"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี - บทที่ 16 ความฝัน โดย เห็ดสีน้ำเงิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ,พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พล็อตสร้างกระแส,feel good,#BL

รายละเอียด

"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

ผู้แต่ง

เห็ดสีน้ำเงิน

เรื่องย่อ

น้ำมนต์และคุณใสสามารมองเห็นวิญญาณได้เหมือนกัน ทว่าคุณใสนั้นไม่เคยกลัวสิ่งใด ต่างจากน้ำมนต์ที่หวาดกลัวไปเสียทุกอย่าง ทั้งสองเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่มีความสัมพันธ์กันแบบ คนหนึ่งแกล้ง และอีกคนถูกแกล้ง วันหนึ่งน้ำมนต์ถูกดวงวิญญาณจู่โจม คุณใสที่เข้ามาช่วยจึงยื่นข้อเสนอบางอย่างแลกกับความช่วยเหลือ
"อะไรนะ อยากให้ช่วยไล่วิญญาณพวกนั้นไปเหรอ...ได้ งั้น...จูบฉันสิ"

สารบัญ

Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 1 น้ำมนต์กับคุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 2 ข้อตกลงของคนขี้แกล้ง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 3 หลินซีผู้รู้เห็นทุกสิ่งอย่าง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 4 กลับบ้านด้วยกันเถอะ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 5 นอนด้วยคน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 6 ชอบฉันหรือเปล่า?,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 7 พี่ชายของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 8 ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองหน่อยสิ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 9 ควบคุมตัวเองไม่ได้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 10 คุณป้าของหลินซีเป็นสาววาย,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 11 พูด!!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 12 สารภาพ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 13 เพราะว่า...ชอบ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 14 ผีสาวในชุดนอนสีแดง,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 15 เพศศึกษากับอาจารย์คุณใส,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 16 ความฝัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 17 ทดสอบหลังเรียน 1,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 18 ทดสอบหลังเรียน 2 ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 19 เหมือนถูกด่า,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 20 แฟนของหลินซี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 21 ดูแลคนไข้,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 22 หลังจากนั้นสามวัน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 23 แม่รู้แม่เห็น,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 24 แค่ทำเงียบๆ ก็โอเคแล้ว,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 25 จ้องมาจ้องกลับ,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 26 คำเตือนจากคุณลุงถือไม้กวาด,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 27 พนักงานปากแซ่บคนนั้นคือ...,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 28 มีคนอกหัก,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 29 ร้าวฉาน,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 30 ฉันรู้อยู่แล้ว!,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 31 หนี,Soul kiss me now จูบวันละหนกับนายคนเห็นผี-บทที่ 32 ภาพถ่ายของเรา

เนื้อหา

บทที่ 16 ความฝัน

หลินซีคิดเสมอว่าหากเธอสามารถทำหน้าที่ต้นหนที่ดี ผลักดันให้เรือรักของเพื่อนทั้งสองไปถึงฝั่งฝันได้ เธอคงไม่ต้องคอยรับมือกับอาการพาลและเลือดร้อนของคุณใสอีก แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิด...

เช้านี้หลินซีตื่นขึ้นเพราะเสียงข้อความที่เด้งรัวๆ ราวกับมีเหตุด่วนเหตุร้าย ไม่ก็มีใครเสียชีวิต

ทว่าเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เธอก็ต้องพบกับรูปคู่ของเพื่อนทั้งสองที่นอนอยู่ข้างกันบนเตียง ใบหน้าของน้ำมนต์ดูทรมานเหมือนกับว่ากำลังฝันร้าย ส่วนคุณใสก็ยิ้มเยาะใส่กล้องราวกับผู้ชนะ

หลินซีคุ้นชินกับพฤติกรรมคลั่งรักของเพื่อนคนนี้นานแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณใสส่งรูปความน่ารักของน้ำมนต์มาให้เธอดู เหตุที่คุณใสทำเช่นนั้น คงเพราะต้องการอวดคนรักของตน ไม่ก็คงกำลังแสดงความเป็นเจ้าของอย่างออกนอกหน้า

...เอาที่สบายใจแล้วกัน...

