกันเถอะ โดย เห็ดสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL

รายละเอียด

"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

ผู้แต่ง

เห็ดสีน้ำเงิน

เรื่องย่อ

น้ำมนต์และคุณใสสามารมองเห็นวิญญาณได้เหมือนกัน ทว่าคุณใสนั้นไม่เคยกลัวสิ่งใด ต่างจากน้ำมนต์ที่หวาดกลัวไปเสียทุกอย่าง ทั้งสองเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่มีความสัมพันธ์กันแบบ คนหนึ่งแกล้ง และอีกคนถูกแกล้ง วันหนึ่งน้ำมนต์ถูกดวงวิญญาณจู่โจม คุณใสที่เข้ามาช่วยจึงยื่นข้อเสนอบางอย่างแลกกับความช่วยเหลือ
"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

สารบัญ

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 1 น้ำมนต์กับคุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 2 ข้อตกลงของคนขี้แกล้ง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 3 หลินซีผู้รู้เห็นทุกสิ่งอย่าง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 4 กลับบ้านด้วยกันเถอะ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 5 นอนด้วยคน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 6 ชอบฉันหรือเปล่า?,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 7 พี่ชายของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 8 ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองหน่อยสิ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 9 ควบคุมตัวเองไม่ได้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 10 คุณป้าของหลินซีเป็นสาววาย,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 11 พูด!!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 12 สารภาพ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 13 เพราะว่า...ชอบ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 14 ผีสาวในชุดนอนสีแดง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 15 เพศศึกษากับอาจารย์คุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 16 ความฝัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 17 ทดสอบหลังเรียน 1,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 18 ทดสอบหลังเรียน 2 ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 19 เหมือนถูกด่า,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 20 แฟนของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 21 ดูแลคนไข้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 22 หลังจากนั้นสามวัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 23 แม่รู้แม่เห็น,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 24 แค่ทำเงียบๆ ก็โอเคแล้ว,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 25 จ้องมาจ้องกลับ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 26 คำเตือนจากคุณลุงถือไม้กวาด,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 27 พนักงานปากแซ่บคนนั้นคือ...,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 28 มีคนอกหัก,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 29 ร้าวฉาน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 30 ฉันรู้อยู่แล้ว!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 31 หนี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 32 ภาพถ่ายของเรา

เนื้อหา

บทที่ 4 กลับบ้านด้วยกันเถอะ

"ทำไมพวกนายไม่คบกันซะที?"

คำถามของเพื่อนสาวมีพลังอานุภาพทำลายล้างรุนแรงยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ ที่ยิงเข้ากลางเบ้าหน้าสองหนุ่มที่เป็นประเด็น

น้ำมนต์รู้สึกได้ถึงความร้อนที่พุ่งจากปลายเท้าขึ้นมาบนศีรษะ ผิวกายของเขากลายเป็นสีแดงไม่ต่างจากคนไข้ขึ้นสูง ใจหนึ่งเขาอยากจะปฏิเสธสิ่งที่หลินซีเอ่ยถาม แต่ลึกๆ ในใจ เขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าคุณใสจะตอบคำถามนี้อย่างไร

ครั้งนี้น้ำมนต์จึงเลือกที่จะอยู่เงียบๆ รอให้คุณใสเป็นคนตอบคำถาม

คุณใสเมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดไม่ปฏิเสธคำถามนั้นถึงกับไปไม่ถูก เขาสัมผัสได้ถึงสายตาของเพื่อนทุกคนที่จับจ้องสร้างแรงกดดันมหาศาล

อ้อมกอดของคุณใสคายออก น้ำมนต์ชะงัก ในความเป็นจริงร่างเล็กควรจะดีใจ ที่ในที่สุดคุณใสก็ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ แต่การปล่อยมือในครั้งนี้ มันกลับทำให้น้ำมนต์รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกทอดทิ้งเสียมากกว่า

"เธอนี่พูดมากจริง อยู่เงียบๆ ไม่เป็นหรือไง?" คุณใสทำเป็นเปลี่ยนเรื่องและหันไปแว้งกัดหลินซีแทน

