กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
งานฉลองดูครึกครื้น คนที่สอบผ่านส่วนใหญ่ผ่อนคลาย บรรยากาศในโถงจัดเลี้ยงแม้ดูหรูหราแต่แฝงด้วยความอบอุ่นต้อนรับทุกคน เหล่านักดนตรีรวมกลุ่มกันโหมจังหวะดนตรีที่เร้าใจ บางคนเท่านั้นที่ยังวางท่าขึงขัง อาจจะไม่ชอบงานเลี้ยงหรืออาจไม่พอใจเรื่องผลการจัดห้องเรียนที่ชี้ขาดออกมาด้วยผลของการต่อสู้ในการสอบรอบสุดท้าย
ซินเทียร์กินอาหารในงานเลี้ยงอย่างเพลิดเพลิน ตั้งใจเก็บให้ครบทุกเมนู มือทั้งสองของซินเทียร์ถือของกิน ความเร็วในการเคี้ยวและกลืน การส่งอาหารชิ้นแล้วชิ้นเล่าเข้าปาก ทุกคนรอบด้านมองนางด้วยสายตาที่ตะลึง
ขณะที่หลายคนยังมองซินเทียร์ตรง ๆ หรือลอบมองนางเป็นพัก ๆ เสียงเคาะไม้เท้าดังขึ้น
เมอริน ผู้อำนวยการของโรงเรียนเเห่งนี้ได้ผสานเวทลงไปในการเคาะไม้เท้าเมื่อครู่ด้วย
นักดนตรีหยุดบรรเลงเพลง ซินเทียร์รีบกลืนอาหารโดยเร็วที่สุด เพราะห่วงว่าจะมีกิจกรรมอื่นที่นางต้องเข้าร่วมด้วย นางคลับคล้ายคลับคลาว่าเดี๋ยวนักเรียนแต่ละคนต้องร่วมพิธีการบางอย่าง
“ปะ…ปู่ นี่ปู่เป็น ผอ. ด้วยเหรอเนี่ย!?” ซินเทียร์ถึงกับตกใจเมื่อเห็นเมอรินยืนอยู่บนอัฒจันทร์
“อย่าบอกนะว่า นางรู้จักกับท่านเมอรินด้วย” เมย์ถามซินเทียร์ด้วยความสงสัยเมื่อเห็นสีหน้าซินเทียร์
“ต้องรู้จักสิ เขารู้จักกับพ่อของข้าละนะ” ซินเทียร์พูดขึ้นด้วยสีหน้าที่เจื่อนๆ
“อย่าบอกนะว่า คนที่พานางมาสอบก็คือท่านเมอริน” เมย์เบิกตากว้าง
“ใช่เเล้ว เมย์” ซินเทียร์ผงกศีรษะตอบรับ
“ขอเเสดงความยินดีให้ผู้ที่ผ่านการสอบทั้งหมด เเม้จะมาเเพ้ในการประลองก็อย่าเสียใจเลย ยังได้เข้าโรงเรียนนี้อยู่ดีในห้องบีของเรา การสอบจัดเป็นบททดสอบเล็กๆ ภารกิจอื่น ๆ รออยู่ทุกสุดสัปดาห์ และแต่ละคนจะได้รับรายได้จากภารกิจด้วย” เมอลินเอ่ยข้อเท็จจริงที่น่าจะเป็นเหตุผลให้ทุกคนอยากมาเข้าโรงเรียนนี้ “โรงเรียนของเราได้ทำสัญญากับกิลด์เเฟรีเทลโดยการที่ให้นักเรียนสามารถทำภารกิจระดับดีลบจนซีบวก แม้ว่าห้องเรียนจะต่างกันแต่ว่าสุดท้ายภารกิจที่ได้รับต่อ ๆ ไปจะขึ้นอยู่กับฝีมือที่พัฒนาขึ้น”
มีเสียงทุบโต๊ะแว่วมา คงมีคนที่ยินดีกับการให้โอกาสของโรงเรียน
“ต่อไป ทุกคนต้องถูกคัดสรรบ้าน พิณผู้คัดสรรจะทำหน้าที่นี้”
เจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งยกพิณเเห่งการคัดสรรออกมา แม้ขณะที่เจ้าหน้าที่ขนอยู่ พิณก็บรรเพลงเสียงเพลงออกมาอย่างไพเราะเพราะพริ้ง พอวางลง เสียงพิณก็เงียบอยู่อึดใจก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงใหม่ที่ฟังดูแล้วชวนให้สงบใจและลุ่มหลง เมอรินเริ่มประกาศชื่อผู้ที่สอบผ่าน
“คนเเรกที่ข้าขอเรียกชื่อ ซินเทียร์ ดรากูลนิล จงมารับห้วงทำนองที่เป็นของเจ้าซะ”
“ขะ...ข้าเหรอ จะต้องไปเเล้วงั้นเหรอ”
หลังจากนั้นซินเทียร์ก็เดินไปเเตะที่พิณอย่างประหม่า เมื่อนางได้สัมผัสกับพิณ ไม่เพียงแค่เสียงดนตรีบรรเลงในทำนองระรื่นหูที่ซินเทียร์ได้ยินเท่านั้น นางยังได้ยินเสียงร้องเพลงแว่วคลอมาด้วย
“จากบุตรสาวเเห่งมังกรสู่การเป็นราชินีที่ทรงพลัง เเละเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตา”
“เจ้าจงไปอยู่ที่บ้านมังกรซะ บุตรสาวเเห่งมังกร” เมอรินประกาศออกมา
ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่มีคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก คำทำนายนั้นขึ้นอยู่กับพิณว่าจะเลือกใครเป็นผู้รับสาส์น แต่ดูเหมือนมันจะเปิดเผยคำทำนายของซินเทียร์กับทุกคน
“เด็กคนนี้เหรอ คนนี้เนี่ยนะที่จะเป็นราชินี”
เมื่อมีทั้งคนยินดีเเละคนที่ไม่พอใจ เมอรินจึงพยายามหยุดความวุ่นวายก่อนที่จะบานปลายไปมากกว่านี้
“เด็กคนนี้ก็เก่งนะ เเถมพลังเวทก็เยอะอยู่นะ”
“เราว่าเรื่องนี้มันก็น่ายินดีไม่ใช่เหรอ” บางคนไม่มีปัญหาด้วย
“ใครมันจะยอมรับลูกของมังกรกันวะ” หลายเสียงคัดค้าน
เสียงของนักเรียนกลุ่มหนึ่งพูดถึงซินเทียร์ในแง่มุมที่ฟังดูไม่ดี ชายชราที่คาดว่าน่าจะเป็นผู้ปกครองของเด็กสาวคนหนึ่งที่เป็นหัวโจกตรงเข้าไปดึงลูกสาวของตนออกไปจากกลุ่มนั้น
“เงียบซะ ต่อไป ซากุระ เมย์ จงออกมารับห้วงทำนองของเจ้าซะ” เมอรินเสียงเข้มขึ้นปรามผู้คนที่ยังไม่ยอมหุบปากให้เงียบเสียงลง
เมย์เดินออกมาด้วยท่าทีนิ่งสงบ ความงามของนางสะดุดตาทำให้สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่นาง มือของเมย์สัมผัสกับรูปปั้นเทพธิดาที่อยู่บนพิณ บทเพลงที่ขับขานดังมาจากรูปปั้นนี้เอง ผิวของเมย์ที่ขาวราวกับหิมะ ขณะที่สีผมดอกซากุระแปลกตา ดึงดูดผู้คนให้ต่างจ้องมองนางด้วยความหลงใหลกระทั่งหลายคนไม่ได้สนใจฟังคำพยากรณ์ของนาง
