กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นในรูปแบบคู่รักหนุ่มสาวแต่เพียงเท่านั้น ความรักมักมีหลากหลายรูปแบบ และความรักที่จะพูดถึงในเรื่องนี้นั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูก
เรื่องราวเกิดขึ้นครั้งที่โลกได้ถือกำเนิดเหล่ามังกรทั้งหกขึ้นมาเพื่อปกป้อง ในสมัยนั้นมนุษย์ให้ความเคารพและนับถือเหล่ามังกรประดุจดังเทพเจ้า เหล่ามังกรเป็นที่เกรงขามแก่เหล่ามนุษย์อย่างสูง แต่พอเวลาผ่านไปความเคารพเเปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังและหวาดกลัวต่อพลังมหาศาลของเหล่ามังกร มนุษย์จึงก่อสงครามขึ้นเพื่อหมายกำจัดเหล่ามังกรให้หมดไป
เมื่อสงครามได้อุบัติขึ้นและยืดเยื้อยาวนาน ผู้ปกป้องกลับกลายเป็นผู้ทำลายล้าง
จนกระทั่งวันหนึ่ง มนุษย์และมังกรได้กลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง ด้วยจุดประสงค์เพื่อจำกัดภัยอันตรายบางอย่างที่กำลังคุกคามโลก
ภัยพิบัติที่จะมาถึงไม่ได้อุบัติขึ้นบนโลกใบนี้เเต่มีที่มาจากพิภพอื่น เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและการคงอยู่ของโลกเป็นอย่างมาก
สงครามที่บังเกิดขึ้น ชื่อว่าสงครามเเห่งการกลืนกิน
เหล่ามังกรในสงครามนี้ต่างสูญเสียพอ ๆ กับเหล่ามนุษย์ ทุกชีวิตต่างบาดเจ็บล้มตายไปมาก และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน การโจมตีด้วยพลังอันมหาศาลของราชามังกรบดขยี้เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ในรัศมีของพลังที่ถูกปล่อยออกไป เมืองที่โดนลูกหลงเเห่งนั้นพังราบเป็นหน้ากลอง
เเต่สวรรค์ไม่ได้ใจร้าย ท่ามกลางสงครามและเพลิงไฟจากพลังของราชามังกร ทั้งที่ไม่น่าจะมีใครรอด แต่มีเด็กน้อยซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นราวสวรรค์เมตตา ราชามังกรเมื่อเห็นเด็กน้อยที่ร้องไห้ดั่งจะขาดใจ จึงแปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อจะได้เข้าไปดูเด็กน้อยใกล้ ๆ เขาหวังไม่ให้เด็กน้อยหวาดกลัว
"เด็กคนนี้เป็นผู้รอดชีวิตจากเพลิงเวทมหาศาลของข้าอย่างนั้นหรือนี่ เจ้าเองคงมีพลังเวทที่แข็งกล้าเช่นกันสินะ" ราชามังกรหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาในอ้อมแขน
"อุเเว้ ๆ ๆ เเว้...เเอ๊" เด็กน้อยยังคงแผดเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความตกใจและไม่คุ้นเคยในอ้อมกอดของราชาหนุ่ม
"เด็กน้อยข้าจะเลี้ยงเจ้าเอง เเต่ถ้าพลังเวทของเจ้ามากมายอย่างที่ข้าคาด มันอาจทำให้เจ้าได้ลาโลกนี้ไปก่อนที่เจ้าจะโตเป็นแน่ อ้า จริงด้วยสินะ ชื่อสำคัญมาก อืม...ซินเทียร์ ข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่า ซินเทียร์” ราชามังกรพูดกับเด็กน้อย “ในภาษามังกร ความหมายของมันคือ น้ำตามังกร เจ้าชอบหรือไม่ เจ้าหนูน้อย"
"เเอ้...ฮะ ๆ" แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ราชามังกรพูดนัก แต่เด็กน้อยก็เหมือนจะตอบรับชื่อที่ได้รับมา
