กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร - ตอนที่5 วันเปิดเรียน โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

ผู้แต่ง

พี่บัวลอยไข่หวาน

เรื่องย่อ

เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมีหลากหลายรูปแบบซึ่งความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูกย่อมมีแต่ความห่วงใย แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม


ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่งการกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปแม้ในบางครั้งสิงที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

“เมย์”เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตของจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์

มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาที่ล่มสลายไปเพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู

เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากหนังและอนิเมะหลาย ๆ เรื่องและไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้นและเนื้อหาอาจจะมีความล่อแหลมอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง โปรดใช่วิจารณญาณในการรับชม ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยความปราถนาดีจาก พี่บัวลอยไข่หวาน

สารบัญ

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่1 ซินเทียร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่3 วันสอบเข้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่4 เรื่องร้ายๆ ในเวลาดีๆ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่5 วันเปิดเรียน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่6 ดันเจี้ยน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่7 ลางร้าย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่8 ทาสตัวน้อยกับอิสระที่โหยหา,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่9 Dawn of Extinction,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอน10 ภารกิจแรก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่11 ราชาอาเธอร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 13 ราชินีมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 14 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 15 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 16 เจตจำนงของผู้เป็นแม่,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 17 เดอะดรีม,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 19 การเดินทาง,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 20 Go to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 21 Welcome to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 22 โดนลักพาตัว,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 23 โดนลักพาตัวตอนจบ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 24 เทศกาลชมดอกไม้,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 25 อาเบะ โนะ เมย์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 26 กำเนิดอัศวินมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 27 คำเตือนจากราชามังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 28 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปฐมบท,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 29 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปัจฉิมบท

เนื้อหา

ตอนที่5 วันเปิดเรียน

ซินเทียร์ในวันเปิดเรียน นางเปิดประตูห้องพักได้ก็วิ่งไปด้วยความรีบร้อน เลยไปชนเข้ากับมีอาที่อยู่ระหว่างเดินทางไปอาคารเรียนเหมือนกัน ทั้งสองจึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้นด้วยนิสัยของมีอาที่ไม่ยอมคนแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อย อาจารย์เจ้าของหอโผล่มาหยุดทั้งสองไม่ให้ลงมือต่อกัน
ทั้งคู่กระฟัดกระเฟียดและต่างรีบมุ่งไปที่ห้องเรียน ต่างก็ไปถึงห้องเรียนได้ทันเวลาแบบหวุดหวิด 
ซินเทียร์ทรุดกายลงนั่งข้างเมย์ และเหลือบตามองมีอาอย่างแปลกใจ ฝ่ายนั้นดันมาอยู่ห้องเดียวกัน
“มีอาต้องไปอยู่ห้องบีไม่ใช่เหรอ” ซินเทียร์กระซิบกับเมย์
“บางวิชาเราเรียนด้วยกัน” 
 คำอธิบายของมีอาทำให้ซินเทียร์สังเกตรอบตัวแล้วพบว่าในห้องเรียนมีจำนวนผู้เรียนหนาแน่น
ทันใดนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งได้เดินเข้ามาเเล้วมานั่งเเทรกกลางระหว่างซินเทียร์และเมย์ สองสาวต่างมองหน้าชายคนนั้นด้วยสายตาที่ไม่พอใจ 
“นี่ นายเป็นใคร เเล้วมานั่งที่ตรงนี้ได้ไง” ซินเทียร์เอ่ยถามชายผู้นั้น 
เขาหันมามองนาง และรีบแนะนำตัว 
“ข้าเหรอ…ข้าชื่อ... โอกามิ โคงะ เเห่งบ้านพยัคฆ์ แล้วนี่ใช่ซินเทียร์ใช่หรือเปล่า ส่วนเจ้าหญิงตกยากคนนั้นชื่อมีอาหรือเปล่าล่ะ” เขาแนะนำชื่อของเขาให้นางทั้งสองคนได้รู้จัก สายตาขยับจ้องมีอาที่เลือกที่นั่งด้านหน้าซินเทียร์ที่บังเอิญว่างอยู่ตอนทั้งคู่มาถึง
คนที่นั่งอยู่ก่อนมีอาในโต๊ะเดียวกัน ดูเหมือนตั้งใจที่จะไม่ทักทายหรือปรายตาสนใจ
“ข้าคือซินเทียร์ ดรากูลนิล เรียกข้าว่า ‘ซินเทียร์’ ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักกันนะ” ซินเทียร์จำต้องแนะนำตัวเช่นกัน 
“ข้าชื่อมีอา” เจ้าตัวเอี้ยวกายมาคุยด้วย “เจ้ามาว่าข้าว่าตกยาก ไม่เป็นการเสียมารยาทไปหน่อยเหรอ” 
“ขอโทษด้วย ข้าไม่ได้รังเกียจฐานะเจ้าหญิงตกยาก ข้าอยากจะผูกมิตรกับหลายๆ คนที่นี่ ผูกมิตรกับเจ้าด้วย”
“โคงะ เจ้ามาทำอะไรตรงนี้เนี่ย” ผู้หญิงคนหนึ่งที่มาสายเอ่ยแทรกเมื่อพุ่งตัวมาอยู่ต่อหน้าโคงะ แต่ถึงจะเรียกเวลานี้ว่าสายแล้ว แต่อาจารย์ผู้สอนก็ยังมาไม่ถึง “ข้าต้องขอโทษเเทนโคงะด้วยนะ ข้ามีชื่อว่าโกเอ็น มินามิ มาจากบ้านเต่าน่ะ” 
ซินเทียร์มองคนที่จะมาเป็นเพื่อนคนใหม่อย่างสนใจ ส่วนมีอาหน้าหงิก
“ขอโทษแทนงั้นเหรอ เลิกคิดว่าข้าทำอะไรไม่เข้าท่าอยู่ตลอดได้ไหม” โคงะกล่าวอย่างกระฟัดกระเฟียด
“ก็ทำอะไรไม่เข้าท่าอยู่ตลอดเลยนี่นา ก็เลยเลิกตามเป็นห่วงไม่ได้ไง”
“เออ ๆ อยากทำอะไรก็ตามสบายเลย”

