กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ผลสอบออกมาว่าซินเทียร์ผ่านทั้งหมด
มีอาเข้ามาแสดงความยินดีด้วย สมาชิกกลุ่มทั้งสามคนรู้สึกหายใจโล่งคอเพราะแม้แต่วิชาสุดโหดของอาจารย์ดันเต้ที่ลำบากที่สุดในการจดจำรายละเอียดและต้องซักซ้อมการฝึกปฏิบัติจนไม่ได้หลับได้นอน พวกนางก็สามารถผ่านการสอบมาด้วยกันหมดได้
“อืม...สอบผ่านแบบสบายมากเลย ต้องขอบใจเมย์เป็นอย่างมาก” ซินเทียร์ยิ้มแก้มแทบปริ
“ไหน ๆ ก็สอบเสร็จเเล้ว ไปเที่ยวกันเถอะซินเทียร์”
“ชวนมีอาไปด้วยกันได้ไหมล่ะเมย์”
“ได้สิจ๊ะ เพราะมีอาเป็นเพื่อนเราไง”
“จริงหรอ? งั้นเดี๋ยวไปชวนมีอาก่อน มีอา…ไปเที่ยวกันไหม”
“เร็วซะจริง สมแล้วที่เป็นนางนะซินเทียร์” เมย์แอบชมซินเทียร์ตามหลัง
ในการฉลองหลังเรียนจบภาคการศึกษา ทั้งสามไปเที่ยวที่ตลาดท้ายเมืองด้วยกัน โดยหนึ่งในสถานที่ซึ่งสามสาวตั้งใจจะหยุดแวะใช้เวลาให้เต็มที่ ณ ตลาดแห่งนี้ คือ “ร้านหมูย่างใบบัว” เป็นร้านเด็ดที่สุดของคาเมรอตที่เปิดมาเป็นเวลาหลายสิบปี เเถมได้รางวัลเมอรินชวนชิมห้าปีซ้อนเป็นสิ่งการันตีความอร่อยเด็ดของอาหารและบริการอันเยี่ยมยอดของพนักงาน
หมูย่างที่เข้าปากมีความหนุบหนับ น้ำจิ้มหลากหลายแบบ มีพริก กระเทียม และผักแกล้มให้กินจนสาแก่ใจ
พอกินกันจนอิ่ม ดื่มน้ำผลไม้ที่มีให้เลือกหลายเมนูจนแปล้ รอจนย่อยสักนิดซินเทียร์ก็ชวนทุกคนไปเดินตลาด
ทั้งสามหยิบเครื่องประดับมาดู หยิบเสื้อมาเทียบกับตัว แต่ระหว่างทางซินเทียร์ก็ทันเห็นซอกตึกที่เดินเข้าไปได้สบาย ซอกตึกนี้ดูมืดสลัว คงเพราะเงาของตึกและการที่มีคนเอาขยะในถุงกระสอบมาวางระเกะระกะรอเทศบาลเมืองมาเก็บ
ซอกตึกนี้โดยรวมมีบรรยากาศน่าอึดอัด พอซินเทียร์เขม่นมองลึกเข้าไป นางเห็นแสงจากร้านประหลาด และทันเห็นกรงที่มีผู้คนอยู่ภายใน
ซินเทียร์อยากจะเห็นให้ชัดกว่านี้
“เมย์ ตรงนั้นเขาทำอะไรกัน”
“ในซอกนั้นมีร้านค้าทาส”
“แล้วเสียงนั้น มีเสียงขวับ ๆ”
“ก็เสียงฟาดทาสนั่นแหละ ตลาดท้ายเมือง พอเข้าในตรอกนั้นจะเห็นหลายร้านเปิดอยู่ เป็นเเหล่งค้าทาสสำคัญที่หลบอยู่ในเมืองใหญ่” เมย์อธิบายให้ฟังด้วยสีหน้าเหมือนกับฝืนใจเล่า แต่แล้วก็มีแววตาที่กระจ่างขึ้น “ซินเทียร์ อยากช่วยพวกเขาเหรอจ๊ะ “