“ที่ ๆ เจ้าควรอยู่คือบ้านวิหคอมตะ ผู้อัญเชิญเอ๋ย เจ้าจะได้เป็นผู้ที่มีความงามแบบวิหคอมตะ และชื่อของเจ้าจะได้รับการกล่าวขานตลอดไปดังนกฟีนิกซ์ที่ไม่มีวันตาย” ผู้คนต่างก็ยินดีกับนางไปด้วยในคำทำนายนี้
“ดูนั่นสิ เด็กคนนั้นอยู่บ้านวิหคอมตะด้วยละ บ้านนั้นดีกว่าบ้านมังกรนะ”
“เด็กคนนี้ผิวขาวมาก ๆ สวยมากเลยนะแก”
“ไหนดูซิ อุ๊ย ๆ ยายเด็กคนนี้ก็น่ารักน่าหยิกอยู่นะ ถ้าได้มาเป็นภรรยานี่จะดูแลเป็นอย่างดีเลย”
หลังคำทำนายของเมย์จบลง ก็เป็นการเรียกขานชื่อของผู้ที่ผ่านเข้าสอบรายอื่น ๆ ต่อไป นั่นรวมถึงมีอาแห่งรามิทิส
“เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ต้องกลายมาเป็นสามัญชน สูญสิ้นบ้านเกิดให้หวนคืน แต่วิถีไม่พ้นได้เป็นราชินี เจ้าจะกอบกู้ศักดิ์ศรีและได้เป็นที่รักของปวงประชา จงไปอยู่บ้านมังกรซะ มีอาแห่งรามิทิส”
“เรื่องบ้าอะไร ทำไมข้าต้องไปเป็นสามัญชน พิณนี่มั่วใช่ไหมท่านเมอริน” มีอาไม่ยอมรับคำทำนาย
“พิณไม่เคยทำนายพลาดแม้แต่ครั้งเดียว ข้าขอแสดงความเสียใจด้วย” เมอรินดีดนิ้ว ร่างของมีอาถูกผลักให้ออกห่างจากพิณ “คนต่อไป…”
มีอาเปิดปากเหมือนจะพูดบางอย่าง แต่แล้วนางก็ชะงักและเดินหนีพิณไป ไปหยุดที่มุมหนึ่งมองผู้คนที่รับคำทำนายด้วยสีหน้าเหมือนกำลังขบคิดอย่างหนัก
ตัดมาที่อาณาจักรรามิทิส
ในขณะที่มีอากำลังรับคำทำนายอยู่ อาณาจักรรามิทิสได้แพ้สงครามให้แก่จักรวรรดิคูกะที่แข็งแกร่งกว่าซึ่งรบฟันกันมาอยู่นานหลายปีมานี้ ฝั่งคูกะนำทัพโดยแม่ทัพอากิโตะที่ได้ชื่อว่าประกายแสงสีขาวแห่งการทำลายล้าง แต่ถึงจะแตกพ่ายจนกองทัพหลักถอยร่น ทหารและประชาชนของอาณาจักรรามิทิสไม่ใช่ว่าจะไม่พยายามยื้อยุดการต่อสู้ให้ดำเนินต่อ
พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าแพ้ แม้ว่าแนวรบที่แข็งแกร่งจะถูกทะลวงเข้ามาและไม่เห็นทางจะตีกองทัพศัตรูให้ถอยร่นกลับออกไปจากพื้นที่ของรามิทิสได้
ราชินีที่มาถึงอย่างเร่งด่วน ประกาศกร้าวกับทหารอาณาจักรที่เป็นกองหน้า
“จงลุกขึ้นมา นี่ยังไม่ใช่เวลามานั่งโอดครวญหรือรอความตาย จงลุกขึ้นสู้ เราควรยอมตายดีกว่าไปเป็นเชลย” นางเองมาถึงที่นี่ด้วยจิตใจที่ตั้งมั่นแบบนั้นเช่นกัน ในฐานะผู้ปกครองแล้ว ถ้านางไม่เข้มแข็งให้เป็นตัวอย่าง ผู้คนก็จะยิ่งใจฝ่อได้ง่าย “จับอาวุธแล้วลุกขึ้นมาซะ ข้าจะขอสู้เคียงข้างพวกเจ้าเหล่าทหารเอ๋ย จงยืนหยัดเพื่อวันต่อ ๆ ไปของลูกหลานของเรา”
