กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร - ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

ผู้แต่ง

พี่บัวลอยไข่หวาน

เรื่องย่อ

เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมีหลากหลายรูปแบบซึ่งความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูกย่อมมีแต่ความห่วงใย แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม


ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่งการกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปแม้ในบางครั้งสิงที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

“เมย์”เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตของจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์

มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาที่ล่มสลายไปเพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู

เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากหนังและอนิเมะหลาย ๆ เรื่องและไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้นและเนื้อหาอาจจะมีความล่อแหลมอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง โปรดใช่วิจารณญาณในการรับชม ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยความปราถนาดีจาก พี่บัวลอยไข่หวาน

สารบัญ

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่1 ซินเทียร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่3 วันสอบเข้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่4 เรื่องร้ายๆ ในเวลาดีๆ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่5 วันเปิดเรียน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่6 ดันเจี้ยน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่7 ลางร้าย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่8 ทาสตัวน้อยกับอิสระที่โหยหา,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่9 Dawn of Extinction,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอน10 ภารกิจแรก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่11 ราชาอาเธอร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 13 ราชินีมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 14 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 15 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 16 เจตจำนงของผู้เป็นแม่,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 17 เดอะดรีม,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 19 การเดินทาง,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 20 Go to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 21 Welcome to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 22 โดนลักพาตัว,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 23 โดนลักพาตัวตอนจบ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 24 เทศกาลชมดอกไม้,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 25 อาเบะ โนะ เมย์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 26 กำเนิดอัศวินมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 27 คำเตือนจากราชามังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 28 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปฐมบท,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 29 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปัจฉิมบท

