กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
แฟนตาซี,หญิง-หญิง,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
กาลเวลาเปลี่ยนผัน ดวงใจราชามังกรจะกลับมายืดผงาดอีกครั้ง ความรักและศรัทธา ปณิธานอันแรงกล้าของพวกเขา จะพาคุณโลดแล่นในโลกแห่งแฟนตาซี
ผู้แต่ง
พี่บัวลอยไข่หวาน
เรื่องย่อ
เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมีหลากหลายรูปแบบซึ่งความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูกย่อมมีแต่ความห่วงใย แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม
ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่งการกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไปแม้ในบางครั้งสิงที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า
“เมย์”เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตของจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์
มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาที่ล่มสลายไปเพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู
เรื่องนี้ได้แรงบัลดาลใจจากหนังและอนิเมะหลาย ๆ เรื่องและไม่เกี่ยวกับกลุ่มคนหรือองค์กรใดๆ ทั้งสิ้นและเนื้อหาอาจจะมีความล่อแหลมอาจมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเพศและความรุนแรง โปรดใช่วิจารณญาณในการรับชม ผู้อ่านที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีควรได้รับการดูแลจากผู้ปกครอง ด้วยความปราถนาดีจาก พี่บัวลอยไข่หวาน
ซินเทียร์มองไปที่ราชามังกรซึ่งก้าวเข้ามาในห้องรับแขกที่นางถูกพาตัวมาด้วยพลังของเขา ด้วยความรู้สึกคิดถึงสุดใจ นางพุ่งกายเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว กอดราชามังกรเอาไว้ แต่แทนที่สองพ่อลูกจะได้ทันพูดกัน ก็มีคนหนึ่งพูดออกมาก่อน นั่นคือรินเนะ
“ข้าคิดถึงเจ้า…”
“ซินเทียร์…” เอนเอ่ยขึ้นแทรกเสียงของราชินีมังกรแห่งกาลเวลา สีหน้าของเขาตึงเครียดและมีแววตาที่แฝงความหวาดระแวง “ตอนนี้สงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว”
ราชินีมังกรแห่งกาลเวลาชะงักค้างไป นางตระหนักว่าเอนต้องการพูดเข้าเรื่องที่สำคัญมากกว่าจะลงน้ำหนักความสำคัญไปที่การต้อนรับขับสู้
“สงคราม เกิดจากอะไรกันแน่ท่านพ่อ” ซินเทียร์พอรู้ความมา แต่นางก็คือคนหนึ่งที่ยังไม่ทราบรายละเอียด
“สงครามแห่งการกลืนกิน” เอนวางมือบนไหล่ทั้งสองของซินเทียร์ “นี่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อตอนที่เจ้ายังเป็นทารก เมื่อสิบห้าปีก่อน”