"ชอบสินะเจ้าหนูน้อย" ราชามังกรเอ่ยถาม พลางยิ้มละไมให้เด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู
เมื่อราชามังกรทั้งหกต่างเเยกย้ายกันไปเพราะสงครามสงบลง ราชินีมังกรเเห่งกาลเวลานามว่า 'รินเนะ' ได้มาหา 'เอน' ราชามังกรผู้ที่รับเด็กน้อยไว้ในความดูแล ที่ถ้ำมังกรของเขา
"เอน ท่านจะเลี้ยงเด็กคนนี้ อย่างนั้นหรือ?" รินเนะเอ่ยถาม พลางจ้องมองเด็กที่นอนอยู่บนเบาะด้วยความสนใจ
"คงต้องอย่างนั้นเพื่อชดใช้บาปของเหล่ามังกร" เอนตอบกลับไป สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถย้อนคืนได้ พลังของเหล่ามังกรเข่นฆ่าผู้คน บาปที่ร่วมกันก่อ ตัวเขาแบกบาปที่เกือบทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์จนหมดสิ้นเอาไว้ แม้อันที่จริงเพียงตั้งใจแค่ป้องกันตัว ไม่ตั้งใจให้เรื่องราวรุนแรงดังเช่นที่ปรากฏขึ้น แต่เรื่องราวที่ทำลงไปก็ได้ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติแล้ว
"ก็แล้วแต่ท่านนะ มันเป็นการตัดสินใจของท่านเเล้ว" รินเนะไม่คิดจะขัดขวางการตัดสินใจของเอน หรือมังกรตนใด ทุกอย่างย่อมมีเหตุและผล บางครั้งเหตุผลที่ว่าคือกงล้อแห่งโชคชะตา
เด็กคนนี้ที่มาอยู่กับเอนก็เช่นกัน ชีวิตของนางคงถูกกำหนดให้ผูกพันขับเคลื่อนชีวิตของเอน
เมื่อวันเวลาผ่านล่วงเลยไป ผู้คนได้ลืมเหตุการณ์ครั้งเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์จนเกือบหมด เด็กทารกตัวน้อยได้กลายเป็นสาวน้อยที่มีหน้าตางดงามดังเทพธิดาลงมาจุติก็มิปาน ตอนนี้ซินเทียร์กำลังฝึกเวทมนต์อย่างขยันขันเเข็ง เเละเวทที่ราชามังกรฝึกให้คือเวทปราบมังกร
การฝึกดำเนินไปเพื่อสักวันหนึ่งนางจะได้ไปยังโลกภายนอกโดยราชามังกรจะได้ไม่ต้องห่วง เเม้การฝึกจะหนักและดูโหดร้ายเพียงใดซินเทียร์ก็พยายามอย่างเต็มที่
"ลมหายใจมังกรทมิฬ กระบวนท่ามังกรผ่าสวรรค์ เปลวเพลิงมังกรทมิฬ" ซินเทียร์ท่องมนต์คาถามหาเวทขณะที่ฝึกฝนไปด้วย
"พักได้แล้ว มากินข้าวก่อน" เอนตะโกนเรียกสาวน้อยให้หยุดพัก
"กินข้าวกันเถอะ ๆ หิวเเล้วนะ" รินเนะผู้หิวโหยจากการเป็นคู่ฝึกซ้อมให้ซินเทียร์พูดออกมาด้วยความดีใจ
"หิวก็มากินข้าวได้เเล้ว" เอนตะโกนเรียกอีกครั้ง
"มาแล้ว มาแล้ว ได้เวลากินข้าวเสียที กำลังหิวเลย" ซินเทียร์วิ่งไปหาเอนด้วยความดีใจ นางก็หิวพอ ๆ กับรินเนะนั่นแหละ
"กินเยอะ ๆ นะซินเทียร์ เจ้ายิ่งตัวเล็ก ๆ อยู่" เอนบอก
เด็กมนุษย์นี่ตัวเล็กจริง ๆ ทั้งที่เขาเลี้ยงด้วยอาหารชั้นเลิศทุกมื้อเลย
เอนรอจนทั้งสามได้รับประทานอาหารจนอิ่มแล้ว เขากำลังจะเปิดปากพูดคุยเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของซินเทียร์ เเต่กลับมีเเขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาอย่างกระทันหัน
ทุกคนต่างหันหน้าไปมองผู้ที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนผู้นั้นคือ ‘เมอริน’ หนึ่งในจอมเวทที่เเข็งเเกร่งที่สุดในยุคนี้ เมอรินเป็นเพื่อนกับเอน เเละการที่เขาต้องมาหาเอนอย่างกะทันหัน ก็ด้วยเรื่องเกี่ยวกับซินเทียร์
