"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี - บทที่ 5 นอนด้วยคน โดย เห็ดสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL

รายละเอียด

"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

ผู้แต่ง

เห็ดสีน้ำเงิน

เรื่องย่อ

น้ำมนต์และคุณใสสามารมองเห็นวิญญาณได้เหมือนกัน ทว่าคุณใสนั้นไม่เคยกลัวสิ่งใด ต่างจากน้ำมนต์ที่หวาดกลัวไปเสียทุกอย่าง ทั้งสองเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่มีความสัมพันธ์กันแบบ คนหนึ่งแกล้ง และอีกคนถูกแกล้ง วันหนึ่งน้ำมนต์ถูกดวงวิญญาณจู่โจม คุณใสที่เข้ามาช่วยจึงยื่นข้อเสนอบางอย่างแลกกับความช่วยเหลือ
"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

สารบัญ

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 1 น้ำมนต์กับคุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 2 ข้อตกลงของคนขี้แกล้ง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 3 หลินซีผู้รู้เห็นทุกสิ่งอย่าง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 4 กลับบ้านด้วยกันเถอะ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 5 นอนด้วยคน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 6 ชอบฉันหรือเปล่า?,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 7 พี่ชายของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 8 ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองหน่อยสิ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 9 ควบคุมตัวเองไม่ได้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 10 คุณป้าของหลินซีเป็นสาววาย,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 11 พูด!!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 12 สารภาพ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 13 เพราะว่า...ชอบ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 14 ผีสาวในชุดนอนสีแดง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 15 เพศศึกษากับอาจารย์คุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 16 ความฝัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 17 ทดสอบหลังเรียน 1,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 18 ทดสอบหลังเรียน 2 ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 19 เหมือนถูกด่า,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 20 แฟนของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 21 ดูแลคนไข้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 22 หลังจากนั้นสามวัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 23 แม่รู้แม่เห็น,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 24 แค่ทำเงียบๆ ก็โอเคแล้ว,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 25 จ้องมาจ้องกลับ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 26 คำเตือนจากคุณลุงถือไม้กวาด,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 27 พนักงานปากแซ่บคนนั้นคือ...,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 28 มีคนอกหัก,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 29 ร้าวฉาน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 30 ฉันรู้อยู่แล้ว!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 31 หนี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 32 ภาพถ่ายของเรา

เนื้อหา

บทที่ 5 นอนด้วยคน

"วันนี้กลับเร็วจังนะเด็กๆ"

เป็นโชคดีของน้ำมนต์ ทันทีที่พวกเขาลงจากรถรับจ้าง คุณใสก็ตรงดิ่งมาทางบ้านของน้ำมนต์อย่างไม่ลังเล

ทว่าความจริงช่างโหดร้ายยิ่งกว่าในละคร เมื่อคุณใสพบว่าคุณแม่ของน้ำมนต์ยังคงอยู่ที่บ้าน

โดยปกติแล้วคุณแม่ของน้ำมนต์ต้องออกไปทำงานต่างที่ต่างถิ่น เดินทางไกลบ่อยครั้ง ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะแจ็คพอต

คุณใสพยายามไม่แสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า เขากล่าวทักทายคุณแม่ของน้ำมนต์อย่างสุภาพ

คนตัวเล็กวิ่งโผเข้าไปกอดแม่ของตน รู้สึกดีใจที่เธอกลับมาพอดิบพอดี หากไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้าน มีหวังน้ำมนต์คงโดนคุณใสเอารัดเอาเปรียบอีกเป็นแน่ แค่มองสายตาหื่นกระหายคู่นั้นของคุณใสก็ทำเอาน้ำมนต์ขนลุกขนพองไปทั้งตัว

ภายใต้รอยยิ้มการค้าของคุณใส น้ำมนต์สัมผัสได้ถึงความหงุดหงิดที่อัดแน่นอยู่ภายใน หาทางระเบิดออกมา

"แม่จะนอนที่บ้านใช่ไหมครับ" น้ำมนต์ผละออกจากอ้อมกอดของแม่

"ขอโทษด้วยนะลูก วันนี้แม่แค่แวะมาเอาเอกสารที่ลืมเอาไว้ เดี๋ยวแม่ก็ต้องไปขึ้นรถที่บริษัทแล้วล่ะ" แม่หันไปหยิบกระเป๋าเอกสารมาสะพาย