“เจ้าสิ่งนั้น มันกลับมาอีกครั้งงั้นเหรอ” ซินเทียร์คาดไม่ถึง “เจ้าสิ่งนั้น เซราฟิม”
เอนพยักหน้า
“แล้วเจ้านั่น มาจากไหนกันท่านพ่อ”
“ข้าไม่รู้หรอกว่ามันมาจากไหน” เอนส่ายหน้า “แต่ที่แน่ ๆ มันไม่ได้มาดี มันมาเพื่อทำให้ทุกสิ่งพินาศสิ้นไป”
“แล้วเราจะต่อกรกับมันยังไงล่ะท่านพ่อ”
ซินเทียร์เคยได้ยินแต่ชื่อสงครามในอดีต แต่เพราะพ่อของนางมีตราบาปในใจจากเหตุการณ์นั้น เช่นเดียวกับเหล่าราชามังกรตนอื่น ๆ นางที่ถูกเลี้ยงมาโดยมังกรจึงไม่เคยได้ยินเรื่องราวของสงครามครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์พร้อมกับรายละเอียด ครั้งเมื่อสบโอกาสถามในอดีต เอนหรือรินเนะก็จะไพล่ไปคุยเรื่องอื่นเพื่อหนีจากการคุยถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ทำให้พวกเขาอึดอัดใจ
พวกเขาคงละอายต่อหน้าซินเทียร์ด้วย เพราะซินเทียร์ต้องเป็นกำพร้าจากสงครามครั้งนั้น
เอนไม่เคยพูดถึงเหตุผลที่เด็กมนุษย์อย่างนางมาอาศัยและเติบโตอยู่กับเขา แต่ซินเทียร์รู้ว่าเอนไม่มีทางแย่งนางมาจากผู้อื่น การที่นางมาอยู่กับเอนและรินเนะได้ พ่อกับแม่ของนางไม่พลัดหลงด้วย ก็คงต้องไม่มีชีวิตอยู่แล้ว และการลงแรงลงเวลาของพวกเขา ก็ไม่อาจเดาเป็นอื่นได้ว่าคือการชดใช้และชดเชยให้นางตลอดมา
“ข้าเคยร่วมมือกับมนุษย์ในการต่อกรกับเจ้านั่น เพื่อเอาชนะสงคราม ทั้งมนุษย์และพี่น้องเผ่าเดียวกันได้สังเวยชีวิตในสงคราม” เอนพูดด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า
“เอ่อ…ท่านเป็นราชามังกร มีร่างมังกรไหมคะ” เมย์ถามด้วยความประหม่าขึ้นมา
“ข้าก็มีน่ะสิ” เอนหันไปสนใจเมย์ “เจ้า พลังไม่ธรรมดาเลยนะ เป็นสายเลือดของเซย์เมย์สินะ”
“ท่านรู้จักชื่อบรรพบรุษของข้าด้วยเหรอคะ”
“ก็นะ ตัวเป็น ๆ ก็เคยเจอ แต่ก็นานมาแล้ว” แววตาของเอนสั่นไหว เขาดูเหมือนเห็นภาพของอดีตเคลื่อนไหวอยู่ในใจ “อ่า… สาเกที่จิบด้วยกันช่างหวานหยดย้อยเหลือเกิน”
ในฉับพลัน เอนหันขวับไปมองบาเร็ตต้า
“เดี๋ยวนะ แวมไพร์งั้นเหรอ”
บาเร็ตต้าจับจีบชายกระโปรงของนางทั้งสองด้านขึ้น และย่อกายลงพร้อมกับน้อมตัวเล็กน้อย
“ข้าขอเคารพท่านราชามังกรผู้ยิ่งใหญ่ ขออภัยที่ผู้ต่ำต้อยมาเยือนรังของท่านโดยไม่ได้บอกกล่าวขออนุญาตก่อน”
“ช่างเรื่องนั้นก่อน ถ้าเจ้ามากับลูกสาวข้าก็ไม่ได้เป็นการล่วงเกิน” เอนกล่าวด้วยท่าทีสงบ กวาดตาจากบาเร็ตต้ามามองที่เมย์ และตวัดสายตามาที่ซินเทียร์ “ข้ามีเรื่องที่ต้องเตือนเกี่ยวกับสงครามที่กำลังจะปะทุขึ้น”
เอนอธิบายสิ่งที่เขาคิดว่าจำเป็นต้องให้ซินเทียร์รู้เอาไว้ รวมถึงเพื่อนของนางด้วย เผื่อว่าพวกนางจะร่วมมือช่วยเหลือกัน