“อืม อยากช่วยพวกเขาจัง เเต่ว่าต้องทำยังไงดีล่ะ”
“แล้วจะช่วยยังไง เอาเงินมาจากที่ไหนมาช่วยดีจ๊ะ” เมย์ชอบเวลาได้เห็นซินเทียร์อยากทำสิ่งดี ๆ และตื่นเต้นเพราะซินเทียร์จะมีวิธีน่าสนใจมานำเสนอให้นางได้สนุกสนานในการให้ความร่วมมือ
“อืม…เอาเงินที่ไหนมาช่วยดีล่ะเนี่ย อัดเจ้าพ่อค้าทาสนั่นทิ้งดีมั้ย”
“อย่าหาทำ ถ้าทำเเล้ว เดี๋ยวก็โดนล่าค่าหัวซะหรอก” เมย์ส่ายหน้าอย่างไม่เห็นด้วย และคิดว่าคราวนี้ควรจะช่วยเสนอความคิดชี้นำวิธีการที่น่าจะเหมาะสม “เอาอาติเเฟคไปเเลกก็ได้นะ”
“จริงด้วย เราเพิ่งพิชิตดันเจี้ยนมาเลยนี่เนาะ”
เมื่อทั้งสามได้คุยกันเป็นที่เรียบร้อย ได้ไปหาพ่อค้าทาส และทำการขอซื้อทาส
“เราขอซื้อทาสหน่อย ขอซื้อทั้งหมดจะได้มั้ย” ซินเทียร์พร้อมจะทุ่มหมดหน้าตัก นางมองสิ่งที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ด้วยกันเองแล้วรับไม่ได้
“ช่างน่าขันยิ่งนัก เด็กพวกนี้จะซื้อทาสว่ะ ดูสิ ๆ ข้าหัวเราะจนปวดท้องหมดเเล้ว”
พ่อค้ามองมาด้วยสายตาที่ดูถูกเหยียดหยาม
“ข้าไม่ชอบขี้หน้าไอ้กร๊วกนั่นเลย ทำไมรู้สึกอยากอัดหน้าอย่างรุนแรง”
“นี่...ซินเทียร์ ใจเย็น ๆ ก่อน”
“เริ่มไม่ไหวเเล้ว เมย์อย่าห้ามข้า ข้าอยากจะอัดไอ้เบื๊อกนี่”
“ใจเย็นก่อนซินเทียร์ เดี๋ยวก่อนนะ นางอยากโดนพวกอาจารย์สวดยับงั้นเหรอ” เมย์ปรามซินเทียร์
“ว่ามา ราคาเท่าไหร่ ทั้งหมดนี่”
“ทั้งหมดนี้ อืม...หกพันกิลดิ์กับอีกสี่ร้อยเหรียญเงิน” พ่อค้าทาสกำลังโก่งราคาทาสอยู่
“โกงหรือเปล่า ทำไมมันเเพงขนาดนี้ล่ะ นี่มันสามารถซื้อปราสาทได้ทั้งหลังเลยนะนั่น”
“แพงงั้นหรอ? ทาสชั้นดีขนาดนี้ไม่มีอีกเเล้ว ข้ามีทั้งเอลฟ์ทั้งพวกแวร์บิส เจ้าไม่ซื้อ ข้ารอคนอื่นหรือไปขายคนอื่นดีกว่า พวกขุนนางก็ต้องการเช่นกัน”
“ข้าไม่มีเงิน มีแต่เจ้านี่ได้มั้ย” เมย์ดึงของมีค่าออกมาเพื่อเจรจาแทนเงิน
พ่อค้าทาสเพ่งมอง แล้วก็แลบลิ้นเลียปากอย่างถูกใจ
“ขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ข้าไม่เคยเห็นเด็กมาซื้อทาสอย่างเจ้านี่” เขายื่นมือมาแตะของที่เมย์ยื่นให้ดู “ดูซิ ไอ้นี่มันของเเพงมากเลย มันคืออาติเเฟค จอกสุราไร้สิ้นสุด ทำให้สุราในแก้วดื่มได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ราคาในท้องตลาดอยู่ที่สองหมื่นกิลดิ์เลยนะนั่น”