คำพูดปลุกใจของราชินีทำให้ผู้ที่ฟังอยู่ต่างรู้สึกฮึกเหิม เสียงกู่ร้องดังสนั่นไปทั้งสนามรบ
“พวกเราจะลุกขึ้นสู้ จะไม่ยอมเเพ้ เฮ้…” เหล่าทหารพร้อมรบ แม้สงครามครั้งนี้จะเห็นวี่แววแห่งชัยชนะริบหรี่
คูกะรู้ว่าราชินีแห่งรามิทิสอยู่ในสนามรบ พวกเขาเตรียมไพร่พลและแผนการที่จะปลิดชีวิตของนางให้ได้
ในสงครามต้องมีผู้แพ้…
“อึก…ตัวข้าคงไม่รอดแล้ว” ราชินีที่สู้รบพุ่งอยู่ในสนามถูกเวทโจมตีซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ทหารรอบข้างจะพยายามเหวี่ยงร่างศัตรูที่พุ่งเข้ามาออกไป และศัตรูที่มุ่งเอาชีวิตราชินีหลายคนจะถูกเข่นฆ่าลงได้ แต่การเสี่ยงตายของศัตรูที่ก็สู้อย่างเอาเป็นเอาตายไม่แพ้กันก็ทำให้ราชินีที่เป็นศูนย์กลางบัญชาการและศูนย์รวมพลังใจบาดเจ็บสาหัส
ราชินีใช้งานเวทน้ำแข็งสุดท้าย
ปักษาน้ำเเข็งส่งสาสน์โลหิต…
มีอาลูกรัก เเม่คงไม่รอดแล้ว เเม่นั้นรักลูกเสมอ ขอโทษด้วยนะที่แม่ไม่ได้ใส่ใจลูกให้มาก อย่าเอาแต่ใจอีก เพราะไม่มีใครจะยอมตามใจเจ้าเหมือนที่เจ้าคุ้นเคยอีกแล้ว
…ดูแลตัวเองด้วย…
“อึก…ไปได้” ราชินีได้ปล่อยนกน้ำแข็งเพื่อให้ออกเดินทางไปถึงมือมีอา
“ข้าขอยอมรับว่าท่านเเกร่งจริง ๆ เเต่ว่าท่านสู้ตัวข้าไม่ได้หรอก” แม่ทัพของศัตรูมาอยู่ตรงหน้า เขาลงจากหลังม้าและก้าวเข้ามา “ท่านที่บาดเจ็บอยู่ด้วย ข้ารู้สึกเหมือนคนที่ฉวยโอกาส แต่ถ้าไม่ใช่โอกาสนี้ก็คงไม่ได้”
ศัตรูน้อมตัวลงอย่างให้เกียรติราชินีแห่งรามิทิส
“ข้าขอแสดงความนับถือต่อท่าน… เป็นครั้งสุดท้าย”
“ฮะ ๆ ฮ่า นี่คือการตายที่ข้าพึงปรารถนา การตายเยี่ยงนักรบ” ราชินีมีประกายตากร้าว “ข้าขอสู้จนกว่าข้าจะตายลงไป”
“ข้าจะมอบความตายให้ท่านที่ช่างดูยิ่งใหญ่” อากิโตะตั้งท่าดาบเพื่อเผด็จศึกให้จบลงไป
ฉัวะ!!! เสียงของคมดาบตัดผ่านตัวของราชินี เลือดย้อมหิมะแถวนั้นให้เป็นสีแดง
หลังการโจมตีปิดฉากของอากิโตะ เสียงผู้คนกรีดร้อง มีคนที่หยุดมือและถูกฆ่า และคนที่ยอมแพ้ทันทีซึ่งได้รับการละเว้นชีวิต แต่คงไม่พ้นถูกตัดสินเป็นเชลยสงครามตลอดชีวิตหรือถูกสังหารในฐานะผู้พ่ายในสงคราม ร่างของราชินีผู้โด่งดังเรื่องเวทน้ำแข็งนอนจมกองเลือดบนพื้นหิมะสีขาวที่ถูกย้อมเป็นสีแดง
