รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สองวันหลังจากนั้นทุกคนต่างทำงานที่ได้รับมอบหมายอย่างมีความสุข เนื่องจากมนุษย์หน้าตึงอย่างคุณใส ได้ผันตัวไปเป็นพุดเดิ้ลตามติดน้ำมนต์เป็นที่เรียบร้อย
เวลาปกติคุณใสก็ตามติดน้ำมนต์ไม่ห่างอยู่แล้ว พอได้สถานะเป็นคนรัก เขายิ่งเพิ่มระดับความใกล้ชิดเข้าไปอีก
น้ำมนต์ยังไม่ได้บอกเรื่องความสัมพันธ์ของตนกับคุณใสให้ยูเรและซีซวนรู้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะน้ำมนต์เพิ่งรู้จักทั้งสองได้ไม่นาน เขาคิดว่าคุณใสที่รู้จักยูเรมานานควรเป็นคนบอกเรื่องนี้กับญาติของตนด้วยตัวเองมากกว่า ทว่าคุณใสดูไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเสียเท่าไร การกระทำของคุณใสชัดเจนขึ้นจนไม่จำเป็นต้องปริปากพูดหรืออธิบายใดๆ คนรอบตัวก็น่าจะรับรู้และเข้าใจได้
ในวันสุดท้ายของการทำงาน น้ำมนต์กำลังเก็บของใช้ส่วนตัวเข้ากระเป๋าในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มขนของไปที่รถ
ตลอดหลายวันมานี้ วิญญาณคุณลุงคุณป้าเจ้าของบ้านยังคงปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะหลังจากที่คุณใสปิดไฟ ผีคุณป้ามักจะชอบมาวนเวียนอยู่รอบที่นอนของน้ำมนต์ เธอไม่ได้ทำอันตราย เพียงแต่จ้องมองเด็กหนุ่มทั้งสองเท่านั้น คุณใสยืนยันว่าคุณป้าชอบทำหน้าตาน่ากลัว ให้น้ำมนต์กอดคุณใสแน่นๆ แต่ก็มีแวบหนึ่งที่น้ำมนต์เหลือบเห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้าของคุณป้า...เธอดูเหมือน กำลังฟิน...
น้ำมนต์เก็บกระเป๋าเรียบร้อย เขาลุกขึ้นยืนแล้วหันไปทางโซฟา ร่างทั้งสองของเจ้าของบ้านยังคงแอบอิงกันอยู่ที่เดิม แม้น้ำมนต์ยังมีอาการขาสั่นอยู่บ้าง แต่ก็รู้สึกขอบคุณสองสามีภรรยาผู้ล่วงลับคู่นี้ที่ทำให้มุมมองเกี่ยวกับวิญญาณของน้ำมนต์ค่อยๆ เปลี่ยนไป
"ขอบคุณสำหรับที่พัก ผมกลับก่อนนะครับ" น้ำมนต์เอ่ยก่อนจะหันหลังเดินผ่านประตูเพื่อไปรวมตัวกับคนอื่นๆ หน้าบ้านพัก
ระหว่างทางลงบันได น้ำมนต์พบยูเรที่เดินสวนขึ้นมา
"ลืมของหรือยู?"
"อื้ม! นาฬิกาของฉันน่ะ สงสัยคงลืมไว้หน้าห้องน้ำ"
"งั้น...เจอกันที่รถนะ"
ไม่ทันที่น้ำมนต์จะได้ก้าวเดินต่อ ยูเรก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"นายสองคน...หมายถึงกับคุณใสน่ะ คบกันแล้วเหรอ?"