ราวกับฟ้าผ่า ใบหน้าเปื้อนยิ้มของน้ำมนต์พลันหายวับ กลับกันรอยยิ้มหงุดหงิดของคุณใส แปรเปลี่ยนเป็นยิ้มแห่งความปีติยินดี

"เดินทางปลอดภัยนะครับคุณน้า" คุณใสรีบเอ่ยและเดินไปส่งแม่ของน้ำมนต์ที่หน้าบ้าน "เดี๋ยวผมดูแลน้ำมนต์ให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"

ไม่นานรถรับจ้างก็ขับมารับแม่ผู้เป็นที่พึ่งสุดท้ายของน้ำมนต์จากไป

คุณใสหันกลับมาราวกับภาพสโลว์โมชั่นในหนังสยองขวัญพร้อมรอยยิ้มผู้ล่าที่เตรียมจะกระโจนใส่เหยื่ออันแสนโอชะ

เวรกรรม...

น้ำมนต์ไม่รอช้าหันหลังแล้วสับขาวิ่งไม่คิดชีวิต

ชายร่างเล็กอยากจะวิ่งเข้าห้อง ปิดล็อกประตูหน้าต่างทุกบานเพื่อหนีสัตว์ร้ายกระหายเลือดที่พร้อมจะเอาเปรียบร่างกายของเขา แม้มันจะทำให้น้ำมนต์ต้องกลายเป็นคนไม่รักษาสัจจะ แต่มันก็ดีกว่าโดน (อะไรที่เหนือคำบรรยาย) จากคุณใสแล้วกัน

ถึงคิดหาทางหนีไว้เสียดิบดี สุดท้ายน้ำมนต์ก็ดันมาตกม้าตายด้วยสภาพร่างกายไม่เอาไหนของตนเอง คนที่วิ่งด้วยความเร็วเท่าหอยทากอย่างเขา มีหรือจะรอดพ้นอินทรีบ้าเลือดอย่างคุณใส สุดท้ายหอยทากตัวน้อยก็ถูกโฉบไปกินจนได้

วงแขนกำยำของคุณใสคว้าคนตัวเล็กลอยจากพื้น

"พยายามจะหนีหรือครับน้องน้ำมนต์" คุณใสกระซิบที่ข้างหูคนในอ้อมกอด

...โปรดหยุดอ่าน 3 วินาที เพื่อไว้อาลัยแด่หอยทากน้อยผู้น่าสงสาร...

บทลงโทษแรกที่คุณใสมอบให้คือการจั๊กจี้เอวของน้ำมนต์อย่างต่อเนื่อง ทำเอาร่างเล็กหมดแรงดิ้นหนีและยอมจำนนในที่สุด

ผู้ชนะฉีกยิ้มอย่างพอใจ เขาปิดประตู หิ้วร่างผอมบางราวกับตุ๊กตายัดนุ่นขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน

ด้วยความที่ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก คุณใสจึงมักถือวิสาสะเข้าห้องนอนของน้ำมนต์โดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่บ่อยครั้ง

ปึง!!

คุณใสใช้เท้าเตะประตูห้องนอนของน้ำมนต์ให้เปิดออก เขาวางร่างของน้ำมนต์ลงบนขอบเตียงอย่างทะนุถนอม แล้วจึงย่อตัวนั่งคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่าย

"ได้เวลาจ่ายค่าแรงฉันหรือยัง?"