เห็นเพื่อนสองคนมีความสุข หลินซีก็มีความสุขไปด้วย

วันนี้พี่ชายของเธอไม่อยู่ที่ห้อง เธอจึงตัดสินใจลงไปหามื้อเช้าที่ร้านสะดวกซื้อหน้าคอนโด ระหว่างทางบังเอิญเจอกับยูเรพอดิบพอดี

วันนี้เขาแต่งตัวค่อนข้างสบายกว่าปกติ ส่วนมากยูเรจะชอบแต่งกายเรียบร้อย และเซตผมดูดีอยู่เสมอ วันนี้กลับใส่เพียงเสื้อยืดและกางเกงยีนขาดๆ เผ้าผมยุ่งเหยิงเหมือนเพิ่งสระมาใหม่ๆ ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามปลายผม

ยูเรกำลังคุยสายกับใครบางคน ใบหน้าเคร่งเครียดต่างจากยูเรที่หลินซีรู้จัก

ก่อนวางสายยูเรตวาดบางอย่างใส่โทรศัพท์ก่อนหันกลับมาและพบหลินซียืนอยู่ข้างหลัง

"ไงหลิน ตื่นแต่เช้าเลยนะ" ใบหน้าเคร่งขรึมถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มสดใส

"นายก็เหมือนกัน"

หลินซีเหลือบมองโทรศัพท์ในมือยูเร รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของคนอื่น แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าหากเพื่อนของเธอต้องการความช่วยเหลือจะทำอย่างไร

"นาย...มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"

ยูเรส่ายศีรษะ "ไม่มีหรอก...ก็แค่เรื่องที่บ้านน่ะ แล้วนี่หลินจะไปไหนเหรอ?"

"หาของกิน...จะไปด้วยกันไหม?"

ยูเรพยักหน้า "เอาสิ"

เดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงร้านสะดวกซื้อ ละแวกคอนโดเต็มไปด้วยร้านอาหารตามสั่งมากมาย หลินซีเลือกที่จะซื้ออาหารกลับไปทานบนห้อง เพราะเธอยังมีงานอีกมากที่ต้องจัดการ บวกกับยูเรเองก็ต้องรีบไปทำงานพิเศษเช่นกัน

ระหว่างนั่งรออาหาร ยูเรหันมองไปยังคู่รักหญิงหญิงที่กำลังทานอาหาร พวกเธอผลัดกันถ่ายรูปอย่างมีความสุข

"น่ารักดีเนอะ" ยูเรพึมพำ

"อืม" หลินซีพยักหน้าเห็นด้วย

ทันใดนั้นแววตายูเรกลับค่อยๆ จืดจาง เขาหันมายิ้มให้หลินซี

"หลินคิดยังไงกับพวกรักเพศเดียวกันเหรอ?"

คำถามที่สามารถตอบได้หลายแง่มุมแบบนี้ หลินซีไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ จากที่สังเกตแม้ปากยูเรจะบอกว่าคู่รักสองคนนั้นน่ารัก แต่สีหน้ากลับตรงกันข้าม ต่างคนก็ต่างความคิด คำถามนี้จึงเหมือนการบังคับตอบเสียมากกว่า

หลินซีจะตอบเอาใจเพื่อน หรือตอบตามความคิดตัวเอง

มันแน่นอนอยู่แล้ว...