ในขณะที่ชีวิตการเรียนในโรงเรียนของมีอาเริ่มต้นไปพร้อมกับซินเทียร์ โคด้า อดีตราชินีน้ำเเข็งก็กำลังถูกรักษาโดยไกอาอยู่ เมื่อโคด้าได้สติขึ้นมา ตื่นมาในสภาพมีผ้าพันเเผลเต็มตัว นางมองสำรวจทั่วห้องที่อยู่อย่างรวดเร็วพร้อมกับความรู้สึกสับสน ไม่แน่ใจว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่จริง 
ภายในห้องเต็มไปด้วยสมุนไพรเเละยารักษามากมาย สายตาของโคด้าได้พบกับเด็กสาวที่กำลังเข้ามา มือของนางถือถาดที่ดูเหมือนใส่ผ้าชุบน้ำหมาดเอาไว้มาเช็ดตัวให้ ภาพคนมีชีวิตที่เห็นขยับได้จริงยืนยันกับโคด้าว่าตัวนางเองยังมีชีวิตอยู่
เด็กสาวที่เห็นโคด้าฟื้นแล้ว ตะโกนเรียกหาไกอาด้วยความยินดี
“ท่านไกอาคะ ท่านไกอา นางฟื้นเเล้ว”
“เออ ๆ โวยวายอยู่ได้ ยายบ๊องเอ๊ย” 
“ท… ที่นี่ที่ไหนกันเนี่ย เเล้วพวกเจ้าเป็นใคร” โคด้ายังไม่อยากเชื่อว่าจะได้รับการช่วยเหลือมาจริง ๆ 
นางเป็นทั้งผู้แพ้ในสงคราม และได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อน
“ข้าชื่อไกอา ข้าเป็นหมอ ส่วนยายเด็กบ๊องนี่มีชื่อว่ามาริ ยายนี่เป็นลูกศิษย์ของข้าเองแหละ” ไกอาแนะนำตัวเองและลูกศิษย์ให้โคด้ารู้จัก 
“ราจีน่า โคด้า อดีตราชินีเเห่งรามิทิส เเต่ช่างมันเถอะ… ยังไง ข้าต้องขอขอบคุณพวกเจ้า” 
ไกอามองว่าโคด้าปรับตัวได้เร็ว คงมองตัวเองว่าไม่ได้มียศศักดิ์เพราะแพ้ในสงครามจนสูญเสียฐานะเป็นผู้ปกครองไปแล้ว
ไกอาลองพูดคุยแบบเป็นกันเอง โคด้าก็ไม่ได้จะยั้งนางไว้เพราะคิดว่าลบหลู่เกียรติ หรือลูบคมศักดิ์ที่เหนือกว่า
“ไอ้ที่เจ้าสูบอยู่คืออะไรเหรอ มันหอมดีนะ ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสบายใจดีจริง ๆ ”
“ที่สูบนี่คือสมุนไพรที่ปรุงสูตรขึ้นมาเอง เรียกว่าอีวา บำรุงเลือดและคลายเครียดได้ดีทีเดียว”
“น่าสนใจดีจริง แล้วนี่ เรื่องค่ารักษาล่ะ” 
“ไม่ฟรีหรอก หายเเล้วช่วยทำงานชดใช้ด้วยนะ” ไกอาเป่าลมหายใจพร้อมควันอย่างไม่เกรงใจ ยิ่งเห็นว่าโคด้าดูเหมือนชอบ ความเกรงใจที่แทบจะไม่มีอยู่แล้วก็มลายไปจนหมด “มาริ เอาอะไรให้โคด้ากินหน่อยสิ”
“นี่ มาอยู่ในที่แบบนี้ เป้าหมายของเจ้าคืออะไรเหรอ” โคด้าอยากรู้จักไกอามากขึ้น
เดี๋ยวต้องมาชดใช้หนี้ค่ารักษาด้วยการอยู่ด้วยกัน นางเองไม่มีที่ไป ดูสภาพการณ์แล้วโคด้าคิดว่านางอาจจะต้องพึ่งพาไกอาไปอีกสักพักใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมหาวิธีกลับไปใช้ชีวิตของนางต่อ นางเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะหาทางกอบกู้สถานะและเกียรติยศกลับคืนมา หรือจะใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาที่ห่างไกลจากรูปแบบชีวิตที่เคยมี
ใจคิดถึงเรื่องลูกสาว ชีวิตที่ผ่านมาไม่มีสิ่งอื่นที่นางอาลัยอาวรณ์อีก
“ข้าอยากสร้างโพชั่นไร้สีขึ้นมา เพื่อให้ผู้คนพ้นจากอาการบาดเจ็บ” ไกอาอธิบายตอบคำถามของโคด้า 
“ไอ้ยาในตำนานนั่นน่ะเหรอ โอ้ย ฮะ ๆ ๆ ฮ่า ๆ เป้าหมายยิ่งใหญ่ดีนี่ สมเป็นหมอดีนะ” 
“เจ้าต้องมาร่วมมือกันนะ ทดเเทนค่ารักษาไง” 
“เฮอะ ก็คงต้องเป็นยังงั้น” 
โครกคราก ๆ เสียงท้องของโคด้าดังขึ้นมาตอนที่มาริกลับเข้ามาอีกทีพร้อมกับถาดอาหาร โคด้าลุกขึ้นมากินข้าวอย่างเต็มคราบ ส่วนไกอาก็ยังสูบไปป์อย่างสบายอารมณ์ 