แม้ราชินีจะถือว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่อากิโตะก็เคารพในวีรกรรมที่กล้าหาญของนาง
เขาตั้งมั่นว่าจะจำนางเอาไว้ การจดจำศัตรูที่ตายไปด้วยมือตนเองเป็นวิธีให้เกียรติของนักรบ
มีอาที่นิ่งอยู่นานด้านหนึ่งของห้องจัดเลี้ยง เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงนกร้อง เสียงนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างยิ่ง น้ำตาของนางไหลออกมาขณะที่ให้นกเวทตัวนั้นเกาะเข้าที่แขน
ถ้อยคำจากราชินีผู้ให้กำเนิดถ่ายทอดมาถึงนาง
มีอามองนกเวทที่หายไป และลุกขึ้นจากเก้าอี้
“มีอา ดูท่าทีไม่ค่อยดี คงมีเรื่องเกิดขึ้น” ซินเทียร์อยากผละไปหามีอา
“ปล่อยเขาไปเถอะ”
“นางดูเหมือนอยากจะปล่อยโฮออกมาเลยนะ บางทีอาจจะต้องการเพื่อน..”
“อย่าไปยุ่งด้วย ไม่ว่าเขาจะเจอเรื่องอะไรอยู่ เดี๋ยวก็คงดีขึ้นเองได้” เมย์มองรูปการณ์แบบนั้นและห่วงว่าซินเทียร์จะโดนมีอาระราน
ค่ำคืนที่เหน็บหนาวในสนามรบที่ไร้ผู้คน ร่างของราชินีถูกทิ้งไว้ที่เดิม มันเป็นชะตากรรมของผู้แพ้ในสงครามและไร้ทายาทใกล้ชิดในสนามรบ แต่ร่างราชินีน้ำแข็งก็ไม่ใช่ว่าจะถูกปล่อยให้เป็นอาหารของสัตว์ร้าย หรือสุดท้ายต้องเน่าเปื่อยไร้คนเหลียวแล
เด็กสาวคนหนึ่งเดินโซซัดโซเซ นางค้นหาของจากศพมาแล้วมากมาย และกำลังมาถึงตัวราชินี
“ยังมีลมหายใจอยู่” นางชะงักมือที่ค้นตัวที่ชืดเย็น ชีพจรของราชินีน้ำแข็งเต้นนาน ๆ ครั้ง คงเพราะวิชาที่นางเคยฝึกปรือทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะจำศีลที่ราวกับว่าตายแล้วในยามสูญเสียเลือดไปมาก
“ถ้าปล่อยไว้คงตายจริง ๆ ต้องรีบพาไปรักษากับคุณไกอาก่อน”
ร่างเล็กของเด็กหญิงลากร่างใหญ่ที่พบไปบนพื้นหิมะ เพราะพายุหิมะลูกใหม่กำลังก่อตัว ร่องรอยที่ลากร่างของราชินีมาจึงถูกกลบไปโดยปริยาย ขณะเดียวกันศพอื่น ๆ ที่เคยรายล้อมราชินีหิมะอยู่ก็คงจมลงไปใต้พื้นหิมะที่มีหลายชั้น สภาพศพอาจดูเหมือนจะถูกรักษาไว้ด้วยความเย็น แต่แล้วเมื่อหิมะละลายก็จะเน่าสลายไปได้อยู่ดี
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
บ้านตรงหน้าของเด็กหญิง หญิงสาวผู้หนึ่งถือไปป์เปิดประตูออกมา
“คุณไกอา” มาริทักทายอาจารย์ด้วยสีหน้าที่แตกตื่นและร้อนรน
