กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร - ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

ผู้แต่ง

พี่บัวลอยไข่หวาน

เรื่องย่อ

เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมีหลากหลายรูปแบบซึ่งความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูกย่อมมีแต่ความห่วงใย แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม


ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่งการกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปแม้ในบางครั้งสิงที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

“เมย์”เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตของจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์

มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาที่ล่มสลายไปเพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู

เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากหนังและอนิเมะหลาย ๆ เรื่องและไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้นและเนื้อหาอาจจะมีความล่อแหลมอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง โปรดใช่วิจารณญาณในการรับชม ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยความปราถนาดีจาก พี่บัวลอยไข่หวาน

สารบัญ

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่1 ซินเทียร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่3 วันสอบเข้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่4 เรื่องร้ายๆ ในเวลาดีๆ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่5 วันเปิดเรียน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่6 ดันเจี้ยน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่7 ลางร้าย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่8 ทาสตัวน้อยกับอิสระที่โหยหา,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่9 Dawn of Extinction,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอน10 ภารกิจแรก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่11 ราชาอาเธอร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 13 ราชินีมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 14 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 15 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 16 เจตจำนงของผู้เป็นแม่,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 17 เดอะดรีม,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 19 การเดินทาง,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 20 Go to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 21 Welcome to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 22 โดนลักพาตัว,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 23 โดนลักพาตัวตอนจบ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 24 เทศกาลชมดอกไม้,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 25 อาเบะ โนะ เมย์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 26 กำเนิดอัศวินมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 27 คำเตือนจากราชามังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 28 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปฐมบท,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 29 มหาสงครามแห่งการกลืนกินปัจฉิมบท