คุณใสไม่ทันได้สังเกตเลยว่าการกระทำของตนทำให้น้ำมนต์รู้สึกแย่

คนตัวเล็กส่ายหน้า พยายามไม่คิดมาก

พวกเราเป็นเพื่อนกัน แล้วฉันมีสิทธิ์อะไรไปโกรธกับเรื่องนั้นกันล่ะ

เมื่อคิดได้ น้ำมนต์ก็กลับมายิ้มได้อีกครั้ง ร่างเล็กโผไปดึงแขนคุณใสเอาไว้ก่อนที่คนตัวโตจะมีปากเสียงกับเพื่อนสาว

"หลินซีก็พูดเล่นเหมือนทุกที อย่าโกรธเธอเลยนะ"

แววตาของคุณใสที่มองน้ำมนต์แลดูสั่นไหว น้ำมนต์รู้สึกได้ถึงความประหม่า ซึ่งไม่คิดว่าจะได้พบจากคนอย่างคุณใส

เพียงแค่ครู่เดียวสีหน้านั้นก็แปรเปลี่ยน คุณใสกลับมาทำหน้าก่อกวนอีกครั้ง ราวกับต้องการซ่อนความหวั่นไหวก่อนหน้านี้เอาไว้

"ฉันไม่ได้โกรธ" คุณใสหยิกแก้มนุ่มนิ่มของน้ำมนต์อย่างมันเขี้ยว "ฉันแค่ไม่ชอบให้ยัยนั่นมายุ่งเรื่องของเรา"

หลินซีที่ถูกกล่าวหาได้แต่ส่ายหน้า เธอรู้ได้ทันทีว่าหากไม่มีต้นหนเรือนำทางอย่างเธอ เพื่อนทั้งสองคนนี้คงไม่พูดความรู้สึกจริงๆ ของตนออกมาเป็นแน่

บทสนทนาของพวกเขาถูกหยุดด้วยการมาถึงของอาจารย์หนุ่ม ชายร่างท้วมเดินอาดๆ เข้ามา เมื่อเห็นนักศึกษาสี่คนนั่งหัวโด่อยู่แถวหน้าของห้องจึงก้มลงมองนาฬิกา ก่อนจะพยักหน้า

"มาเร็วดีนี่"

แม้ตอนนี้จะเลยมากว่ายี่สิบนาทีแล้วก็ตาม

คาบเรียนเริ่มต้นขึ้นหลังจากเพื่อนนักศึกษาคนอื่นๆ เริ่มทยอยเดินเข้าห้องเรียน

ระหว่างที่อาจารย์เริ่มบรรยาย คุณใสจะชอบเอาปากกามาจิ้มหลังมือของน้ำมนต์เป็นพักๆ ราวกับต้องการให้คนตัวเล็กสนใจการมีอยู่ของตน

น้ำมนต์พยายามตั้งสมาธิจดตามที่อาจารย์สอน แม้จะถูกก่อกวนตลอดทั้งชั่วโมงก็ตาม

ทันทีที่คาบเรียนจบลง ทุกคนก็เริ่มแยกย้ายกลับบ้าน

"ฉันจะยกของไปคืนอาจารย์ พวกนายกลับไปก่อนเลยก็ได้นะ" หลินซีกล่าวขณะช่วยเก็บอุปกรณ์การสอนของอาจารย์

"เดี๋ยวฉันรอ" น้ำมนต์เอ่ย

เขารู้สึกไม่ดีที่จะทิ้งให้เพื่อนทำงานที่ถูกอาจารย์เรียกใช้อยู่คนเดียว หลายต่อหลายครั้งที่เขาพยายามเสนอตัวช่วยเหลือ แต่หลินซีก็จะมีเหตุผลมาอ้างเพื่อไม่ให้น้ำมนต์ต้องมาลำบากเพื่อเธออยู่เสมอ

"ทำไมต้องรอด้วยเล่า!" คุณใสงอแง "พวกนายไม่ได้กลับบ้านทางเดียวกันซะหน่อย"

"งั้นนายกลับไปก่อนก็ได้" น้ำมนต์ยังคงยืนยันคำเดิม

"นั่นยิ่งแล้วใหญ่ บ้านของเราอยู่ติดกัน นายก็ต้องกลับบ้านกับฉันสิ!...จะกลับคนเดียวได้ยังไง!"

