กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร - ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า โดย พี่บัวลอยไข่หวาน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,หญิง-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี

ผู้แต่ง

พี่บัวลอยไข่หวาน

เรื่องย่อ

เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมีหลากหลายรูปแบบซึ่งความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูกย่อมมีแต่ความห่วงใย แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม


ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่งการกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปแม้ในบางครั้งสิงที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

“เมย์”เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตของจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์

มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาที่ล่มสลายไปเพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู

เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากหนังและอนิเมะหลาย ๆ เรื่องและไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้นและเนื้อหาอาจจะมีความล่อแหลมอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง โปรดใช่วิจารณญาณในการรับชม ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยความปราถนาดีจาก พี่บัวลอยไข่หวาน

สารบัญ

the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่1 ซินเทียร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่2 พ่อมดกับสาวน้อย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่3 วันสอบเข้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่4 เรื่องร้ายๆ ในเวลาดีๆ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่5 วันเปิดเรียน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่6 ดันเจี้ยน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่7 ลางร้าย,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่8 ทาสตัวน้อยกับอิสระที่โหยหา,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่9 Dawn of Extinction,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอน10 ภารกิจแรก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่11 ราชาอาเธอร์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 12 ชายผู้มาจากต่างโลก,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 13 ราชินีมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 14 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 15 เส้นทางคู่ขนาน,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 16 เจตจำนงของผู้เป็น,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 17 เดอะดรีม,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 19 การเดินทาง,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 20 Go to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 21 Welcome to Sakura,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 22 โดนลักพาตัว,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 23 โดนลักพาตัวตอนจบ,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 24 เทศกาลชมดอกไม้,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 25 อาเบะ โนะ เมย์,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 26 กำเนิดอัศวินมังกร,the end of dragon พ่อของฉันคือราชามังกร-ตอนที่ 27 คำเตือนจากราชามังกร