“มีเงินทอนมั้ยนะ ว่าไงล่ะพ่อค้าทาส”
“ก็ได้ ๆ ข้าเอา มีเงินทอนแน่นอน ส่วนทาสเอาไปได้เลย”
ประตูกรงทั้งขังเดี่ยวและขังหมู่ถูกเปิดให้ บรรดาทาสต่างขอบคุณซินเทียร์และเพื่อน ๆ เป็นการใหญ่
ทางด้านราชินีรามิทิสที่อาศัยอยู่กับไกอา ตลอดเวลานางทำงานอย่างเต็มที่ แม้การทำโพชั่นมีความลำบากยากเข็ญอยู่ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะเป้าหมายของไกอาที่ตั้งใจทำโพชั่นที่เป็นดังตำนาน ซึ่งไม่มีทางสำเร็จได้ง่าย ๆ เลย ทั้งไกอาและโคด้าจึงต้องตั้งใจค้นคว้าอย่างมุ่งมั่นและทุ่มเท มาริคอยเป็นผู้ช่วยที่หาสมุนไพรมาสนับสนุน ทุกพันธุ์ที่หามาได้ถูกนำมาผ่านมือของไกอา แต่ผลลัพธ์การค้นคว้าก็ยังล้มเหลวอยู่
“พลาดอีกเเล้ว เอาไงดีล่ะไกอา” โคด้ากำลังท้อไปด้วย
ทั้งคู่ไม่เคยได้หยุดหย่อนพักผ่อนจากการกรุ่นคิดถึงวิธีการ แม้จะมีเวลาที่ได้เพลิดเพลินพักผ่อนกายก็ตาม เพื่อที่โลกจะปราศจากผู้คนเป็นเหยื่อสูญเสียหรือเจ็บป่วยจากสงคราม
“จงอย่ายอมแพ้ก็พอ รับรองว่าสำเร็จแน่นอน โคด้า” ไกอายิ้มอย่างเข้มแข็ง
“ทำเป็นร่าเริง แต่แววตาของนางดูเศร้า ปากยิ้มตาไม่ยิ้ม อย่ามาโกหกข้าเลยไกอา”
“ใคร!! ใครเศร้ากัน อย่ามโน ฟู่…ใครกัน พูดมั่วแล้วโคด้า” ไกอาหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ช่างเถอะ ข้าคงเข้าใจผิดไปเองล่ะนะ” โคด้าคิดว่าแสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นความรู้สึกที่แท้จริงของไกอาจะเป็นการให้กำลังใจอีกฝ่ายอีกทางหนึ่งมากกว่า
“มาแล้วค่า...วันนี้ก็เหนื่อยเป็นบ้า คุณไกอากับคุณโคด้าหิวหรือยังคะ จะทำกับข้าวให้นะคะ”
“ดีเลย ฝากด้วยนะมาริ ทำมาสองที่นะ” โคด้าหันมามองมาริ และหันตามไกอา “นั่นเขาไปทำงานต่อที่ห้องวิจัยแล้ว”
“สักครู่เดี๋ยวเอามาให้ แล้วเดี๋ยวมาช่วยงานนะคะ”
“หิวจริง ๆ ฝากด้วยนะมาริ”
“ค่ะ…รีบเร่งมือ เดี๋ยวจะได้อิ่มท้องแล้วลุยงานกันต่อ”
ซินเทียร์ในตอนนี้น้อมตัวลงคุยกับสองเด็กชายหญิงที่ไถ่ตัวมาจากพ่อค้าทาส เด็กทั้งสองมาอ้อนวอนต่อซินเทียร์ว่าให้รับพวกเขาไปเป็นลูกน้องเพราะพวกเขาไม่มีที่ไป ดูเหมือนว่าบุพการีของพวกเขาจะพลัดหลงด้วย และอาจจะเสียชีวิตลงจากสงครามแล้ว