"ฉันไม่เคยมองเรื่องเพศเป็นเส้นแบ่งแยกความแตกต่างของคู่รักหรอกนะ จะหญิงหรือชาย ทุกคนก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง และฉันหมายถึงนิสัย ไม่ใช่เพศ ขอแค่คนที่อยู่ด้วยมีความสุข ฉันว่านั่นก็เป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบแล้วล่ะ"

ยูเรยิ้มอย่างพอใจ

"หลินเนี่ยเป็นคนที่ใจกว้างจังเลยนะ"

หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีก กระทั่งแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตน



เมื่อคืนน้ำมนต์ฝันร้าย

สมัยเด็กน้ำมนต์มักฝันถึงเรื่องราวเดิมๆ เป็นภาพที่ไม่ปะติดปะต่อ ถูกฉายสลับไปมาในสมอง ร่างเล็กหมุนคว้างราวกับอยู่ใจกลางพายุลูกใหญ่ สายฝนสาดกระโชก เศษกระจกรถที่แตกเป็นเสี่ยงๆ กระจายรอบตัว ร่างหนึ่งโถมเข้าหาน้ำมนต์ ฝ่ามือขนาดใหญ่บดบังทัศนวิสัยการมองเห็นของเขาจนหมดสิ้น เหลือเพียงความมืดมิดและว่างเปล่า

โดยปกติแล้ว น้ำมนต์จะสะดุ้งตื่นหลังจากถูกทิ้งไว้ในความมืด ทว่าครั้งนี้ต่างออกไป บรรยากาศรอบตัวแปรเปลี่ยนความมืดค่อยๆ สลายกลายเป็นประตูเชื่อมไปยังสถานที่อื่น ระเบียงบ้านอันแสนคุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้า สภาพอากาศย่ำแย่ชวนให้น้ำมนต์นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้

แม้จะเป็นในความฝัน น้ำมนต์ก็ยังพยายามก้าวถอยหลัง การขยับขาแต่ละครั้งช่างยากลำบากประหนึ่งขาจมในดินโคลนสูง

และแล้วสิ่งที่น้ำมนต์กลัวที่สุดก็ปรากฏตัว

...หญิงสาวในชุดนอนสีแดง...

ครั้งนี้น้ำมนต์มองเห็นรูปร่างของเธอได้อย่างชัดเจน คำว่าน่ากลัวคงน้อยไปที่จะบรรยายรูปลักษณ์ของเธอ หญิงสาวมีแววตาที่ดุร้าย เธอทั้งดูโกรธแค้น ริษยา และทรมานในเวลาเดียวกัน

เธอยังคงยืนที่เดิม แสยะยิ้มทั้งที่ดวงตาเบิกโพลง มือสีดำค่อยๆ ยกขึ้นจับที่ประตูรั้ว

เธอพยายามจะเข้ามา...

น้ำมนต์กลัวจนอยากจะร้องไห้ ในตอนนี้ขาของเขาขยับไปไหนไม่ได้ราวกับถูกตรึงเอาไว้ด้วยพันธนาการที่มองไม่เห็น ชายหนุ่มตะโกนร้องเรียกชื่อคนรักเพื่อขอความช่วยเหลือ ทว่าไม่มีแม้เสียงตอบรับ

ในตอนที่หันหลังมองหาทางหนี เขาก็พบว่าที่ด้านหลังมีอีกร่างหนึ่งปรากฏอยู่ ชายไร้หน้าคนนั้นที่คอยตามติดน้ำมนต์มาตั้งแต่จำความได้

สถานการณ์ที่ถูกล้อมหน้าล้อมหลังทำให้น้ำมนต์แทบสติแตก

หญิงสาวในชุดนอนสีแดงเขย่าประตูรั้วถี่ ส่วนชายไร้หน้าก็เอื้อมมือมาหาน้ำมนต์

เด็กหนุ่มทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ทรุดลงกับพื้น หลับตา ยกมือขึ้นปิดหู ไม่ต้องการรับรู้อะไรอีกต่อไป ปลายนิ้วของชายไร้หน้าเกือบจะสัมผัสไหล่ของร่างเล็กที่กำลังหวาดกลัว โชคดีที่คุณใสปลุกน้ำมนต์ให้ตื่นจากความฝันเสียก่อน



"ตื่นเถอะ! น้ำมนต์เป็นอะไรไป!"