เนื้อหา

ตอนที่ 18 บาเร็ตต้า

ซินเทียร์เลิกคิ้วเพราะมีเหตุให้แปลกใจ นางได้ยินเพื่อนนักเรียนพูดในโรงอาหารเมื่อเช้าว่ามีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาด้วยการสอบเทียบ ทีแรกเป็นข่าวลือที่มีมูล และความจริงก็ประจักษ์อยู่ในตอนนี้ เพราะอาจารย์กำลังแนะนำเด็กใหม่ต่อหน้าทุกคนในชั้นเรียน
“นี่!! ไอ้พวกเด็กเปรต เช้าวันนี้เราจะมีนักเรียนใหม่มาเรียนกับพวกเราด้วยนะเว้ย เอ่อ เข้ามาสิ” 
อาจารย์ฟลูเอโกเลออนพูดด้วยน้ำเสียงห้าว ๆ
ในเวลานี้ทุกคนในชั้นเรียนต่างมองนักเรียนใหม่ด้วยสายตาดั่งต้องมนตร์สะกดในรูปโฉมที่งดงาม แววตาของนางผู้นั้นสีแดงดั่งทับทิม ผิวขาวผ่องเป็นยองใย และยังมีกลิ่นตัวที่หอมเหมือนกับทุ่งดอกไม้นานาชนิดที่กระจายไปทั่วห้อง เส้นผมสีเงินก็สยายสลวยพริ้วไสวเป็นประกาย ความงามของนางคนนี้ลึกลับ ขณะเดียวกันก็ดูเป็นคนที่น่าค้นหา
ทว่า เมย์สัมผัสบางสิ่งได้ 
นางจ้องมองเด็กใหม่อยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะพยายามสนใจบทเรียนเพราะนี่เป็นคาบของอาจารย์ฟลูเอโกเลออน อีกฝ่ายค่อนข้างเอาเรื่องถ้าจับได้ว่าไม่ได้ตั้งใจฟังที่พูดอยู่ หรือทำในงานที่สั่งให้ทำ บางคนจะโดนไฟลวกจากทักษะเวทมนตร์เพลิงที่ทรงพลังของอาจารย์ได้ โดยจะร้องเรียนก็ไม่ได้ เพราะอาจารย์จะท้าประลองทำให้ต้องโดนอัดสั่งสอนอีก
“ค่ะ สวัสดีนะทุกคน เรามีชื่อว่าบาเร็ตต้า ยินดีที่ได้รู้จัก” บาเร็ตต้าถูกรุมล้อมทันทีในช่วงพักระหว่างคาบ “ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
“เด็กใหม่แม่งโคตรน่ารักเลยเว้ย” ผู้ชายกลุ่มหนึ่งคุยกัน พวกเขายังไม่เข้าไปทักทายนักเรียนใหม่ตรง ๆ
“เออ จริงว่ะ อย่างแจ่มเลยมึงเอ๊ย…โคตรอยากจีบเลยเว้ย”
“ของกูโว้ย อย่างแกไม่คู่ควรกับบาเร็ตต้าหรอกโว้ย” 
ด้านเด็กผู้หญิง พวกเขาเข้าไปแสดงความเป็นมิตรกับบาเร็ตต้า
“มีอะไรหรือเปล่าซินเทียร์” เมย์สังเกตว่าซินเทียร์เอาแต่มองบาเร็ตต้าอยู่ห่าง ๆ 
ซินเทียร์เอนคอสบกับฝ่ามือ ยิ้มอ่อน ๆ แต่ไม่ตอบ 
“นางว่าไหม เด็กใหม่นั่นน่ารัก” หญิงสาวคนหนึ่งคุยกับเพื่อนของนางตอนที่บาเร็ตต้าออกไปนอกห้อง คงจะไปห้องน้ำหรือว่าไปซื้อขนม “ข้าอยากหาอะไรน่ารัก ๆ มาให้เป็นของขวัญ น่าจะใส่อะไรก็ขึ้นนะคนนั้น”
“ใช่ ๆ คนอะไรไม่รู้ มีเสน่ห์” สายตาคนพูดเบนมาสบกันซินเทียร์ “มองว่าสบายใจ ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดที่มียายซินเทียร์อยู่รอบ ๆ ”
“จริง ข้าเห็นด้วย ยายนั่นน่าขนลุก”
“เห็นด้วย ทำไมเมย์ถึงไปคบยายนั่นเป็นเพื่อนกันนะ” 
ชื่อเมย์เข้ามาอยู่ในบทสนทนาด้วย ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เหตุผลเพราะว่าเมย์เป็นหนึ่งในหญิงสาวที่ติดโผเรื่องความงาม ตลอดเวลาที่โรงเรียนมีคนพยายามเข้ามาตีสนิทและชวนแยกไปอยู่กับกลุ่มพวกเขาหลายคน แต่เมย์ก็ปฏิเสธไปอย่างเป็นมิตร เหตุผลที่ซินเทียร์รู้อยู่แก่ใจนั่นคือเมย์มีใจสิเน่หาซินเทียร์อยู่