เนื้อหา

ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย


หลังจากที่ทั้งสองได้เดินทางออกจากหุบเขามังกร ซินเทียร์ได้ตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ที่นางเคยเห็นเเค่ในหนังสือมาก่อนเท่านั้น เมอรินดูท่าทางของนางแล้วก็อดยิ้มไม่ได้กับความไร้เดียงสาของซินเทียร์ ความกระตือรือร้นของเด็กสาว เสียงเจื้อยเเจ้วของนาง ทำให้การเดินทางไม่เงียบเหงา
“นี่… ปู่ ไอ้นั่นคืออะไรเหรอปู่ แล้วไอ้ที่เรานั่งคืออะไรกันแถมใหญ่ยาวมากเลย”
“อ้อ นั่นเหรอ เขาเรียกว่าบ้าน ส่วนเจ้านี่ก็คือรถไฟยังไงล่ะ”
ทุกคำถามของซินเทียร์ เมอรินตอบด้วยความสุขุมนุ่มลึก ไม่รำคาญ เขาตอบนางให้ได้มากที่สุดด้วยความเอ็นดูในความขี้สงสัย 
ขณะที่ซินเทียร์ยังถามไม่หยุดไม่หย่อน เมอรินก็ถือโอกาสเเนะนำเรื่องเรียนเเละเรื่องพื้นฐานต่าง ๆ รวมถึงเรื่องทั่วไปสอดแทรกคั่นคำถามของนางไปด้วย  
“ว้าว… งั้นในเมืองต้องมีบ้านสวย ๆ มีเรื่องสนุกๆ อีกเยอะเเยะเลยสินะ” นางพูดขึ้นด้วยความไร้เดียงสาพร้อมกับสายตาที่เปล่งประกาย ตั้งเเต่เด็กๆ ซินเทียร์อยู่แต่ในถ้ำมังกรมาตั้งแต่แรกเรื่องสนุกของนางอย่างมากคือแอบขโมยแอปเปิลของราชามังกรแห่งปฐพี ‘เทอร่าดราก้อน’ มากิน นางคาดหวังมาตลอดว่าจะมีเรื่องสนุกมากกว่านั้นให้ทำ
“เจ้าจะสนุกกว่าที่เจ้าได้เห็นในหนังสือเป็นไหน ๆ” เมอรินก้าวไปเรื่อย ๆ รอยยิ้มยังไม่จาง
"ปู่ บอกข้าต่อสิ ได้โปรดเถอะนะ ปู่" 
“...”
เมื่อไม่ได้คำตอบจากเมอริน ซินเทียร์ก็ทำหน้ามุ่ย แอบเคืองเบาๆ ที่เมอรินปล่อยให้อยากรู้ 
"ก็… ข้าอยากให้เจ้าได้เรียนรู้เองจะดีกว่า ถ้าข้าบอกหมดเเล้วมันจะสนุกได้ยังไงล่ะ ฮะฮะฮ่า..." เมอรินแเกล้งหยอกซินเทียร์ให้ทำหน้ามุ่ย 
ซินเทียร์คงสีหน้าเคืองไว้จนไปถึงสถานีรถไฟจุดหมาย
การเดินทางดำเนินต่อไป ออกจากชานชาลา A-10-08-96 เพื่อไปเมืองคาเมรอต ซินเทียร์ตื่นตาตลอดเส้นทางกับวิวทิวทัศน์ สิ่งของ และผู้คน จนนับเวลาก็ล่วงเลยมาถึงสามวันที่พวกเขาออกจากดินเเดนของราชามังกรเเห่งจุดจบมา ซินเทียร์ก็ได้ประสบการณ์แรกอันแสนยากลำบาก นางเมารถไฟอย่างรุนเเรง คงเป็นเพราะว่าซินเทียร์ไม่เคยขึ้นรถไฟมาก่อน
ในสภาพเมารถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยกระเเสพลังเวทจากผลึกซิกที่ใช้เป็นแหล่งพลังงาน ซินเทียร์กอดดาบที่ทำมาจากเกล็ดของมังกรแห่งจุดจบไว้ไม่ห่างกาย นางกอดมันราวกับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต เมอรินอดมองนางด้วยความเอ็นดูต่อท่าทีแห่งความผูกพันและหน้าตาท่าทางที่น่ารักของเด็กสาวไม่ได้ 
รถไฟยังคงเคลื่อนที่ต่อไปอย่างรวดเร็ว ชายคนหนึ่งเข้ามาหาเมอรินในห้องโดยสารที่มีแต่เขาและซินเทียร์ 
“เฮ้ย ไอ้เเก่ เเกรู้รึเปล่าว่าข้าคือใคร” เขาผรุสวาทหาเรื่อง “หน็อยไอ้แก่นี่ ทำไมยังไม่ลุกอีก เดี๋ยวพ่อก็ซัดหน้าให้” 
อันธพาลยืนหาเรื่องอยู่ตรงหน้าเมอริน 
“ขนาดเเกยังไม่รู้ เเล้วข้าจะรู้เรอะ เรื่องแค่นี้ก็ยังมาถามอีก เฮ้อ...” เขาตอบไปอย่างกวน ๆ 
“หน็อย...เเกกวนงั้นเหรอ ไอ้เเก่ งั้นแกก็เตรียมเจ็บตัวได้เลย”
“เเล้วเเต่เจ้าจะคิดแล้วกัน เฮ้อ…” เมอรินพูดพร้อมกับถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย
“หน็อยเเก… “ อันธพาลโมโหยิ่งขึ้น “อึก! นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย…” 
ร่างกายของอันธพาลไม่สามารถขยับได้อีก
“เเค่เวทตรึงเงาเท่านั้นเอง อยู่อย่างนั้นต่อไปสักชั่วโมงเเล้วกัน ข้าขอเทศนาจนกว่าจะไปถึงคาเมรอตนะ” เมอรินเริ่มเปิดปากสั่งสอน 
คำพูดของเขาเปี่ยมด้วยหลักการและเหตุผล สะท้อนให้หนุ่มอันธพาลต้องขบคิด ไตร่ตรอง 
แต่สิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเขม่นมองอย่างขอร้องให้เมอรินหยุดสักที คงเป็นความอึดอัดคับข้องที่ไม่อาจจะขยับกายได้แม้แต่น้อย
นายอันธพาลนี่คงจะไม่กล้าหาเรื่องใครซี้ซั้วมั่วซั่วอีกแล้วล่ะมั้ง
การเทศนาของเมอรินดำเนินไม่หยุด แม้เขาหันไปช่วยประคองซินเทียร์ที่เมารถอยู่เป็นพัก ๆ แต่ปากก็ขยับต่อพร้อมกับถ้อยคำที่ราวกับว่าสมองกลั่นกรองด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่มที่เคยร้ายกาจดูคล้ายกับน้ำตาคลอ เขาคงสำนึกบ้างแล้ว แต่เมอรินก็คงต้องการให้เขาสำนึกจริง ๆ จึงใช้เวลามุ่งมั่นสั่งสอนต่อไปจนในเวลาต่อมารถไฟเวทมนตร์ได้มาถึงเมืองคาเมรอต 