เนื้อหา

ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก

ณ ป่าเอลฟ์ที่แสนสงบ
เอลฟ์ได้พบกับชายปริศนาที่นอนหมดสติอยู่ที่กลางป่าขณะลาดตระเวน 
“ท่านผู้อาวุโส พวกเราพบคนมานอนหมดสติอยู่กลางป่า” เอลฟ์คนหนึ่งที่อยู่กะลาดตระเวนวิ่งหน้าตาตื่นเพื่อมารายงาน เขาเล่าถึงสภาพของมนุษย์ที่ได้พบและการแต่งกายซึ่งผิดแผกแตกต่างจากพวกเอลฟ์
“ให้คนแบกเอาตัวชายผู้นั้นมาก่อน ข้าเห็นว่าเราควรช่วยชายคนนี้ไว้ พอเขาฟื้นขึ้นมาแล้วค่อยถามก็ได้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน”
“ข้าจะนำคนไปพาตัวของเขามาก่อนเองนะขอรับท่าน” 
ชายที่ตัวตนยังเป็นปริศนาถูกแบกหามมาพักฟื้นที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน 
ขณะที่เขายังไม่ได้สติก็ปรากฏว่ามีเอลฟ์แวะเวียนกันเข้าไปเยี่ยมดูไม่ขาดสาย และเพราะแบบนั้นจึงเป็นเรื่องขึ้น เมื่อชายผู้นั้นฟื้นได้สติขึ้นมา นอกจากสถานที่ไม่คุ้นตา เขายังถูกรุมล้อมด้วยเอลฟ์ ทำให้เขาตกใจ เด้งกายขึ้นมายืนโวยวาย ทำเอาพวกเอลฟ์ที่มุงดูอยู่ขณะนั้นก็ถอยไปเพราะตกใจอยู่บ้าง
“อึก ที่นี่ที่ไหนวะเนี่ย แล้วพวกแกเป็นใคร แล้วทำไมฉันมาอยู่ทีนี่ได้วะเนี่ย จำได้ว่ากำลังล่าปีศาจอยู่นี่หว่า”
เหล่าเอฟล์พยายามสื่อสารด้วย แต่ต่างฝ่ายต่างคุยกันไม่รู้เรื่อง ชายหนุ่มผลีผลามกระโจนใส่เอลฟ์เพื่อฝ่าวงล้อม เอลฟ์เองก็ระแวงเขาอยู่ดังนั้นแทนที่จะหลบก็ตั้งรับทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น ทักษะการต่อสู้ของชายหนุ่มแข็งแกร่ง ท่วงท่างดงาม กระบวนท่าที่ใช้ดูไม่คุ้นตา 
พวกเอลฟ์หนุ่มหลายคนถูกเหวี่ยงไปพ้นทาง บางคนก็ถูกซัดจนล้ม 
ช่างน่าตกใจ เอลฟ์ที่ว่ากันว่าแข็งแรงพอกันกับเผ่าโอเกอร์กลับถูกคว่ำลงอย่างง่ายดาย
“เดี๋ยวก่อน… ช่วยด้วยยยยยย” เอลฟ์หนุ่มคนหนึ่งไม่อยากสู้ด้วย
“แกเป็นใคร” ชายหนุ่มที่ต้องการหนีคว้าคอเสื้อ “แล้วที่นี่ที่ไหน แล้วพวกแกเป็นตัวอะไร”
“เจ้าพูดอะไร ข้าฟังไม่รู้เรื่อง แต่ภาษาที่เจ้าพูดคล้ายกับภาษาของชาวซากุระ อ๊ะ!! เดี๋ยวนะ ในเผ่าเรามีคนที่พูดภาษาซากุระได้อยู่นี่หว่า” 
“พูดอะไรวะ” มนุษย์ที่ดันมาอยู่ผิดที่ผิดทางเหวี่ยงคนที่อาจจะเป็นความหวังในการสื่อสารกระเด็นไป
“หยุดนะโว้ย เอื๊อก โอ๊ยยย” เสียงของเหล่าเอลฟ์ดังไปตามทางที่ชายหนุ่มวิ่งไป เขาจัดการเอลฟ์ไปตนแล้วตนเล่า
หากเล่าถึงชายปริศนาผู้นี้ เขาเป็นนักล่าปีศาจที่มีนามว่า มาซามุเนะ เซโร่ แท้ที่จริงเขาไม่ใช่คนของดินแดนแห่งนี้ แต่ขณะกำลังล่าปีศาจตนหนึ่ง เขาได้บังเอิญกระโจนเข้าไปในประตูมิติที่นำมาโผล่ในสถานที่แห่งนี้ 