“ซินเทียร์ กลางวันนี้ได้ยินว่ามีแซนวิสไข่ที่เจ้าชอบ” เมย์ชวนคุย คงเพื่อจะกลบเสียงที่พูดถึงซินเทียร์ในแง่ไม่ชอบใจ
“อ้อ เหรอ เยี่ยมไปเลย” ซินเทียร์ไม่คิดจะสนใจพวกปากมาก
เมย์เพียงคนเดียวไม่เห็นว่านางประหลาดเหมือนพวกนั้นก็พอแล้ว
อีกอย่างพวกนั้นอ่อนแอจะตาย ก็แค่พวกขี้แพ้ที่พอเอาพลังหรือความสามารถมาข่มไม่ได้ ก็เลยหาเรื่องที่พอจะพูดได้มาพูดให้ตัวพวกเขารู้สึกดีขึ้น ซินเทียร์ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของคนอื่น ๆ เพราะนางมองว่าพวกนั้นพูดกับตัวเองซะมากกว่า การกดคนอื่นให้ดูต่ำลงก็เพื่อเยียวยาใจ
น่าสงสาร หรือน่าสมเพชดี แต่กับพวกนั้นนะ ซินเทียร์ไม่ได้รู้สึกแย่กับตัวเอง
กลับกัน… ยิ่งพวกนั้นพูดถึงนางในแง่ลบมา ซินเทียร์ก็รู้สึกสบายใจ เพราะแหม่! นางเป็นที่สนใจและเหนือกว่าอยู่ดีนี่
“หืม…” เมย์ทำเสียงบางอย่างในคอเมื่อพวกเขาเดินไปถึงโรงอาหาร
“อะไร” ซินเทียร์หันไปถาม
“เจ้าต่อคิวซื้อไปนะ เดี๋ยวข้ามา นึกได้ว่าลืมของ” เมย์ผละไปเมื่อสิ้นคำ
ซินเทียร์เห็นคนที่มาต่อคิวตามหลังแล้วก็ไม่ตามเมย์ไป เพราะแซนด์วิชไข่ที่โรงอาหารเป็นเมนูเด็ดของเชฟที่เดือนหนึ่งจะทำขายสักหน คิวตอนนี้ยาวจนล้นห้องอาหารไปแล้ว ถ้าออกจากคิวไป นางคงไม่ได้กินวันนี้แล้วต้องรอไปอีกเป็นแรมเดือน ซินเทียร์มองว่าเมย์หวังดีกับนางและอยู่ในโรงเรียนก็น่าจะไม่มีเรื่องที่ต้องห่วง 
เหตุผลที่เมย์แยกตัวจากซินเทียร์ เพราะดันสังเกตเห็นบาเร็ตต้าเดินออกจากโรงอาหารไปด้วยท่าทีรีบเร่ง แต่สีหน้าของฝ่ายนั้นชวนให้รู้สึกตงิดใจ เมย์สะกดรอยตามบาเร็ตต้าที่ดูเหมือนระแวงอยู่ว่ามีคนตาม ด้วยความสามารถของภูต เมย์ปกปิดร่องรอยของตัวเองได้มิดชิด
บาเร็ตต้าโผล่ไปที่หลังตึกเรียนไกลจากโรงอาหาร ที่นั่นนางคุยกับนักเรียนชายคนหนึ่ง ทั้งคู่ดูเหมือนคุยกันอย่างดี แต่ฉับพลันบาเร็ตต้าใช้พลังของนางทำให้เด็กผู้ชายถึงกับนอนจมกองเลือด สีหน้าของบาเร็ตต้าเย็นชา ปากที่เผยอออกเล็กน้อยจนเมย์สังเกตบางสิ่ง และการที่ไม่ตื่นตระหนก ถูกเมย์ตีความว่าฝ่ายนั้นจงใจจะเป็นผู้ร้าย 
เมย์รีบชิงหนี นางกลับไปที่โรงอาหาร และที่หัวมุมตึกก็ชนเข้ากับซินเทียร์ที่กำลังกินแซนด์วิชอย่างเอร็ดอร่อย 
ซินเทียร์ไม่ปล่อยแซนด์วิชหลุดมือ 
“เมย์เป็นอะไรเหรอ สีหน้าดูไม่ดีเลย” ซินเทียร์ถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่สบายรึเปล่า”
“ซินเทียร์ บาเร็ตต้า ปะ..เป็นแวมไพร์”
“เมย์ แวมไพร์จะไปมีอยู่จริงได้ไง” ซินเทียร์โพล่งออกมา และก็พลันชะงักไปเมื่อเห็นดวงตาที่เหมือนโกรธของเมย์ “นั่นสิ มีจริงได้ล่ะมั้ง แต่จริงรึเปล่าเนี่ย ข้าก็อยากเจอแวมไพร์ตัวจริงเสียงจริง เคยอ่านในหนังสือว่าแวมไพร์โดนแดดไม่ได้ใช่มั้ย” 
“โดนอาวุธที่ทำจากเงินไม่ได้ด้วย” เมย์ระลึกถึงความรู้ที่เคยอ่านมาเหมือนกัน “เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมอาวุธที่ทำจากแร่เงินบริสุทธิ์”