เมอรินทักทายราชามังกรด้วยความสนิท เเละทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นภาษามังกร ซินเทียร์แม้จะถูกเลี้ยงดูด้วยมังกร แต่เอนไม่ได้สอนภาษามังกรแก่นาง ซินเทียร์จึงได้แต่นั่งฟังเงียบ ๆ อย่างไม่เข้าใจ
"เพื่อน ไม่ได้เจอกันซะนานเลย ท่านสบายดีหรือไม่" เมอรินเอ่ยทักทายสหายสนิท
"สบายดี ว่าแต่ท่านเถอะ ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่อย่างนั้นรึ" เอนตอบกลับไป เขาไม่คิดว่าเมอรินเฒ่าจอมเวทจะมาหาเขาหากไม่มีเหตุอันใดสำคัญ
"ข้ามาเรื่องลูกสาวของท่านนั่นเเหละ ข้าจะเอานางเข้าโรงเรียนเวทมนต์ของราชาอาเธอร์" เมอรินตอบพลางหันหน้าไปมองเด็กสาว
"พอดีเลยข้าว่ากำลังจะพูดเรื่องนี้กับซินเทียร์อยู่พอดี" เอนตอบ เพราะก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับซินเทียร์พอดี
"ดีแล้วละท่าน เพราะยังไงซินเทียร์ควรได้ไปโรงเรียนแห่งนั้น" เมอรินเคยกลัวว่าราชาหนุ่มจะไม่ยอมให้ซินเทียร์ออกไปสู่โลกภายนอก
"เพราะว่าสักวันหนึ่งนางต้องออกไปผจญกับโลกกว้างเเละต้องอยู่กับเหล่ามนุษย์อยู่เเล้ว ข้าจะกักขังให้นางอยู่แต่ในถ้ำของข้าได้อย่างไร"
"ท่านคิดเช่นนั้นเองรึสหายข้า ข้ายินดีแทนนางยิ่งนัก" เมอรินรู้ว่าเอนรักและหวงแหนซินเทียร์ยิ่งนัก จอมเวทเฒ่าอย่างเขาจึงกลัวว่ามังกรหนุ่มจะไม่ปล่อยลูกสาวให้ไปเรียนรู้
"ซินเทียร์ ลูกสาวสุดที่รักของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้เวทอย่างอื่นที่เจ้าควรเรียนรู้" เอนเอ่ยกับซินเทียร์ที่นั่งเงียบ ๆ มาตั้งแต่ต้น
"นี่ท่านอยากให้ข้าไปเรียนเวทที่อื่นอย่างนั้นหรือคะ" ซินเทียร์ผูกพันกับเอนมาก จนไม่อยากถูกพรากจากเขาไปไหน
"ใช่แล้วละซินเทียร์ เจ้าจะได้เรียนรู้เรื่องสังคมมนุษย์ ไปดูโลกที่มันกว้างใหญ่กว่าถ้ำเล็ก ๆ ของข้า เจ้าจงไปกับเพื่อนของข้าเสีย" เอนออกคำสั่ง แม้จะยังไม่พร้อมที่จะให้เด็กสาวไปก็ตาม
"เดี๋ยวเจ้าค่อยตามไปทีหลังก็ได้เด็กน้อย มันยังไม่ใช่วันนี้หรอก" เมอรินแค่มาแจ้งข่าวให้ทราบ
เมอรินเองอยากให้ซินเทียร์ได้มีเวลาเรียนรู้เวทเพิ่มเติม และมีเวลาร่ำลาราชาหนุ่มเสียก่อน
"ซินเทียร์จะไปไหน ท่านจะส่งซินเทียร์ของข้าไปไหน" รินเนะผู้ที่ยังไม่พร้อมจะพลัดพรากจากซินเทียร์น้อย เอ่ยถามด้วยความร้อนรน
"ท่านเป็นอะไรของท่านรินเนะ ข้าแค่จะส่งนางไปโรงเรียนมหาเวทของท่านอาเธอร์" เอนหันไปตอบกับรินเนะ ผู้ซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาได้ยินสหายรักสองคนคุยกัน
"เเล้วถ้าซินเทียร์ไป ใครจะเล่นกับข้าล่ะ" แม้รินเนะพูดเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่ความจริงแล้วเป็นห่วงซินเทียร์อยู่ต่างหาก
"รินเนะ ท่านเป็นเด็กหรืออย่างไร” เอนเอ็ดรินเนะเพราะไม่ได้หยั่งถึงความในใจที่แท้จริงของนาง “ท่านเป็นถึงราชินีมังกรเชียวนะ"
"ไม่เอา ๆ ข้าไม่ให้ซินเทียร์ไป ถ้าข้าหยุดเรื่องนี้ไว้ไม่ได้ ข้าจะย้อนเวลากลับไป เเล้วเอาซินเทียร์มาเลี้ยงเองแต่แรก"
รินเนะทำท่างอแงเป็นเด็ก ๆ