ช่วงเวลาอาหารกลางวันที่โรงเรียน เมย์กับซินเทียร์พากันมากินอาหารมื้อกลางวันด้วยกัน 
“อีอาเอ๋อ อาอังอ้วยอัน” ซินเทียร์ทันเห็นมีอา นางพูดในขณะที่ตนยังเคี้ยวอาหารอยู่ เสียงฟังไม่รู้เรื่อง
“มีอา มานั่งกินข้าวด้วยกันตรงนี้สิ” เมย์แปลคำพูดของซินเทียร์ที่เพิ่งโพล่งออกไป
มีอาอึดอัดกับการกระทำของซินเทียร์ที่ดูเหมือนกับคนธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้ถูกอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทต่าง ๆ ทางสังคม ส่วนเมย์นั้นก็เกรงว่าอาหารที่ยังคงอยู่ในปากซินเทียร์จะเลอะตัวซินเทียร์จนได้
ทั้งคู่เห็นตรงกันว่าซินเทียร์ควรจะกลืนให้เสร็จก่อนพูด
“โธ่… เลอะหมดเลยไหมล่ะซินเทียร์ ค่อยๆ กินก็ได้”
“กลืนลงไปก่อนสิ แล้วค่อยคุย เฮ้อ... สามัญชนก็เเบบนี้แหละ ทำตัวให้เหมาะสมกับคำทำนายหน่อยสิ”
“ไม่เอาน่า ยังไงก็ดี ๆ กันไว้เถอะ เรามากินข้าวให้อร่อยกันเถอะ” ซินเทียร์ยักไหล่อย่างไม่แยแสคำแนะนำเท่าใดนัก 
“มานั่งด้วยกันเถอะ” 
ในขณะที่มีอาใจอ่อน และขยับจะทรุดกายนั่งลงกินข้าวด้วย คนที่เดินผ่านฉวยโอกาสในการแกล้งนางด้วยการจับเเก้วน้ำเทลงหัว ของเหลวกระเซ็นลามไปเลอะซินเทียร์ 
“แก ทำอะไรของแก อยู่ดี ๆ ก็เอาน้ำมาเทใส่หัวชาวบ้าน” มีอาถลันลุกขึ้น
“อุ๊ย... ข้าขอโทษนะ... พอดีว่าแก้วมันหลุดมือน่ะ แกน่ะก็แค่องค์หญิงสิ้นอาณาจักรเท่านั้นแหละ แล้วยายเด็กมังกรนี่ก็เหม็นสาบจริง ๆ ไม่ควรจะมาอยู่ที่นี่หรอก เลอะเทอะไปหมดทั้งคู่ น่าสงสารจริงๆ เลยเนอะ” อีกฝ่ายนั้นแกล้งทำหน้าซื่อตาใสต่อหน้ามีอา เมย์ และซินเทียร์
“แกมีสิทธิ์อะไรมาแกล้งมีอาอีก ถ้าเเกยังไม่ขอโทษอีกละก็ เเกจบไม่สวยแน่นอน” ซินเทียร์ลุกมาผลักตัวอีกฝ่ายไปให้พ้นมีอา 
“ทำไมต้องขอโทษพวกแกล่ะ ไอ้พวกชั้นต่ำ” 
ผัวะ!!!!
ซินเทียร์กำหมัดแน่นแล้วชกไปที่หน้าของอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง หมัดออกไปเต็มเเรงจนอีกฝ่ายลงไปนอนกับพื้น เมย์ต้องห้ามซินเทียร์ก่อนที่เรื่องจะบานปลายไปมากกว่านี้ 
ภายในใจของมีอาเริ่มยอมรับซินเทียร์ขึ้นมา