ณ เมืองคาเมรอต
บรรยากาศภายในเมืองเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเเละมีรูปปั้นของราชาอาเธอร์อยู่ในท่ายืนถือดาบเอ็กซ์คาลิเบอร์เด่นเป็นสง่า ซินเทียร์ยืนตะลึงกับความยิ่งใหญ่ของรูปปั้นราชาอาเธอร์ นางฉุกใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองนี้ได้ถูกคุ้มครองโดยราชาที่ทรงธรรม 
ทันใดนั้นเมอรินได้เรียกสติของซินเทียร์ด้วยไม้เท้าของเขา
“เหม่ออะไรของเจ้า เดี๋ยวก็หลงกันพอดี นี่แน่ะ หายเมารถหรือยัง” เขาเขกหัวซินเทียร์ที่กำลังเหม่อ ๆ
“โอ๊ย! มันเจ็บนะปู่ ไม่คิดเลยว่าเมืองมันจะใหญ่ขนาดนี้” ในหัวข้องซินเทียร์มีแต่คำถามมากมายอย่างคนขี้สงสัยใคร่รู้ 
“ตรงนี้เเค่เขตเดียวเท่านั้นเอง แต่ว่าเจ้ารีบเดินดีกว่า”
“หา!!! มันจะใหญ่ไปไหนเนี่ย!!! อะไรกันเนี่ย” ซินเทียร์สาวเท้าตามพ่อมดเฒ่า
“เด็กเอ๋ย นี่ยังเเค่ส่วนเดียวของเมืองคาเมรอต”
“เเล้วเราจะหลงทางไหม ปู่” ซินเทียร์ถามดวยความสงสัย เพราะโลกภายนอกเป็นอะไรที่ใหม่มากสำหรับซินเทียร์
“ไม่หรอก ๆ ข้ารู้ทางดี เราจะไปลงทะเบียนเข้าสอบกันก่อนเลย” 
“ต้องลงทะเบียนด้วยเหรอคะ” 
“เอนน่าจะบอกเจ้าแล้ว เป็นเรื่องปกติก่อนจะเข้าเรียน”
“ค่า… เเล้วเราต้องไปที่ไหนกันคะ”
“ตามข้ามา เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”
เมอรินนำทางไปจนถึงสถานที่ลงทะเบียนเตรียมสอบ ซินเทียร์ได้ทำการลงทะเบียนเพื่อเตรียมเข้าสอบโดยไม่มีปัญหา การสอบจะเริ่มในสามวันข้างหน้า 
คน ๆ หนึ่งบังเอิญมาชนไหล่ของซินเทียร์เข้า เด็กชายที่เดินมาชนไหล่เบะปาก เขากล่าวดูถูกซินเทียร์ต่าง ๆ นานา ซินเทียร์ที่ตอนแรกงงอยู่ นางตั้งสติและจ้องหน้าเด็กคนนั้นเต็มสายตา นึกหาคำพูดโต้กลับ อย่างน้อยก็ต้องมาสอบเหมือนกัน นางอยากจะหาเพื่อนให้ได้อย่างที่เอนเคยกล่าวแนะนำไว้
“หน็อย...ทำไมเจ้าไม่หลบล่ะ เเค่สามัญชนยังมามองหน้าอีก เจ้ารู้รึเปล่าว่าข้าคือใคร” เด็กชายวางตัวเขื่อง
 ความอดทนหมดลง 
“เเล้วจะรู้กับเเกเรอะ เเกต่างหากที่ต้องขอโทษพวกเรา” 
“ข้าคือองค์ชายคิม บาบาเนียร์ เจ้าชายลำดับที่สามเเห่งอาณาจักรบาบาเนียร์ เจ้าควรขอโทษมาซะ สามัญชนกระจอกๆ ข้าจะสั่งให้องครักษ์สังหารเจ้าซะก็ได้” พอพูดจบ เจ้าชายนิสัยโอหังก็ตะโกนลั่น “ไรดีน สังหารนางซะ”
“น้อมรับคำสั่ง จะจัดการให้ขอรับ องค์ชายน้อย”
“ใครมันจะกลัวเเกฟะ เจ้าชาย ไอ้เบื๊อกนี่น่ะเหรอ”  
“เฮ้อออ ได้นิสัยเจ้านั่นมาชัดๆ” เมอรินนึกไปถึงราชามังกรหนุ่มที่เป็นสหายของตน
ซินเทียร์ดันไปได้นิสัยเสียมาซะด้วย แต่ถูกหล่อหลอมให้เติบโตมาด้วยการโอบอุ้มของเอนนี่นา