ใบหูของน้ำมนต์เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างเล็กเบือนหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายรุดเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองเสียดสีกัน

น้ำมนต์หลับตาปี๋ สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนระอุที่รดแก้มของตน

ในที่สุดริมฝีปากของทั้งสองก็ประกบกัน แม้เวลาปกติคุณใสจะชอบทำตัวโผงผาง แต่ทุกครั้งที่เขาสัมผัสน้ำมนต์ เขาจะอ่อนโยนเป็นพิเศษ

คุณใสรู้ดีว่าน้ำมนต์เป็นคนคิดมาก ขี้กังวล และรู้สึกผิดง่าย เพราะงั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากนิสัยส่วนนั้นของน้ำมนต์ เป็นข้ออ้างเพื่อให้ทั้งสองได้อยู่ด้วยกันนานยิ่งขึ้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน คุณใสมั่นใจมากว่าน้ำมนต์ไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมกอดเริ่มให้ความร่วมมือ อินทรีนักล่าตัณหากลับอย่างคุณใสก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่

ร่างสูงโถมตัวเข้าหาน้ำมนต์มากขึ้น แรงกดที่หน้าอกทำให้คนตัวเล็กล้มตัวลงกับเตียงนอนอย่างช่วยไม่ได้

ทว่าก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปมากกว่านั้นเสียงโทรศัพท์ของคุณใสก็ดังขึ้น

"มะ มือถือของนาย..." น้ำมนต์เอ่ยทักเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจเสียงเรียกเข้า

คุณใสโยนโทรศัพท์ของตนออกไปห่างๆ

"ช่างมัน" คุณใสลูบคลำร่างกายผอมบางของน้ำมนต์อย่างสะเปะสะปะ

"ดะ เดี๋ยวสิ" น้ำมนต์ออกแรงดันอกคุณใสออกไป แต่คนตัวใหญ่ไม่แม้แต่จะขยับ

"มีสมาธิหน่อย"

ฝ่ามือหนาของคุณใสจับกรามของน้ำมนต์ล็อกเอาไว้เพื่อไม่ให้สามารถหันหน้าหนีได้

ลมหายใจของทั้งสองผสมปนเปกันยุ่งเหยิง สติสัมปชัญญะกลับถูกแทนที่ด้วยสัญชาตญาณดิบที่ยากจะควบคุม

คุณใสปีนขึ้นมาบนเตียง พร้อมทั้งใช้แขนข้างหนึ่งช้อนใต้เอวของคนตัวเล็กให้ขยับขึ้นมาอยู่กลางเตียง

ใบหน้าของคุณใสซุกลงกับต้นคอขาวนวล ก่อนจะสูดดมกลิ่นกายเย้ายวนของอีกฝ่าย

"หอมดีจัง" คุณใสพึมพำ

คนถูกชมรู้สึกจั๊กจี้ ได้แต่นอนตัวแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าควรแสดงออกเช่นไร

กลิ่นหอมจากตัวของน้ำมนต์ราวกับยาเสน่ห์ที่ทำให้คุณใสเคลิบเคลิ้มและเสียการควบคุม

ท่ามกลางเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ถูกเขวี้ยงทิ้ง และลมหายใจสั่นระรัวของชายทั้งสอง เสียงตึงตัง โครมครามดังกระหึ่มมาจากผนังห้องซึ่งติดกับบ้านของคุณใส

"ไอ้ลูกเวร! รู้นะโว้ยว่าอยู่บ้านนั้น แกกล้าไม่รับโทรศัพท์ของพ่อแกเรอะ!"

เสียงเอะอะโวยวายของชายวัยกลางคนในชุดเสื้อขาวประหนึ่งคนปฏิบัติธรรมดังมาจากระเบียงบ้านที่ติดกัน

คิ้วของคุณใสกระตุกด้วยความหงุดหงิด ชายหนุ่มพยายามทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของผู้เป็นพ่อ หันกลับมาสนใจต้นคอขาวที่น่าฝากรอยแดงทิ้งไว้อีกครั้ง

"แกจะแกล้งมนต์อีกแล้วใช่ไหมไอ้เด็กนิสัยไม่ดี ฉันรู้นะเว้ย!"

ช่วยด้วยครับคุณลุง!

น้ำมนต์อยากร้องขอความช่วยเหลือใจจะขาด แต่หากเขาเผลออ้าปากตอนนี้ เสียงที่เปล่งออกมา คงเป็นเสียงครวญครางที่ชวนให้เข้าใจผิดเป็นแน่

ถ้าต้องให้คุณลุงมาเห็นสิ่งที่ลูกชายของท่านกำลังทำ น้ำมนต์ยอมถูกกลั่นแกล้งโดยไม่ปริปากร้องเสียยังดีกว่า

“ออกมานะไอ้ลูกหมา!”