“ใครวุ้ย... อ้อ...มาริจังเหรอจ๊ะ เเล้วนั่นใครกัน” ฝ่ายที่เป็นอาจารย์กำลังงัวเงียอยู่ แต่ก็ฝืนแหกตาพยายามพูดคุยกับอีกฝ่าย
“ไปเจอคน ๆ นี้ที่แถว ๆ สนามรบ”
“เวรเเล้วไง เอาเถอะ เอาเข้ามาสิ”
การรอดชีวิตของราชินีน้ำแข็งไม่ได้เป็นข่าวที่รู้ทั่วกันในคืนเดียวกันกับที่นางถูกเข้าใจว่าสูญเสียชีวิต อาณาจักรที่เข้มแข็งถูกมองว่าไร้อำนาจในชั่วข้ามคืน ดังนั้นทายาทของบัลลังก์ที่มีอำนาจซึ่งผู้คนประจบประแจงและบางคนแสดงตนราวกับอยากยกย่องบูชาจึงเผชิญกับใบหน้าที่แท้จริงของผู้คนที่แต่เดิมอาจจะต้องพยายามซ่อนอยู่ใต้หน้ากากการเข้าสังคม
“นั่นไงๆ ยัยเจ้าหญิงตกอับ” เด็กสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาอย่างสนุกปากในโถงรับประทานอาหารของบ้าน
นางคนนี้คงหมั่นไส้มีอามาก่อนการสอบแล้ว อาจจะรู้จักกันมาก่อนด้วย ตอนนี้ดูจากแววตา ความเกลียดคงทำให้อยากจะกลั่นแกล้งมีอา
“น่าสมเพชดีนะ เคยเชิด เริ่ด หยิ่ง แต่ตอนนี้คงไม่มีคนอยากเป็นเพื่อนด้วยหรอก เเกล้งมันหน่อยเเล้วกัน” เด็กอีกคนที่จับกลุ่มด้วยกับเด็กสาวที่ไม่ชอบหน้ามีอาคนแรกเสนอความคิด
มีอายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางตกเป็นเป้าหมายกลั่นแกล้ง กระทั่งก้อนหินลอยมาใส่หัว
“โอ๊ย แกทำบ้าอะไร” มีอาหันไปตวาดทางทิศทางที่หินโยนมา
นางเจอตัวคนที่ทำนางเจ็บ
“ขอโทษ มือมันลื่นไปเองนิดหน่อย”
“ไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ ฮะ ๆ” สองคนนั้นสีหน้าระรื่น กระหยิ่มยิ้มย่องด้วยซ้ำ
“พวกแกจงใจแกล้งมีอากันชัดๆ” เสียงหนึ่งแหวกอากาศมา
สองคนที่เก่งลอบกัดเมื่อเจอแขกที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาวุ่นวายก็อ้าปากเหวอ ทั้งตกใจที่มีคนสนใจไยดีอดีตเจ้าหญิงผู้อวดดี และคนที่เข้ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง คือ ‘ซินเทียร์’ ผู้ที่มีข่าวลือว่าคำพยากรณ์บอกถึงปลายทางชีวิตที่จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แถมฐานะปัจจุบันก็เป็นลูกสาวราชามังกรด้วย
ซินเทียร์จงใจปล่อยจิตสังหารระดับใกล้เคียงกับราชามังกรออกมา
เด็กสาวสองคนตัวสั่นงันงก ก่อนจะทรุดกายลงไปนั่งที่พื้น ไม่แน่ว่าอาจจะควบคุมหูรูดไม่ได้แล้วฉี่ราดรดกระโปรงไปแล้วก็ได้