เมย์เสนอไอเดียให้เด็กทั้งสองไปทำงานที่ร้านหมูย่างใบบัวแทนที่จะติดตามซินเทียร์ที่กำลังลำบากใจหลังจากปฏิเสธไปแล้วแต่เด็ก ๆ ไม่ยอมจากไป เมย์เห็นอยู่ตอนที่นั่งสังสรรค์กันว่าที่ร้านนี้กำลังขาดพนักงาน รางวัลเมอรินชวนชิมทำให้ยอดขายร้านนี้พุ่งกระฉูดอย่างสม่ำเสมอ เด็กเสิร์ฟไม่เคยเพียงพอกับร้านนี้
เมย์รู้จักกับเจ้าของร้านเป็นการส่วนตัวมาก่อนด้วย
“มาเถอะ ตามมา” ทั้งหมดออกเดินไปที่ร้านหมูย่างใบบัว ซินเทียร์ยังตั้งใจว่าจะเลี้ยงเด็ก ๆ ให้ได้ลิ้มลองหมูย่างร้านที่เป็นจุดหมายให้อิ่มก่อนในคืนนี้ด้วย
“ร้านนี้ไง เห็นป้ายไหม ติดป้ายไว้ด้วยว่าต้องการคนพอดีเลย เด็กสองคนนี้ ชื่ออะไรกันบ้างนะ”
“ม...มิรินค่ะ ซานะ มิริน ชื่อข้าน้อยน่าขำไหมคะ”
“ไม่เลย น่ารักออกนะ เอาเถอะ ๆ รู้จักชื่อกันแล้ว ก็ไปสนใจกินข้าวกันก่อน” ซินเทียร์กระชับมือของเด็กชื่อซานะ และหันมองเด็กอีกคนที่จับมือของซานะไว้ “ส่วนเจ้าล่ะ พ่อหนูน้อย”
“โชยุฮะ มิยาซากิ โชยุ ข้าน้อยหิวข้าวมากเลย อยากกินข้าวแล้วครับ” เด็กชายกะพริบตาปริบ ๆ และผงกศีรษะโน้มลงแสดงความเคารพซินเทียร์ “ยังไงก็ขอขอบคุณท่านซินเทียร์เป็นอย่างมากที่ยอมไถ่ตัวพวกเรา”
“ก็แค่ไม่ชอบบรรยากาศแบบนั้นเลย แค่นั้นเเหละ” ซินเทียร์รู้สึกยินดี แต่ก็เกร็งที่จะโดนมองอย่างยกย่องเทิดทูน
“นี่…พวกเเกจะยืนคุยกันอีกนานมั้ย ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว” มีอาโวยเบา ๆ
“เชิญจ้า หิวอีกแล้วซะเฉย ๆ” เมย์แซวมีอา แต่ก็ไม่แปลกใจเลย ตอนมาที่ร้านรอบแรกด้วยกันมีอายังไม่ได้กินทุกอย่างตามใจปากแต่ยังยั้ง ๆ กิริยาเอาไว้ พอต้องกลับมาอีกรอบ ก็คงจะตบะแตกไปแล้ว อยากจะตามใจปาก
“อ้าว หนูเมย์ เอ๊ะ เด็กสองคนนั้นคือใครกันล่ะนั่น” เจ้าของร้านบังเอิญยืนอยู่ตรงจุดคิดเงินและเห็นเมย์ที่เดินนำเพื่อนเข้ามา
“สวัสดีค่ะ คุณเพนนี่ น้อง ๆ สองคนนี้เราไถ่ตัวมา น้อง ๆ ไม่มีที่ไป เมย์ว่าจะเอามาฝากที่ร้านคุณเพนนี่ได้มั้ยคะ”
“อืม…ก็ได้นะ” เพนนี่มองเด็ก ๆ ด้วยสายตาเอ็นดู ทำให้ซินเทียร์วางใจได้ว่าเมย์ดูคนออก เพนนี่น่าจะเป็นคนที่เหมาะแล้วจะดูแลเด็ก ๆ ได้ เพนนี่คุยกับพวกเด็ก ๆ โดยตรงเหมือนสัมภาษณ์ “แล้วพวกนางสองคนจะทำงานที่นี่ไหวไหมล่ะ”