"ฉันไม่ใช่เด็กนะ กลับบ้านเองได้"

"แต่ฉันเป็นเด็ก กลับเองไม่ได้!" คุณใสพูดอย่างหน้าไม่อาย

เด็กอะไรตัวโตขนาดนี้

หลินซีรู้ดีว่าสองคนนี้ดื้อขนาดไหน แม้เธอจะหาทางบ่ายเบี่ยงไม่ให้เพื่อนต้องมารับภาระ แต่เธอก็คงปฏิเสธได้ไม่ตลอด

"งั้นฉันจะรีบกลับมาแล้วกัน" หลินซีด่วนสรุปและรีบวิ่งตามหลังอาจารย์ไปติดๆ

"นอกใจอีกแล้ว!" คุณใสตัดพ้อ

แม้ปากจะบ่น แต่คุณใสก็ยังคงยืนรอเป็นเพื่อนน้ำมนต์ คุณใสเป็นเช่นนั้นเสมอมา ชอบทำเป็นบ่นอิดออด และหาเรื่องเพื่อนสาวอยู่เสมอ ถึงกระนั้น น้ำมนต์รู้ดีว่าลึกๆ แล้วคุณใสเองก็เป็นห่วงหลินซีเช่นกัน เรียกได้ว่าการเถียงกันของสองคนนี้ช่วยสร้างสีสันให้กลุ่มของพวกเขาก็ว่าได้

"ขอบคุณที่รอนะ" น้ำมนต์เอ่ย

รอยยิ้มของคนตัวเล็กมีดาเมจรุนแรงยิ่งกว่าคำพูดก่อนหน้านี้ของหลินซีเสียอีก คุณใสพยายามมองไปทางอื่น ทว่าก็ยังคงถูกนัยน์ตาเป็นประกายคู่นั้นดึงดูดให้หันกลับไปมอง ราวกับต้องมนต์สะกด

เพราะกลัวว่าจะควบคุมความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่คุณใสจึงต้องหาวิธีทำให้รอยยิ้มนั้นหายไป

คุณใสใช้มือทั้งสองข้างดึงแก้มนุ่มนิ่มของน้ำมนต์

"อย่ายิ้มน่าเกลียดได้มั้ย"

น้ำมนต์ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อคุณใสปล่อยมือ คนตัวเล็กจับแก้มตัวเองราวกับจะทบทวนว่าตนน่าเกลียดจริงๆ หรือ

ภาพนั้นยิ่งทำให้คุณใสแทบจะเป็นบ้า

เขาอยากจะวิ่งไปที่น้ำพุหน้ามหาวิทยาลัย พร้อมตะโกนว่า น่ารักโว้ยยยย!ดังๆ

"พวกนายสองคนอยู่บ้านติดกันงั้นเหรอ?"

คำถามของยูเรทำให้น้ำมนต์ได้สติ

"อื้ม เพราะงั้นก็เลย..."

"โธ่ น่าเสียดายแฮะ" ยูเรพูดแทรกขณะที่น้ำมนต์พยายามจะอธิบาย "แบบนี้คุณใสคงแวะไปส่งฉันเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วสิ"

"ไปส่งเหรอ?" น้ำมนต์หันมองคุณใส

"อ้อใช่ เมื่อก่อนตอนไปเยี่ยมบ้านฝั่งนั้น ฉันเป็นคนไปรับหมอนี้ตอนเรียนพิเศษน่ะสิ" คุณใสเขกหัวยูเรไปทีหนึ่ง "นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ ไม่ใช่กลับเองไม่ได้"

"เฮอะ! เมื่อครู่ใครกันบอกว่าตัวเองเป็นเด็ก" ยูเรยอกย้อนทำเอาคุณใสเถียงไม่ออก "คอนโดฉันอยู่ตรงข้ามทางออกมหาลัยนี่เอง...เดินไปส่งหน่อยไม่ได้หรือไง?"