หลังจากที่คุณใสถ่ายรูปคู่รักของตนส่งไปอวดเพื่อนสาวเป็นที่เรียบร้อย เขาก็พบว่าคนในอ้อมกอดกำลังตัวสั่น คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ใบหน้าดูทรมานเกินจะบรรยาย ทว่าดวงตากลับยังปิดสนิท

คุณใสพยายามเขย่าตัวคนรักแต่ก็ไม่เป็นผล น้ำมนต์ส่งเสียงครางด้วยความหวาดกลัวราวกับกำลังฝันร้าย

สุดท้ายเขาจึงต้องตะโกนเสียงดัง

ในที่สุดร่างเล็กก็สะดุ้งตื่น

น้ำมนต์หอบหายใจถี่เพื่อโกยอากาศเข้าปอดอย่างยากลำบาก นัยน์ตาสั่นไหวเพราะความกลัว บนใบหน้าและร่างกายชุ่มไปด้วยเหงื่อ

"คะ คุณใส คุณใส"

น้ำมนต์โผเข้ากอดชายตรงหน้า

"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะ ฉันอยู่ตรงนี้"

ฝ่ามือหนาลูบปลอบขวัญคนรักของตน

ไม่บ่อยที่น้ำมนต์จะมีปฏิกิริยารุนแรงกับความฝัน แต่ครั้งนี้มันบั่นทอนจิตใจของเขาพอสมควร

"โอ๋ๆ นะคนดี ไม่มีอะไรแล้ว...นายปลอดภัยแล้ว"

ผ่านไปหลายนาทีกว่าน้ำมนต์จะได้สติ คุณใสยังคงไม่คลายอ้อมกอดของตน คนตัวเล็กค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ขอบตาของเขาเป็นสีแดงก่ำประหนึ่งร้องไห้มาทั้งวัน

"ดีขึ้นไหม?"

คุณใสเอ่ยถามขณะใช้นิ้วมือปาดเส้นผมและเม็ดเหงื่อออกจากใบหน้าของร่างเล็ก แล้วจึงก้มลงจุมพิตที่หน้าผากขาว ในใจภาวนา หากสามารถแบ่งความกล้า และความโชคดีของตนให้คนรักที่กำลังหวาดกลัวได้ เขาขอยกให้ทั้งหมด...ทำเช่นไรก็ได้ ให้เด็กคนนี้ไม่ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายหรือสิ่งน่ากลัวอีกต่อไป

"ดีขึ้นแล้ว..." ใบหน้าเล็กดูผ่อนคลาย "ขอบคุณนะ..."

"อยากเล่าไหมว่าเกิดอะไรขึ้น" คุณใสถามอย่างระมัดระวัง รู้ดีว่าการคาดคั้นเอาคำตอบจากคนที่เพิ่งพบเจอสถานการณ์เลวร้าย อาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของอีกฝ่าย

ผ่านไปสักพักน้ำมนต์ก็ยอมเล่าเรื่องราวในความฝันให้คุณใสฟัง

ไม่แปลกใจที่น้ำมนต์จะแสดงท่าทีตื่นกลัว คุณใสพยายามนึกเรื่องราวก่อนหน้านี้ ทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุใดผู้หญิงคนนั้นถึงตามติดน้ำมนต์ และทำไมตัวเขาไม่เคยเห็นเธอเลยสักครั้ง หากว่าพวกเขาไม่ได้มีความสามารถในการสื่อสารกับวิญญาณ เขาคงมองว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงความเครียดที่ก่อร่างขึ้นมาเป็นตัวตน ทว่าในฝันนั้นไม่ได้มีเพียงหญิงในชุดนอนสีแดง แต่ยังมีชายไร้หน้าซึ่งคุณใสเคยเห็นมาก่อน แม้จะไม่บ่อยนัก แต่นั่นก็ทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าคนรักของเขาไม่ได้กำลังโกหกหรือคิดไปเองอย่างแน่นอน