คำถามตรงประเด็นของยูเรราวกับกระแสไฟฟ้าล้านโวลต์ที่ช็อตร่างผอมแห้งของน้ำมนต์จนไหม้เกรียม
เดิมน้ำมนต์ก็ไม่ได้คิดที่จะปกปิด เพียงแต่ไม่คิดว่าจะถูกถามออกมาตรงๆ เช่นนี้
ทำอย่างไรดี น้ำมนต์สมองว่างเปล่า ไม่มีคำตอบใดผุดเข้ามาในหัวเลย
"เอ่อ...ใช่"
ถามตรงๆ มา ก็ควรที่จะตอบตรงๆ กลับ
ยูเรไม่มีท่าทีแปลกใจ ตื่นเต้น หรือแม้แต่แสดงความยินดี รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ไม่รู้ทำไม...น้ำมนต์ไม่รู้สึกถึงความจริงใจจากรอยยิ้มนั้นเลย
"งั้นเหรอ ดีแล้วล่ะ...ฉันไปนะ"
ยูเรเดินจากไป ทิ้งให้น้ำมนต์สับสนมึนงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของยูเร จวบจนทุกคนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุด น้ำมนต์จึงมีโอกาสได้จัดการงานบ้านงานเรือนหลังจากที่ไม่อยู่ดูแลทำความสะอาดไปหลายวัน แสงแดดเที่ยงวันแรงกำลังดี น้ำมนต์จึงถือโอกาสซักและตากผ้าเสียเลย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปพร้อมๆ กับแสงแดด บัดนี้ ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหนา ดูเหมือนกับพายุกำลังจะเข้า
ทำไมเวลาที่เราซักผ้า ฝนมักจะตกทุกทีเลยนะ
แม้ระเบียงบ้านของน้ำมนต์จะมีหลังคา แต่คงใช้เวลาเป็นวันกว่าผ้าจะแห้ง และมันคงส่งกลิ่นอับเป็นแน่
น้ำมนต์รีบหยิบผ้ากองโตใส่ไม้แขวนแข่งกับลมฝน ในใจรู้สึกห่อเหี่ยวยิ่งกว่ากิ่งไม้ที่พัดโอนไปตามแรงลม
เสื้อทุกตัวแขวนอยู่บนราวตากพอดิบพอดีกับเม็ดฝนที่โปรยปราย
ขณะจัดเรียงเสื้อผ้าเว้นระยะห่างให้พอดีบนราวแขวน น้ำมนต์ก็เผลอนึกถึงคำพูดของยูเร ตลอดการเดินทางกลับ ยูเรดูนิ่งเงียบไป เมื่อถึงคอนโด เขาก็ไม่แม้แต่จะหันมามองน้ำมนต์ด้วยซ้ำ
บางทีเขาอาจจะเหนื่อยเกินไป...
น้ำมนต์พยายามบอกตัวเองเช่นนั้น ทว่าใบหน้าที่แสนเย็นชาของยูเรยังคงฝังลึกอยู่ในหัวสมอง
ระหว่างที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย สายตาของน้ำมนต์ก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งที่หน้าประตูรั้วบ้าน ชายเสื้อที่ราวตากโบกพัดไปตามสายลมแรง ตัดผ่านการมองเห็น ทำให้น้ำมนต์มองสิ่งนั้นได้ไม่ชัดเจน
น้ำมนต์แหวกราวตากผ้าเพื่อดูให้แน่ชัด
ภาพแรกที่เห็นทำเอาน้ำมนต์ขนแขนลุกชูชัน
วิญญาณหญิงสาวตนหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้น เธอมีผมดำขลับที่ยุ่งเหยิงยาวจนถึงหลัง เสื้อที่สวมมีลักษณะคล้ายชุดนอนกระโปรงยาวสีแดงเลือดหมู สิ่งที่ทำให้น้ำมนต์สะดุดตาที่สุด คือสีผิวที่เป็นสีดำทะมึน ราวกับว่าร่างกายถูกสร้างขึ้นมาจากหมอกควันสีดำ นัยน์ตาสีแดงจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มดูไม่เป็นมิตรและประสงค์ร้ายอย่างชัดเจน
น้ำมนต์ไม่เคยเห็นดวงวิญญาณที่มีรูปร่างชัดเจนและเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นขนาดนี้มาก่อน เหล่าดวงวิญญาณทั้งหลายที่น้ำมนต์เคยพบเจอมาดูน่ารักไปเลยเมื่อเทียบกับหญิงสาวคนนี้
ด้วยความกลัว น้ำมนต์พยายามจะก้าวถอยหลังเพื่อหนีกลับเข้าไปในห้อง ทว่าทุกครั้งที่เขาออกแรงก้าวขา ร่างของเขากลับเคลื่อนไปข้างหน้าเข้าใกล้รั้วระเบียงมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับถูกสายตาแดงฉานคู่นั้นดึงดูดให้เข้าไปหา
แบบนี้ไม่ดีแล้ว...ถ้ายังเดินต่อไปน้ำมนต์ต้องตกลงไปแน่!
หมับ!
มือคู่หนึ่งฉุดแขนน้ำมนต์เอาไว้ ดึงร่างของเขาถอยห่างจากระเบียง
"อันตรายนะ! เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก!" เสียงของคุณใสทำให้น้ำมนต์ได้สติ
เป็นโชคดีของน้ำมนต์ที่คุณใสแอบปีนระเบียงข้ามมาพอดิบพอดี จึงถูกช่วยเอาไว้ได้ทัน
ร่างเล็กสั่นสะท้าน ดวงตาเบิกโพลง หายใจเข้าออกหอบถี่ คุณใสสังเกตเห็นความผิดปกติ ที่ผ่านมาน้ำมนต์จะแสดงอาการหวาดกลัวเช่นนี้แค่ตอนที่สัมผัสได้ถึงดวงวิญญาณ ถึงกระนั้นคุณใสก็ไม่เคยเห็นคนรักของตนตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน
"เกิดอะไรขึ้น?" คุณใสเอ่ยพลางโอบกอดร่างเล็กเอาไว้
"เมื่อกี้ เมื่อกี้ฉันเห็นผู้หญิง แต่เธอดู..."