น้ำมนต์สัมผัสได้ถึงความกดดันจากคำพูดนั้น เขาไม่รู้จักยูเรดีพอที่จะตัดสินนิสัยของเพื่อนใหม่คนนี้ ทว่าหลายครั้งที่น้ำมนต์รู้สึกเหมือนยูเรพยายามแสดงให้น้ำมนต์เห็นว่าตนเองก็รู้จักคุณใสดีมากไม่แพ้กัน

คุณใสทำหน้าเจื่อน ลำบากใจที่จะปฏิเสธ นั่นทำให้น้ำมนต์เผลอดึงแขนคุณใสเอาไว้โดยไม่รู้ตัว

"อะไรเหรอ?" คุณใสหันมาถาม

"เอ่อคือ เอ่อ..." น้ำมนต์คิดหาข้อแก้ตัวไม่ทัน ได้แต่ส่งเสียงเงอะงะเพราะกำลังสติแตก

"ฉันกับพี่อยู่คอนโดนั้นเหมือนกัน เดี๋ยวฉันไปกับนายเอง"

เสียงสวรรค์ของหลินซีช่วยทำให้บรรยากาศตึงเครียดกระจายหายไป แม่หญิงแห่งกลุ่มชายฉกรรจ์กลับมาแล้ว!!

"โอ้! บังเอิญจัง เอาแบบนั้นก็ได้" ยูเรเอ่ยและเดินตามหลินซีไป

น้ำมนต์ยังคงจับแขนเสื้อของคุณใสเอาไว้แน่น

"มีอะไรอยากพูดกับฉันใช่หรือเปล่า?" คุณใสกระซิบ

หากเป็นเวลาปกติน้ำมนต์คงทำเฉไฉไม่ตอบคำถามของคุณใส ทว่าในครั้งนี้เขารู้สึกว่าหากไม่พูดให้ชัดเจน จะต้องมานั่งเสียใจทีหลังอย่างแน่นอน

น้ำมนต์เงยหน้าขึ้นและกระซิบตอบคุณใส

"กลับบ้านด้วยกันเถอะนะ"

เสียงกระซิบสั่นเครือของคนตรงหน้าทำเอาหน้าอกของคุณใสหนักอึ้ง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่บ่อยที่คนตัวเล็กจะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อน นั่นยิ่งทำให้ความคิดแผลงๆ ของคุณใสทำงาน

"นี่เป็นคำขอร้องเหรอ?" คุณใสแกล้งเอียงคอถาม "นายรู้ใช่ไหมว่าถ้านายจะขอร้องฉันต้องทำยังไง"

คุณใสแตะปลายนิ้วชี้ที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายเพื่อเตือนถึงผลตอบแทนที่เขาควรได้รับ

แก้มของน้ำมนต์แดงเรื่อ ถึงกระนั้นก็ยังคงพยักหน้าอย่างมุ่งมั่น

"เข้าใจแล้ว ไว้กลับบ้านแล้วค่อย...ค่อย..." น้ำมนต์อายเกินกว่าจะพูดมันออกมา

ภูเขาไฟแห่งตัณหาในสมองของคุณใสระเบิดบึ้ม เขาคว้ามือน้ำมนต์และรีบบึ่งเดินนำหน้าเพื่อนสองคนไปอย่างไว

"รีบไปไหนเนี่ย" หลินซีบ่นอุบอิบเมื่อโดนแซง

"กลับบ้านสิ!"

คุณใสตะโกนตอบ สับขาเดินเร็วกว่าเดิม แผนที่ทางกลับบ้านที่เร็วที่สุดปรากฏในหัว เกรงว่านี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาอยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้