“ข้าวิงวอนต่อเทพเจ้าดาบ ดะ...ดาบ” ไรดีนร่ายเวทยังไม่ทันจบ ดันโดนโจมตีโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ผัวะ!! 
เสียงกำปั้นที่ห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงสีนิลปะทะเข้ากับใบหน้าองครักษ์ขององค์ชายคิมอย่างเต็มเเรง 
ผู้คนเเถวนั้นเเตกตื่นเป็นอย่างมาก เปลวเพลิงสีนิลที่ไม่มีใครเห็นมานานหลังมหาสงครามเเห่งการกลืนกินเมื่อนานมาเเล้ว เป็นเวทของราชามังกรเเห่งจุดจบ สิ่งที่องค์ชายคิมเห็นในเวลาเดียวกันก็เป็นเงาของมังกรสีดำอันน่าเกรงขามดุดัน พลังที่พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งให้มลายสิ้นเเผ่เป็นออร่ามาจากร่างเด็กสาว 
ความน่ากลัวจู่โจมจิตใจขององค์ชายคิมถึงเบื้องลึก
“เอือกกกกก” ไรดีนหมดสติลงไปนอนกองกับพื้น
ทุกคนเป็นพยานว่าเขาพ่ายให้กับหมัดของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
“มัวเเต่ร่ายอยู่นั่นเเหละ ช้าเป็นบ้า ไอ้จ๊าดง่าว ข้าไม่ต้องชักดาบของพ่อมาให้เสียคมหรอก”
“ไรดีน ปะ...เป็นไงบ้าง” องค์ชายที่ไม่มีลิ่วล้อแล้วดูร้อนรน เขาไม่สงวนท่าทีแต่เปิดเผยความหวาดกลัวที่มีต่อซินเทียร์ “ยะ... อย่าเข้ามานะ อย่า ระ…ไรดีน ตื่นขึ้นมาสิวะ” 
“ไอ้ความเก่งเมื่อกี้มันหายไปไหนเเล้วล่ะ ไอ้องค์ชายเด็กน้อย” ซินเทียร์ส่งสายตาสมเพชให้องค์ชายคิม
“ค...ใครกลัวเเกฟะ เวทเพลิงอสรพิษสีชาด เเกจงมอดไหม้ไป” องค์ชายได้ใช้เวท และไม่สนใจผู้คนที่อยู่แถวนั้นเลยแม้แต่น้อย “เเกมันก็เเค่สามัญชน”
เขาหัวเราะออกมาหลังจากปล่อยพลัง
เปลวเพลิงลูกใหญ่พุ่งชนกับร่างตรงหน้า กลืนร่างของซินเทียร์ให้เลือนหายไปวูบหนึ่ง
“เเหวะ!! เป็นไฟที่มีรสชาติที่ห่วยมาก” เสียงของซินเทียร์คือสัญญาณบอกว่านางยังปลอดภัยดี
เสียงหัวเราะขององค์ชายคิมหยุดกึก
“เเน่ใจนะว่าโจมตีเต็มกำลังเเล้วเหรอนั่น ช่างอ่อนเเอจริง ๆ” เวทเพลิงขององค์ชายคิมไร้ผลต่อซินเทียร์ 
ซินเทียร์ได้ดูดเอาไฟทั้งหมดเข้าไป คงเป็นเหตุผลที่เมื่อครู่เปลวไฟดูรวมกันเป็นกลุ่มก้อนใหญ่อย่างผิดแปลกไป นางตั้งใจไม่ให้มีคนโดนลูกหลง
“เเกมันปีศาจ ข้าไม่เคยเห็นเวทที่กลืนกินเวทเเบบนี้มาก่อน” องค์ชายยังคิดไม่ตกว่าเวทที่ซินเทียร์ใช้เป็นเวทมนตร์โบราณที่หายากมากจนกลายเป็นตำนาน
“เเกจะไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกหรอก เวทดราก้อนสเลเยอร์ยังไงล่ะ” ซินเทียร์ยิ้มด้วยความภูมิใจที่พ่อผู้เป็นมังกรสอนให้เป็นอย่างดี
“เป็นไปไม่ได้ เวทมนตร์นี้ไม่มีอยู่จริง อย่ามาหลอกข้า” 
อันที่จริงใจของคิมสงสัยว่าซินเทียร์ไม่ได้โกหก แต่เขาแหกปากปฏิเสธความจริงเพื่อกลบเกลื่อนความกลัวที่มีต่อนาง