ตัดมาทางมีอาที่กำลังฝึกกับจอมมารเดียอาโบเพื่อให้ใช้เนตรเหมันต์ได้อย่างชำนาญ การฝึกไม่ได้สบายเลย แต่มีอาก็ยังฝึกอย่างหนักมาตลอดเพื่อหวังให้พลังพัฒนาไปถึงระดับที่ตนสามารถนำไปแก้แค้นราชาคูกะที่เป็นต้นเหตุให้ตนต้องสูญเสียฐานันดรศักดิ์ แม่ และบ้านเกิดอันเป็นที่รักไป 
จอมมารเดียอาโบได้ถ่ายทอดศาสตร์การต่อสู้ทุกแขนงและเวทมนตร์สายน้ำแข็งให้กับมีอา เขาทำได้ด้วยตำราเวทมนตร์ที่ได้มาจากอาณาจักรรามิทิสที่ถือว่าล่มสลายไปแล้ว
“แหม… เจ้ามีพรสวรรค์นะ” เขายื่นตำราให้มีอานำไปศึกษาต่อเองด้วย “ข้าช่างมองคนคนไม่ผิดเสียจริง หรือว่านี่คือโชคชะตารึเปล่านะ เอาตำราเล่มนี้ไปเพื่อจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น” 
“ข้ายังอยากแข็งแกร่งมากกว่านี้อีก ข้าต้องการตัดหัวราชาคูกะ ไม่ว่าสิ่งใดข้าก็ยอมแลกทุกอย่างที่ข้ามี”
“ยอดเยี่ยม ข้าขอรับรองว่าเจ้าจะแข็งแกร่งอย่างถึงที่สุด เพราะเดียอาโบผู้ได้ชื่อว่าเป็นผู้กลืนกินรัตติกาลเป็นผู้ฝึกให้เจ้าเอง”
“เอ่อ…ให้มันได้อย่างนี้สิ”
“ข้าจะฝึกเจ้า แต่เพื่อบรรลุเป้าหมาย เจ้าอาจจะต้องร้องขอชีวิตเองก็ได้” 
“ชีวิตน่ะ ข้าไม่ร้องขอหรอก เพราะต้องขายวิญญาณเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ข้าก็จะทำ” มีอาตวัดดาบของนางพร้อมกับฟาดพลังออกไป คลื่นน้ำแข็งพุ่งแรงฟุ้งเป็นคลื่นที่มีแสงเจ็ดสีราวกับรุ้งแฝงอยู่ ดูงดงาม แต่พลังที่ส่งออกไป กรีดทำลายแม้แต่อากาศด้านหน้าจนขาดวิ่น เสียงลมที่ถูกแหวกออกเสียดสีเป็นเสียงเสียดหู ก่อนที่คลื่นพายุจะก่อตัวขึ้นพร้อมกับมีหิมะไหลวนในกระแส แต่มีอาตวัดมือเปล่าตรงหน้า ทุกสิ่งพลันสลายหายไปกะทันหัน
“ฮะฮะฮ่า ๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ” จอมมารเดียอาโบเห็นฝีมือของมีอาที่พัฒนาไปแล้วก็ลิงโลด 