"หยุดเลยนะรินเนะ" เมอรินและเอนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หลังจากนั้นความวุ่นว่ายก็ได้บังเกิดขึ้นเพราะต้องช่วยกันห้ามราชินีมังกรเเห่งกาลเวลาอย่างจ้าละหวั่น เพื่อหยุดนางไม่ให้ย้อนเวลากลับไป เพราะถ้านางทำจริงจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาอีกในภายหลัง แต่ไม่นานรินเนะก็สงบลงยอมรับการตัดสินใจของเอน
เมื่อเมอรินกลับไปเอนจึงได้พูดคุยกับซินเทียร์อีกครั้ง
เขาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้น เขาเล่าถึงโรงเรียนที่ซินเทียร์ต้องไป ใช้เวลาพูดคุยนานนับชั่วโมงกับนาง ให้ข้อมูลที่ทำให้นางวาดภาพถึงอนาคตของนางในโรงเรียนที่โลกภายนอก
เช้าวันต่อมา การฝึกของซินเทียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเคย
เวททุกเเขนงที่เคยฝึกฝน เวทมนต์ดราก้อนสเลเยอร์รวมไปถึงวิชาการต่อสู้ก็ยังถูกสอนต่อไปอย่างเข้มงวด ถึงวันแล้ววันเล่าซินเทียร์จะเหนื่อยล้าเเต่นางก็ยังยอมฝึกต่อไป เพื่อให้ตัวนางเองเเข็งเเกร่งยิ่งขึ้นทุกศาสตร์ แม้จะยากเพียงใดเเต่นางก็ยังตั้งใจอย่างขยันขันเเข็ง
เมื่อเวลาล่วงเลยไปนางก็เเข็งเเกร่งพอที่จะเข้าโรงเรียนได้
ทางด้านราชามังกร ขณะที่ฝึกสอนนาง เขาเองได้คิดถึงอาวุธที่ต้องการมอบเป็นของขวัญให้กับซินเทียร์
"ท่านราชามังกร" โมน่าและไมอาเอ่ยทักทายราชาผู้ยิ่งใหญ่
สองพี่น้อง คือช่างทำอาวุธที่เอนตั้งใจใช้งาน
"มาเเล้วอย่างนั้นรึ" ราชาหนุ่มหันไปมองสองพี่น้อง
"ขอรับ/เจ้าค่ะ" ทั้งสองขานรับพร้อมกัน
"ข้ามีงานให้เจ้าไปทำ ข้าอยากให้พวกเจ้าเอาเกล็ดของข้าไปทำเป็นอาวุธ" การดึงเกล็ดมังกรออกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันทั้งเจ็บปวดและทรมาน ถึงแม้ซินเทียร์จะไม่ใช่สายเลือดเเท้ ๆ ของเขา เเต่เขาก็รักและเอ็นดูซินเทียร์ยิ่งนัก จึงยอมเจ็บดึงเกล็ดออกมาเพื่อนางด้วยความยินดี ด้วยอิทธิพลความรู้สึกที่มนุษย์เรียกว่า 'ความรัก' โดยไม่มีข้อแม้หรือกังขาใด ๆ เลย
"ข้าจะทำให้สุดฝีมือเลยขอรับ" โมน่าบอกด้วยความแข็งขัน
"ข้าก็เช่นกัน จะทำให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ" ไมอารับเช่นเดียวกับพี่ชาย
"ดี ข้าจะคอยชมฝีมือพวกเจ้า เอาไป" ราชามังกรยื่นเกล็ดของตนให้แก่สองพี่น้อง
วันเวลาผ่านไปเกือบหกเดือนการฝึกของซินเทียร์ก็ได้สิ้นสุดลง เเละอาวุธที่ถูกสั่งทำโดยราชามังกรก็เป็นอันเสร็จสิ้น โมน่าและไมอานำอาวุธมามอบให้เเก่ราชามังกร เอนจึงได้เรียกซินเทียร์เข้าพบเพื่อมอบของขวัญให้เเก่นาง
ลูกสาวอันเป็นที่รักของเขา ซินเทียร์ได้น้อมรับของขวัญด้วยความยินดี
เอนส่งสาส์นออกไปถึงเมอริน เขายอมรับว่าเวลาที่ต้องลาจากมาถึงแล้ว
เมอรินที่เดินทางมาถึงถ้ำมังกรอีกครั้ง เขาพาซินเทียร์จากไป จุดหมายปลายทางของทั้งคู่คือ โรงเรียนมหาเวทอาเธอร์
ซินเทียร์ต้องทำการทดสอบฝีมือก่อนที่จะเข้าเรียนที่นั่น การออกเดินทางจากรังมังกรที่เป็นบ้านมาตลอดนี้จะเปลี่ยนชีวิตของนางไปอย่างสิ้นเชิง แล้วเอนและรินเนะจะเป็นเช่นไรต่อไปกันเมื่อขาดนางไป
อ