“ช้าก่อน หยุดก่อน” เอลฟ์สาวคนหนึ่งถลันเข้ามาขวางอย่างกล้าหาญ นางพูดคุยกับเซโร่อย่างเป็นกันเองด้วยภาษาญี่ปุ่นที่โลกแห่งนี้เรียกว่าภาษาซากุระ
ชายหนุ่มหยุดเคลื่อนไหว มองเอลฟ์สาว
ตอนนี้เขาสงบแล้ว พร้อมที่จะคุยด้วย
“ฉันมีชื่อว่าริรูรุ เแล้วนายเป็นใครกัน” เอลฟ์สาวแนะนำตัวก่อน
“นี่เธอพูดภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยเหรอ” อีกฝายมั่นใจแล้วว่าไม่ได้หูฝาด 
ในขณะที่ยังอดระแวงไม่ได้ เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นบ้าง 
“ถ้าหมายถึงภาษาซากุระล่ะก็ ฉันเคยไปเรียนเวทมนตร์ที่อาณาจักรซากุระ ว่าแต่นายยังไม่บอกชื่อให้ฉันรู้เลย”
“ขอโทษด้วย ฉันมีชื่อว่าเซโร่ มาซามุเนะ เซโร่ ฉันมาจากญี่ปุ่น ว่าแต่ที่นี่มันคือที่ไหนล่ะเนี่ย” มือของเขาถือคอเสื้อของเอลฟ์ที่หมดสติอยู่
“ญี่ปุ่น นั่นมันต่างโลกแล้ว แปลว่านายมาจากต่างโลกสินะ” แม้จะไม่มั่นใจว่ามนุษย์ตรงหน้าบอกความจริงหรือเขาพูดไปเพราะเพี้ยน แต่ริรูรุก็เริ่มเจรจาอย่างจริงจัง ไม่ให้ข้อสงสัยมาทำให้การสนทนาชะงัก “ตอนนี้นายอยู่ที่ป่าของเอลฟ์ เรื่องของชาวต่างโลกที่มาเยือนโลกแห่งนี้มีอยู่ในจารึกบ้าง”
“งั้นก็แสดงว่าไม่ได้มีเราคนเดียวสินะ” เซโร่ครุ่นคิด
“นี่ เงียบไปแบบนั้น นายคิดอะไรอยู่เหรอ เจ้าคนต่างโลก”
“อืม กำลังคิดว่าจะหาทางกลับบ้านได้ไหม”
“ถ้าไปที่เมืองคาเมรอต ที่นั้นมีจอมเวทที่มีชื่อว่า เมอริน น่าจะช่วยได้” ริรูรุพยายามให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์
เซโร่หรี่ตา
“งั้นฝากนำทางด้วยนะ เพราะว่าฉันต้องการที่จะกลับไปยังโลกเดิมของฉัน” เขาถอนหายใจ “ถ้าโลกใบนี้มีโทรศัพท์ ฉันคงจะใช้จีพีเอสในการนำทางไปแล้วละ”
“แล้วไอ้จีจีที่ว่าคืออะไรเหรอคะ แผนที่เวทมนตร์งั้นเหรอ” นางถามด้วยความสงสัย ไม่รู้จักสัญญาณจีพีเอส
“เอาไว้เล่าวันหลังได้ไหม เหนื่อยแล้ว” 
“อ่า…”
“พรุ่งนี้ค่อยเดินทางไปละกัน” เซโร่มองริรูรุ สายตาของเขาสงบ “นำทางไปหาที่พักได้ไหม ดูแล้วเจ้ากับคนในหมู่บ้านเอลฟ์นี่คงอยากจะช่วยคนเดินทางอย่างข้ามาแต่ต้นสิท่า”
“ก็ใช่หรอก” ริรูรุโล่งใจที่มนุษย์แปลกหน้าดูเหมือนจะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว “เดี๋ยวนำทางไปให้เจ้าคะ เฮ้อ...ต้องพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางนะเจ้าคะ”