เมย์ที่หวาดระแวงบาเร็ตต้า นางรอจังหวะจนได้ยินผู้คนเริ่มพูดถึงในแง่สงสัยในพฤติกรรมแปลก ๆ ของบาเร็ตต้าบางประการ แล้วค่อย ๆ คุยหาพวกที่จะคอยจับตามองบาเร็ตต้าไปด้วยกัน โดยนางปกปิดความจริงที่ว่าตนต้องการจะพิสูจน์ให้ประจักษ์เรื่องที่ว่าบาเร็ตต้าเป็นแวมไพร์ 
วันหนึ่งบาเร็ตต้าที่แยกตัวไปอยู่ในห้องเรียนไม่ไปฝึกภาคสนามดันเผยปีกค้างคาวออกมา
“อึ๊บ…ปวดหลังมากเลย กลัวคนอื่นจะจับได้ว่าเราเป็นแวมไพร์จังเลยแฮะ”
เมย์ที่ย้อนกลับมาดู พาเพื่อนมาด้วย 
นางกับคนอื่น ๆ โผล่เข้าไปหาบาเร็ตต้า
“นี่นางเป็นแวมไพร์อย่างงั้นเหรอ พวกเราล้อมตัวนางไว้” เมย์บอกทุกคน
“ใจเย็น ๆ ก่อน บาเร็ตต้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลย” ซินเทียร์กล่าวรั้งทุกคนที่ตอนนี้สีหน้าขมึงถึง
“แล้วที่ข้าบอกเจ้าล่ะ ทำคนจมกองเลือดไปแล้วนะ”
“แต่คน ๆ นั้นก็ยังเห็นเดินกันอยู่” ซินเทียร์ได้ไปพิสูจน์สิ่งที่เมย์เห็นมาก่อนแล้ว เพราะว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดบาเร็ตต้าชัดเจน คนที่จมกองเลือดคราวก่อนนอกจากจะปกติดีแล้วก็ยังจำว่าบาเร็ตต้าทำเรื่องกับเขาไม่ได้ด้วย ทั้งคู่ถึงได้ต้องรั้งรอเอาไว้ก่อน
“ที่ว่ามีคนจมกองเลือดนั่น ไม่เห็นเมย์เล่าให้ฟัง” เพื่อนคนหนึ่งแย้งขึ้นมาอย่างหน้าตาตื่น
“แวมไพร์ ตัวอันตราย” คนหนึ่งกล่าวหาบาเร็ตต้าแบบเหมารวม
คนหนึ่งยกไม้กางเขนที่พกติดตัวขึ้น ส่วนทางเมย์ก็ดึงอาวุธที่ทำงานแร่เงินที่เตรียมเอาไว้ออกมา เพื่อนคนหนึ่งวิ่งไปกระชากม่านให้เปิดออก
“เฮ้อ ไอ้เรื่องที่ว่า แวมไพร์ต้องกลัวไม้กางเขน แล้วโดนแดดไม่ได้ โดนแร่เงินไม่ได้ เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ” บาเร็ตต้าแผดเสียงด้วยสีหน้าหงุดหงิด “ข้าเป็นแวมไพร์ชั้นสูงที่ไม่ต้องกินเลือด แถมของที่ข้าชอบกินมากที่สุดคือขนมปังกระเทียมของร้านเจปัง และไอ้ที่เจ้าเห็นก่อนหน้านี้ว่าท่วมหน้าข้าคือน้ำมะเขือเทศที่กระป๋องระเบิดออกมา ไอ้เจ้าบ้านั่นดันวิ่งมาชนจนน้ำมะเขือเทศหกหมดเลย ข้าเลยเก็บกวาดทำความสะอาดด้วยเวทมนตร์แล้วก็ลบความทรงจำไปด้วย แถมข้ากลัวเลือดอีกต่างหาก” 
เมย์อึ้งไป
“จะให้พูดไงดี… “ เมย์เม้มปาก แล้วก็ค่อย ๆ ขยับท่าเป็นสบาย ๆ ขึ้น “แวมไพร์ที่ข้ารู้จัก เอ้ย อ่านเจอมา มันเป็นแบบนั้นซะส่วนใหญ่ เลยเป็นภาพติดตาไปเลย ขอโทษนะ”
บาเร็ตต้าถอนหายใจ
“อ้อ… เรื่องเป็นแบบนี้เอง” ทุกคนยึดเอาตามเมย์ที่เป็นหัวโจก เมย์ทำท่าสบาย ๆ พวกเขาก็ลดความระวังตัวลง
“เจ้าชื่อซินเทียร์สินะ ข้าขอเป็นเพื่อนเจ้าอีกคนหนึ่งนะ” บาเร็ตต้ายกมือขึ้นแตะที่อก ขนาดหน้าอกของนางไม่ธรรมดา ซินเทียร์มองอย่างประเมินขนาด แน่นอนว่าอึ๋มกว่านางและเมย์ “นี่แน่ะ แต่เจ้ารู้ตัวหรือเปล่าว่าพลังเวทของเจ้าถูกผนึกอยู่ครึ่งหนึ่ง”
“ห๊ะ จริงหรอเนี่ย บาเร็ตต้าพลังเวทของซินเทียร์มีมากขนาดไหนกัน” เมย์กระตือรือร้นจะได้ข้อมูลใหม่
“อืม…ลบทวีปหนึ่งได้ล่ะมั้ง” บาเร็ตต้าเปิดเผยตรงไปตรงมา แววตาสลับไปมองพื้นอย่างกรุ่นคิด “คนที่ผนึกเวทมนตร์มหาศาลขนาดนี้ได้ไม่ใช่คนธรรมดาเลยนะนั่น ถ้าเป็นจอมเวทก็ต้องระดับหนึ่งในสี่มหาปราชญ์หรือตัวตนหนึ่งคือราชามังกรถึงจะทำแบบนี้ได้”
“ราชามังกร…” ซินเทียร์พึมพำ
“ถ้าเป็นซินเทียร์ ข้าเชื่อว่าเป็นไปได้นะ” เมย์ผงกศีรษะ ขณะที่หลายคนจ้องสายตาที่เต็มไปด้วยความอึดอัดไปที่ซินเทียร์ เมย์ไม่ได้ให้ความสนใจ นางรู้ว่าเพื่อนบางคนต่อให้ชอบนาง แต่ก็ไม่อยากอยู่ใกล้กับซินเทียร์มากนัก พวกเขาหลายคนบอกว่าเวลาอยู่กับซินเทียร์แล้วหายใจไม่ออก “ตอนที่สอบกับตอนที่ไปตามตัวมีอากลับมา ซินเทียร์สามารถเอาชนะหนึ่งในสี่เศียรมารได้อย่างสบาย ๆ”
ซินเทียร์ถอนหายใจ ก่อนจะบอกทุกคนว่าพวกนางควรจะออกจากห้องเรียนเพื่อลงไปทำกิจกรรมในสนามกันต่อ
“เจ้าน่ะ ถ้าไม่กลัวแดดก็ไม่ต้องหลบอยู่แต่ในห้องสิ” ซินเทียร์แยกเขี้ยว นางจำได้ว่าบาเร็ตต้าอ้างเรื่องอาการโลหิตจาง เลยอยากจะเน้นวิชาภาคทฤษฏีมากกว่าภาคปฏิบัติ 
มันน่าสงสัยมาแต่ต้น เพราะตอนสอบเข้ามา ซินเทียร์ก็จำได้ว่าคุณสมบัติหนึ่งที่โรงเรียนต้องการก็คือการมีร่างกายที่อึดถึกทนด้วย
“อ่าาาา ได้เลย ๆ “ บาเร็ตต้าผายมือและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ปีกค้างคาวด้านหลังกระพือเบา ๆ ดังพรึบพรับ