น่าสยดสยอง
"เธออยู่ตรงไหน"
น้ำมนต์ชี้นิ้ว
คุณใสประคองร่างเล็กให้นั่งลง แล้วเดินไปดูหน้าระเบียง แน่นอนว่าเขาไม่เห็นอะไร ยามนี้สายฝนเริ่มโปรยปราย ลมก็แรงขึ้นเรื่อยๆ คุณใสไม่รู้สึกถึงดวงวิญญาณตนใดในละแวกนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงเชื่อมั่นในคำพูดของคนรัก น้ำมนต์ไม่ใช่เด็กขี้โกหก อีกทั้งไม่มีทางเอาเรื่องวิญญาณมาพูดเล่น
"ไปแล้วล่ะ" คุณใสเอ่ย ก้มลงไปช้อนตัวน้ำมนต์ขึ้นอย่างทะนุถนอม "เข้าข้างในกันเถอะ"
คุณใสวางร่างของคนรักลงบนเตียงนอนก่อนจะลงไปนำน้ำและผ้าเย็นมาให้น้ำมนต์ คุณใสถือโอกาสสำรวจบ้าน ทว่าไม่พบสิ่งผิดปกติหรืออะไรก็ตามที่เป็นอันตรายต่อคนรักของเขา ก่อนกลับขึ้นไปชั้นบน คุณใสแอบหยิบขนมในตู้เย็นที่เขาแอบพ่อมาฝากไว้บ้านน้ำมนต์ขึ้นไปด้วย เผื่อว่ามันจะทำให้น้ำมนต์อาการดีขึ้น
เมื่อกลับมาที่ห้อง คุณใสก็พบว่าน้ำมนต์กำลังวาดอะไรบางอย่างลงในเศษกระดาษอย่างขะมักเขม้น โดยสลับใช้ดินสอสีสีดำและสีแดง
ไม่นานร่างเล็กก็ยื่นภาพวาดของตนให้คุณใส
มันคือภาพของหญิงสาวในชุดนอนสีแดงที่มีผิวดำสนิทน่ากลัว คุณใสเข้าใจได้ในทันทีว่ามันคือสิ่งที่น้ำมนต์เห็น ภาพลักษณ์เช่นนี้ไม่แปลกใจที่น้ำมนต์จะหวาดกลัวแทบเสียสติ ขนาดคนกล้าหาญที่มีเรื่องกับผีหน้าปากซอยมาแล้วไม่รู้กี่ตนอย่างคุณใสยังรู้สึกขนลุกขนพอง เมื่อได้จ้องมองภาพที่น้ำมนต์วาดขึ้น
"วันนี้ฉันอยู่กับนายดีกว่า" คุณใสเสนอและเก็บภาพใส่กระเป๋ากางเกง
น้ำมนต์ยกแก้วน้ำเย็นขึ้นดื่มทั้งที่มือยังคงสั่นเทา คุณใสย่อตัวนั่งลงตรงหน้า ฉีกซองช็อกโกแลตแท่งป้อนน้ำมนต์
"ไม่ต้องกลัว ฉันยังอยู่...ใครหน้าไหนก็ทำอะไรนายไม่ได้ ต่อให้เป็นวิญญาณก็เถอะ"
น้ำเสียงที่ทั้งสุขุมและหนักแน่นของคุณใสทำให้น้ำมนต์ผ่อนคลาย ร่างเล็กวางห่อขนมลงแล้วขยับตัวเข้าไปกอดคุณใส ซุกใบหน้าลงกับอกแข็งแกร่ง อ้อมกอดของคุณใสทำให้ความกลัวของน้ำมนต์เบาบางลง ราวกับยาระงับประสาทชั้นดี
"เหมือนจะดีขึ้นแล้ว" น้ำมนต์พูดเสียงอู้อี้
ร่างสูงลูบศีรษะคนรักของตนเพื่อปลอบโยน รูปภาพในกระเป๋ากางเกงหนักอึ้งราวกับก้อนหิน แม้ไม่เคยเห็นวิญญาณตนนี้มาก่อน แต่คุณใสกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
วิญญาณสาวในชุดนอนสีแดงตนนั้น...เป็นใครกันแน่