“ช่างก่อเรื่องดีจริง ๆ เลยนะ”
อาจารย์เหลียวมองซินเทียร์ที่ถูกลากตัวมาพบ 
“โทษของนางคืออดมื้อเย็น” ฟูเอโกเลออนลงโทษซินเทียร์ นางที่นั่งเก้าอี้มองมาพร้อมกับเปลวเพลิงที่ห่อหุ้มมือ
“เดี๋ยวค่ะ ซินเทียร์ทำไปเพราะช่วยข้า” มีอาที่ตามมาด้วยก้าวออกมาแก้ตัวให้
“งั้นก็รับโทษไปด้วยกันสิ เพราะอยู่บ้านเดียวกันด้วย ส่วนยายหนูที่มีเรื่องด้วย อยู่บ้านวิหคสินะ ต้องบอกเจ้านั่นหน่อยละ” ฟูเอโกเลออนทำหน้าอ่อนใจ และโบกไม้โบกมือไล่ทั้งหมดให้ออกจากห้อง
เรื่องทุกอย่างถูกคลี่คลายเร็วกว่าที่กังวลไป
ทั้งหมดเดินออกมาจากห้องทำงานของอาจารย์อย่างงง ๆ
“เรายังกลับไปกินข้าวกลางวันได้ใช่ไหม” ซินเทียร์กล่าวถามเมย์ราวกับยังไม่คลายจากทั้งความขุ่นมัว และความงุนงง
“อืม” มีอาเป็นคนตอบ และเดินนำกลับไปที่โรงอาหารก่อน
คนที่มีเรื่องด้วยถูกหามออกไป ดูท่าว่าจะไม่กลับมารกหูรกตาพวกนางที่โรงอาหารอีกแน่
“ต้องกินเยอะ ๆ กันหน่อยนะ ตอนเย็นจะได้ไม่หิว หรือเดี๋ยวถ้าหิวมาที่หอฉันนะ ทั้งสองคน” เมย์พูดเบา ๆ ตอนท้าย นางเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ บทลงโทษไม่ได้รุนแรงมาก 
“นี่หมายถึงเจ้าจะเก็บของกินไว้ให้เหรอ” ซินเทียร์ตาโต
“ไม่… ข้าหมายถึงจะอดไปด้วยกัน เป็นเพื่อนด้วย” นั่นคือสิ่งที่เมย์คิดว่าทำได้เพื่อเพื่อน
“ขอบใจนะเมย์ มีอา ฮะ ๆ เดี๋ยวเรามาอดมื้อเย็นด้วยกัน” ซินเทียร์ก้าวตามมีอาและเมย์ไปด้วยสีหน้าที่ปลอดโปร่งใจขึ้น
“ขอบใจนะ” มีอาพูดเบา ๆ หยุดเดินแล้วเอี้ยวกายหันมามองสบตา “อุตส่าห์มาปกป้องข้า… เเต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกลียดขี้หน้าเจ้าอยู่ดี”
มีอาชะงัก จ้องเข้าไปในดวงตาของซินเทียร์
“เกลียดจริง ๆ ...เด็กอะไรเนี่ยน่ารักเกินไป น่าเกลียดน่าชังชะมัด”
สายสัมพันธ์! ใช่แล้วแหละ มิตรภาพระหว่างสามสาวนั้นก่อตัวขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้อย่างเข้มแข็ง