เหล่าราชามังกรอยู่ระหว่างจำศีลเพื่อรวบพลังเวทให้มากที่สุด แม้ว่าจะหวาดระแวงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงการตัดขาดการรับรู้จากโลกภายนอกชั่วขณะหนึ่งได้ เป็นจังหวะที่เกิดช่องโหว่ให้ภัยร้ายบางอย่างคืบคลานมาหา สิ่งนั้นยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดมหาสงครามแห่งการกลืนกินในอดีต
องค์ชายคิม ในฐานะศิษย์ของราชามังกรเพลิงอิกนัส เขาถูกเคี่ยวเข็ญให้ฝึกฝนอย่างโหดร้ายและทรมาน คนที่เล่นสนุกพร้อมกับตั้งความหวังกับเขาไว้สูงคือมือขวาของราชามังกรเพลิง นามว่า ดิววี่ ผู้ที่ได้ชื่อว่าผู้คุมสี่ธาตุ
“มีแรงแค่นี้เหรอ ถ้าอยากแกร่งกว่านี้ แกไปวิดพื้นอีกสี่พันครั้ง ถ้าให้เทียบกับคุณหนูซินเทียร์ แกยังไม่ถึงครึ่งของคุณหนูหรอก “ดิววี่ดูแคลนองค์ชายคิม “ที่นี่ไม่ใช่พระราชวังที่มีคนคอยโอ๋นะ อย่ามาสำออยเชียว”
“เออ ดูก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านข้า หยุดดูถูกข้าสักที ก็รู้นะว่าข้าเกลียดการถูกดูถูก”
“ดีที่เจ้าเป็นอย่างนั้น งั้นต้องเพิ่มน้ำหนักปลอกแขนที่เจ้าสวมอีก”
“ไม่จริง…!! อย่านะ”
ห้ามไม่ทันกาล กำไลที่แขนขององค์ชายคิมหนักขึ้น ดิววี่ยิ้มอย่างกวนประสาท องค์ชายคิมต้องกัดฟันฝืนฝึกต่อไป เป้าหมายของเขาที่จะเป็นราชาแห่งบาบาเนียร์และครองบัลลังก์อย่างสง่างามสมชายชาตินักรบต้องไม่คลอนแคลน เขาไม่ต้องการยอมแพ้กับอุปสรรค 
ใบหน้าของซินเทียร์ลอยขึ้นมา
ถ้าเขายอมแพ้การฝึกโหด ๆ ไม่พัฒนาตัวเองจนเปลี่ยนให้ระดับมันกลายเป็นเรื่องง่าย ก็เท่ากับเขายอมแพ้ผู้หญิงคนนั้น และเขาไม่อยากยอมแพ้ให้กับซินเทียร์ด้วย เขานึกถึงภาพที่ตนเองต้องเพลี่ยงพล้ำให้นาง และนึกถึงความเก่งกาจของนางแล้ว ตาก็วาวโรจน์ขึ้น ฮึดมีกำลังในการพยายามผ่านการฝึกไปให้ได้อีกขั้น 