“ไหวค่ะ ต้องตอบแทนกับโอกาสที่สองที่ท่านซินเทียร์มอบให้” ซานะมีประกายนัยน์ตา
“เช่นกันครับ ผมก็จะพยายามเช่นกันครับสำหรับโอกาสที่สอง” โชยุรีบพูดตาม แต่จริง ๆ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง รีบพูดไปหน่อยเหมือนลิ้นฟาดในปากมั่วไปหมด เป็นคนที่สุภาษิตว่าปากคอพันกันซะแล้ว
“ดี พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” เพนนี่ดูพอใจ “วันนี้กินก่อน กินให้อิ่ม แล้วจะได้อาบน้ำและเข้านอนให้สบายตัว”
“ขอเมนูนี้ หมูย่างราชานรก” มีอานั่งลงก็สั่งอาหารทันที
“โฮะโฮ้...กล้าดีนี่ กล้าสั่งก็กล้าให้จัดไป” เพนนี่เป็นคนรับสั่งอาหารเอง
“ขอชุดเนื้อหมักน้ำมันงา เเล้วก็ลิ้นวัวแล้วก็ตับหมูอีกสองชุด” ซินเทียร์เองยังคิดว่านางกินอีกได้เรื่อย ๆ เมื่อครู่ที่โมโหพ่อค้าทาส ดูเหมือนนางจะย่อยอาหารไปได้เยอะ พอหิว ๆ อีกทีความดันคงขึ้น ร่างกายของนางมักจะเผาผลาญพลังงานไปสูงอยู่ตลอดด้วย ท้องตอนนี้กลายเป็นเหมือนแทบว่าง
“ขอเป็นสเต็กหมูราดซอสไวน์เเดง” เมย์สั่งบ้าง เลือกเอาของที่ไม่ซ้ำกับเพื่อนทั้งสองแต่อร่อยถูกปากนาง
อย่างไรก็ต้องเอามาย่างแล้วก็เอามาแบ่งกันอยู่ดี ควรจะเลือกให้หลากหลายเข้าไว้ จะได้มีตัวเลือกให้เพลิดเพลิน
“แล้วพวกนางสองคนล่ะ” ซินเทียร์ถามเด็ก ๆ
พวกเขาดูงง ๆ แต่พอตรวจสอบดูว่ารู้หนังสือไหม ก็ดูเหมือนพวกเขาเข้าใจตัวหนังสือและอ่านเมนูออก เพียงแต่ไม่ได้รู้ความหมายทุกคำ ทางเมย์จึงแนะนำพวกเขาให้สังชุดเนื้อหมูย่างสำหรับเด็ก
“หมูย่างชุ่มฉ่ำ ไม่คิดเลยว่าผมจะได้กินอะไรเต็มอิ่มขนาดนี้ได้” โชยุยัดเนื้อเข้าปากอย่างตะกรุมตะกรามหลังจากกลืนชิ้นแรกที่เคี้ยวเข้าไป
“เคี้ยวก่อน” มีอาเตือน สายตาจ้องหน้าเด็กที่ตอนนี้อาหารเต็มปาก
“หมูย่างชุ่มฉ่ำครับ” โชยุตะโกนเสียงดังหลังกลืนลงไปแล้ว
เมย์ยื่นแก้วน้ำให้โชยุดื่ม น้ำผลไม้ทำให้เขาชื่นใจ เขาหันไปชวนซานะคุย บรรยากาศผ่อนคลายทำให้ซินเทียร์เองเจริญอาหารขึ้นด้วย หลังจากนั้นทั้งหมดจึงยิ่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ตอนดึกมีวงดนตรีมาบรรเลงดนตรีสด ความครื้นเครงสนุกสนานจึงยิ่งออกรสออกชาติราวกับไม่มีขีดจำกัด