เช้าวันต่อมา
เซโร่ออกเดินทางกับริรูรุไปยังเมืองคาเมรอต เซโร่เรียนรู้เกี่ยวกับเมอรินจากริรูรุว่าเมอรินคือคนที่พอจะช่วยเขาให้กลับไปยังโลกเดิมได้ การเดินทางในป่าเป็นเส้นทางที่ไม่น่าจะสบายอยู่แล้ว เซโร่มองริรูรุอย่างเป็นห่วงในตอนแรก แต่ก็พบว่าเขาไม่ต้องห่วงนางมากไป นางนั้นดูชำนาญกับการเดินทางเป็นเวลานานในป่า ตอนหุงหาอาหาร นางเป็นคนที่ก่อไฟ หาของป่าง่าย ๆ มาทำให้เขาอิ่มท้อง
เซโร่คิดว่าตนเองโชคดีมากที่ดันมาได้พวกเอลฟ์ช่วยไว้แต่แรก
“เฮ้ย...พวกแกสองคนมีของมีค่าส่งมาให้หมด ถ้าพวกแกไม่อยากตาย” จู่ ๆ คนที่บังเอิญเจอกันก็ข่มขู่
“มันพูดอะไรหว่า ฟังไม่รู้เรื่องเลย นี่ริรูรุมันพูดอะไรของมัน”
“เอิ่ม...ตอนนี้พวกเรากำลังถูกปล้น พวกเรากำลังงานเข้า” ริรูรุกำลังกลัวพวกโจร “พวกเราดูเหมือนจะมุ่งมาถูกทางแล้ว มีมนุษย์อยู่แบบนี้”
“อ้อ พวกนี้โจรดักคนเดินทาง ขอเวลาสักห้านาที เดี๋ยวก็เรียบร้อย”
“โจรที่ดักปล้นพวกนักผจญภัยเชียวนะ” ริรูรุโวยวาย
“เฮ้ยพวกแกมัวแต่คุยอะไรกันฟะ ช่วยสนใจข้าด้วย”
“เฮ้อ...กระจอกก็ชอบโวยวายอยู่แบบนี้” เซโร่ฟังไม่ออก แต่ดูท่าทีออก