ในคาบของอาจารย์เมเลโอน่า พวกสามสาว ซินเทียร์ เมย์ และมีอา ได้เรียนทฤษฎีประเภทของเวทมนตร์เเละมานาสกิน
“วันนี้เราจะเรียนเรื่องมานาสกิน มันคืออะไร ใครตอบได้” 
“ค่ะ… คือการเอาพลังเวทห่อหุ้มร่างกายเป็นเกราะที่มองไม่เห็น” เมย์ตอบอาจารย์ไปด้วยความมั่นใจ 
“เอาล่ะ นั่งลงได้ เดี๋ยวเราฝึกปฏิบัติกัน ขอเป็นคุณซินเทียร์”
ซินเทียร์ไปที่หน้าห้องเพื่อร่วมแสดงการใช้มานาสกินหลังคำพูดสอนของอาจารย์ ใจนางนึกถึงคำสอนของราชามังกรผู้เป็นพ่อของนางไปด้วย
“การห่อหุ้มเวทหรือที่เรียกว่ามานาสกิน ให้นำเวทธรรมชาติมาห่อไว้จะดีกว่า จะได้ไม่เปลืองเวทที่มีอยู่”
"ไอ้ที่พ่อสอนนี่เอง เริ่มเลยละกัน…"
“สุดยอดเลย เทคนิคชั้นสูงชัด ๆ เป็นการใช้เวทธรรมชาติ ใครกันนะที่เป็นคนสอนนาง” ฝ่ายที่เป็นอาจารย์นั้นเอ่ยชมเด็กสาวที่เพิ่งจะแสดงการใช้มานาสกินเมื่อสักครู่ด้วยความแปลกประหลาด คิดไม่ถึงมาก่อนเลยว่าเด็กนักเรียนที่เพิ่งจะผ่านการเปิดเรียนในปีแรกมาไม่นาน เป็นแค่เด็กสาว จะใช้พลังของนางได้ค่อนข้างน่าทึ่ง
“พ่อของหนูเองค่ะ ท่านเป็นคนสอนให้” นางตอบอาจารย์ไปอย่างภาคภูมิใจที่มีพ่อเป็นถึงราชามังกร
“เก่งน่าดู ถึงขั้นใช้เวทธรรมชาติได้”
การฝึกปฏิบัติเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ซินเทียร์ได้ให้คำแนะนำกับนักเรียนบางคนที่เข้ามาขอคำแนะนำด้วย จนเวลาผ่านไปถึงตอนเลิกชั้นเรียน ทุกคนก็ได้เเยกย้ายกันไปพักตามบ้านของตน 
ซินเทียร์ที่เดินกลับชนผู้ชายคนหนึ่งเข้า เขามีหน้าตาเหมือนกับเอน ราชามังกรเเห่งจุดจบ
“อะ ขอโทษนะคะ… พ่อ!!! พ่อมาได้ไง” นางตกใจ
แต่เขาที่นางพบ คือราชามังกรขาว
“ใครพ่อเจ้ามิทราบ อ้อ รู้เเล้ว เป็นลูกของเจ้าบ้านั่นสินะ” ใบหน้าของอีกฝ่ายเหมือนกันมาก แต่เพียงแสดงสีหน้าก็ดูมีความต่างกัน “ข้าคือราชามังกรขาว บิลเดอร์ดราก้อนต่างหาก เอาเถอะ ข้าก็ยินดีนะที่ได้เจอเจ้า” 
“แล้วทำไมลุงถึงเรียกพ่อแบบนี้เหรอคะ”
“ข้าเกลียดขี้หน้ามันน่ะสิ” คนโตกว่าพูดแกมหัวเราะ ตาวาวอย่างร่าเริงแฝงนิสัยขี้เล่น
ซินเทียร์ผ่อนคลายลง และเผลอหลุดหัวเราะตาม รู้ดีว่าลุงที่ทำสีหน้าเช่นนั้นไม่มีทางเป็นศัตรูกับพ่อของนางได้
“รินเนะเป็นไงบ้าง ยายนั่นสบายดีมั้ย” เขาถามถึงราชินีมังกร ผู้เป็นแม่เลี้ยงของซินเทียร์
“สบายดีค่ะ เเต่ทำตัวงอเเงตลอด” ซินเทียร์ตอบอีกฝ่ายไปตามตรง  
“สมเเล้วที่เป็นยายนั่น ว่าง ๆ ไปเยี่ยมหาเจ้าบ้าเเละยายบ๊องนั่นบ้างดีกว่า” ราชามังกรขาวยิ้มที่มุมปาก ก่อนตวัดสายตามองซินเทียร์ “ข้าขอตัวไปก่อนนะ” 
เขาหมุนกายเดินทิ้งซินเทียร์
“ลาก่อนนะคะ คุณลุง” ซินเทียร์ไม่รั้งเขาไว้ นางยกมือขึ้นโบกหยอย ๆ ไล่หลังเขาไป