บาเร็ตต้านั่งเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายนาง
“นี่…บาเร็ตต้ารึเปล่า ไม่ได้เจอกันนานมากเลย” สีหน้าและแววตาของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ “ข้าเองไง โคงะ”
พวกผู้ชายในห้องมองเป็นตาเดียว หลายคนกำลังจ้องจะหาจังหวะจีบบาเร็ตต้า 
โคงะเองไม่มีคนเห็นหน้ามาสักพัก เพราะเขาออกไปทำภารกิจมา
“อ้อ เจ้าคือโคงะ ลูกชายหัวหน้าเผ่าโคเอนใช่มั้ย” บาเร็ตต้ายิ้มหวาน ใบหน้าตอนนี้ดูอ่อนโยนราวนางฟ้า “จำได้สิ ใครมันจะไปลืมนายลง ตอนเด็กๆ เอาแหวนที่ทำจากดอกหญ้ามาขอแต่งงานด้วย”
ปุ้ง!
ใบหน้าของโคงะแดงเถือก
“หงิง ๆ ๆ ” โคงะที่ร่างกายเปลี่ยนไปส่งเสียงได้แค่นั้น 
“เวลาเขินทีไรก็ชอบกลายร่างเป็นหมาป่าทุกทีเลยนะ” บาเร็ตต้าโน้มกายลงวางมือบนศีรษะของโคงะ “เหมือนเดิมเลย โคงะ “
“เอิ่ม โคงะเป็นเผ่ามนุษย์หมาป่าหรอกเหรอเนี่ย” คนหนึ่งในห้องอุทาน “ไม่น่าเชื่อ แล้วที่ว่าเอาดอกหญ้ามาทำเป็นแหวน คนพรรค์นั้นโรแมนติกเป็นด้วย”
“อย่าไปล้อเขาเยอะเลย มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับเขาเลยนะ” บาเร็ตต้าเป็นคนห้ามเอง 
โคงะหันไปเห่าใส่คนพูด ก่อนในพริบตาเขาจะกลับมาอยู่ในร่างมนุษย์
“เดี๋ยวเจอกันนะ” โคงะพูดกับบาเร็ตต้าโดยไม่มองหน้านาง หูและหน้าของเขายังไม่หายแดงด้วยเลือดลมสูบฉีดจากความอาย 
“หืม… “ ซินเทียร์หันไปมองทางประตูหลังโคงะออกไปแล้ว
นางรู้สึกถึงสายตาที่มองมา แต่ตรงนั้นไม่มีคนอยู่ เพื่อนร่วมห้องค่อย ๆ ทยอยเดินออกไป
“ไม่มีอะไร” ซินเทียร์ลุกขึ้นพลางพูดกับเมย์
ความรู้สึกของซินเทียร์ไม่ใช่ความคิดไปเอง สิ่งที่ซินเทียร์รับรู้ได้คือสายตาของชายปริศนา 
เขาใช้เครื่องมือที่เปี่ยมด้วยพลังเวท ติดต่อกับราชาคูกะเมื่อมาอยู่ในสถานที่ลับตาคน
“ท่านราชาคูกะ ข้ามั่นใจว่าคนที่จับตามองคือองค์หญิงคาเนเรียของพวกเราพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทโปรดมอบคำสั่งต่อไป”
“ข้าขอให้เจ้าคุ้มกันคาเนเรีย จนกว่าจะมีโอกาส จงพาตัวนางมาหาข้าซะ” ราชาคูกะออกคำสั่งด้วยเสียงเข้มงวด และไม่ลืมเน้นเงื่อนไขสำคัญที่คนของเขาต้องทำตามอย่างระมัดระวัง “ต้องพานางมาตัวเป็น ๆ เท่านั้น”
“น้อมรับพระบัญชา ขอพระองค์ทรงไว้ใจ”