น้ำมนต์จ้องมองใบหน้าเคร่งเครียดจริงจังของคุณใส รู้สึกตัวเองโชคดีเหลือเกินที่มีชายคนนี้อยู่ข้างๆ ทุกครั้งที่น้ำมนต์ฝันร้าย เขาจะสะดุ้งตื่นขึ้นมาและนั่งร้องไห้อยู่คนเดียวนานสองนานกว่าจะได้สติ วันนี้ที่เขาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของคนรัก ได้รับคำปลอบโยน และความเชื่อใจอย่างเต็มเปี่ยม แม้ลึกๆ แล้วเขาไม่อยากเอาความกังวลของตนเองไปยัดเยียดให้คุณใส แต่ครึ่งหนึ่งของจิตใจก็ต้องการให้ชายคนนี้ได้รับรู้ เข้าใจ และช่วยหาทางแก้ปัญหาไปด้วยกัน

น้ำมนต์ขยับเข้ามาใกล้และโอบต้นคอของคุณใสลง ริมฝีปากของพวกเขาสัมผัสกันอย่างนุ่มนวลและแผ่วเบา

คนถูกร่างเล็กจู่โจม ปรับจูนสมองแทบไม่ทัน นิ่งค้างไปสักพัก เป็นครั้งแรกที่น้ำมนต์เป็นฝ่ายรุกเข้าหาก่อน ถ้าไม่นับรวมกับก่อนหน้านี้ที่คุณใสบังคับให้เป็นคนเริ่ม มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง ให้ความรู้สึกหวานซึ้งและดูดดื่มมากกว่ากันหลายสิบเท่า

แน่นอนว่าคุณใสให้ความร่วมมือแต่โดยดี เขาโอบกอดคนรักอย่างทะนุถนอม ค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างกายนุ่มนิ่มของอีกฝ่าย โดยที่ริมฝีปากก็ยังคงรุกล้ำเข้าไป แนบชิดขึ้นทีละน้อย หากเป็นเมื่อก่อน พวกเขาคงมาได้ไกลสุดเพียงเท่านี้ น้ำมนต์มักจะผละออกเมื่อสัมผัสได้ว่ากำลังจะถูกคุกคามจากความกระหายของคุณใส

...ครั้งนี้ต่างออกไป...

ไม่เพียงไม่ต่อต้าน น้ำมนต์โอนอ่อนตามการเคลื่อนไหว ไม่ว่าคุณใสกอดจูบลูบคลำเพียงใด มีเพียงเสียงหอบหายใจ และเสียงครางต่ำๆ ตอบรับกลับมาอย่างเย้ายวน

คุณใสค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกมาเพื่อพักหายใจหายคอ ใบหน้ารูปไข่ของคนตัวเล็กกลายเป็นสีแดง เปลือกตาโค้งมนและสีหน้าท่าทางที่แสดงออกทำให้คุณใสแทบคลั่ง

...เผลอคิดว่าเป็นคนใสซื่อมาตั้งนาน...

"ถ้ามากกว่านี้ ฉันจะหยุดไม่ได้แล้วนะ..." คุณใสกระซิบ

คำเตือนสุดท้ายนี้ ไม่ได้มีผลต่อความมุ่งมั่นในสายตาร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย น้ำมนต์ถูไถใบหน้าไปกับฝ่ามือของคุณใส

เส้นความอดทนของร่างสูงขาดสะบั้น

คุณใสทวีการสัมผัสร่างกายของอีกฝ่าย และรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง เขาโอบร่างเล็กเข้ามาแนบชิด พรมจูบไปทั่วผิวกายเย็นเยียบ ทุกครั้งที่ริมฝีปากของเขาสัมผัสผิวกายคนตรงหน้า ร่างเล็กจะกระตุกเล็กน้อย แม้จะดูเก้ๆ กังๆ อยู่บ้าง แต่น้ำมนต์ก็ยังคงกอดคุณใสเอาไว้ ยอมรับในทุกๆ การกระทำของคนรักอย่างสนิทใจ

...ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบร้อน...

...วันนี้พวกเขายังมีเวลาอีกทั้งวัน...