ในช่วงเวลาเดียวกัน พวกซินเทียร์กำลังฝึกฝนอยู่ที่โรงเรียน ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับมานาโซน และเมย์กำลังผสานเวทของภูตตนใหม่ โดยมีอาจารย์เอลลี่ผู้ดูแลหอพักวิหคคอยกำกับการเรียนรู้ และดูแลไม่ให้เกิดความผิดพลาดในระหว่างการฝึก อาจารย์จากหอพักอื่นก็อยู่ด้วย เป็นผู้ช่วยสอนที่คอยให้คำแนะนำทุกคนได้อย่างทั่วถึง
“มานาโซนคือการกำหนดอาณาเขตของเวทมนตร์ให้มันทำงาน มันจะสร้างความได้เปรียบให้กับเราเพื่อจัดการอีกฝ่ายได้ง่ายขึ้น” อาจารย์ฟลูเอโกเลออนเป็นผู้อธิบายเพิ่มเติม
“ใช่ไอ้นี่รึเปล่านะ เวทปราบมังกร ห้องโถงแห่งราชามังกรแห่งจุดจบ”
“ใช่แล้ว สิ่งที่คุณใช้คือมานาโซน แต่มันทำให้เปลืองมานามหาศาล ขอแนะนำให้เอาพลังเวทตามธรรมชาติมาแปลงเป็นพลังงานมานาน่าจะเหมาะสมกว่า” ราฟาเอลแนะนำการใช้พลังอย่างเหมาะสมกับซินเทียร์ 
“ขอบคุณนะคะ”
“มีอะไรจะถามอีกไหม”
“มีค่ะ เราจะเอาพลังงานธรรมชาติมาแปลงเป็นพลังงานมานาได้มั้ยคะ อาจารย์” 
“อืม...น่าจะได้ แต่ยังไม่มีคนเคยทำได้มาก่อน หรือว่ามีกันนะ ไม่แน่ใจ”
“เดี๋ยวหนูมาถามยืนยันอีกทีก็ได้ค่ะ” ซินเทียร์ไม่คาดคั้นเอาคำตอบทันที
“นี่เมย์นางผสานเวทได้ใช่มั้ย ข้าเห็นนะว่าตอนสอบเข้านางทำแบบนั้น” อาจารย์ฟลูเอโกเลออนหันไปคุยกับเมย์บ้าง
“ค่ะ ว่าแต่ทำไมคะ หรือว่ามีศาสตร์ผสานเวทที่ดีกว่าสายลมมรณา” เมย์หวังจะได้รับคำแนะนำพิเศษที่ทำให้นางเก่งขึ้นไปอีกบ้าง
“ใช่แล้ว การผสมเวทมนตร์น่ะ ถ้าการผสานคือการนำเวทสองอย่างมารวมกัน การผสมคือนำเวทธาตุที่สามมารวมกันเพิ่มเข้าไป จะทำให้เกิดเวทชนิดใหม่ขึ้นมา”
“อืม...น่าลองฝึกดู เผื่อวันหน้าอาจจะได้ใช้”
“ข้าจะฝึกให้แล้วกัน”