ซินเทียร์กำลังรับโทษให้อดมื้อเย็น มีอาที่โดนลงโทษด้วยกันมานั่งจ้องหน้ากันเป็นเพื่อนในห้อง เสียงท้องของทั้งคู่ประสานกันจนต่างฝ่ายต่างมองตากัน เเละหลังจากนั้นมีอาก็เริ่มสะอึกสะอื้นและร้องไห้ออกมา ซินเทียร์ไม่แน่ใจว่าอะไรผลักดันให้มีอาร้องไห้จริงจังน้ำตานองหน้า แต่ท่าทีร้องไห้ออกมาแบบไม่อายใครอย่างคนที่กำลังเศร้าทุกข์เหลือเกิน ทำให้ซินเทียร์ดึงมีอาเข้ามากอดประโลม
โครก…คราก…
“หิวจังนะ หิว ๆ โคตรหิวเลย” ซินเทียร์บ่นงึมงำ ๆ 
“อย่าบ่นสิ ยิ่งบ่นก็ยิ่งหิว” มีอาที่ถูกกอดไว้กระซิบที่ข้างหูซินเทียร์ แล้วก็ถามมาเบา ๆ “นี่ซินเทียร์ เจ้าเคยสูญเสียใครมั้ย” 
“ยังไม่เกิดขึ้น เพราะเกิดมาก็อยู่กับพ่อมังกรของข้าเเล้ว มีคนอื่นด้วยที่รักข้า มีอีกเยอะเลยแหละ” ซินเทียร์ตอบไปตามตรง แต่ขณะเดียวกันก็เริ่มฉุกใจคิดว่านางอาจไม่ควรพูดความจริง เพราะมีอาไม่ได้เป็นแบบนาง การพูดในสิ่งที่คนอื่นไม่มีนั้นจะถือเป็นการโอ้อวดก็ได้
แต่ในอีกใจหนึ่ง ซินเทียร์คิดว่าการตอบไปตามตรงมากกว่าเสแสร้งเพียงเพื่อให้เพื่อนสบายใจขึ้นก็อาจจะเป็นการเสแสร้งที่นางทำไม่ได้ นางไม่ใช่คนที่จะโกหกคนได้เก่งหรือแนบเนียน ดังนั้นซินเทียร์ก็เริ่มทำใจว่ามีอาจะหงุดหงิดกับนางก็คงต้องให้เป็นไป
มีอาต้องอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับเรื่องที่ว่านางต้องสูญเสียหลายอย่างและก็ต้องปรับตัวให้เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
คนธรรมดาย่อมอยู่กับคนธรรมดาที่มีความแตกต่างกันได้ 
“ข้าชักอิจฉาเจ้าแล้วสิ เเต่ว่า…ขะ...ข้าไม่มีที่ให้กลับเเล้วละ ฮะ...ฮึก” มีอาเปิดเผยความรู้สึกในใจ
ความเศร้าทำให้มีอาไม่ได้เกรี้ยวกราดใส่ซินเทียร์ ไม่ตีความหมายความจริงใจที่พูดแต่ความจริงของซินเทียร์ไปในแง่ร้าย
“ข้าร้องไห้เป็นเพื่อนได้มั้ย” ซินเทียร์เอ่ยอย่างเกร็ง ๆ
“ฮึก...ฮือ…ขอบใจนะที่ยอมรับฟังข้า” มีอากอดซินเทียร์แน่น