ในตอนนี้ทุกอาณาจักรต่างก็เตรียมพร้อมรับมือกับสงคราม โลกถือเป็นเดิมพัน สิ่งมีชีวิตทุกอย่างกำลังตกอยู่ในอันตราย อัศวินมังกรที่ถูกเตรียมการเอาไว้กำลังเดินทางมาถึงอาณาจักรคาเมรอตเพื่อเข้าร่วมรบในฐานะทหารรับจ้างที่โดดเดี่ยว
มีข่าวลือออกมาว่าไกอาสามารถสร้างโพชั่นไร้สีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอย่างแปลกประหลาดกว่าโพชั่นใด ๆ ที่มีมาในอดีตได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนการผลิตเตรียมไว้เป็นจำนวนมากยังยากมาก เพราะส่วนผสมแต่ละอย่างไม่ได้หามาง่าย ๆ แต่เพราะไกอามียูนิคสกิลที่มีชื่อว่า “เพิ่มจำนวนไร้ขอบเขต” เลยน่าจะเป็นความหวังของทุกคน
สกิลดังกล่าวของไกอา จะทำให้สิ่งใดที่ไกอาสัมผัสเพิ่มจำนวนได้เรื่อยๆ
สมาคมหมอทุกแห่งดูเหมือนต่างก็รวบรวมสมุนไพรทั้งหมดเท่าที่จะหาได้ในตอนนี้เพื่อนำไปมอบให้นาง
“ทางจักรวรรดิคูกะเองก็เตรียมการแล้ว” ซินเทียร์ได้รับการติดต่อมาจากพ่อบังเกิดเกล้าก่อนหน้านี้ แต่เขาไม่ได้ให้รายละเอียดแบบลงลึกเหมือนกับเอน “เห็นว่าเตรียมปืนใหญ่เนเมซิสไว้”
“อาวุธต้องห้ามนั้น” เอนเบิกตากว้าง
ปืนที่ว่านั่นสามารถลบประเทศหนึ่งหายไปได้เลย นานาอาณาจักรจึงเคยตกลงกันว่าจะไม่ให้มีคนสร้างขึ้น แต่มาตอนนี้จะให้ห้ามไว้และอ้างว่าจักรวรรดิคูกะทำผิดข้อตกลงก็คงไม่ดี เพราะภัยที่ยิ่งใหญ่กำลังคืบคลานมา ปืนที่มีอานุภาพร้ายกาจนั่นเป็นที่ต้องการและอาจจะทำให้พลิกเกมได้ก็ได้
“จะว่าไป เรื่องของอาวุธ” รินเนะพูดขึ้นบ้าง “ได้ยินว่าราชาอาเธอร์ปลดผนึกดาบเอ็กคาลิเบอร์ไปแล้วด้วย”
“เจ้าได้ยินมาจากไหน” เอนถามเช่นนั้นแสดงว่านี่เป็นเรื่องใหม่ที่หลุดรอดไปจากหูเขา
“พวกภูตพากันคุยกันจนข่าวมาถึงที่นี่”
เอนถอนหายใจ ซินเทียร์ เมย์ และบาเร็ตต้าเองรู้สึกถึงบรรยากาศที่อึดอัด
“มันกำลังมา…” เอนเหลียวไปมองทางหนึ่งที่ว่างเปล่า
เสียงดังเหมือนฟ้าผ่าดังลั่น และเอนพลุนพลันออกไปที่พื้นที่โล่งที่ต่อเชื่อมกับรัง มองขึ้นไปบนฟ้า
ท้องฟ้าในตอนนี้มีรอยแยกใหญ่เกิดขึ้นอย่างผิดธรรมชาติ และมีนิ้วมือจากมือคู่หนึ่งโผล่ออกมาจากรอยแยกนั้น ดูลักษณะการเคลื่อนไหว เจ้าของมือกำลังพยายามแหวกรอยแยกให้กว้างขึ้น
ภาพแบบเดียวกันนี้อาจจะเห็นได้จากหลายมุมทั่วโลก หรืออาจจะจากทุกมุม
แน่นอนว่าเหล่าทหารต่างคงเร่งรีบเตรียมพร้อมรับมือเจ้าสิ่งนั้นที่จะบุกรุกมาจากมิติอื่น
ถ้าครั้งนี้มนุษยชาติและบรรดาสิ่งมีชีวิตอื่นไม่สามารถร่วมมือกันต่อกรกับเซราฟิมได้ ความสูญสิ้นคือจุดจบที่รออยู่