ด้านเซโร่ เขาพบกับเรื่องคาดไม่ถึง นั่นคือการต้องกำจัดโจรคนแล้วคนเล่าที่ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือโชคร้ายมาเจอเขาตลอดการเดินทาง ด้วยความสามารถของเขาทำให้เขากลายเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมาโดยไม่ระแคะระคายรู้ตัวมาก่อน
“เจ้านี่เอง ราชาอาเธอร์มีรับสั่งว่าอยากพบเจ้า” ทหารที่ตรวจสอบคนเข้าเมืองมองเซโร่อย่างกระตือรือร้น 
“มีเรื่องอะไร” เซโร่งุนงง
“โจรที่เจ้าทำให้หมดสติหรือฆ่าทิ้ง มีคนจับพวกนั้นนำมาส่งตัวต่อ”
เซโร่นิ่งงัน ตลอดเวลาหลายวัน เขาหลงทางเพราะริรูรุไม่ได้เดินทางมายังอาณาเขตของมนุษย์เป็นเวลานาน นางจดจำเส้นทางผิดไปบ้างเพราะป่ามีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอด ทำให้เซโร่ดันเลี้ยวไปมาผิดทางหลายรอบ ร่างของพวกโจรที่เขาจัดการระหว่างทางดูเหมือนกลายมาเป็นประโยชน์แก่เขา เขาเชื่อมั่นว่าพระราชาไม่ได้กะจะลงโทษเขา 
“มาแล้วงั้นรึ เจ้าใช่มั้ยที่จัดการกับเหล่าโจรพวกนั้น” ราชาอาเธอร์ทักจากบัลลังก์และลุกขึ้นมองเซโร่ให้ชัด ๆ 
“นี่มัน!! ภาษาญี่ปุ่นนี่หว่า นายคงเป็นราชาอาเธอร์สินะ”
“นายอย่าเสียมารยาทกับราชาอาเธอร์ เดี๋ยวโดนจับยัดคุกนะเฮ้ย” ทหารรักษาพระองค์ดูไม่พอใจ
“ฉันต้องขอโทษด้วย ที่โลกของฉันไม่มีระบบกษัตริย์ ถึงมี มันก็มีอยู่ในไม่กี่ประเทศหรอก” เซโร่โผงผางตามนิสัยของเขา “ฉันน่ะ ไม่เคยเข้าวังที่ไหนเลย เป็นนักล่าปีศาจสามัญชนคนธรรมดา”
“มาจากต่างโลก และยังเป็นนักล่าปีศาจด้วยงั้นเหรอ”
“ใช่” เซโร่มองหน้าอาเธอร์ “ที่โลกของฉันก็มีราชาชื่ออาเธอร์นะ เป็นกษัตริย์ของประเทศหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว”
“เรื่องของอีกโลกไว้เล่าให้ฟังอีกตอนอื่น แต่ก่อนจะเล่ามากไปกว่านี้ ข้าอยากประดาบด้วยสักครั้ง”
“นี่นายจะเอาจริงใช่มั้ย” ริรูรุพูดด้วยความหวั่นใจ “นั่นราชานะ”
“น่าสนุกออก ประดาบกับราชา เป็นเรื่องที่เหมือนเล่าถึงในนิยายเท่านั้น”
เซโร่ตามอาเธอร์ไปที่ลานซ้อมและประลองดาบ มีอัศวินที่อาสาเป็นกรรมการให้ สิ้นสุดเสียงบอกให้เริ่ม ทั้งสองได้งัดทุกกระบวนท่ามาฟาดฟันกัน ต่างฝ่ายต่างแสดงฝีมือด้วยความสนุกสนานมากกว่าหวังเข่นฆ่า การต่อสู้ที่ทั้งเอาจริงและทดลองกระบวนท่า ผ่านไปหลายชั่วโมง 
ฝีมือของทั้งสองช่างสูสี 
ต่างฝ่ายต่างไม่รู้ผลในท้ายที่สุด แต่ทั้งสองต่างยอมรับฝีมือซึ่งกันและกัน 
“นายนี่มัน ฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ อาเธอร์” เซโร่เอ่ยชม เขาลดดาบลงเพราะราชาปักปลายดาบลงพื้น เป็นสัญญาณว่าการประลองสิ้นสุดลงแล้ว
“ไม่ได้เหนื่อยมานานแล้ว เจ้าช่างเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ “ อาเธอร์ดูผ่อนคลาย “ขอบใจที่ประดาบด้วย เรื่องที่เจ้าอยากกลับโลก ข้าเองก็รู้วิธี”
“ เป็นอย่างนั้นเหรอ ว่ามาสิ”
“มีร้านอาหารที่เป็นประตูกลับไปได้ ประตูทางเข้าจะมาปรากฏทุก ๆ เจ็ดวัน น่าจะอีกสามวันที่ร้านอาหารนั้นจะมาปรากฏอีกครั้ง”
“อย่างนั้นเหรอ ขอบใจมากนะ”
“แล้วที่พัก จะพักที่ไหน”
“ยังไม่รู้เลย”
“ถ้าอย่างนั้นไปพักที่โรงเรียนละกัน ไปพักที่นั่น” ราชาอาเธอร์ตาเป็นประกาย ดูเหมือนจะคิดเรื่องสนุกบางอย่างอยู่
เซโร่ไม่คิดว่าการไปพัก จะเป็นการพักผ่อนธรรมดา ที่โรงเรียนต้องมีสิ่งไม่ธรรมดาอยู่แน่
แล้วความเป็นจริงก็กระจ่าง ในช่วงสามวันนั้นเซโร่ได้พบกับนักเรียนที่โรงเรียนของเมอรินและช่วยฝึกให้กับนักเรียนที่นั่น ตัวเซโร่เองก็ได้ขัดเกลาฝีมือการต่อสู้ของตน ซินเทียร์เป็นคนหนึ่งที่แวะเวียนมาต่อสู้กับเซโร่อยู่หลายรอบ อาศัยว่ามีเมย์เป็นล่ามแปลภาษา
เพลงดาบของเซโร่ และความรู้ในการต่อสู้ เซโร่ได้ถ่ายทอดให้ซินเทียร์และเมย์แบบตรงไปตรงมา ไม่หมกเม็ด แต่ก่อนเขาก็เคยคิดอยู่ว่าจะรับลูกศิษย์ ซินเทียร์นั้นเป็นคนที่เรียนรู้ไวและน่าประหลาดที่บรรลุวิชาที่หลายคนในโลกเดิมของซีโร่อาจต้องใช้เวลาฝึกฝนอยู่หลายปี
วันที่สาม ร้านอาหารที่เชื่อมต่อไปยังโลกเดิมของเซโร่ปรากฏขึ้น อาเธอร์เป็นคนพาเขามายังร้านนี้พร้อมกับซินเทียร์และเพื่อนของนาง
“ไงเซโร่ สบายแล้วนะ นายจะมาที่นี่เมื่อไหร่ก็ได้” ซินเทียร์ทำให้เซโร่เห็นว่า การกลับบ้านของเขาไม่ใช่การจากลาตลอดไป
“อ่า...ว่าง ๆ จะมาเที่ยวใหม่นะ”
“คุณคนต่างโลกไว้เจอกันใหม่นะ และขอบคุณที่สอนวิชาดาบให้ด้วย” ซินเทียร์โค้งกายลง แสดงความเคารพแบบที่เซโร่ก็เคยทำกับนางมาก่อนและสอนนางให้ทำตาม 
“ฮ่า ๆ ๆ เอาไว้จะมาเที่ยวใหม่” เซโร่โค้งกายลงแบบเดียวกัน แล้วพอเขาเหยียดหลังขึ้น ก็ยิ้มอวดฟันขาวและเปิดประตูเดินเข้าไปในร้านอาหาร
“ดูเหมือนเราเองก็จะเข้าไปกินได้นะ” ซินเทียร์ได้กลิ่นอาหารแล้วน้ำลายสอ
“ไม่ใช่วันนี้ พวกเจ้ายังมีเรียนนะวันนี้” เมอรินกล่าวเตือน และทันใดนั้นประตูร้านก็ปิดลง ก่อนที่จะค่อย ๆ เลือนหายไปเสียเฉย ๆ ต่อหน้าต่อตา