“ไอ้นี่มันคือเวทดราก้อนสเลเยอร์เเน่นอน เป็นเวทที่ไม่ต้องร่าย เเต่อานุภาพเกินคำบรรยาย” ไรดีนได้สติขึ้นมาทันตอนที่ได้เห็นซินเทียร์ใช้พลัง เขาที่มีความรู้มากกว่าผู้ที่อยู่ในอารักขาได้ยืนยันว่าที่เห็นไปนั้นเป็นเวทดราก้อนสเลเยอร์ของเเท้แน่นอน
ไรดีนรั้งตัวองค์ชายคิมและกระซิบกระซาบ ทั้งสองเดินเร็วหนีไปอย่างน่าอับอายเเละหวาดกลัวเป็นอย่างมาก 
เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น มีสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาอย่างสนใจ เขายังเป็นตัวตนที่เป็นปริศนาแก่ซินเทียร์ แต่ความสนใจของเขาที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เดาได้ว่าทั้งคู่อาจได้พบกันในอนาคต
ซินเทียร์ที่ตกเป็นจุดสนใจ นางไม่ได้สนใจสายตาของคนอื่น แต่ตามเมอรินไปพักผ่อนที่หอรับรองของผู้เข้าสอบ ในห้องนั้นมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่แม้ไม่ได้หรูหราแต่ก็เชิญชวนให้ใช้งาน นางที่ถูกทิ้งไว้ลำพังล้มตัวลงบนเตียง 
ในภวังค์ที่รู้สึกได้ว่ายังอยู่ในความฝัน ซินเทียร์ได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ความรู้สึกเมื่อได้พบคนแปลกหน้าคนนี้ช่างแปลกเหลือเกิน นางอบอุ่นราวกับได้ยืนอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ ในดวงตาของหญิงแปลกหน้าคนนั้นก็เปี่ยมด้วยความห่วงใยไม่ต่างจากที่สายตาที่เอนและรินเนะฉายออกมายามมองมาที่ซินเทียร์ หญิงในโลกแห่งภวังค์เปล่งเสียงเรียกชื่อซินเซียร์ น้ำเสียงอ่อนโยนและดูคุ้นเคยกระตุ้นให้รู้สึกคะนึงหา มือของซินเทียร์ยื่นไป จะแตะกับมือของนางคนนั้นที่ยื่นมา
ทันใดภวังค์ถูกปลดออก ซินเทียร์มองเพดานห้องเหนือตัวนาง
แก้มของนางเปรอะด้วยน้ำตา หลังร้อนชื้นด้วยเหงื่อ ซินเทียร์ทบทวนอย่างรวดเร็วถึงความฝัน หรืออาจจะเป็นนิมิตคือมีสิ่งจริงหรือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือจะเป็นไปในอนาคตก็ได้ 
เอนเคยสอนนางว่าจิตใจอาจหยั่งรู้ถึงเหตุการณ์บางอย่างที่อยู่ห่างไกลออกไป เหตุการณ์ในอนาคต หรือแม้แต่ล่องลอยไปถึงอดีต 
นางสงสัยว่านางได้เห็นคนที่จะมาเกี่ยวข้องกับนาง หรือคนที่นางจะไม่มีวันได้พบ แต่มีความผูกพันด้วย
“บางทีควรจะอาบน้ำได้แล้ว” ซินเทียร์นึกได้ว่านางควรอาบน้ำก่อนจะเผลอผล็อยหลับไป ตอนนี้นางไม่สบายตัวเอาซะเลย “เหนื่อย ๆ แบบนี้แต่ดันหลับไปก่อน น้ำก็ไม่ได้อาบ ข้าดูเป็นผู้หญิงซกมกซะได้” 
นางลุกขึ้นอย่างหงุดหงิด มองหาสัมภาระเดินทางที่กองไว้มุมหนึ่ง ก่อนจะเจอผ้าขนหนูสะอาดวางอยู่ที่โต๊ะมุมห้อง
“ถ้าเป็นนิมิตจริง คนในนั้นน่าจะบอกให้ข้าอาบน้ำสักหน่อย” นางพึมพำขณะรวบรวมข้าวของที่ต้องใช้ในการขัดสีฉวีวรรณตนเอง