“ถ้ามาทำอะไรกับมีอาอีก รับรองว่าพวกแกจบไม่สวยแน่” สายตาที่ดุดันของซินเทียร์ส่องประกายราวกับมังกรจริง ๆ จ้องพวกเขาอยู่
ช่างน่ากลัวเสียจริง เมื่อผู้ถูกจ้องเป็นมนุษย์ด้อยฝีมือสองคน
“นะ...น่ากลัวจังเลยยายคนนี้นี่… ไปกันเถอะ” สองสาวกระวีกระวาดหนี
ซินเทียร์รีบเคลื่อนที่เข้ามาหามีอา นางตั้งใจจะเข้ามาผูกมิตรด้วย
“เป็นไงบ้าง มีอา ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ไม่ต้องมายุ่ง” มีอาพูดด้วยเสียงตวาด แล้วก็แสดงสีหน้าเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ดวงตามีประกายอ่อนลง แต่วูบเดียวเท่านั้นอีกฝ่ายก็ก้าวเท้าไว ๆ หนีออกห่างไป
“อุตส่าห์มาช่วย ทำหยิ่งไม่เข้าเรื่อง” ซินเทียร์พูดด้วยความไม่สบอารมณ์แทน
นางรู้สึกเหมือนตัวเองทำเรื่องไม่เข้าเรื่องแม้ว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้องลงไป การช่วยคนที่อ่อนแอกว่าเป็นเรื่องที่เอนบอกเสมอว่าถูกต้อง ประเด็นคือบางคนที่ต้องการความช่วยเหลือดันไม่อยากให้ช่วย เอนเคยอธิบายไว้ แต่ซินเทียร์เพิ่งรู้สึกแย่ ๆ อย่างที่เอนเคยพยายามอธิบายไว้ให้นางฟังมาก่อนก็วันนี้
“ข้าว่ามีอาขอบใจอยู่ในใจ แค่ไม่พูดน่ะ” เมย์ทันจับสังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายทัน มั่นใจว่าสีหน้าที่เห็นแวบหนึ่งของฝ่ายนั้นคือความรู้สึกว่าพลาดไป ประกอบกับยังมีศักดิ์ศรีที่ว่าจะไม่รับความช่วยเหลือหรือยอมรับคนอื่นเป็นมิตรเสมอฐานะค้ำคอไว้จนไม่อาจเปล่งคำพูดที่ซินเทียร์รอจะได้ยินอยู่ได้
“งั้นเหรอ...” ซินเทียร์พึมพำอย่างมีความหวัง
เมย์พยักหน้า นางไม่แน่ใจว่าซินเทียร์จะเข้ากันได้กับมีอาเลย แต่พวกนางอยู่บ้านพักนักเรียนเดียวกัน และมีอาก็ดูเหมือนถูกคนอื่นตั้งแง่อยู่ขณะที่ซินเทียร์พยายามเข้าหาก่อน เมย์มองว่าสุดท้ายแล้วเป็นไปได้ที่มีอาจะเปิดใจให้ซินเทียร์ คำพยากรณ์ของทั้งคู่ก็คือจะได้เป็นราชินีเหมือนกันด้วย
…เมื่อปลายทางเหมือนจะไขว่คว้าหาสิ่งเดียวกัน ร่วมมือกันตั้งแต่ต้นทางน่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ…
ขณะที่เมย์คิดว่าซินเทียร์และมีอาควรเป็นมิตรมากกว่าศัตรู เมย์ก็มองออกว่าจริง ๆ แล้วซินเทียร์ไม่ได้จะเข้าหามีอาเพราะหยั่งความคิดไปไกลถึงผลประโยชน์ในอนาคตของตนแม้แต่น้อย