หลังร้องไห้อยู่ครู่ใหญ่โดยเหมือนกับกดเสียงไว้ไม่ให้ดังนัก มีอาก็เปิดปากระบายความในใจทุกอย่างออกมา ทั้งความเศร้าความอัดอั้นตันใจ จนในที่สุดนางก็เผลอหลับไป คงทั้งเหนื่อยและหิว และอาจไม่เหลือข้อความค้างคาใจให้พูดต่อ ทางซินเทียร์จึงปล่อยตัวเองให้คล้อยตามหลับไปด้วย โดยทั้งคู่ยังกอดกันอยู่ 
ในความฝันของซินเทียร์ที่กำลังหลับ ซินเทียร์เริ่มเห็นหญิงคนนั้นที่เป็นปริศนาได้ชัดขึ้น การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายก็ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ระยะเวลาที่ฝันก็ดูเหมือนยืดยาวออกไปกว่าเดิม ก้าวย่างของนางผู้นั้นมากกว่าครั้งก่อนยามเคลื่อนเข้ามาหา ทุกสิ่งที่ตาเห็นดูคุ้นตาทำให้รู้สึกคุ้นเคย
“ตื่นได้เเล้วซินเทียร์!!!”
เสียงปลุกของมีอาทำให้ซินเทียร์สะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้น
“อืม…ขออีกเดี๋ยวสิ” ซินเทียร์ล้มตัวลงนอนพร้อมกับพลิกกายไปอีกด้าน
“มันสายเเล้วนะ!! เดี๋ยวเราก็โดนอาจารย์ฟูเอโกเลออนเล่นเอาหรอก”
“เดี๋ยวนะ ข้าวเช้าล่ะ” ซินเทียร์ตื่นเต็มตา
“ชั้นเรียน เราต้องไปก่อนที่จะสาย” มีอาออกแรงดึงแขนซินเทียร์ “
“ข้าวเช้า” ซินเทียร์ลุกมางัวเงีย 
“ไปกินที่โรงอาหารเเล้วกัน เร็วเข้า” มีอาตะโกนเร่งใส่ แล้วคอยเปิดปากพูดออกคำสั่งให้ซินเทียร์ลุกไปอาบน้ำ คอยเคาะประตูเรียก กำกับนางให้ใส่เสื้อผ้า ทุกวินาทีมีแต่ความรีบเร่ง เพราะถ้ายิ่งช้า ข้าวเช้าคงจะไม่ตกถึงท้อง และถ้าสาย ดีไม่ดีอาจจะถูกลงโทษให้อดข้าวเที่ยงด้วย และถ้าการเรียนภาคบ่ายเผลอหลับเพราะหมดแรงหรือไม่มีพละกำลังแล้วทำกิจกรรมได้ไม่ดี อาจจะอดกินข้าวเย็นอีก
ซินเทียร์พร้อมก็เร่งฝีเท้าออกจากห้องพร้อมกับมีอา 
ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าตนเองถูกจับตามองระหว่างทางไปโรงอาหาร ตัวตนของคนที่จับจ้องมองทั้งคู่ยังเป็นปริศนา เขาเป็นใครกันแน่