คุณใสเริ่มหมดความอดทน เขาปิดหูน้ำมนต์เอาไว้เพื่อไม่ให้ได้ยินคำหยาบคายที่เขากำลังจะพูด

"เงียบไปเลยตาแก่ จะแหกปากเสียงดังทำไม หนวกหูเฟ้ย!" คุณใสตะโกนโต้ตอบ

"กล้าสวนฉันเหรอไอ้ลูกไม่รักดี! แกไปบ้านนั้นเพราะจะไปแกล้งอะไรมนต์อีกใช่ไหม ไสก้นกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!...ได้ยินไหมไอ้ใส"

"บ้านที่มีแต่ตาแก่ชุดขาวเดินเพ่นพ่านใครมันจะไปอยากกลับ!"

สองพ่อลูกยังคงตะโกนโต้เถียงกันโดยไม่มีฝ่ายใดยอมถอย

"นี่แกด่าพ่อตัวเองงั้นเหรอ ไอ้ ไอ้...!"

"ทำไม! ที่ป๊ายังหาเรื่องทะเลาะทุกวัน แถมฝีมือทำอาหารก็ห่วยแตก บ้านแบบนั้นฉันไม่อยากอยู่หรอก!"

"ดี! งั้นคืนนี้แกไม่ต้องเข้าบ้านเลยนะไอ้ลูกเป็ด!"

สิ้นคำพูดของคนเป็นพ่อ ห่อผ้าเน่าๆ ที่อัดแน่นไปด้วยเสื้อ ชุด ชั้นใน และของใช้ส่วนตัวก็ถูกโยนมายังระเบียงห้องของน้ำมนต์

"จะไปไหนก็ไปไอ้เด็กแก่แดด!"

คนเป็นพ่อตะโกนทิ้งท้าย ซึ่งคุณใสหาได้สะทกสะท้านที่ถูกไล่ออกจากบ้าน กลับกัน เขาก้มลงมองน้ำมนต์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

"ถูกไล่ออกจากบ้านซะแล้วแฮะ ทำไงดีน้า~"

แววตาระยิบระยับที่แฝงไปด้วยความกดดันมหาศาลถูกเพ่งเล็งมาที่น้ำมนต์ราวกับปืนเลเซอร์ บีบบังคับให้ร่างเล็กยอมเอ่ยคำอนุญาตออกมา

"กะ ก็ได้ นายอยู่ที่นี่..."

"โอ้! อะไรนะ นายให้ฉันค้างด้วยเหรอ ใจดีจุงเบย ไม่เหมือนตาแก่บางคนไล่ลูกชายตัวเองออกจากบ้าน!"

คุณใสพูดกึ่งตะโกน จงใจให้พ่อของตนได้ยิน

ทันใดนั้นเสียงสับขาวิ่งขึ้นบันไดจากบ้านข้างๆ ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงทุบกำแพงอย่างหัวเสียของชายชุดขาว

"ฉันถอนคำพูด! แกกลับมาเดี๋ยวนี้!"

เหมือนตอนนี้คนเป็นพ่อจะรู้ตัวแล้วว่าตนถูกลูกชายตัวดีหลอกใช้ เพื่อที่คุณใสจะได้มีโอกาสอยู่กับน้ำมนต์มากยิ่งขึ้น

"ได้ไงกัน...อันที่จริงฉันก็เป็นลูกเลวอย่างที่ป๊าว่า เมื่อครู่ยังพูดจาหยาบคายใส่ป๊าอีก ใช้ไม่ได้ๆ ป๊าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวลูกป๊าจะสำนึกผิดอยู่บ้านข้างๆ นี่อย่างดีเลย"

"แกวางแผนไว้แล้วสินะ!!!"

หลังจากนั้นคุณใสก็แทบไม่สนใจผู้เป็นพ่อที่ตะกุยกำแพงบ้านอย่างเอาเป็นเอาตายอีกเลย คุณใสล้มตัวลงนอนทับร่างเล็กพลางยกมือขึ้นเท้าคางอย่างใจเย็น

"คืนนี้ เค้าขอนอนด้วยคนนะครับ"

น้ำมนต์อยากจะบ้าตาย..